เสร็จซะทีกับเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องทำหลังจากมากถึง

               ช่วงนี้ว่างก่อนจะได้ไปโรงเรียนเลยแวะมาอัพบล็อกซะหน่อย มาถึงเนเธอร์แลนด์วันที่ 26 เมษา ตอน 9 โมง วันที่ 27  สามีอุตสาห์หยุดงาน 1 วันเพื่ออยู่ด้วยกัน แล้วก็จะได้ไปรายงานตัวที่ gemeente ด้วย รายละเอียดเดี๋ยวเราเล่าเป็นวัน ๆ ไปก็แล้วกันว่าประสบกับปัญหาอะไรบ้าง
          26  เม.ย.  09 ไปรายงานตัวที่อำเภอ แต่เจ้าหน้าบอกว่า ต้องโทรมานัดล่วงหน้าก่อน (ยิ่งกว่าไปพบนายกอีก) เขาเลยแนะนำให้เราโทรไปนัดไอเอ็นดีก่อน ได้วันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 9.00 น.


27 เม.ย. 09  ไปรายงานตัวอีกครั้งตอน 14.00 น. เตรียมใบเกิด + ทะเบียนสมรสที่แปลแล้ว + พาสปอร์ตไปด้วย แล้วอำเภอจะให้เอกสารที่จะใช้ไปยื่นที่ IND  กว่าจะเสร็จแก้ไปตั้งหลายรอบ สมกับการนัดจริง ๆ


  13 พ.ค. 09   ไปถึง IND Rijswijk ประมาณ 8.30 น. ระบบรักษาความปลอดภัยหลายชั้นเชียว ตั้งแต่ติดต่อประชาสัมพันธ์ รับบัตรคิว แถมสลักหลังบัตรคิวด้วยว่ามาแค่ 2 คน พนักงานรักษาความปลอดภัยตรงทางเข้าอีก 3 คน มีแต่คนตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย หลังจากถึงคิวแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็ยื่นเอกสารต่าง ๆ ที่ทางไอเอ็นดีส่งมาให้ตอนที่นัดวันแล้วประมาณ 3-4 วัน กรอกให้เรียบร้อย อันนี้สามีทำให้จ้า อ่านไม่เข้าใจ ขั้นตอนคล้าย ๆ ไปรายงานตัวตอนวีซ่าท่องเที่ยว หลังจากนั้นก็เตรียมรูป สองนิ้ว สองใบ แต่รูปที่ถ่ายไปจากกรุงเทพฯ ใช้ไม่ได้ต้องไปถ่ายใหม่ สำหรับคนที่จะไปไอเอ็นดีแนะนำให้ถ่ายรูปไปก่อนจะได้ไม่เสียเวลา ไม่ต้องถ่ายไปจากไทยหรอก เพราะบางทีก็ใช้ไม่ได้ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเดี๋ยวจะแจ้งผลการพิจารณาไปให้ไม่เกิน 3 เดือน


  29 พ.ค. 09  มีจดหมายจากไอเอ็นดี  แจ้งว่าผลการพิจารณาเป็น positive


  08 มิ.ย. 09 ไปตรวจปอด อาย ๆ ที่อายนะพุง ไม่ใช่นม 5555 ให้แก้ท่อนบนในชุดวันเกิดหนาวก็หนาว แถมแท่นเอ๊กซเรย์ก้อเย็น  ผู้ชายเป็นคนทำอีกต่างหากดีนะที่สามีไปด้วย ถ้าไปคนเดียวคงป้ำ ๆ เป๋อ ๆ แน่เลย กลับมาบ้านก็ได้รับจดหมายจากไอเอ็นดีให้ไปรับบัตรที่ Den Haag  ดีใจจังโว๊ย


10 มิ.ย. 09 จดหมายจาก gemeenter โดยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านสามีเรียบร้อยแล้ว ไม่แน่ใจว่าอันนี้จะเป็นโซฟิมนัมเบอร์ด้วยหรือเปล่า


12 มิ.ย. 09 ไปรับบัตรที่  Den Haag ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก รับบัตรคิว รอเรียก เซ็นต์ชื่อ  รับบัตร เสร็จภายใน 10 นาทีถ้าไม่ได้รอคิวนาน ๆ


