[เจาะลึก] Girl and Panzer EP04 ~ศึกดวลรถถังระหว่างรร.โอฮาไร vs เซนต์กรอเรียน์ (100%)
อันนี้งัดมาเป็น Entry พิเศษนิดนึงครับ เพราะ TV-series ที่ฉายตอน4 ไปนี่สนุกมาก มีประเด็นให้คุยกันหลายเรื่องทีเดียว อีกทั้งยังเป็นแม็ตช์เปิดตัวเป็นทางการครั้งแรกของโรงเรียนโอฮาไรที่พึ่งรื้อฟื้นวิชายานเกราะกับสถาบันอื่นๆด้วย
และก็ไม่ผิดหวังกับผู้รับชมสายสาวน้อย- สายดราม่า - สายสงคราม-สายประวัติศาสตร์ และสายแมคคานิคทั้งหลายที่ตอนนี้จัดเต็มมาทีเดียวหลังจากอุ่นเครื่องกับ friendly match เบาๆในตอน 2-3 ก่อนหน้านั้นมาเพื่อเป็นบทเกริ่นนำให้กับตอนนี้เองนี่แหละ
**ขอบคุณทีม Gaiar-Fansub ครับที่เปิดโอกาศให้ผมได้แชร์ข้อมูลอื่นๆ และมีเพื่อนผองให้สนทนาได้อย่างมีรสชาติตลอดซีรีย์
** กระทู้นี้จะอ่านได้อย่างมีอรรถรสมาก ถ้าหากคุณได้ Girl and Panzer ตอน4 มาแล้วล่วงหน้า แต่ถ้าไม่คิดมากอะไรก็รับชมได้เลยครับ รูปและเนื้อหาจะเยอะมากทีเดียว ขออภัยหากโหลดนาน
EP4~กัปตันสู้ตาย!
1. รูปขบวนยานเกราะ
เริ่มตั้งแต่ OP เลย ขบวนรถถังเชอร์แมน (M4) ที่น่าจะมีบทบาทในอนาคตอันใกล้นี้กำลังเดินทางไปไหนสักแห่งในรูปขบวนเดินทางระวังภัย (overwatch) จัดขบวนเป็นแถวตอน
สังเกตดูจะเห็นว่าแต่ละคันหันปืนประจำรถไปตามมุมต่างๆ เพื่อแบ่งพื้นที่ยิงคุ้มกันด้วย
2. กลยุทธ์/ปฎิบัติการ 'Search and Destroy'
ถ้าหากเราพูดถึงชื่อนี้ในทางทหาร (S&D) มักเป็นปฎิบัติการที่ดุเดือดพอสมควร และใช้กำลังทหาร+อาวุธเป็นแกนหลักเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ เป็นรูปแบบที่ได้ผลดีมากในสงครามขนาดใหญ่ แต่หากท่านใดติดตามข่าวสารบ้านเมืองเราบ้าง จะเห็นว่าในภาคใต้เรากองทัพภาคที่ 4 ก็ใช้รูปแบบนี้เช่นกัน ในการล่าทำลายแกนนำของกลุ่มโจรก่อการร้าย โดยมีแพทเทิร์นประมาณนี้
S&D Operation - รวบรวมข่าวสารและสภาพแวดล้อมของเป้าหมาย - ระบุตัวตันและจัดลำดับความสำคัญ - เลือกพื้นที่และกำลังรบที่จะใช้ปฎิบัติการ - ทำลายเป้าหมาย - รวมรวมข้อมูลข่าวสารของเป้าหมายที่เข้าตี เพื่อค้นหาเป้าหมายรายถัดไป
ใน Girl and Panzer นู๋มิโฮะเขาก็เลือกที่จะใช้แบบนี้เหมือนกันครับ แต่ไม่เลือกชนตรงๆ เน้นล่อหลอกหน่อย เพราะ S&D ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรุกเขาอย่างเดียว (S&D ระหว่างการ รุก-รับ-ร่นถอย ได้ทั้งนั้น)
3. คุณพี่หญิงดาจีลิงค์ (CV.Kitamura Eri)
ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ฝั่งนางเอก แต่ด้วยความที่เป็น CV คนโปรดอย่าง "คิตะเอริ" (อามิ/โทระโดระ, ริมิ/Chaos;Head etc...) จึงต้องขอยกมาอวยเสียหน่อย เพราะทั้งชื่อ ทั้งรถ ทั้งตัว ทั้งโรงเรียนมันดูอังกริ๊ด อังกฤษ (ขอกระแดะนิดนึงครับ ^^")
