เมษายน 2556

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
13
14
15
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
สัมผัสมนตรา...บทนำ (แก้ไขใหม่)

บทนำ

“ฉันอยากเป็นคนรักของนายจะได้ไหม..”

ร่างเพรียวสูงราวร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตรดวงตากลมโต ผมดำเงางามยาวสลวยระดับเอวกางเกงยีนส์สีซีด สวมเชิ้ตขาวผูกชายเสื้อโชว์เอวอ้อนแอ้นขาวนวลก้าวเดินมาดมั่นฝ่ากำแพงหญิงสาวบริเวณนั้นซึ่งกำลังห้อมล้อมชายหนุ่มดูเหมือนจะคลั่งไคล้อย่างหนักราวกับเขามีชื่อเสียงไม่แพ้พระเอกหนังดังฮอลลีวูดนัยน์ตาสีนิลส่อแววประหลาดใจชั่วครู่ก่อนกลับมาเฉยชาตามเดิม เสมองทางอื่นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นคล้ายเธอคนนั้นไร้ตัวตน

“ตอบหน่อยสิว่าได้ไหม..”

อีกครั้งที่เสียงหวานแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นดึงความสนใจให้หันกลับมาแต่คราวนี้ไม่เหมือนในครั้งแรก เพราะดวงตาทรงเสน่ห์สีนิลคู่นั้นใช้หางตาเหยียดมองราวกับรังเกียจเธอจับใจ

“ไร้สาระ..”

มือกำบีบสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้หันมองตามด้านหลังของคนตัวสูงกว่าร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตรผละจากไร้ความใยดีไม่เคยมีใครหน้าไหนเมินหนีเธอมาก่อน เขามีสิทธิ์อะไรถึงหยามศักดิ์ศรีกันเช่นนี้

“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน นายรันติมา อัคคีราศิวาโรฒน์”

สายตาแค้นเคืองจ้องมองราวกับเขาเป็นแมลงน่าเกลียดอยากเหยียบขยี้ให้จมดิน แต่คงต้องหยุดความชิงชังไว้เพียงเท่านั้นเนื่องจากเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและรังสีความสะใจวิ่งตรงยังเธอ หญิงสาวรอบบริเวณเหยียดยิ้มสมน้ำหน้ามองเธอคล้ายสมเพชที่ทะเล่อทะล่าทำให้ตัวเองหน้าแตกจนหมอไม่รับเย็บ

ทว่าคนถูกมองกลับไม่สะทกสะท้านแย้มยิ้มท้าทายสายตาก่อนดีดนิ้วสร้างลมกรรโชกเสื้อผ้าซึ่งมีน้อยชิ้นโบกไหว กระโปรงสั้นโชว์ขาอ่อนพัดเปิดขึ้นแทบถึงชั้นใน ต้องรีบนำมือปิดกุมกันยกใหญ่เกิดเสียงวี้ดว้ายส่งดัง สร้างความสะใจยิ่งกว่า สายลมสงบลงพร้อมเสียงขำขันดังในลำคอก่อนผละจากไปหัวเราะทีหลังยอมสะใจกว่าเป็นไหนๆ นั่นคือคำนิยามของเธอที่ร่ายมนต์

“ดูเธอมุ่งมั่นไม่คิดจะยอมแพ้ง่ายๆ นะรัน”

ร่างเล็กผอมบางในชุดเดรสสีดำผมบอบสั้นแค่ต้นคอสีชากลมกลืนเข้ากับนัยน์ตาออกน้ำตาลเข้มพอดิบพอดีปากนิดจมูกหน่อย ระบายยิ้มระหว่างก้าวตามคนตัวสูงในระยะเกือบขนาบข้าง แต่ดูเหมือนเขาจะทำหูทวนลมไม่ใส่ใจต่อประโยคที่ได้ยินสักเท่าไหร่ สีหน้ายังวางนิ่งเฉยตามเดิม

ด้วยความดูดีเข้าขั้นหล่อเหลานัยน์ตาคมราวดวงตาเหยี่ยว ผมทรงรากไทรดำสนิทประต้นคอ ไม่แปลกเลยหากจะมีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังหรือคิดอยากได้เขาเป็นคู่ควงแต่เธอคนนั้นต่างกับคนอื่น กล้าปั่นป่วนอารมณ์ให้หงุดหงิดได้มากมายเพียงนี้ เธอคงพกความมั่นใจมาเกินตัวริอาจขอเป็นแฟน ช่างท้าทายสิ้นดี

“ไอ้รัน..”

ฝีเท้าหยุดชะงักเมื่อถูกใครบางคนยืนขวางเส้นทางดวงตาทรงเสน่ห์สีนิลมองคนเบื้องหน้านิ่งไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา

“ถ้าไม่อยากโดนลูกหลงอย่าขวางทางรันดีกว่านะแอล”

เสียงใสหลุดขำพลางยกมือปิดปากทำชายหนุ่มอีกคนงุนงงไม่เข้าใจประโยคดังกล่าวสักเท่าไหร่ คิ้วเข้มพาดผ่านเหนือดวงตาทรงรีเลิกสูงส่งสัญญาณต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม ทำให้คาดเดาไม่ออกว่าบุคคลตรงหน้ารู้สึกเช่นไร เพราะเพื่อนสนิทไม่เคยแสดงสีหน้าใดนอกจากนิ่งเฉยแม้ต่อให้โกรธจนลุกเป็นไฟแต่ยังวางตัวเย็นชาเป็นน้ำแข็งขั้วโลกได้ตลอดเวลานี่คือสิ่งซึ่งคนคุ้นเคยเท่านั้นรู้ดี

