เรื่องราว....ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...ของแมวเก้าชีวิตติสต์แตก ยินดีต้อนรับค้าบ.....แง๊ววว.....
Group Blog
 
 
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
17 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
เพื่อน........รัก

นานแล้วนะที่ผมไม่ได้เจอเธอ ไม่รู้ว่าเธอจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน

ผมจำได้ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเธอก็สองปีที่แล้ว ตอนนั้นเธอตัดผมสั้น ดูทะมัดทะแมงน่ารัก แต่ไม่ว่าเธอจะผมสั้นหรือยาว เธอก็สวยเสมอในสายตาผม

“นั่งฝันถึงใครอยู่เหรอแก”

“ฝันถึงแกนั่นแหละ ไม่เจอกันนานเลย แกยังเหมือนเดิมนะ ผมยาวขึ้น แต่ผอมไปรึเปล่าเนี่ย”

“่ชั้นกำลังอินเทรนด์ หุ่นนางแบบย่ะ ไม่ผอมหรอก แกล่ะสบายดีป่าว”

“หุ่นอย่างแกใครจะเอาไปเดินแบบวะ แห้งจนน่าจะไปเป็นไม้กระดานให้นางแบบเค้าเดิน”

“แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่เห็นจะมองว่าชั้นสวยหรือดีกะเค้ามั่ง แต่ช่างเหอะชั้นชินกะเสียงหอนของแกซะแล้ว”

“อ้าวนี่แกหาว่าชั้นเป็นหมาเหรอ เดี๋ยวก็กัดซะเลยนี่”

นี่คือบทสนทนาอันเป็นเรื่องธรรมดาของเราสองคน ผมอยากจะพูดจาหวานๆหรือชมเธอ แต่ไม่รู้เป็นยังงัยเวลาเจอหน้าเธอทีไรกลับกลายเป็นพูดตรงข้ามกับที่ใจคิดทุกที

ผมมองสำรวจเธออีกครั้ง ใช่เธอยังคงงดงามเสมอสำหรับผม

“ไปกันเหอะแก เดี๋ยวไม่ทันรถเราจะอดเที่ยวกันทั้งคู่”

นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเที่ยวกันแค่สองคน ปกติเรามักจะไปไหนเป็นกลุ่มเสมอ คงเป็นเพราะเธอเดินทางต่างประเทศบ่อยและเพื่อนในกลุ่มก็ต่างมีแฟนไม่ว่างกันเหมือนเมื่อก่อน คงเหลือแค่ผมกับเธอที่ยังว่างทั้งคู่

“นานแค่ไหนแล้วเนี่ยที่ชั้นไม่ได้เจอแก”

“สองปีกับอีกสามเดือนสิบสองวัน”

“โห นี่แกจำได้ขนาดนี่เลยเหรอ”

“เปล่า พูดให้แกดีใจเล่นใครจะไปจำได้ขนาดนั้นวะ”

ความจริงผมเฝ้านับวันที่จะได้เจอเธอ จนจำได้ขึ้นใจว่ามันเป็นเวลาเท่าไหร่ แต่ปากเจ้ากรรมก็ไม่กล้าพูดความจริง

“สองปีกว่าๆที่ชั้นไม่ได้เจอแก ชั้นไปเจออะไรมาเยอะแยะเลยว่ะ แกล่ะเป็นงัยบ้าง”

“ชั้นเหมือนเดิมว่ะแก ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงเป็นความหล่อว่ะ มันมีแต่เพิ่มขึ้นทุกวันไม่รู้เป็นงัย”

จริงๆผมอยากบอกว่าความรู้สึกผมที่มีให้เธอต่างหากที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“บ้านแกกระจกแตกอีกแล้วเหรอ ทำไมไม่บอกวะจะได้ซื้อมาฝาก เอานี่ไปแทนละกัน วันนี้ซื้อกระจกไม่ทัน”

เธอยัดเยียดบางสิ่งใส่มือผม พอผมแบมือออกดูก็เห็นเป็นตุ๊กตาเซรามิกรูปแมวตัวเล็กสองตัวนั่งคู่กัน

“แกไม่ลงทุนเลยนะ ไม่เจอกันตั้งนานให้ชั้นแค่เนี้ย”

“เอาไปเหอะน่าแก แมวมันมีเก้าชีวิตนะ ชั้นให้แกสองตัว แกจะได้มีสิบแปดชีวิตงัย”