ผู้ควบคุมหมวดรถถังเชอร์ชิล + มาทิลด้า โดยในเรื่องนี้ถือเป็น ผบ.การรบที่มีชื่อเหมือนน้ำชาอันโด่งดังคนนี้ของฝ่ายโรงเรียนเซนต์กรอเรียน์ ประสบการณ์สูง และเชี่ยวชาญการรบทีเดียว นับว่าเหมาะในการเป็นบอสแรกหรือบอสกลางให้พวกหนูๆในโรงเรียนโอฮาไรเก็บเลเว่วอย่างมาก
4. คุณผบ.แอบสังเกตการณ์~~
ดูอ้างอิงจากรูปก่อนหน้าได้ครับ แอบมาซุ่มดูและก็ต้องประทับใจ การจัดขบวนทัพแบบ 'ลิ่ม' (Wedge) นั้นจะเด่นด้านพลังการโจมตีมาก คล้ายกับฟอร์เมชั่น Delta (สามเหลี่ยม) ของเครื่องบิน แต่พอเป็นรถถังแล้วจะเด่นด้านอำนาจการยิงมากกว่า (เครื่องบินถ้าเลือกสไตล์นี้จะเน้นการเคลื่อนที่)
การจัดตามหลักสูตร สังเกตแนวยิงได้ครับ แต่ละคันจะคุ้มกันข้างของอีกคันนึง (ใครแล๋มมาโดนส่งเอาง่ายๆ)
5. กระสุนเจาะเกราะ (AP) = Armor Piecing (ขออภัยครับพิมพ์ผิดไปตอนแรก) เป็นการเรียกตามหน้าที่ของกระสุนครับ แต่ในเชิงลึกจะยังมีอีกหลายแบบเช่น AP แบบระเบิดเจาะเกราะ, เจาะเกราะเพลิง,เจาะเกราะสลัดครอบทิ้งเอง, ลูกดอกเจาะเกราะ ฯลฯ ไว้จะหาโอกาศเขียนต่อไปครับ และรถถังแต่ละคนก็ใช้กระสุนได้ไม่ทุกแบบด้วยขึ้นกับการดีไซน์ลำกล้องปืนใหญ่
6. เริ่มเข้าประจำที่กัน รถถังสีสันสวยงามสดใส ด้วยหัวใจวัยรุ่นมาก สังเกตว่ารถ M3 มีปืนใหญ่สองกระบอก (ปืนหลัก+ปืนรอง)
7.การเล็งเป้า ศูนย์เล็งเทียบเคียง (Zheriz Ziess Sight) เป็นวิธีการยิงแบบกะระยะคร่าวๆ (แต่ก็แม่นยำใช้ได้ทีเดียว สำหรับพลยิงที่ชำนาญ) เหมาะสำหรับการรบประชิดติดพันจนถึงระยะกลางที่ต่อการการระดมยิงต่อเนื่อง
8. ทีมอังกฤษรู้ตัว เล็งสวน (ปืนลำกล้องยาวๆทั้งนั้น ~ พวกนี้จะได้เปรียบมากเรื่องระยะยิง)
9. กล้องเล็งด้วยสายตา ศูนย์ปืน Crosshairs (ในซับผมพิมพ์ตัวสะกดผิดนิดนึงครับ จริงๆจะสื่อว่า 'แนวเส้นตัดพิกัด) เป้าเล้งแบบนี้ใช้บ่อยกับพวกสไนเปอร์หรือการยิงประณีต'
10. ฝั่งอังกฤษนำโดยเชอร์ชิลของ คุณพี่ดาจีลิงค์รักษารูปขบวนไล่ตี ตรงนี้ต้องอาศัยความพร้อมเพรียงกันและฝึกฝนพอควร ไม่งั้นพอเลี้ยวทีขบวนจะแตก รถถังบางคนอยู่ใกล้ไป (ชนกันเอง) หรือไกลเกินไป (เปิดช่องให้ถูกยิง) ได้ตลอด
11 Panzer4 เริ่มเข้าเกาะภูมิประเทศเป็นที่กำบังหลบหนี อยู่ที่สูง+ไกลกว่าด้วยทำให้กระสุนต้องใช้เวลานานในการวิ่งมาถึง (ผบ.รถ บางคนมักเสี่ยงโผล่หัวมาดูประกายไฟปากลำกล้อง เพื่อสั่งการตรงนี้เช่นกัน) แต่เอาเข้าจริงๆโอกาศยิงถูกในระยะนี้ก็น้อยมาก เพราะ P4 วิ่งอยู่ในร่องถนนเกือบครึ่งคัน ...ถ้าส่องจากกล้องเล็งระยะไกลๆจะเห็นส่วนป้อมปืนโผล่มาให้เห็นนิดเดียว
12 ความเร็วของ Panzer เหนือกว่าค่อนข้างมาก จริงๆจะหันป้อมกลับมายิงสวนระหว่างวิ่งหนีก็ได้เพื่อไม่ให้ถูกยิงฟรี แต่ไม่มีประโยชน์มากนักเสียสมาธิในการวิ่งหมด + การหันหลังยิง ขณะกำลังซิ่งซิกแซกด้วยความเร็วสูง บนภูมิประเทศขรุขระ โอกาศเล็งยิงโดนมีน้อยมาก แถมเป็นการยิงใส่เกราะด้านหน้าที่แข็งมาก (ถึงยิงโดนก็เข้ายาก) เปลืองกระสุนโดยใช่เหต