“อาการแบบนี้..มีใครทำอะไรให้มันหงุดหงิดอีกล่ะ”

“อย่ายุ่งน่า..หลีกไป”

ผู้ซึ่งไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ยกมือดันร่างคนยืนขวางให้หลบทาง พลางเดินต่อยังรถหรูซึ่งจอดอยู่ใกล้เคียง แอลมองตามเพื่อนตีจากไม่เข้าใจสภาพอารมณ์ของเขาเสียเลย มีธุระอยากเจรจาก็หมดโอกาสเพราะเจ้าตัวเดินหนีไปเสียดื้อๆจำเป็นต้องหันหาที่พึ่งพิงจากคนใกล้ตัว

“ซัน..รู้ใช่ไหมว่าไอ้รันมันเป็นอะไร”

“เพราะเธอคนนั้นไง”

สองสายตาหันมองตามจุดสนใจ สาวผู้มาดมั่นกำลังตามหาใครสักคนด้วยท่าทางขัดใจเขย่งกายชะเง้อหาอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ แอลเกิดตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเธอคนนั้นในสายตา

“นั่นมัน..”

น้ำเสียงห้าวเอ่ยออกมาราวกับเจอคนรู้จักโดยไม่ได้หันมองคู่สนทนาแต่อย่างใดและยังไม่ทันได้เจรจาต่อ เสียงแตรดังเรียกเตือนให้หญิงสาวเดินตามยังรถยนต์ซึ่งจอดคอยทันที

“รันเรียกแล้วซันไปก่อนนะ แอลมีเรื่องอะไรก็โทรไปล่ะกัน”

“อืม”

เขายังคงให้ความสนใจหญิงสาวซึ่งจ้องมองไม่วางตาต่อให้เธอเปลี่ยนแปลงไป หรือเวลาล่วงเลยผ่านแค่ไหน แต่เขายังคงจดจำได้ดี

แอลตัดสินใจก้าวเท้าเดินเข้าหาหญิงสาวและยืนในระยะใกล้ชิดจนมองเห็นความสูงเหลื่อมล้ำมือยกสะกิดไหล่บอบบางเรียกร้องความสนใจให้เธอหันมา รอยยิ้มทะเล้นส่งให้พลางเก็บมือกอดอกพร้อมเจรจราพูดคุยกับบุคคลตรงหน้า

“นายเป็นใครแล้วเราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ”

“อ้าว! เราไม่รู้จักกันหรอกเหรองั้นผมคงจำคนผิด”

“แปลกคน..”

แอลหลุดขำเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยใจของเธอดวงหน้าหวานเบือนหนีคล้ายไม่อยากเสวนากับเขาสักเท่าไหร่ เธอคงแสบเอาเรื่องไม่ใช่เล่นกับลักษณะที่แสดงออกมาดูไม่เป็นมิตรและคงไม่อยากเสียเวลาข้องแวะกับบุคคลแปลกหน้า

“เอางี้..ในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน งั้นมาเริ่มต้นทำความรู้จักกันดีไหม”

ข้อเสนอถูกตั้งขึ้นพร้อมดึงความสนใจให้เธอหันกลับมามองด้วยแววตาข้องใจไม่คิดเลยจะเจอคนช่างเซ้าซี้ขัดจังหวะกับการตามหาศัตรูคู่อริ ลมหายใจระบายออกอย่างขัดใจก่อนทำสีหน้าจริงจังตัดบทการสนทนาเสียที

“ฉันไม่รู้จักนายแล้วก็ไม่อยากรู้จักด้วย เพราะฉะนั้นช่วยหลบไปให้พ้นจากสายตาซะที คนกำลังยุ่ง อย่ามาป่วนประสาทจะได้ไหม”

“เฮ้!ผมไม่ได้ตั้งใจจะกวนประสาทคุณนะ ผมอยากรู้จักคุณจริงๆ แต่ถ้าหากคุณยังไม่ว่างงั้นไว้โอกาสหน้าก็ได้ ถ้าเราเจอกันอีกครั้ง คุณต้องยอมทำความรู้จักกับผมนะตกลงไหม”

ริมฝีปากชมพูระเรื่อแค่นยิ้มส่ายศีรษะเอือมระอา เบี่ยงกายหลบคนตัวสูงซึ่งยืนขวางทาง ไม่อยากใส่ใจกับใครซึ่งไม่เคยรู้จักมักคุ้นและคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่สอง เธอเชื่ออย่างนั้น

แอลมองตามหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนพลางระบายยิ้มน้อยๆจนร่างบางเดินพ้นสายตา ถึงแม้เธอจะแสดงออกว่าไม่อยากข้องแวะกับเขาเท่าไหร่แต่สักวันเขาต้องหาทางพบเจอเธอให้ได้อีกครั้งอย่างแน่นอน 


โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ




Create Date : 12 เมษายน 2556
Last Update : 12 เมษายน 2556 11:39:31 น.
Counter : 577 Pageviews.

1 comments
  
มาไลค์แย้ว อิอิ

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะพี่มาโซ ^^

โดย: lovereason วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:22:54:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments