เมษายน 2556

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
13
14
15
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
สัมผัสมนตรา.. Chapter 3.. การเปลี่ยนแปลง




Chapter 3

การเปลี่ยนแปลง

แสงสีส้มนวลตาจากไฟทางหลวงสาดส่องผ่านกระจกเป็นระยะตามการเคลื่อนที่ของรถยนต์ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศแตะผิวกายมาพักใหญ่จนเริ่มสะท้านเรือนร่างเสียงเพลงจากเครื่องเล่นซีดีในรถเปิดคลอเบาทำลายความเงียบ ตลอดทางตั้งแต่ยานพาหนะทะยานออกตัวการสนทนาจากชายหญิงในรถแทบจะนับคำได้ หนึ่งหญิงวางท่าทำนิ่งเฉยจดจ้องแค่ถนนเบื้องหน้าทว่าในใจกลับพะวงถึงสิ่งที่จะเผชิญในอีกไม่ช้า หนึ่งชายอาสาทำหน้าที่อย่างเต็มใจ คอยปรายตามองคนด้านข้างเป็นระยะสรรหาคำพูดจาไม่อยากทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดฉุนเฉียว

หลังจากแอลขอเดินเป็นเพื่อนส่งฟายังหน้าบ้านโดยมีเงื่อนไขเธอก็ยอมตกลงอย่างลังเล ทั้งที่จริงไม่อยากให้แอลใกล้ชิดจนล้ำขอบเขต แต่ก็มีจุดหมายต้องให้เขานำพาเข้าหาเช่นกันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งสองเดินเคียงคู่นำถ้วยฟูที่บาดเจ็บเข้าพักผ่อนรักษาตัวภายในบ้านส่วนบุคคล ฟาขอดูแลลูกสุนัขจนมันหลับปุ๋ยโดยแอลรู้จักหน้าที่และทำตามสัญญา ยืนคอยอยู่ในสวนต้นไม้หน้าบ้านไม่รุกล้ำหรือวุ่นวายกับสถานที่ส่วนตัวทั้งคู่กลับมายังร้านเบเกอรี่อีกครั้งเพื่อขึ้นรถยนต์ซึ่งจอดไว้บริเวณนั้น พร้อมออกเดินทางยังจุดหมายตามที่ตกลงไว้

“ฟา..คุณเดินเข้าบ้านได้ไงไกลขนาดนั้น แล้วต้องกลับคนเดียวแบบนี้บ่อยไหม”

“ก็บ่อยแต่ชินแล้ว”

น้ำเสียงห้วนสั้นไม่ได้หันมองคู่สนทนาสภาพแวดล้อมนอกรถมากกว่าที่เธอสนใจ ฟาครุ่นคิดถึงอนาคตเบื้องหน้าจะจัดการอย่างไรหากเจอจุดหมาย ท่าทางแน่วแน่ทำให้คนด้านข้างซึ่งลอบมองเธอเป็นระยะเกิดอยากรู้เหตุผลขึ้นมาเพราะเหตุใดเธอจึงตัดสินใจขึ้นรถทั้งที่ไม่ยินดี หนำซ้ำยังไว้ใจเขาทั้งที่เพิ่งรู้จักเพียงไม่นาน

“ทำไมคุณกล้ามากับผมล่ะฟาไม่กลัวผมจะเป็นเหมือนไอ้โรคจิตที่เพิ่งเจอหรือไง”

“แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยล่ะนายก็เห็นแล้วนี่ ขนาดไอ้โรคจิตตัวโตยังวิ่งหนีกระเจิง นับภาษาอะไรกับนายที่ผอมกว่ามันตั้งเยอะฉันไม่กลัวหรอกนะแอล ไม่ต้องมาขู่กันซะให้ยาก”

หากไม่มีมนตร์พิเศษเธอคงคิดหนักหรือไม่กล้าต่อปากต่อคำเช่นนี้และจากสัมผัสเมื่อได้อยู่ใกล้ชิด แอลไม่เคยทำให้เธอต้องหวาดกลัวเลยสักนิด แม้เขาจะเป็นฝ่ายเข้าหาก็ตามอาจมีบ้างที่หงุดหงิดใจเวลาถูกเซ้าซี้บ่อยครั้งฟาแสดงสีหน้าท้าทายกลบเกลื่อนความคิดภายในใจ ทำให้แอลกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดดูแคลนและไม่มีท่าทีเกรงกลัวแม้แต่น้อย

“เก่งจริงนะอย่าให้ผมทำตัวโรคจิตบ้างแล้วกัน อยากรู้นักไอ้ที่ว่าไม่กลัวจะเก่งได้ซักกี่น้ำ”

ฟาเหวี่ยงตามองพร้อมเบ้ปากใส่แอลที่หัวเราะขำขันในความคิดอยากใช้คาถากลั่นแกล้งให้เขาเสียศูนย์ที่บังอาจเยาะเย้ยเธอ แต่คงไม่เป็นผลดีหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางฟาจึงทนอดกลั้นรอเอาคืนเมื่อมีโอกาสเหมาะกว่านี้

จากถนนหลวงสายหลักเลี้ยวเลาะเข้าถนนเส้นเล็กสองเลนรถยนต์ซึ่งวิ่งกันขวักไขว่เมื่อครู่หลงเหลือบางตาจนแทบไม่มีให้เห็นบรรยากาศรอบด้านเริ่มมืดมิดวังเวงเนื่องจากถูกต้นไม้ใหญ่ยืนแถวเรียงรายปกคลุมทั้งสองฝั่งทางแสงสว่างขาวโร่จากสปอร์ตไลท์มองเห็นอยู่ห่างริบและใกล้เข้ามาทุกที จนรถยนต์ชะลอความเร็วเมื่อถึงประตูทางเข้าของสถานที่ปลายทาง

“ทำไมคืนนี้คนเยอะจัง”ฟาตั้งคำถามระหว่างรถผ่านพ้นประตูทางเข้า

“เขามาดูแข่งนัดสำคัญ”

“ฉันเข้าใจว่าที่นี่เป็นสนามฝึกซ้อมไม่คิดว่าจะมีแข่งขันด้วย”

รถยนต์ถูกดับเครื่องนิ่งสนิทเมื่อเข้ายังลานจอดเป็นที่เรียบร้อยฟาชะเง้อมองทางสนามแข่งอย่างให้ความสนใจเมื่อก้าวลงจากรถสองมือจับผมรวบขึ้นและมัดเป็นหางม้าอย่างคล่องแคล่วระหว่างเดินตามหลังแอลไปติดๆ ชายเชิ้ตถูกดึงออกจากกางเกงยีนส์ดำสนิทคลายความอึดอัดพร้อมพับทบแขนเสื้อขึ้นเหนือศอกด้วยความคุ้นชินพื้นหญ้าเขียวชื้นน้ำถูกเหยียบย่ำตามรอยเท้าที่ย่างเดิน ผู้คนมากมายหลากหลายวัยจากที่พอสำรวจคร่าวๆอายุคงไม่ต่ำกว่ายี่สิบปี หรือหากมีต่ำกว่านั้นก็คงจะเป็นส่วนน้อย

ความพลุกพล่านสร้างบรรยากาศคึกคักในเสียงเซ็งแซ่ดูวุ่นวายคล้ายกำลังรอคอยความสนุกสนานเร้าใจมาเยือนระหว่างทางเดินฟาพยายามกวาดสายตามองรอบบริเวณเพื่อเก็บภาพที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยครั้ง โดยไม่ทิ้งระยะห่างจากแอลมากนักและความประหม่าทำให้ฉุกคิด เหตุใดผู้คนที่เดินผ่านไปมาโดยเฉพาะหญิงสาวทรวดทรงดี หน้าตาโดดเด่นไปทางสวยงามต้องสนใจมองเธอกับชายหนุ่มเบื้องหน้าไม่มีวางตาแอลหยุดฝีเท้านิ่ง ทำให้คนเดินตามไม่ทันระวัง ชนเข้าอย่างจังกับแผ่นหลังกว้างถึงกับผงะกายเซห่าง

“จะบ้าหรือไงแอล!อยู่ดีๆ ก็หยุดเดิน นายจงใจแกล้งฉันใช่ไหม”

แรงกระแทกบวกกับเสียงโวยวายทำให้คนถูกต่อว่ารีบหันกลับมาสำรวจสถานการณ์เพื่อแก้ต่างให้ตนเองเขาไม่ได้จงใจแกล้งอย่างที่เธอเข้าใจสักนิด

“เฮ้..ขอโทษที ผมไม่ได้ตั้งใจนะฟา คุณต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ”

“ยังจะกล้ามาว่าคนอื่นอีกเหรอนายนี่มันแย่ชะมัด”

“หรือไม่จริงเวลาเดินเขาให้ดูทางข้างหน้า ไม่ใช่มัวแต่มองข้างทาง”

มันจริงอย่างเขาว่าไว้เพราะเธอมัวแต่ประหม่าสายตาหลายคู่ที่จับจ้อง เลยไม่ทันมองว่าเขาจะหยุดเดินกะทันหันรอยยิ้มเย้าแหย่ของแอลช่างยั่วโทสะสิ้นดี ทำให้ฟาเริ่มหงุดหงิดแต่ทนข่มอารมณ์สงบจิตใจเอาไว้

อาคารชั้นเดียวมีไว้รับรองนักแข่งขันผู้มีสิทธินำรถลงสนามบริเวณประตูทางเข้าแออัดไปด้วยหญิงสาวมากมายคล้ายกำลังรอคอยอะไรบางอย่าง เสียงกรี๊ดกร๊าดส่งดังเป็นระยะสร้างความประหลาดใจไม่น้อยทำให้ฟาเกิดอยากรู้สาเหตุจึงหาตัวช่วยด้วยการเขย่งกายกระซิบถามคนด้านข้าง

“นี่แอลทำไมตรงนี้ผู้หญิงเยอะจัง วันนี้มีพวกดาราหรือนักร้องชื่อดังมาเปิดงานหรือไงเสียงดังเป็นบ้า”