13 เพื่อนๆเป็นห่วงใหญ่แล้ว สไตล์ของมิโฮะเป็นผบ.รถถังมักชอบโผล่หัวไปตรวจการณ์ด้วยสายตาตัวเองครับ เพราะมุมมองกว้างกว่าสองกล้องโปลิสสโคปแคบๆเยอะ ดังนั้นอยู่ข้างนอกจะสั่งการ แก้เกม เล็งยิงโจมตี ได้คล่องตัวกว่ามาก
14 เคลือบเกราะชั้นในไว้ อันนี้น่าจะหมายถึงเกราะคาร์บอนบางอย่าง (Nanotube?) แต่ตัวผมเองไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าเป็นเทคโนโลยีอะไร แต่ในภาคอุตสาหกรรมการฉาบคาร์บอนเป็นการเพิ่มความทนทานในกระบวนการวัสดุศาสตร์หลายอันเหมือนกัน ...แต่ข้อมูลชัดๆคงต้องรอ official
15 จุดซุ่มยิง (Killing Zone) ภูมิประเทศได้เปรียบมาก (รูปตัวT) เป็นการยิงกรอกปากประตูเลย รถถังอังกฤษจะถูกรุมยิงได้ตลอดเส้นทางจนกระทั่งถึงจุดตัดทางแยก (ที่สูงช่วยให้ระยะยิงไกล)
16 ใช้แนวหน้าผาเป็นเกราะบังตัวรถได้แนบเนียน จริงๆคล้ายกับ Panzer ที่วิ่งไปล่อตอนแรก แต่สีสันสะดุดตากว่ากันเยอะ
17 เอ้า สลาฟ ล้มคิงได้แล้ว ว่าไปไพ่เป็นงานอดิเรกของพลประจำรถถังทุกชาติเลย (เรื่องไพ่สลาฟของญี่ปุ่นติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Entryนี้ ครับ
18 เอ้อระเหย ลอยชาย (เตียงชายหาดมาจากไหน?)
19 ข้าศึกใกล้มาแล้ว จับเป้าปากทางเข้าไว้ เพราะจุดนี้ฝ่ายอังกฤษจะยิงสวนขึ้นมาได้ยากเพราะเป็นมุมเงยระยะไกล แถมติดขอบ/สันหน้าผาคอยช่วยบังตัวรถฝ่ายรร.โอฮาไรไปเกินครึ่งทำให้เหลือเป้าโผล่ให้เล็งนิดเดียว มองยากมาก (จุดซุ่มยิงฟรีชัดๆ)
20 แล้วก็ยิงพวกเดียวกันไม่ยั้ง! ด้วยความลนลาน Panzer4(มิโฮะ) เป็นรถถังคันแรกที่โผล่เข้าในกล้องเล็ง ภายใต้การนำของท่านเลขาแว่น เลยเหนี่ยวตูม โชคดีที่ไม่โดน พอรถถังคันแรกยิง คันที่เหลือก็ระดมยิงใส่ P4 กันใหญ่ (นึกว่าข้าศึกมาถึง
21 ฝ่ายคุณหนูอังกฤษเลยสบายจากการระดมยิงชุดแรกแบบสบายๆ แถมเห็นตำแหน่งฝ่ายตรงข้ามจากประกายไฟปากกระบอกชัดเจน ส้มหล่นชัดๆ
22 เมื่อรู้ตัวชัดเจนก็แยกทีม กระจายสองฝั่ง บังคับให้ฝ่ายมิโฮะรวมอำนาจการยิงไม่ได้ อันที่จริงฝ่าย Panzer ก็ไม่ได้หวังจะน็อครถถังทุกคันตรงนี้แต่แรก แต่อย่างน้อยก็อยากจัดการให้ได้สัก 1-2 คันก็ดีเพื่อจะเอาความได้เปรียบในเกมช่วงหลังๆเรื่องปริมาณ
23 ถ้าไม่เล็งดีๆ โอกาศยิงเป้าเคลื่อนที่มีน้อยมาก และถ้าไม่โดนจุดสำคัญก็จะหยุดมาทิลด้าที่เกราะหนาไม่ได้ด้วย
24 เล็งยิงตีนตะขาบ เพราะทำความเสียหายได้ง่ายกว่าเกราะหนาๆของตัวถังรถ และถ้าขยับไม่ได้ก็จะเสียขบวนทำให้ฝั่งอังกฤษรวมอำนาจการยิงยากขึ้น