“แล้วชั้นจะเอาไปทำไมตั้งสิบแปดชีวิต แค่ชีวิตเดียวชั้นก็เต็มทนแล้วแก”

“อย่าพูดมากแก ชั้นให้ก็รับไปห้ามบ่น”

“อะไรวะมีการบังคับกันอีกด้วย”

ความจริงสิ่งที่เธอและผมเหมือนกันก็คือ เราทั้งคู่ต่างก็รักแมว ผมเคยอาสาเลี้ยงแมวให้ในวันที่เธอถูกส่งไปทำงานต่างประเทศครั้งแรก และตั้งแต่นั้นมาเรามักจะสื่อสารกันผ่านเจ้าแมวตัวน้อย ที่จริงผมเอาแมวเป็นข้ออ้างในการส่งเมล์หาเธอต่างหาก ดูสิแค่จะเขียนเมล์หาเธอเพื่อถามสารทุกข์สุกดิบผมยังไม่กล้าเลย

เราไปพักที่รีสอร์ทซึ่งเงียบสงบเหมาะแก่การมาพักผ่อนแห่งหนึ่ง หลังจากกินอาหารค่ำเสร็จแล้วเธอชวนผมออกไปนั่งพักผ่อนด้านหน้าบ้านพัก

“โจ๊ก.....แกว่าดาวมันเหงาบ้างมั้ย”

“อะไรอีกล่ะแกทำไมช่างสงสัยในสิ่งที่เค้าไม่ค่อยสงสัยกัน คราวที่แล้วก็สงสัยว่านกมันจะเหงารึเปล่า ชั้นก็บ้าตามแกไปนั่งเฝ้าดูนกมันทั้งวัน”

“อ้าวแก คิดดูดิบนท้องฟ้าดาวมันอยู่กระจัดกระจายกันนะแก แต่ชั้นว่าดาวน่ะขี้เล่นนะแกมันขยิบตาให้เราด้วย”

“แกนี่ถ้าจะอ่านนิยายมากไปเปล่าวะ คิดได้งัยว่าดาวกำลังขยิบตา ว่าแต่ว่า ถามจริงเหอะแกลาออกจากงานทำไมไม่บอก แล้วนี่แกจะทำอะไรต่อไปล่ะ”

“ชั้นเหนี่อยน่ะแก อยากพัก ครั้งนี้คงพักยาวเลยล่ะแก”

“เออ เหนื่อยก็พักละกัน ทำงานต่างประเทศมาหลายปีแล้ว พักซะบ้างก็ดี”

“แก ที่นีสวยดีนะ รู้สึกท้องฟ้าอยู่แค่เอื้อมเอง นี่ละมั้งที่เค้าเรียกว่าสวรรค์บนดิน ไม่ต้องตายก็ขึ้นสวรรค์ได้”

“เออสวยอย่างแกว่านั่นแหละ ถ้าสวรรค์สวยอย่างนี้คงไม่มีใครอยากมาเกิดแล้วมั้ง”

ผมแอบมองใบหน้าด้านข้างของเธอ ไม่รู้เพราะบรรยากาศหรืออะไร แต่ผมรู้สึกเหมือนเธอเศร้าๆยังงัยก็ไม่รู้

ปีที่ผ่านมางานคงหนักมากสำหรับเธอ เพราะมีบ่อยครั้งที่เธอส่งเมล์มาปรับทุกข์กับผม ส่วนผมทำได้แค่เล่าเรื่องขำๆให้เธอคลายเครียด ทั้งที่ใจจริงอยากทำมากกว่านั้น ผมมันช่างขี้ขลาดซะจริง

แต่ครั้งนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจผมมานาน แม้ผลของมันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดก็ตาม อย่างน้อยผมอยากให้เธอรู้ความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเธอ ผมไม่อยากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตอีกต่อไป เพราะผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะได้เจอเธออีก

“ขิง แกรู้ป่ะว่ามีคนแอบรักแกอยู่”

เธอเงียบไป ผมคิดในใจว่าคงโดนเธอด่าแน่

“อืม ชั้นรู้แล้ว”

แล้วเธอก็เงียบอีก ไม่พูดอะไรเลย จนผมทนไม่ได้

“ขิง ชั้นรักแกนะ”

เธอตอบผมเพียงว่า

“ขอบใจนะ”

“แค่นี้เองเหรอแก ชั้นตั้งใจที่จะพูดคำนี้ แต่ตอบแค่ว่าขอบใจแค่นี้เนี่ยนะ”

“โจ๊กมันสายไปแล้วล่ะ ขอโทษนะ”