แอลหลุดขำพลางกระซิบกลับ“เดี๋ยวผมพาไปดู ว่าใครอยู่ในนั้น แต่คุณต้องหลบๆ หน่อยนะผมไม่อยากให้สาวๆพวกนี้แตกตื่น”

ลมหายใจอุ่นรดข้างแก้มจิตใจกระตุกวูบพร้อมความร้อนผะผ่าววิ่งวนบนใบหน้า ฟาพยายามควบคุมจิตใจให้เต้นเป็นปกติก่อนขยับกายถอยห่างเล็กน้อยเมื่อแอลพูดจบประโยคเกิดคำถามในใจจนต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า เบี่ยงสายตาหันมองหญิงสาวกลุ่มนั้นเหตุใดต้องแตกตื่นในเมื่อหล่อนทุกคนให้ความสนใจยังบุคคลภายในห้องมากมาย ทว่าครุ่นคิดได้เพียงครึ่งนาทียังไม่ทันได้คำตอบของความสงสัยเหล่านั้น ข้อแขนกลับถูกยึดครองด้วยฝ่ามืออบอุ่นดึงให้เธอเดินตามอย่างว่องไวสองเท้าก้าวตามได้เพียงไม่กี่ก้าว เมื่อนึกขึ้นได้ร่างกายเกิดต่อต้านทันที

“นี่นาย!ปล่อยเดี๋ยวนี้! จะลากฉันไปไหน”

“อยู่เฉยๆเถอะน่า แล้วก็เงียบด้วยถ้าไม่อยากถูกฝูงแร้งรุมทึ้ง”

ลำแขนเล็กพยายามสะบัดจากการเกาะกุมแต่กลับถูกฝ่ามือนั้นกำแน่นกว่าเดิม ฟาขืนเท้าปฏิเสธที่จะเดินต่อยิ่งพยายามสะบัดให้หลุดพ้น แรงดึงยิ่งเพิ่มมากขึ้น

“ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!นี่นายจงใจฉวยโอกาสแตะต้องฉันใช่ไหม”

“คุณก็เดินตามมาดีๆสิฟา หลบให้พ้นตรงนี้ไปก่อน แล้วผมจะปล่อยคุณ”

“ปล่อยเดี๋ยวนี้!!”

สิ้นเสียงเกรี้ยวกราดฝ่ามือซึ่งยึดกุมแขนฟาไว้สะบัดหลุดอย่างรวดเร็วราวถูกแรงมหาศาลผลักไสสองร่างผละจากกัน แอลหันมองหญิงสาวด้วยแววตาประหลาดใจชั่วครู่ก่อนปรับมานิ่งเฉยตามเดิมมือกำบีบและคลายไว้หลวมๆ รู้สึกคล้ายถูกไฟฟ้าวิ่งผ่านร่างกายรวดเร็วและรุนแรง เจ็บแปลบจนชาไปทั้งฝ่ามือฟาเองต้องควบคุมความรู้สึกตื่นตระหนกเอาไว้แสร้งทำว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่จริงหวาดหวั่นเหลือเกิน กลัวเขาคนนี้จะสงสัยในตัวตนแอลก้าวเท้าเข้าหาแต่ฟาถอยห่างป้องกันตัว คาดเดาไม่ถูกว่าเขาต้องการอะไร

“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า”

“ถ้านายเข้าใกล้หรือแตะต้องฉันอีกทีเราได้เห็นดีกันแน่”

“แอล! นั่นแอลนี่”

“ใช่แอลจริงด้วยแอล!!”

เสียงแว่วดังใกล้ขึ้นเรื่อยๆทำให้ทั้งสองยุติสงครามฟาดฟันสายตา เมื่อรู้สึกถึงความไม่สงบที่กำลังกล้ำกลาย เหล่ากองทัพสาวสวยหุ่นบาดตาละความสนใจจากประตูที่พักรับรองร่วมใจสาวเท้ากรูเข้าหาแอลซึ่งพยายามหลบเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้และอีกครั้งที่ฝ่ามือคว้ายึดแขนแล้วลากให้ฟาออกตัววิ่งตาม ไม่ทันได้ปฏิเสธหรือขัดขืนใดๆซอกอาคารแคบและมืดสนิทคือเป้าหมายให้มุ่งไปหา แอลเบียดกายเข้าด้านในพลางดึงฟาติดตามประชิดตัวหลบหลีกความวุ่นวายที่กำลังผ่านพ้นไป

เสียงโหวกเหวกจากกองทัพสาวสวยเงียบลงจนสงบทำให้ฟาซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวชะเง้อคอยาวมองดูสถานการณ์ก่อนขยับกายออกมายืนในที่โล่งโดยมีแอลตามออกมาทั้งที่ยังจับมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ ฟาจ้องหน้าเตือนสติอยากให้เขารู้สึกตัวเสียทีว่าได้ล่วงเกินเธอเป็นหนที่สองแอลไม่ทันมองสายตาคาดโทษเนื่องจากยังระแวงกองทัพสาวสวยเหล่านั้นกลับมาก่อความไม่สงบอีกครั้ง

“โอ้ย!!”