25 ฝ่ายอังกฤษไปถึงหัวมุมทั้งสองด้านพอดี แต่หยุดไม่ใจร้อนรุกคืบหน้า รอให้ทั้งสองฝั่งเข้าที่เรียบร้อยค่อยเข้าตีพร้อมเพรียงกันเพื่อให้ได้อำนาจการยิง+การป้องกันสูงสุด ไม่เสล่อไปให้รุมยิงง่ายๆ โดยระหว่างที่รอก็เลือกจอดหลบใต้ขอบผา ทำให้ฝั่งรร.โอฮาไรก็ยิงยากขึ้น (ยากกันทั้งคู่)
26 พอพร้อมแล้วก็หน้ากระดาน (Line Formation) บุกเข้าตีกระหนาบพร้อมกันทั้งซ้ายขวาไม่ให้ตั้งตัวติด
27 ลองดู line formation (ขบวนรบหน้ากระดาน) ไม่ว่ามิโฮะจะหลบไปด้านไหน ยังไงต้องติดแนวยิงแน่
ขณะที่ฝั่งอังกฤษเองจะไม่บังทางปืนกันเองเพื่อเลี่ยงยิงฝ่ายเดียวกันโดยไม่ตั้งใจ จุดนี้เหล่านางเอกกลายเป็นคนถูกตีกระหนาบเสียเอง เพราะฝ่ายเซนต์กรอเลียทุกคันสามารถเลือกเล็งยิงพวกมิโฮะได้ทั้ง 5 คัน ขณะที่ฝั่งโอฮาไรเล็งได้แค่ด้านใดด้านนึง
28 ขวัญหนีดีฟ่อ เจอปืนฝั่งอังกฤษที่ทั้งแม่นกว่า แรงกว่า (อันที่จริงปืนหลักของ M3, StugIII ก็แรงพอๆกัน แต่คงเป็นเรื่องฝีมือและความเชี่ยวชาญมากกว่า)
29 อีกด้าน 38(t) ของฝั่งประธานโดนแรงระเบิดของกระสุนทำเอาสายพานเสียศูนย์ระหว่างเลี้ยวเลยหมอบกระแตเอาดื้อๆ ว่าไปรถถังรุ่นนี้หน้าสายพานแคบ แถมล้อกดยังหลวมง่าย ถึงจะวิ่งได้เร็วแต่ก็ทำให้มีปัญหาบ่อยเวลาเจอภูมิประเทศลาดเอียง/ลาดชัน
30 สถานการณ์เริ่มเป็นรองมาก นอกจากว่าอยู่สูงกว่าแล้ว จำนวนรถถังพร้อมรบเหลือน้อย แถมศัตรูเข้าประชิดได้ และเกราะสู้ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการหันหน้าไปทางไหน ก็จะเป็นการเปิดด้านหลังที่เกราะบางให้อีกฝั่งไปในตัวด้วย แถมเป็นการยิงสวนแบบที่ฝ่ายอังกฤษใช้เกราะหนาด้านหน้ารับมือได้อีก
แต่ฝ่ายอังกฤษเลือกไม่เสี่ยงรุกคืบหน้า ยิงกดดันไปเรื่อยๆ อาศัยระยะยิง เกราะ ปืน ถล่มไม่เสี่ยงเข้าประชิด ตอนนี้คือวิกฤติของจริง เพราะ M3, 38t ที่ระวังด้านซ้ายหมดสภาพแล้ว ~ กำลังจะโดนตุ๋ยว่างั้นก็ได้
31 สู้ไม่ได้ก็ไม่สู้ 'ร่นถอย' ไม่ดื้อจนละลายทั้งหน่วย (น้องพลกระสุนหน้าแดงทำไมครัฟ )
32 - โดยตอนนี้ฝ่ายอังกฤษเองก็ยิงไม่โดนเลย ต้องยกประโยชน์ให้ภูมิประเทศฝั่งมิโฮะที่อยู่สูงกว่า และระยะยิงยังไกลกันทั้งคู่
ฝั่งทีมวอลเลย์บอลยิงโดนดาจีลิงค์ด้วยนะเนี่ย (แต่ยิงไม่เข้าแฮะ)
33 เมื่อรู้ว่าแพ้ก็ไม่ดื้อตั้งรับแต่เลือก 'ร่นถอย' เพื่อสงวนกำลังรบไปปรับสถานการณ์ใหม่ เพราะสิ่งเดียวที่ Panzer มีเหนือกว่าคือ "ความเร็ว" ครับ ถ้าให้ซิ่งเต็มเหยียดกัน ยังไงฝั่งมิโฮะก็ชนะครับ มาทิลด้า+เชอร์ชิลมันหนักเกราะ
34 การรบในเมือง (Urban warfare) คือสนามรบที่ยานเกราะกลัวที่สุดเลย เพราะความเร็ว ระยะยิง และการตรวจการณ์ของตนจะต้องถูกจำกัดด้วยสิ่งปลูกสร้างมากมาย และจะยิ่งได้เปรียบขึ้นถ้าฝ่ายนึงรู้เส้นทางต่างๆอย่างเชี่ยวชาญ
35 ใช้ความเชี่ยวชาญในภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์