“หมายความว่างัย มันสายไป แกมีแฟนแล้วเหรอ”

“ชั้นขอไม่ตอบได้มั้ย อยากเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว”

ผมรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง ทำไมผมถึงได้โง่อย่างนี้นะ จริงสิระยะเวลาหลายปีที่เราห่างกัน เธอก็คงมีใครเข้ามาในชีวิตของเธอบ้างแล้ว ใครจะมารอคนอย่างผม

“ชั้นคงบังคับให้แกมารักชั้นตอบไม่ได้ แต่ยังงัยก็ขอบใจละกันที่แกทนฟังชั้นพูดออกมา”

ผมเดินจากเธอมาด้วยอารมณ์เสียใจ น้อยใจ และโกรธ ทำไมเธอมีแฟนแล้วแต่ไม่เคยเล่าให้ผมฟังบ้างเลย ถ้าผมรู้ผมคงไม่พูดมันออกไปหรอก แต่ถ้าเธอมีแฟนแล้วเธอชวนผมมาที่นี่กับเธอทำไม คำถามต่างๆวนเวียนอยู่ในหัวผมทั้งคืนจนรุ่งเช้า

“หน้าโทรมอย่างกะผีดิบเลยนะแก อย่างนี้จะให้สาวที่ไหนมามองวะ”

นี่เธอยังมีหน้ามาล้อผมเล่นอีกเหรอเนี่ย ผมนอนไม่หลับทั้งคืนแต่ดูเธอไม่รู้สึกอะไรเลย

“เออ ก็ตอนนี้ชั้นอยู่กะแก ถึงหล่อแกก็ไม่สนใจชั้นอยู่ดี เพราะงั้นให้ชั้นโทรมน่ะดีแล้ว”

“แก อย่าโกรธชั้นเลยนะ เราเป็นเพื่อนกันอย่างนี้น่ะดีแล้ว ชั้นไม่อยากให้แกเสียใจ”

“ถ้าชั้นเป็นแฟนแกทำไมชั้นต้องเสียใจด้วยวะ”

“อ้าว ก็ชั้นชอบทิ้งผู้ชายเหมือนทิ้งถุงเท้าคู่เก่าอย่างที่แกว่างัย แกเป็นรองเท้าดีกว่านะเพราะชั้นใส่คู่เดิมไม่เคยเปลี่ยน”

เธอยิ้มตาหยีใส่ผม แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกโลกทั้งใบมันเปลี่ยนไปทันที ใช่ถึงแม้ผมจะไม่ได้เป็นถุงเท้าที่เธอใส่ แต่เป็นรองเท้าก็ดีเหมือนกัน เพราะผมได้เดินทางไปกับเธอทุกที่ รับรู้เรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ

“เออก็ได้วะ รองเท้าก็ได้แต่แกเปรียบชั้นเป็นอย่างอื่นที่มันดีกว่ารองเท้าไม่ได้เหรอ”

เธอไม่ตอบได้แต่ยิ้มลูกเดียว ผมรู้ว่าเธอคงไม่อยากตอกย้ำว่ามีแฟนแล้วให้ผมยิ่งเสียใจ ผมก็เลยไม่อยากให้เราต้องสูญเสียมิตรภาพของความเป็นเพื่อนไป

คิดซะว่ายังงัยผมก็ได้พูดสิ่งที่อยากพูดออกไปแล้ว ในเมื่อผลมันเป็นอย่างนี้ก็คงต้องยอมรับมัน

หลังจากที่ผมกลับจากไปเที่ยวกับเธอครั้งนั้น ผมก็ไม่ได้ติดต่อเธอเลย อาจเป็นเพราะผมยังรู้สึกเจ็บ ผมเลยอยากมีเวลาอยู่กับตัวเอง และต้องการตัดเธอออกจากหัวใจผม คิดว่าเมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกทำใจได้แล้วผมจะติดต่อเธออีกครั้ง

ผมผลัดผ่อนตัวเองอยู่นานว่าจะโทรหาเธอ หรือส่งเมล์หาเธอแต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่ได้ทำซักที

จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้รับจดหมายจากเธอ

หวัดดีโจ๊ก

นี่คงเป็นจดหมายฉบับแรกและสุดท้ายที่ชั้นเขียนหาแก ชั้นขอโทษด้วยที่ชั้นทำร้ายความรู้สึกของแกในวันนั้น