มือถูกปล่อยให้เป็นอิสระสมใจพร้อมคนตัวสูงกระโดดโหยงๆ ยกเท้าสะบัดไปมา เจ็บปวดแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทำให้ฟายิ้มเยาะอย่างสะใจ

“บอกแล้วไงว่าอย่ามาถูกตัวฉันอีก”

“ก็ไม่เห็นต้องเตะหน้าแข้งผมเลยนะฟา”

แอลยกขาพลางก้มกายนำมือลูบไล้บริเวณที่ถูกหัวรองเท้าผ้าใบเตะเข้าเต็มแรงนิ่วหน้าร้องโอดโอยเจ็บปวด หนำซ้ำยังถูกคาดโทษไม่ให้เข้าใกล้อีกในระยะประชิดตัวกับเวลานี้ฟาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผู้ชายคนนี้อีกต่อไป ท่าทางทะเล้น พูดจาเก่งคงเป็นลักษณะภายนอกที่แสดงออกให้เห็นเฉพาะบุคคลเท่านั้นถึงแม้ฟาไม่อาจอ่านจิตใจใครได้ แต่เธอเชื่อว่าในความหวังดีและการช่วยเหลือที่เขามอบให้ฟาสัมผัสได้ว่ามันคือความจริงใจไม่เสแสร้งหรือหลอกลวง เสียงประกาศผ่านลำโพงดังในระยะห่างไกลทำให้ฟาฉุกคิดถึงคำถามที่ยังค้างคา

“นี่แอล..นายเป็นใครกันแน่ ทำไมผู้หญิงพวกนั้นต้องวิ่งตามขนาดนี้นายเป็นซุปเปอร์สตาร์ปลอมตัวมาหรือไง คงไม่เป็นแบบในนิยายหรือการ์ตูนที่ฉันเคยอ่านหรอกนะ”

ถึงจะตั้งท่าประชดประชันแต่ส่งคำถามออกไปด้วยความรู้สึกจริงจัง ฟาเคยแอบเพ้อฝันเฉกเช่นผู้หญิงทั่วๆ ไป หวังไว้สักวันเรื่องราวจากในนิยายหรือการ์ตูนที่เคยจินตนาการไว้จะบังเกิดกับเธอหากคืนนี้ความใฝ่ฝันเป็นจริง เธอควรดีใจกับโชคชะตาหรือไม่ ที่นำพาแอลมาให้เจอะเจอ ราวกับหนังสือเล่มโปรดที่เคยเปิดอ่าน

“คุณจะบ้าเหรอฟาเพ้อไปใหญ่แล้ว ถ้าผมเป็นซุปเปอร์สตาร์คงไม่มาโผล่อยู่แถวนี้หรอกนะ ไม่คิดเลยว่าคุณจะโหดแล้วยังฟุ้งซ่านอีกด้วยเลิกฝันแล้วตามมาเร็วเข้า ใกล้ถึงเวลาแข่งแล้ว”

ความหวังพังทลายหมดสิ้นเมื่อจบประโยคสนทนาถูกกล่าวหาว่าเพ้อเจ้อทำให้ฟาถึงกับหาเสียงพูดไม่เจอ เถียงไม่ออกสักคำร่างสูงเดินกะเผลกบ่งบอกอาการว่ายังเจ็บไม่หายทว่าไม่ได้ช่วยทำให้หญิงสาวที่เดินตามหลังรู้สึกผิดเลยสักนิดเธอถือว่าความเจ็บปวดครั้งนี้แลกเปลี่ยนกับการที่เขาถูกเนื้อต้องตัวถึงสองครั้งสองครา

ประตูหนีไฟด้านหลังอาคารชั้นเดียวอยู่ในที่เกือบลับหูลับตามีเพียงบางคนเท่านั้นที่รู้แอลอธิบายให้ฟาฟังระหว่างทางเกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องลากเธอหลบกองทัพสาวสวยเหล่านั้นเนื่องจากเขาและพวกพ้องเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงไม่แพ้มืออาชีพบรรดาแฟนคลับทั้งหลายเลยให้ความสนใจอย่างหนักอีกทั้งรูปร่างหน้าตาอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากทำให้โด่งดังเป็นพิเศษราวกับซุปเปอร์สตาร์ชั้นนำเมื่อความคลั่งไคล้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เหล่าบรรดานักแข่งทั้งหลายไม่กล้าเสี่ยงควงหญิงสาวออกนอกหน้าหรือแสดงตัวเพราะเคยเกิดเหตุการณ์รุมทึ้งโจมตีจนเตลิดมาแล้วหลายราย ทำให้ฟาคลายความระแวงในใจเขาไม่คิดจงใจล่วงเกินแต่เพราะอยากปกป้องต่างหาก เพียงแต่ผิดวิธีและไม่บอกกล่าวล่วงหน้า

แอลเดินนำเข้าตัวอาคารทักทายผองเพื่อนซึ่งรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีโดยมีฟาเดินตามไม่ห่าง อยู่ผิดที่ผิดถิ่นจึงเกิดอาการประหม่าทั้งที่ไม่ใช่สาวขี้อายหรือเรียบร้อยจนเหมือนผ้าพับไว้ การกระทำบางอย่างออกจะกล้าได้กล้าเสียด้วยซ้ำไปแต่กลับขาดความมั่นใจไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อถูกสายตาหลายคู่จับจ้องเป็นจุดสนใจเดียวราวกับเธอเป็นตัวประหลาดหลุดออกจากถ้ำ