36 ฝ่ายอังกฤษคันนึงที่ต้องแยกเดี่ยวออกมาค้นหาศัตรูในเมืองที่ตัวเองไม่ค่อยรู้จัก ฝั่งมิโฮะยืมเทคนิคเดียวกันมาใช้ แยกกันไปคนละทิศละทาง เพื่อให้ฝั่งอังกฤษต้องกระจายกำลังรบไปบ้าง เพราะถ้ายังอยู่ในรูปขบวน ไม่ว่าจะเข้าตีด้านไหนก็มีแต่โดนรถถังคันข้างๆรุมยิงสวน
37 เจอ stugIII ที่ดักซุ่มเนียนอยู่เข้าให้ โดนส่องด้านข้างที่เกราะบางๆด้วยกระสุนของปืนล่ารถถังยังไงก็ไม่รอด
38 สังเกตสิ่งที่อยู่ด้านหลังของ รถถังมาทิลด้าดีๆ ตอนนี้เป็นจังหวะที่กำลังเข้ามาจ่อหน้าลิฟต์
39 ฝั่งทีมวอลเลย์บอลวางแผนมาเป็นอย่างดี เปิดลิฟต์ตัวหน้าก่อนเพื่อให้กลบเสียงลิฟต์ตัวหลังไปในตัว พร้อมกับมาโผล่ที่ 6นาฬิกาเผาขนด้านหลังซึ่งเป็นจุดอ่อนของรถถังทุกคนด้วย
40 ไม่กี่นาทีที่หลุดเข้ามาในพื้นที่การรบในเมือง (urban warfare) รถถังมาทิลด้าที่แข็งแกร่งก็ถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวถึง 2 คัน 41 StugIII ซึ่งมีปืนแรงที่สุดในทีม อาศัยขนาดตัวที่เล็กและเตี้ยเข้าหลบหลีกตามสิ่งปลูกสร้างเพื่อไปดักซุ่มรถถังคันอื่นๆต่อไป (จริงๆมันไม่ควรจะมองเห็นนะจริงไหม
42 รถถังมาทิลด้าอีกคันที่ไล่ตามมาเห้นธงไหวๆมาแต่ไกล เลยจัดการส่องลูกยาวทะลุกำแพงมาให้เลย (StugIII ปืนแรง แต่ตัวบางครับ)
43 อีกด้าน ฝั่งทีมวอลเลย์บอล นึกว่าทำงานสำเร็จ แต่ดวงซวยพลาดไป
44 แล้วก็โดนเสริฟกลับใส่ระยะเผาขน
45 เหลือ Panzer4 เพียงคันเดียวแล้ว ตอนนี้แหละที่นู๋มิโฮะจะได้วัดฝีมือจริงๆของตัวเองสักที ถ้าอัดได้สองคัน สถานการณ์จะกลับเป็นเสมอ 3-3 แต่ปรากฎว่าทั้งสองทีมทำไม่สำเร็จ เลยยังกลายเป็น 4-1 อยู่
46 ตรงนี้เป็นการชิงจังหวะกันจริงๆ ฝ่ายตรงข้ามมี 4 คัน ทำให้สามารถเลือกช่วยกันปิดเส้นทางหนีได้ และ panzer4 ต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเส้นทางที่ตนเองชำนาญให้มากที่สุดเพื่อพลิกสถานการณ์
47 ในเมืองแต่ยังซิ่งกันเต็มเหยียดมาก ฝ่ายมาทิลด้าสลับกันยิงไม่ยั้ง (มิโฮะก็หันป้อมยิงสวนเหมือนกัน แต่หวังผลการยิงไม่ได้ ) ถ้าเป็นภูมิประเทศเปิดโล่งคงโดนรุมยิงไปแล้ว อันนี้โชคดีที่ตัวอาคารบ้านเรือนเหมือนเป็นเกราะกำบังสายตา
48 ผลของการไม่เชี่ยวชาญ + ตัวหนัก เลยเลี้ยวไม่ทันจนตูมเข้าให้ โชคดีที่เมืองนี้มีประกันภัยนะเนี่ย
49 แต่สุดท้ายพอเจอทางตันแบบไม่คาดคิดก็ซวยไป ถูกไล่ตามจนทันอุดปากตรอกได้เลย (ตรงนี้จะเรียกว่าเกมโอเว่อร์ไปแล้วรอบนึงก็ได้ ถ้าทั้ง 3 คันสามัคคียิงใส่ตรอกแคบๆนี้โอกาศนอนยาวสุงมากเพราะไม่มีพื้นที่ให้ชิ่งหลบ
50 ให้เกียรติทักทายคู่ต่อสู้หน่อย แต่สำนวน All Fair in Love and War นี่ค่อนข้างมีชื่อเสียงครับ หมายถึงเรื่องความรัก+ สงคราม ไม่ว่าจะใช้วิธีใดหรือเหตใดมันก็แฟร์เสมอนั่นแหละ (ทั้งสองฝ่ายด้วย)
51 พระเอกมาแล้ว! ทีมประธานนักเรียนคืนชีพหลังจากซ่อมสายพานตัวเองเสร็จ (เร็วจัง?)
