เรื่องราว....ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...ของแมวเก้าชีวิตติสต์แตก ยินดีต้อนรับค้าบ.....แง๊ววว.....
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
เรื่องจริง ไม่ได้โม้

“แก้วตา มาหาแม่หน่อยลูก ไหนเล่าให้แม่ฟังซิว่าวันนี้หนูอยู่กับยาย ทำอะไรบ้าง”

“หนูเล่นกับเพื่อน”

“ดีจังหนูมีเพื่อนแล้ว มีใครบ้างล่ะจ๊ะเพื่อนของลูก”

“ไอ้มอม กับ ไอ้ฝักเงินค่ะ”

“ทำไมหนูไม่ไปเล่นกับหนูหวานบ้างล่ะลูก”

“เล่นกับมอมสนุกกว่า”

มีเพียงเสียงถอดถอนใจของผู้เป็นแม่

“แม่คะ หนูจะทำยังงัยดีคะ แก้วตาไม่ค่อยเล่นกับเด็กวัยเดียวกันเลย วันๆเล่นแต่กับหมาแล้วก็แมว”

“ไม่เป็นอะไรหรอกลูกแก้วตาคงรักสัตว์ ดีนะลูกรักสัตว์ทำให้จิตใจดี ปล่อยเค้าไปเถอะเดี๋ยวโตอีกหน่อยขี้คร้านจะติดเพื่อน ตอนนี้แก้วตาอาจกลัวถูกแกล้งก็ได้เลยไม่ไปเล่นกับเด็กคนอื่น”
.
.
.
.

“มอมวันนี้มาเล่นขายของกันนะ”

“โฮ่ง”

“ก็ได้ ก็ได้ เล่นต่อสู้ก็ได้ แต่มอมห้ามกัดแก้วจริงๆนะ”

“เอ๋ง เอ๋งๆๆๆ”

“แก้วตา หนูไปทำอะไรเจ้ามอมมันน่ะลูก ดูซิร้องใหญ่เลย”

“ก็ไอ้มอมมันเล่นแรงกับหนูก่อนนี่”

“เล่นแรงอะไรกันลูก”

“ก็เราเล่นต่อสู้กัน หนูบอกมอมแล้วว่าอย่ากัดจริง แต่มันกัดจริงหนูเจ็บ ก็เลยกัดตอบมั่งสิแม่”

“ตายแล้วหนูกัดมอมเหรอ มานี่เดี๋ยวนี้เลย”
.
.
.
.
“คุณหมอคะ คือดิชั้นอยากให้คุณหมอตรวจดูลูกสาวหน่อยค่ะ”

“ครับ เป็นอะไรมาครับ”

“คือว่าลูกสาว เอ่อ .....ไปกัดกับหมาที่บ้านมาน่ะค่ะ”

“ว่าอะไรนะครับ”

“คือแก้วตาน่ะค่ะ วันๆไม่ค่อยพูดจากับใคร ไม่ยอมไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกัน แต่ชอบเล่นกับหมาแมวที่บ้าน ทีนี้เล่นไปเล่นมาก็โดนหมากัด แก้วตาก็เลยกัดตอบค่ะ”

“แล้วหมาที่บ้านฉีดยารึเปล่าล่ะครับ”

“ที่จริงหมาก็กัดไม่เข้าหรอกค่ะ เพราะเป็นแค่ลูกหมาเอง แต่เรื่องที่อยากให้คุณหมอตรวจน่ะคือเรื่องที่แก้วตาชอบคุยกับสัตว์น่ะค่ะ”

แล้วคุณหมอก็สืบถามเรื่องราวความเป็นมาต่างๆจากคุณแม่ จากนั้นก็จัดให้คุณแม่พาแก้วตาไปพบกับนักจิตวิทยาเด็ก

แก้วตาถูกส่งไปพบกับคุณหมอ และพูดคุยกับคุณหมอแค่สองคน

“สวัสดีครับ หนูชื่อแก้วตาใช่มั้ย”

เงียบ

“ได้ข่าวว่าเราคุยกับน้องหมา น้องแมวได้ใช่มั้ย ไหนเล่าให้คุณหมอฟังซิว่าคุยอะไรกันบ้าง”

“หมอไม่เชื่อหนูหรอกว่าหนูคุยกะหมาได้”

"เชื่อสิ ทำไมจะไม่เชื่อ ไหนลองเล่ามาสิ หมอเองก็อยากคุยกับหมาแมวที่บ้านเหมือนกัน”