“เด็กเอ็งเหรอแอล”

สายตาใคร่รู้ดูกระลิ้มกระเหลี่ยสร้างความอึดอัดกดดันแอลไม่ได้ตอบคำถามเพียงแค่ปรายตามองฟาซึ่งทำตัวสงบนิ่งไม่สนใจผู้คนรอบกายหรือแม้แต่สายตาทุกคู่ที่มองมา

“ไอ้รันล่ะ”

“เห็นมันนั่งอยู่มุมโน้นกับซัน”

แอลพยักหน้าให้เพื่อนก่อนหันหาเธอด้านข้างส่งสัญญาณให้เดินตามยังที่หมาย คำสนทนาเพียงสั้นๆ แต่ชื่อของชายหญิงกลับมีผลทำให้ฟาเปลี่ยนสายตาเป็นเย็นเยือกจนแอลสัมผัสได้ภาพชายหนุ่มเอื้อมมือแตะหน้าผากหญิงสาวเห็นแววห่วงใย ทำให้ฟารู้สึกเจ็บจุกหัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุไม่คิดว่าความคับแค้นซึ่งฝังอยู่ในอกจะส่งผลทำร้ายจิตใจให้เจ็บแปลบได้เพียงนี้ นี่หรือเปล่าความเจ็บช้ำระกำใจที่เฟน้องสาวของเธอเคยเผชิญมาก่อนจะประสบเหตุรถคว่ำมือกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้น ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บใจ แม้การเสียชีวิตจะเกิดจากอุบัติเหตุ แต่ฟายังเชื่อมั่นว่าสาเหตุมาจากชายหญิงคู่นี้ที่ทำร้ายจิตใจน้องสาวของเธอให้หมดสิ้นความหวังจะอยู่ต่อไป

“ไอ้รัน..มีคนอยากเจอ”

คนถูกเอ่ยชื่อหันมองตามเสียงคุ้นเคยรอยยิ้มละมุนเมื่อครู่เลือนหายแปรเปลี่ยนเป็นเฉยชาในแววตาคู่นั้น มือค่อยๆชักออกจากหน้าผากของสาวผมบ๊อบซึ่งนั่งฝั่งตรงกันข้าม ซันแย้มยิ้มพลางลุกขึ้นยืนเตรียมตัวผละจากแต่ถูกคว้าข้อมือไว้ก่อนจะได้ก้าวเดิน

“จะไปไหน”

“เข้าห้องน้ำเดี๋ยวรันจะแข่งแล้วนะ”

ซันดึงมือออกจากการจับกุมสีหน้าซีดขาวระบายยิ้มก่อนเดินเลี่ยงทางอื่น คล้ายจงใจเปิดโอกาสให้ทั้งหมดได้เจรจาฟามองตามหญิงสาวจนห่างไกล จึงหันกลับมาปะทะดวงตาสีนิลซึ่งแฝงไว้เพียงความเย็นชาฟาไม่ได้ยำเกรงเขาตรงหน้า เพียงไม่รู้จะเริ่มต้นจัดการอย่างไรเท่านั้นเอง

“นายเปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อสื่อตั้งแต่เมื่อไหร่แอล”

น้ำเสียงราบเรียบแต่กลับเชือดเฉือนความรู้สึกแอลหันมองฟาพร้อมพยักหน้าให้เธอเริ่มต้นทำตามแต่ใจต้องการ ฟาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนก้าวเผชิญหน้าชายหนุ่มที่ไม่อยากญาติดีสักเท่าไหร่

“ผมพาคุณมาหารันตามที่สัญญาแล้วนะหมดธุระแล้วไปเจอกันตรงประตูที่เข้ามา ผมจะรออยู่ตรงนั้น”

แอลเดินจากไปโดยไม่ฟังคำตอบหรือความต้องการของฟาสักนิดปล่อยให้เธอยืนนิ่งชั่วครู่ก่อนหันหารันอีกครั้ง เพื่อเริ่มต้นสานต่อเรื่องราวที่ยังค้างคา

“มีธุระอะไรครับ”

รันลุกยืนเต็มความสูง หันหลังอิงโต๊ะอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนพูดจาโดยไม่ชายตามองคู่สนทนา สร้างความหงุดหงิดใจไม่น้อย ทำให้ฟาอยากเอาชนะเขาในทุกทางเธอเคยปฏิญาณกับตนเองไว้ จะทำให้ผู้ชายคนนี้ได้รู้สึกรู้สาถึงรสชาติความเจ็บปวด เวลาถูกคนที่รักทิ้งขว้างแม้จะวิธีใดก็ตาม ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยกล หรือใช้มนตราที่มีในตัวก็คงต้องยอม เพื่อหนทางแห่งความร้าวฉานแตกแยกเธอจะทำให้จงได้

“นายคงจำได้คืนก่อนฉันเคยขอให้นายคบกับฉัน”