52 เลขาพี่แว่นเราก็ยิงตูมเข้าให้ แต่ดันวืดเสียอีก (เจ๊ยิงใครโดนไหมเนี่ย?) แถมโดนสวนจนน่วม...แต่จังหวะนี้มันสุดยอดมากครับ เป็นเหตการณ์พลิกจังหวะเกมอย่าง "ร้ายแรง" มากเลย อย่างน้อยก็ - เบี่ยงเบนความสนใจของรถถัง 4 คันพร้อมกัน - ป้อมปืนรถถัง 4 คันหันกลับไปหา 38t แทนที่จะเป็น P4 ที่อยู่ไกลๆ - จุดจอดรถของ38t ขวางหน้าอังกฤษสกัดการเคลื่อนที่ ขณะที่ยังเปิดพื้นที่โล่งให้ P4 ขยับตัว - ถูกรุมยิงจนระเบิด แต่ก็เป็นม่านควันกำบังสายตา + เสียงให้มิโฮะ - สำคัญที่สุดเลย.....รถถังทั้ง 4 ต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 3-5 วินาทีในการโหลดกระสุนนัดถัดไปและเล็งยิง - และช่วงเวลา 5 วินาทีที่สำคัญมากจนพลิกเกมทั้งหมดเลย
53 ช็อตแรก มิโฮะซิ่งรถเข้าไปจอดติด 38t โดยไม่กลัวปืนใหญ่มาทิลด้าเพราะรู้ว่ายังโหลดกระสุนไม่เสร็จแน่ (แต่P4 ขึ้นลำกล้องรอไว้แล้ว) โดยอาศัยซากรถของประธานเป็นแนวกำบังสายตา+แนวยิง
ทำเลได้ที่...ปืนใหญ่ 75mm ซึ่งอนุภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ามาทิลด้าก็จับเป้าเข้าที่สีข้างของรถถัง ซึ่งมุมยิงแคบมาก แต่เวลา 3 วินาทีก็เหลือเฟือในการเล็งประณีต....จุดหมายคือตัวถังด้านข้างเหนือล้อกดสายพานที่เกราะบางเป็นพิเศษ (ต่อให้น็อคไม่ได้ก็ขยับไม่ได้แน่นอน)
54 เปรี้ยง! ตูม! ช็อค! เป็นซาก! สปอร์ต! กทม! (3 คันที่เหลือยังติดในควันอยู่เลย ขณะที่ P4 ชิ่งหนีเข้าตรอกไปแล้ว)
55 โดยปกติจะขับกลางถนนกันเพราะวิ่งง่ายกว่า และมีพื้นที่ให้ใช้ลูกเล่นในการดริฟ แต่กรณีนี้มิโฮะหวัง 'เผด็จศึก' โดยการยึดทำเลในการ "เล็งยิง" > "เคลื่อนที่" ดังนั้นจึงเข้าเกาะแนวกำแพงทันทีครับเพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามยิงได้ง่าย (ระวังแต่ด้านซ้ายพอ)
56 ที่สำคัญของการเกาะแนวกำแพงคือแผนการนี้ P4 มีความเร็วสูงกว่า ดังนั้นสามารถวิ่งไปถึงทำเลที่ต้องการได้ก่อนแน่ และจะเจอกับสถานการณ์ที่พอพ้นหัวมุมปุ้บมาทิลด้าต้องหันปืนถึง 90 องศาเพื่อยิง ขณะที่ Panzer4 เหนี่ยวไกได้เลย (ถ้าอยู่กลางถนน ต่างฝ่ายต้องหันคนละ 45 องศา เรียกว่า50/50)
57 จังหวะพอดีมากๆ มิโฮะต้องการเวลาประมาณ 3 วินาทีเท่านั้นเอง เพื่อบรรจุกระสุนนัดใหม่ ซึ่งในเวลาเดียวกันมาโกะก็หักเลี้ยวรถยู-เทิร์นกลับมาจ่อประชิดมาทิลด้าอีกคันได้ในเวลาพอดิบพอดี เรียกว่า สมบูรณ์แบบมากทั้ง-จังหวะที่พร้อมยิง--ตำแหน่งที่ได้เปรียบ--จังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัวไม่ทัน (พื้นที่บังคับ)
ตอนแรกทำท่าทีเป็นวิ่งหนีไป แต่จริงๆดริฟกลับมา (รถถังดริฟได้ดีกว่ารถสปอร์ตเยอะ) เพราะเป็นโอกาศโจมตีรถถังคันที่ 2 ที่ต้องเลี้ยวหลบมาทิลด้าคันแรกที่จอดพังมาอยู่เลนขวา แล้วก็เจอสูตรเดียวกันเลย มิโฮะจอดชิดกำแพง มาทิลด้าคันที่2 หันปืนมา 45 องศาแล้วด้วยแต่ยังไม่ทัน เจอยิงฟรีตายอีกศพ