“หมอมีหมาที่บ้านด้วยเหรอคะ”

“มีสิ มีตั้งสองตัวแน่ะ ชื่อเจ้าลักกี้ กับเจ้าโต”

“บ้านหนูมีหมาเยอะแยะเลย แมวก็เยอะด้วย”

“เหรอแล้วหนูชอบตัวไหนที่สุดล่ะ”

“หนูชอบเล่นกับไอ้มอม เพราะมันรุ่นเดียวกับหนู วันก่อนมันเล่นกับหนูแรงหนูเลยกัดมันไปทีนึง แต่กัดไม่แรงนะ ไม่มีเลือดออกด้วย ไอ้มอมมันใจเสาะร้องเสียงดังแม่เลยได้ยิน”

“ทำไมหนูชอบเล่นกับหมาล่ะ หนูไม่ชอบเล่นกับเพื่อนๆบ้างเหรอ”

“หนูไม่ชอบ”

“ทำไมหนูถึงไม่ชอบล่ะ ลองบอกหมอซิ”

“ก็เค้าชอบล้อว่าหนูเป็นเด็กกำพร้า”

“แล้วหนูรู้รึเปล่าว่าเด็กกำพร้าแปลว่าอะไร”

“หนูไม่รู้ แต่หนูว่ามันคงไม่ดีเพราะเวลาหนูได้ยินยายกับแม่พูดคำนี้ทีไร แม่หนูร้องไห้ทุกที หนูว่ามันคงหมายถึงสิ่งที่ไม่ดีแล้วก็เศร้าด้วย”

“เวลาหนูเล่นกับมอมหรือฝักเงิน ไม่เคยมีใครล้อหนูเลย บางทีฝักเงินเผลอข่วนหนู หนูก็เจ็บตรงที่ฝักเงินข่วน แต่ถ้าเพื่อนล้อหนู หนูรู้สึกเจ็บในนี้ค่ะ”

แก้วตาพูดพร้อมกับชี้ตรงตำแหน่งที่หัวใจข้างซ้าย หลังจากคุณหมอพูดคุยซักถามอะไรอีกนิดหน่อย ก็เรียกคุณแม่เข้าไปพบ
.
.
.
.

“แก้วตา อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวบ้านคุณป้ากันนะลูก”

“แก้วไม่ชอบบ้านคุณป้า”

“ทำไมล่ะลูก”

“ก็มีแต่คน ไม่มีหมาแมวซักตัว หนูไม่รู้จะคุยกับใคร”

“ก็คุยกับพี่เป้ พี่โอ๋สิลูก”

อาทิตย์นั้นแก้วตาไปบ้านคุณป้า พอไปถึงแก้วตาไม่พูดกับใครเลย คุณป้าคะยั้นคะยอให้ไปเล่นกับพี่โอ๋ แก้วตาจำใจต้องไป

ตอนแรกแก้วตานั่งเฉยอย่างเดียวแต่พี่โอ๋เล่านิทานแสดงท่าทางและเสียงประกอบทำให้น่าสนใจแก้วตาจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

พอตอนจะกลับบ้านแก้วตาวิ่งไปกระซิบพี่โอ๋

“ไว้วันหลังแก้วจะให้แม่พามาใหม่นะ เดี๋ยวแก้วกลับไป แก้วจะเล่านิทานแบบพี่โอ๋ให้มอมฟัง”

ระหว่างนั่งบนรถ

“เป็นงัยลูก สนุกมั้ยเล่นกับพี่โอ๋”

“สนุกค่ะ พี่โอ๋เล่านิทานให้ฟังตั้งหลายเรื่องแน่ะ”

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าแม่จะพามาใหม่นะลูก”

แก้วตาได้แต่พยักหน้าและยิ้มหวานอยู่คนเดียว
.
.
.