“...”ไม่มีเสียงพูดจา มีเพียงสายตานิ่งเฉยเบนมองเธอก่อนจะเบือนหน้าหนี มือยกกอดอกไม่แสดงท่าทีใดให้รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิด

“วันนี้ฉันกลับมาทวงคำตอบ”ฟายังคงเดินหน้าต่อไปแม้ฝ่ายตรงข้ามจะทำเฉยชาใส่แค่ไหนก็ไม่มีสั่นคลอนความมุ่งมั่นตั้งใจในเมื่อเริ่มต้นแล้วคงถอยหลังไม่ได้เด็ดขาด

“เพื่ออะไร”

คำถามโต้กลับอยากรู้ในสิ่งที่เธอกำลังกระทำเพียงต้องการให้เขาหลงรักหัวปักหัวปรำ แล้วเฉดหัวทิ้งเหมือนที่เขาทำกับน้องสาวเธอมาแล้วเท่านั้นคือสิ่งที่ฟาต้องการ ต่อให้ใครจะว่าเธอร้ายกาจ แย่งคนรักชาวบ้านมันก็ไม่สำคัญไปกว่าได้ชำระแค้นกับการต้องสูญน้องสาวฟาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่กำลังทำจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ แต่เธอเชื่อว่าน้องสาวของเธอต้องเสียใจเป็นเพราะผู้ชายตรงหน้าปันใจให้หญิงสาวเมื่อครู่ และหากเขาคนนี้เป็นพวกมากรักหลายใจจริงแน่นอนว่าเขาต้องยอมรับข้อเสนอของเธอ

“เหตุผลไม่สำคัญรู้แค่ว่าฉันต้องการคบกับนายก็พอ หรือนายอยากคิดว่าฉันเป็นพวกแฟนคลับที่คลั่งไคล้นายเหมือนพวกผู้หญิงข้างนอกก็ได้”

รันกระตุกยิ้มเปลี่ยนท่าทางกลับมายืนเต็มความสูงเอื้อมหยิบถุงมือหนังสีดำบนโต๊ะ ปล่อยให้บุคคลตรงหน้ายืนลุ้นคำตอบของเขาในแววตาสีนิลคู่สวยไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกใดทำให้ยากแก่การคาดเดา สายตาเหล่มองเธออีกครั้ง

“ตกลง..ฉันยอมคบเธอ แต่มีข้อแม้”

“ว่ามา..”

“เธอต้องลงสนามแข่งกับฉัน”

“นั่งรถแข่งที่นายขับอ่ะนะ”ฟาทวนความเข้าใจ เธอมาเพื่อปฏิบัติการให้สำเร็จโดยไม่มีข้อแม้ แต่กลับเจอข้อต่อรองจากผู้ชายคนนี้หากแต่ยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าเธอจะหวาดระแวงกับการความเร็วแค่ไหนก็ตาม

“หากยอมแพ้ไม่กล้าเสี่ยง หรือสู้ความเร็วไม่ได้ เธอต้องหายไปจากชีวิตฉันทันที”

ความท้าทายทำให้ฟาฮึดสู้ไม่ได้อวดดีหรือกลัวเสียหน้า แต่จะให้ละเลิกความพยายามที่ตั้งไว้คงยากในเมื่อยอมบากหน้ากล้าหาญเป็นคนยื่นข้อเสนอทั้งหมด คงมีบ้างต้องยอมรับการต่อรองเพื่อวัดผลเป็นธรรมดาหากเธอผ่านตรงจุดนี้ไปได้ก็ถือว่าสำเร็จกับก้าวแรก

“ทำไมพาเด็กคนนั้นมาที่นี่”

เสียงหวานกระซิบแผ่วตั้งคำถามเชิงตำหนิต่อว่าชายหนุ่มด้านข้างซึ่งมองยังจุดสนใจเดียวกัน ไม่ว่าแอลจะมีเหตุผลใดหรือแค่หวังดีช่วยเหลือซันก็เห็นว่าไม่สมควรพาเธอคนนั้นมาเจอกับรันอยู่ดีไม่มีเสียงใดตอบกลับนอกจากสายตาสองคู่ที่จ้องมองคนทั้งสองเดินออกจากที่พักรับรอง

บรรดาแฟนคลับซึ่งรอคอยนักแข่งอย่างจดจ่อต่างส่งเสียงกรีดร้องเมื่อเห็นประตูเปิดออกพร้อมขวัญใจของพวกหล่อนก้าวออกมาเหล่าสาวสวยล้อมวงเข้าหารัน พร้อมยื่นสิ่งของให้เขาเก็บสะสมไว้เป็นที่ระลึก ทำให้ฟาซึ่งยืนมองสถานการณ์รู้สึกทึ่งอย่างมากที่เขาคนนี้เป็นที่นิยมไม่แพ้แอลเช่นกันสายตาหลายคู่ตวัดมองมายังฟาคล้ายอยากรู้สถานะว่าเธอมีสิทธิพิเศษอย่างไร ถึงได้อยู่ใกล้ขวัญใจของพวกหล่อนเช่นนั้น