58 รถถังเชอร์ชิล โดนสูตรเดียวกันเลย เพราะต้องแหวกรถถังฝ่ายตนถึง 2 คันเพื่ออกมาหามุมยิง เลยโดนยิงฟรีๆ 59 แต่เชอร์ชิลหุ้มเกราะหนากว่ามาก รวมไปถึงด้านข้างด้วย
60 ตอนนี้เหลือ 1-1 แล้ว ถึงถอยไปก็ไม่การันตีว่าจะชนะ เพราะถ้าทิ้งระยะห่างไปปืนใหญ่ของเชอร์ชิลมีระยะยิงไกลกว่า Panzer4 ตัวเองจะเสียเปรียบหนักขึ้น
61 เลยตัดสินใจเสี่ยงพุ่งชาร์จ ถ้าคนทั่วไปเห็นสถานการณ์นี้จะคิดว่าเป็นพวกดับเครื่องชน หรือไม่ก็เสี่ยงเข้ามายิงเผาขนด้านหน้า ซึ่งก็เกือบถูกเพียงแต่มิโฮะจะชาร์จประจัญบานหวังให้ เชอร์ชิลยิงในจังหวะนี้เลยซึ่งเกราะลาดเอียงด้านหน้าของ Panzer4 ยังน่าจะทนได้ (จุดหนีเกราะหนาพอตัว)...หรือหลบได้....(ความเร็วสูงเล็งยาก) . . . เพื่อจะดริฟต์งามๆเข้าไปเผาขนด้านข้าง . . ปัญหาคือ ดาจีลิงค์ของเชอร์ชิลไม่สั่งยิง
62 แต่จุดนี้คือความพ่ายแพ้ก็ปรากฎครับ....ปรากฎก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มยิงเสียอีก สิ่งที่รถถังเชอร์ชิลทำคือ "หมุนป้อมปืนรอ" แน่นอนว่าไม่ทัน P4 แต่อย่างน้อยกระสุนยังรอพร้อมยิงสังหารให้ได้ทันที
63 จุดตัดสินก็เกิดขึ้น P4 ยิงกระสุนเจาะเกราะใส่ระยะเผาขน
เป้าหมายคือ "รอยต่อ" ระหว่างป้อมปืนกับตัวถังรถครับ เพราะเป็นจุดที่เกราะบางที่สุด (เนื่องจากต้องหมุนป้อม) และเป็นแนวลูกเลื่อนปืน+คลังกระสุนด้วย
64 แต่ปัญหาคือกระสุนแฉลบออกเป็นเพราะว่าเชอร์ชิลหันป้อมปืนมาเหมือนกัน และส่วนโค้งลาดเอียงของป้อมจะลดแรงปะทะของกระสุนเจาะเกราะไปมาก และทำให้แฉลบลื่นได้ง่าย (สังเกตเห็นว่ารถเชอร์ชิลนั่นมีแนวไฟเป็นเส้นเลย)
กลับกัน ปืนของเชอร์ชิลก็เผาขนใส่ P4 เช่นกัน และเป็นจุด "รอยต่อป้อม" เหมือนกันกับที่มิโฮะพยายามเล็งเป๊ะๆเลย แต่ความแตกต่างของเกราะเป็นจุดสำคัญในการตัดสิน เพราะเมื่อเกราะบางกว่า และทนกระสุนระยะประชิดไม่ได้ ฝ่ายมิโฮะจึงต้องหมดสภาพไป
65 สาวๆทีมรถถัง M3 ที่ลี้ภัยตั้งแต่ช่วงแรกแอบเกาะต้นไม้ดูอยู่ น่าเสียดายตรงถ้าทีมรถถัง M3 ยังอยู่อาจจะรูปเกมเปลี่ยนไป เพราะเป็นรถที่มีปืนหลักแรงสูสีกับฝั่งอังกฤษด้วย
66 สภาพแต่ละคนยกธงขาวดูไม่จืดเท่าไหร่ (แต่รถเทลเลอร์นี่มันยาวเว่อร์จิงแฮะ -*-)
67 กัปตันทีมอังกฤษ ดาจีลิงค์ยังโผล่มาทักทาย และทักด้วยความสนใจว่านึกถึงพี่สาวเลย
68 คุณเลขาฯมาทวงเรื่อง เกมลงฑัณฑ์เต้นระบำปลาอังโกขึ้นมา แต่ประธานทวินเทลบอก "ไหนๆก็แพ้กันหมด ..ก็มาเต้นด้วยกันนี่แหละ" ทำเอาเหวอทั้งคณะ
แห่ประจานรอบเมืองอีกต่างหาก (แต่ดูเหมือนมันจะเป็นอีเวนต์มากกว่านะ)
69 ถ้าให้ผมไปเต้นระบำชุดนี้ เอากระสุน AP มายิงผมทิ้งแทนเลยเถิด
ช่วงนี้เรือเทียบท่าอยู่ ยังมีเวลาขึ้นฝั่งเที่ยวได้อีกพักใหญ่ๆ แต่มาโกะขอตัวไปก่อน
70 มีตัวอย่างโปสเตอร์หนังเข้าใหม่ Operation Market Garden ด้วย วันหลังอาจจะเขียนถึงครับ หากใครเคยดูหนัง A Bridge is too Far นี่จะได้อารมณ์มาก . .