“แก้วตา หนูจะเอาเสื้อผ้าไปไหนน่ะลูก”

“หนูจะเอาไปเล่นละครกับมอมค่ะแม่”

“ไม่ได้นะลูกเสื้อผ้าเราเอาไปให้หมาใส่ทำไม สกปรกเอาไปเก็บเดี๋ยวนี้”

แก้วตาได้แต่เดินคอตกเอาเสื้อผ้าไปเก็บไว้ที่เดิม

“คุณแม่คะ หนูกลุ้มใจจังไม่รู้จะทำยังงัยดี”

“เรื่องแก้วตาเหรอลูก ก็ไหนลูกว่าดีขึ้นแล้วงัยเห็นพาไปเล่นกับเจ้าโอ๋บ่อยๆ”

“ใช่ค่ะ แก้วตาน่ะยอมเล่นกับโอ๋ รายนั้นเค้าชอบเล่านิทานแล้วหนูกำชับไว้ว่าอย่าล้อน้องเรื่องไม่มีพ่อ แต่ที่หนูกลุ้มน่ะเพราะยายแก้วไม่ยอมเลิกคุยกับหมาแมวซักที”

“ก็เด็กมันเหงา คุยกับเด็กแถวบ้านก็โดนล้อมันก็ต้องคุยกับหมาแมวไปตามเรื่องตามราว ไม่มีอะไรมากหรอกน่ะ เดี๋ยวพอเข้าโรงเรียนมีเพื่อนก็คงคุยกับคนเองแหละลูก”

“วันก่อนนะคะคุณแม่ แก้วตาจะเอาเสื้อผ้าไปให้เจ้ามอมใส่พอหนูดุ เผลอแป๊บเดียวแอบเอาลิปติกหนูไปเล่นแต่งหน้ากับเจ้ามอม ทาปาก ทาแก้มเจ้ามอมซะแดงแป๊ดเลย หนูจะดุก็สงสาร ขำก็ขำเจ้ามอม ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่ได้แก้วตาเป็นเพื่อน”

แก้วตาได้ยินคุณแม่บ่นกับคุณยายบ่อยๆเรื่องคุยกับหมาแมว และเห็นคุณแม่ไม่สบายใจ หลังๆแก้วตาก็เลยต้องแอบๆคุยกับเจ้ามอมและหมาตัวอื่น เพราะไม่อยากเห็นคุณแม่เศร้า อีกอย่างแก้วตาเบื่อที่จะไปพบคุณหมอทุกเดือนแล้วด้วย

พอแก้วตาเริ่มเข้าโรงเรียนก็มีเพื่อนใหม่เยอะแยะ และที่นี่ไม่มีใครล้อแก้วตาเรื่องเด็กกำพร้าเลย ทำให้แก้วตาเริ่มพูดคุยกับคนมากขึ้น

คุณครูประจำชั้นยังบ่นเลยว่า แก้วตาคุยเก่งบางทีคุยจนไม่ฟังที่ครูสอนก็มี แม่ค่อยโล่งใจหน่อย

แต่ก็เฉพาะที่โรงเรียนเท่านั้นนะ ถ้าอยู่ที่บ้านแก้วตาจะคุยเฉพาะคนในบ้านเท่านั้น คนแถวบ้านพูดให้ตายแก้วตาก็จะไม่ตอบ จนเค้าคิดว่าแก้วตาเป็นใบ้กันทั้งนั้น

ส่วนเรื่องชอบคุยกับหมาแมว แก้วตาก็ยังคงคุยเหมือนเดิม แม่เห็นก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ว่าแก้วตาไม่ได้ผิดปกติ

จนกระทั่งโตจนป่านนี้แก้วตายังคุยกับหมาแมวอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อว่าแก้วตาคุยกับหมาแมวรู้เรื่อง

จริงๆนะแก้วตาคุยกับหมาแมวรู้เรื่อง ไม่เชื่อลองไปอ่านเรื่องหมาๆแมวที่ผ่านมาสิ อิอิอิ



Create Date : 05 เมษายน 2551
Last Update : 5 เมษายน 2551 17:28:59 น. 3 comments
Counter : 623 Pageviews.

 
ชอบทุกครั้งที่เข้ามาอ่านเจ้า ชอบเรื่องราวต่างๆ ผ่านมุมมองของเจ้าข้าวโพด วันนี้ขอเปิดตัวซะเลยว่าเป็นแฟนบล็อก
ยินดีเจ้า


โดย: ออริกาโน วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:20:33:57 น.  

 
ขอบคุณ คุณออริกาโนที่แวะเข้ามาทักทายค้าบบบ แง๊วววว


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:17:27:34 น.  

 
งั้นต้องตามไปอ่านตอนเก่าๆ แล้วแหละ


โดย: beuysliv วันที่: 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา:3:22:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวโพดแมวติสต์แตก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





myspace layout images



Friends' blogs
[Add ข้าวโพดแมวติสต์แตก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.