“เห็นหรือยังที่ผมบอกเป็นเรื่องจริง”

แอลยืนขนาบข้างพลางส่งยิ้มยกมือโบกให้กองทัพสาวสวยที่หันมาสนใจเขา พร้อมส่งสายตาเชือดเฉือนให้ฟาราวกับอยากขย้ำเธอให้จมกรงเล็บแหลมคม

“พวกแฟนคลับนายนี่น่ากลัวเป็นบ้าฉันจะโดนพวกหล่อนฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ หรือเปล่า”

“คุณกลัวงั้นเหรอกลับบ้านไหมเดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่กลับฉันจะแข่งเดิมพันที่เพื่อนนายท้าทายเอาไว้”

“เดิมพันอะไร..แล้วคุณจะฝ่ากลุ่มแฟนคลับไอ้รันไปยังไง”

ริมฝีปากชมพูเหยียดยิ้มเหล่มองคนด้านข้างส่งสัญญาณให้เขาได้เห็นว่าเธอจะเดินฝ่าวงล้อมเหล่านั้นไปได้อย่างไรเพียงไม่นานเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่นดึงดูดให้แอลหันตาม และหลายคนในห้องพักรับรองวิ่งกรูออกมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบรรดากองทัพแฟนคลับแตกกระจายถอยหนีคนละทิศคนละทางคล้ายหวาดกลัวกับอะไรบางอย่างทางเดินเบื้องหน้าว่างเปล่าไร้ใครยืนขวาง นอกจากรันซึ่งยืนมองฟานิ่งๆไม่แสดงท่าทางประหลาดใจแต่อย่างใด

เสียงซุบซิบรอบบริเวณดังเซ็งแซ่พอจับใจความได้ว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของรันกลายเป็นแมงมุมที่น่าเกลียดน่ากลัวจนต้องถอยหนีกันจ้าละหวั่นฟากระตุกยิ้มอย่างท้าทายเมื่อเดินเข้าใกล้คนตัวสูงในระยะประชิด

“จะไปได้หรือยังฉันอยากชนะนายจะแย่แล้ว”

สายตาเยือกเย็นหลุบต่ำหันกายกลับและเดินนำฟาเข้าในสนามแข่งโดยปล่อยให้ทุกคนบริเวณนั้นรวมทั้งเพื่อนพ้องงุนงงไม่เข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟารู้สึกสมใจในมนตราที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อแยกบรรดาแฟนคลับให้หลุดทางตามที่ต้องการต่อให้ขวัญใจของพวกหล่อนหล่อเหลาบาดใจแค่ไหน เจอเจ้าแมงมุมสัตว์หน้าขนเข้าไปคงผละหนีกระเจิงตามคาดการเอาไว้

เสียงเครื่องยนต์เร่งเร้าสูบฉีดความร้อนต้องการอวดความแรงเต็มกลืนแม้ภายในรถจะเงียบสงบไร้ใครพูดจาแต่กระจกติดฟิล์มดำสนิทไม่อาจปิดกั้นเสียงเชียร์ของเหล่าผู้ชมโห่ร้องกึกก้องเตรียมลุ้นระทึกกับการแข่งขันนัดสำคัญไม่แพ้จิตใจดวงน้อยที่สั่นไหวตูมตามแทบระเบิด หากแต่เก็บอาการข่มความกลัวเอาไว้ เพียงเพราะเธอไม่อยากเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับการท้าทายครั้งนี้แม้ฟาจะเกลียดกลัวความเร็วตั้งแต่อุบัติเหตุพรากชีวิตครอบครัวของเธอไปจนต้องจดจำฝังใจก็ตาม

“คิดเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน”

ฟาหันมองคนด้านข้างขยับกายนั่งพิงพนักเบาะ ลอบระบายลมหายใจ พลางคลายมือที่บีบกุมไว้แน่นลดความตึงเครียดเขาคงสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆ ของเธอจึงเอ่ยประโยคนั้นออกมา ฟาเบือนหน้ามองทางถนนไม่แยแสต่อคำสบประมาทเพื่อแสดงให้รับรู้ว่าเธอไม่มีทางยอมเปิดประตูลงจากรถคันนี้ทั้งที่ยังไม่เริ่มออกตัวอย่างแน่นอน

การรอคอยหมดลงเมื่อธงเขียวชูส่งสัญญาณเตรียมตัวเสียงเชียร์เมื่อครู่เงียบกริบรอเวลาเริ่มต้นการแข่งขัน หัวใจแทบหยุดเคลื่อนไหวเมื่อธงโบกสะบัดพร้อมรถทะยานออกตัวรวดเร็วเปลือกตาปิดสนิททำให้ภาพอุบัติเหตุผุดขึ้นมาในความคิด สองมือยกกุมสายคาดนิรภัยกำบีบแน่นอยากให้เวลาของการแข่งประลองความเร็วบ้าบอนี้จบลงเสียที