Operation Market Garden จะเกี่ยวกับปฎิบัติการพลร่มครั้งใหญ่ที่สุดใน WWII ในช่วง ก.ย.1944 ที่ทหารนับหมื่นโดดร่มเข้าไปในแนวหลังเยอรมันเพื่อโจมตีเส้นทางลำเลียงเพื่อปิดฉากกองทัพนาซีที่กำลังเสียหายอย่างหนักเพื่อหวังปิดบัญชี
ทว่า สมรภูมินี้กลายเป็นแนวรบเลือด เมื่อกองทัพเยอรมันระดมกำลังทั้งทหารราบ-ยานเกราะของหน่วย SS ภายใต้การนำของรุดเชฟ (ศิษย์เอกคนนึงของกูเดเรี่ยน-บิดาแห่งยานเกราะ)เข้าประจัญบานอย่างดุเดือด และย้อนศรปิดเส้นทางลำเลียง-ยานเกราะ-รถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ให้ไปสนับสนุนเหล่าพลร่มได้ จึงเกิดการบอันดุเดือดและยับเยินสำหรับฝ่ายอังกฤษ-อเมริกาอย่างร้ายแรง . . ไม่รู้ใน Girl and Panzer นี้มีหนังเรื่องนี้ฉายให้สาวๆดูไหมหน๋อ? (สมรภูมินี้เห็นได้ชัดมากครับว่า รถถังที่เข้าประจัญบานกับกองทัพติดอาวุธต่อต้านรถถังมันดุเดือดและเสียหายยับเยินกันทั้งสองฝ่ายขนาดไหน)
71 อีกด้านมีลูกชิ้นปลาอังโก (ไอ้ที่จับไปเต้นกันเมื่อกี้คงวางแผนเอามาโปรโมทแหงเลย
แอบดูปลาอังโกที่ว่าสักหน่อย
72 72 อยู่ๆก็ได้เจอคนหล่อคุ้นหน้าคุ้นตา 73 นู๋ซาโอรินปิ๊งแรก
แป่ว กลายเป็นลุกน้องบ้านเพื่อนตัวเองสะเนี่ย
แต่ปัญหาคือหม่อมแม่ของน้องฮานะนี่สิ สภาพสตรีญี่ปุ่นล้วนๆผู้สืบทอดวิชาจัดดอกไม้ (ไม่แปลกใจถ้าจะ Anti สาขายานเกราะสุดขั้ว)
ยอมตัดใจ ทิ้งบ้านก็ได้ แต่ไม่อยากทรยศใจตัวเองกับเพื่อนๆ สักวันคุณแม่คงเปลี่ยนใจ
75 เช็คชื่อขึ้นเรือทันเวลาฉิวเฉียด
76 สาวปี1 ทีม M3 มาขอโทษ ไม่คิดเลยว่าจะเกือบชนะได้
77 รร.เซนต์กลอเรียเองก็ส่งชามาให้เป็นการขอบคุณ แถมชมอีกว่าสนุกกว่าสู้กับคุณพี่สาวของมิโฮะ (ถ้าให้เดาว่าคุณพี่ใช้ Tiger น่าจะเป็นสไตล์การต่อสู้กันแบบตรงๆ แม่นยำ อำนาจการยิง และเกราะครับ)
78 เนื้อเรื่องเดินเร็วโคตรๆ เข้าลีกระดับนานาชาติขึ้นมาเลย
79 รร. Saunders มันโรงเรียนไหนหว่า (นู๋มิโฮะงง)
81 แล้วก็ได้เห็น intro ตอนต่อครับ กองทัพสายสหรัฐอเมริกา (US) ด้วยทีมรถถัง M4-Sherman รถถังหลักของอเมริกาที่ผลิตขึ้นมาในจำนวนมหาศาลและถูกส่งออกไปทุกแนวรบตลอดสงคราม
82 Ending Theme คราวนี้เป็นของสาววอลเลย์บอลครับ
จบแล้ววว~
ใครอ่านแล้วไม่เมนต์ จับเต้นระบำแล่ปลาอังกอร์
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2555 |
|
24 comments |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2555 20:14:57 น. |
Counter : 9861 Pageviews. |
|
|
|
/me ฝึกเต้นตาม