15 มิ.ย. 09 โทรไปที่ gemeenter เรื่องเรียน ก่อนหน้านี้เคยโทรไปครั้งนึงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องรอให้ได้บัตรก่อน  พอได้บัตรแล้วโทรไป เจ้าหน้าที่เธอบอกว่า ฉันจะพักร้อนย่ะ ต้องรอให้ฉันพักร้อนเสร็จก่อนนะ สามีเรารอก็รอ แล้วหล่อนก็นัดเราเป็นวันที่ 15 ก.ค 09  ตอนบ่าย 2 โมง


15 ก.ค. 09 ไปที่ gemeenter เพื่อฟังรายละเอียดเรื่องเรียน ไปถึงประชาสัมพันธ์ ถามว่ามาพบใคร เราก็บอกไป แล้วก็ให้บัตรคิวเรามา นั่งรอเกือบ 20 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกว่า หล่อนป่วยมาพบพวกคุณไม่ได้ค่ะ ทั้งอำเภอมีหล่อนทำงานนี้คนเดียว ตายหละนี้ฉันรอทั้งเดือนเพื่อมาฟังว่าหลังจากหล่อนพักร้อนแล้วก็ป่วยต่อนั้นเหรอ สามีก็อุตสาห์เสียเวลาทำงาน ทำไม่ไม่บอกเราตั้งแต่แรกที่เรามาขอพบแล้ว ทำงานไม่ประสานงานกันเลย เรานี้อารมณ์เสียมาก เลย เสียทั้งเวลา เสียทั้งความรู้สึก ไอ้ป่วยมันก็ป่วยกันได้หรอกนะ แต่หล่อนมาทำงาน แต่ไม่ได้แจ้งอะไรเราเลย แล้วเจ้าหน้าที่ที่มาบอกแทนก็บอกหล่อนจะโทรไปแจ้งเราวันจันทร์ ไอ้เราก็ให้เวลา 5 วันในการฟักฟื้นนะ


20-21 ก.ค. 09 สามีรอโทรศัพท์จากอำเภอ ได้แต่รอ และรอ จนทนไม่ไหวต้องโทรไปหาหัวหน้าหล่อน ว่าทำไม่หล่อนไม่โทรมานัดเราสักที ที่เราต้องรีบเพราะเราจะกลับเมืองไทยวันที่ 4 สิงหา เกือบ 4 อาทิตย์ เพราะฉะนั้น เรื่องต่าง ๆ ต้องเสร็จก่อนกลับเมืองไทย


22 ก.ค. 09 เจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่านัดให้มาวันที่ 24 ก.ค เวลาเดิมบ่ายสองโมง หล่อนบอกว่าหล่อนป่วยเป็นหวัด สงสัยกลัวเป็นไข้หวัดนกเลยมาพบไม่ได้ หยวน ๆ ถึงจะช้าแต่ก็ยังดี  แต่ถ้าเป็นเมืองไทยจะด่าให้หูชาเลย


24 ก.ค. 09 ไปพบเจ้าหน้าที่ที่อำเภอ รับบัตรคิวรอสักพัก ก็มีพนักงานสาวสวย น่าจะเป็นแขกอินเดียที่เกิดที่นี่ มาพบแล้วก็พาไปที่ห้องเพื่อสัมภาษณ์  ผม แต่งตัว เล็บ เครื่องประดับ เข้าชุดกันหมดเลย น่าจะมาเดินแบบมากกว่าทำงานในอำเภอ หล่อนถามสักสองคำ แล้วก็บอกว่า อำเภอของเราต้องจ่ายเงินเรียนเองนะคะ แล้วก็ไปดูเว็ปไซด์  IB-groep ว่าจะเรียนที่ไหนดี เดี๋ยวเราจะส่งเอกสารไปให้ แล้วก็อธิบายอีกนิดหน่อย จบ…………นี่หรือที่ฉันรอเป็นเดือนครึ่ง เพื่อมาฟังเธอบอกว่าต้องจ่ายเงินเองกับหาโรงเรียนเองนะ  โคตรทำงานงี่เง่าเลย