ความรวดเร็วบวกกับแรงเหวี่ยงเวลาเลี้ยวสาดโค้งสร้างความปั่นป่วนในท้องไส้ลมหายใจเริ่มขาดห้วง ตามผิวกายรู้สึกเย็นเชียบและมีเม็ดเหงื่อซึมซิบขึ้นมา ในบางครั้งเวลาเห็นรถแข่งลงสนามจากการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์แม้จะด้วยความเร็วสูงสุดกลับไม่รู้สึกว่าน่ากลัวมากมายผิดกับเวลานี้ซึ่งความเป็นจริงแตกต่างกันลิบลับ ช่างกดดัน อึดอัด เลวร้ายเกินเยียวยาฟาหลับตาอยู่อย่างนั้นตลอดการแข่งขัน โดยไม่รับรู้ความเป็นไปบนท้องถนน หรือแม้แต่ผู้ชายด้านข้าง

เวลาผันผ่านจนจบการแข่งขันรถซิ่งจอดสนิทท่ามกลางเสียงเฮและผู้คนรายล้อม รันเปิดประตูเดินอ้อมมายืนด้านหน้าพร้อมแย้มยิ้มเจือจางให้กับเหล่ากองเชียร์เมื่อคว้าชัยชนะได้ที่หนึ่งไปครอบครองปล่อยให้หญิงสาวในรถนั่งขาสั่น ตัวแข็งทื่อ รู้สึกความมั่นใจหายสาบสูญแม้พยายามเรียกกลับมาหลายครั้งแล้วก็ตามแอลเดินเข้าร่วมแสดงความยินดีแก่เพื่อนสนิทพลางส่ายสายตามองหาฟารอบบริเวณ จนประตูรถค่อยๆเปิดกว้างพร้อมหญิงสาวปรากฏกายให้เห็น แอลระบายยิ้มเมื่อเห็นฟายังอยู่ดีนอกเสียจากสีหน้าซีดขาวผิดปกติ

“ฟา!!”

สิ้นเสียงแอลร่างบางทรุดฮวบ แต่ถูกคว้าได้ทันก่อนจะล้มกระแทกพื้น รันถอนใจโล่งอกเมื่อวิ่งเข้ารับร่างของฟาได้ทันท่วงทีผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันแตกตื่น มีเพียงเพื่อนสนิทเท่านั้นเดินฝ่าวงล้อมกองเชียร์เข้ามาดูอาการคนเป็นลมล้มหมดสติ

“อุ้มเธอไปข้างในสิแอล”

แอลปัดความรู้สึกกังวลใจทิ้งพลางเข้าประคองช้อนร่างบางจากวงแขนของเพื่อนสนิทนำฟาอุ้มขึ้นระดับอกเดินฝ่าผู้คนที่แหวกทางให้เข้ายังอาคารที่พักรับรอง

“ทำไมต้องใกล้ชิดเธอและพาไปเสี่ยงแบบนั้นล่ะรัน”

ไม่มีเสียงใดตอบกลับนอกจากความรู้สึกผิดที่แฝงไว้ในแววตาสีนิลซึ่งกำลังปรายสายตามองตามหลังเพื่อนสนิทจนพ้นจากระยะการมองเห็น 



To be continued




Create Date : 27 เมษายน 2556
Last Update : 27 เมษายน 2556 21:38:30 น.
Counter : 667 Pageviews.

4 comments
  
มาไลค์ให้รันกับฟาค่ะพี่มาโซ ^^

ขำฟาอ่ะ เป็นลมไปแล้ว อิอิ
โดย: lovereason วันที่: 27 เมษายน 2556 เวลา:23:16:57 น.
  
ขอบคุณค๊าาา
โดย: มาโซคิส วันที่: 28 เมษายน 2556 เวลา:9:27:41 น.
  
มันยังงัยกันหน่า รันรู้ใช่ไหมว่าฟามีเวทมนต์ แล้วแอลกะซันเป็นใครงะ โอ้๊ยยยยร้อยแปดคำถาม??????
โดย: sakeena IP: 124.120.2.27 วันที่: 28 เมษายน 2556 เวลา:16:05:25 น.
  
มานมีเบื้องลึกเบื้องหลังกันค่ะ

รอติดตามนะคะ จะรีบปั่นเอามาให้อ่านค่ะ
โดย: มาโซคิส IP: 124.122.38.173 วันที่: 28 เมษายน 2556 เวลา:16:12:10 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มาโซคิส
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]



เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล

Blood A_Blood Type Series
เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม

ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
เ ว ล า คิ ด ถึ ง ใ ค ร บ า ง ค น ม า ก ๆ อ ย า ก ดึ ง เ ค้ า อ อ ก ม า จ า ก โ ล ก แ ห่ ง ค ว า ม ฝั น แ ล้ ว ก อ ด ซ ะ !! ใ ห้ ห า ย คิ ด ถึ ง





หากวันใด อ่อนแอ ท้อแท้ ผิดหวัง ให้ลองย้อนนึกถึงวันที่เคยตะเกียกตะกาย . .



ถ้าคนๆ หนึ่ง มีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้เรายิ้มออกมาได้โดยไม่ตั้งใจ.. มานก็ไม่แปลกเลยที่เขาสามารถทำให้เราน้ำตาไหลได้โดยไม่รู้ตัว..

Online Now




New Comments