หลังจากกลับมาสามีก็ต้องรีบหาที่เรียนในเว็บไซด์ว่ามีที่ไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ หลักสูตรเป็นไง ไกลบ้านหรือเปล่า ในที่สุดก็เป็นสองที่นี้ Mondriaan กับ Universiteit Leiden ในที่สุดก็เลือก อันหลังซึ่งเราว่ายากสำหรับเรา Universiteit Leiden ส่วนมากคนไทยจะเรียนกันที่นี้ เรียนรวม ๆ กันก่อนเดือนแรก-สองเดือน แล้วค่อยแยกว่าใครสมองเร็วกว่าจะได้เรียนในระดับที่สูงขึ้น  ส่วนที่นี้  Universiteit Leiden  รับ 15 คนต่อชั้นเรียน ต้องจบปริญญาตรี ขึ้นไป ซึ่งไม่มีคนไทยเรียนเลย แอบเซ็ง จริงเราอยากเรียนแล้วได้เจอคนไทยมากกว่า แต่สามีเราบอกว่าหลักสูตรเขาดี แถมมีการบ้านเยอะอีก เรียนที่โรงเรียน 3 ชั่วโมง ที่บ้านผ่านเน็ตอีก 3 ชั่วโมง เรียนอาทิตย์ละ 4 วันตายหละฉัน สมองบวมแน่เลย หลังจากเลือกที่เรียนได้แล้วก็ทำการนัดโรงเรียน   ซึ่งตอนนั้น Mondriaan ก็เต็มแล้วด้วย


28 ก.ค. 09  นัดสัมภาษณ์ที่โรงเรียนพร้อมเซ็นต์สัญญา โรงเรียนจะเปิดวันที่ 21 ก.ย 09  เวลา 09.15 -12.00 น. ไม่มีการเทสก่อนเรียน แล้วเขายังบอกอีกมีคนไทยยูคนเดียว ดีแล้วจะได้ไม่ต้องพูดไทย กลัว ๆ ไม่เข้าใจอ่ะ เพราะภาษาอังกฤษเราก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง แต่เขาจะสอนภาษาอังกฤษเฉพาะ 3 อาทิตย์แรกเท่านั้น


สิงหาคม  เราก็ไปลั่นลาที่เมืองไทยก่อนที่จะเจอศึกหนักในการไปเรียนภาษา เรากลับไปเที่ยวเมืองไทยวันที่ 04-28 สิงหา กลับมาก็เจอจดหมายมากหมายเต็มบ้าน  สำคัญ ๆ ทั้งนั้น


- ต้องไปตรวจปอดอีกรอบ เพราะภาพในคอมพิวเตอร์หาย เวรกรรมของตูจริง ๆ
- เรื่องกู้เงินเรียนต้องรอก่อน เพราะเอกสารจากอำเภอไม่ครบ


31 ส.ค. 09  สามีโทรไปอำเภอ ถามแม่นางแบบคนสวยของอำเภอว่าเมื่อไหร่จะส่งเอกสารมาให้ หล่อนบอกว่างานฉันยุ่งมาก ๆ เลย ว่าง ๆ เดี๋ยวจะทำให้ ตอแหลจริง ๆ จะพยายามให้ทันอาทิตย์นี้แหละ ถ้าบอกว่าลืมยังจะน่าเชื่อกว่า นี้ตั้งเดือนหนึงแล้วแค่เอกสาร 2 แผ่น ทำเป็นเดือน


03 ส.ค. 09 สามีโทรอีกครั้งไปบอกเจ้านายหล่อน ว่าหล่อนทำงานช้า แถมบอกว่ายุ่งตลอดไม่มีเวลาทำ เจ้านายหล่อนบอกว่าคุณรู้ใช่ไหมว่าต้องได้เงินคืน 70% ถ้าสอบผ่าน สามีเราบอกว่ารู้จากที่เรียนเราหล่อนไม่ได้บอกรายละเอียดเยอะแยะเลย ซึ่งเจ้านายหล่อนบอกว่าจะพิจารณาหล่อนพรุ่งนี้ ไม่รู้จริงเปล่า เราก็ไม่อยากให้แฟนโทรไปต่อว่าหรอก นี้มันนานจริง ๆ จนกลับมาจากเมืองไทยก็ยังไม่เสร็จอีก  แต่ว่าตอนบ่าย ๆ ก็ได้รับจดหมายจากอำเภอแล้ว


 เป็นอันว่าเอกสารทุกอย่างของเราก็เสร็จเกือบหมดแล้ว โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 5 เดือน เพราะแม่นางแบบประจำอำเภอคนเดียว ไม่รู้ว่าคนอื่นจะโดนแบบเราบ้างเปล่า แต่ก็ขอให้ทุกคนโชคดี ไม่มีอุปสรรคแบบเรานะจ๊ะ





Free TextEditor

Create Date : 04 กันยายน 2552		7 comments
Last Update : 22 กันยายน 2552 21:18:37 น.
Counter : 474 Pageviews.
Share Tweet