ชั้นรู้ว่าแกรู้สึกเจ็บมากแค่ไหน ชั้นเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่าแกเลย แต่ชั้นรู้สึกไม่ยุติธรรมถ้าชั้นจะรับความรักของแกมาและกักขังมันไว้ที่ชั้น

ความรักเป็นเรื่องมหัศจรรย์และมันไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นชั้นคิดว่าความมหัศจรรย์ของแกไม่ควรเกิดกับชั้น

อย่างที่ชั้นบอกแกวันนั้นว่าชั้นรู้ว่าแกรักชั้น แกหัวใจคนมันไม่ใช่ก้อนเนื้อธรรมดานะ มันมีความรู้สึก ชั้นเองก็ไม่ได้บื้อขนาดที่จะไม่รู้สึกว่าแกคิดยังงัยกับชั้น

และที่ชั้นขอบใจแก ชั้นก็หมายความอย่างนั้นจริงๆ ชั้นขอบใจที่แกคอยห่วงใยชั้นตลอดมา และขอบใจที่แกรักชั้น มันทำให้ชั้นมีความสุขในวันเวลาที่เลวร้าย

ทำให้ชั้นเข้มแข็ง พร้อมที่จะเผชิญกับอะไรก็แล้วแต่ที่เข้ามาในชีวิต ความรักของแกทำให้ชั้นไม่เดียวดายอีกต่อไป

ชั้นเองพยามหลอกตัวเองว่าเราเป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว เพราะชั้นกลัวว่ามิตรภาพของเรามันจะไม่เหมือนเดิม ชั้นเฝ้าแต่กลัวและขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความรู้สึกนั้น

แกต่างหากที่กล้าหาญบอกความรู้สึกนั้นออกมา ชั้นดีใจที่ชีวิตชั้นได้รู้จักกับแก มีแกคอยรับรู้ทุกข์ สุข ชั้นว่ามันดีกว่าคำว่าแฟนที่แกอยากได้ยินตั้งมากมาย

กว่าแกจะได้รับจดหมายฉบับนี้ ชั้นคงจะไปไกลแล้วล่ะ และการเดินทางครั้งนี้ชั้นคงไม่ได้กลับมาเจอแกแล้ว ถึงแม้ว่าชั้นอยากจะมาเจอแกมากแค่ไหน แม้รู้ว่าแกจะยังคงรอชั้นอยู่เสมอ

โจ๊ก อย่ารอชั้นอีกเลยนะ

ให้ชั้นได้เป็นฝ่ายรอแกบ้าง แต่แกสัญญานะว่า แกจะออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มค่า มีความสุขให้มากๆ

ใช้ชีวิตเผื่อชั้นด้วย เพราะแกมีอีกสิบแปดชีวิตที่ชั้นให้แกไว้ ชั้นคงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว

แกจำได้มั้ยที่ชั้นบอกแกเรื่องดาวกระพริบ ทุกครั้งที่แกแหงนมองดาวบนฟ้าให้แกคิดซะว่าชั้นกำลังขยิบตาให้แกอยู่

คอยรับรู้และดูความเป็นไปของชีวิตแกเหมือนที่แกเคยทำให้ชั้นมาตลอด

ชั้นไม่เคยบอกแกสินะว่าช่วงเวลาที่ชั้นมีแกอยู่ คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิตชั้น ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกันจนกระทั่งวันสุดท้ายที่เราจากกัน

มีสิ่งนึงที่ชั้นอยากให้แกรู้ไว้ ไม่ว่าชั้นจะเดินทางไปที่ไหน ไกลแค่ไหนแต่หัวใจของชั้นมันอยู่กับแกตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันแล้วล่ะ

“ชั้นก็รักแกนะ”

ขิง

พออ่านจดหมายจบผมรู้สึกงงไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอผมไม่เข้าใจ ผมตัดสินใจโทรหาเธอตอนนั้น

เสียงทางปลายสายเป็นน้องสาวเธอ ผมถามน้องสาวเธอว่าเกิดอะไรขึ้น น้องสาวเธอบอกว่า เธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยโรคร้าย เธอตรวจพบโรคนี้ไม่นานหลังจากเธอกลับมาจากต่างประเทศ เธอรู้ว่ามีเวลาเหลือแค่สามเดือนเท่านั้น ก่อนรับการผ่าตัดครั้งสุดท้าย

นั่นก็คือการไปเที่ยวของผมและเธอ ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าห้องผ่าตัดเธอฝากจดหมายฉบับนี้ให้น้องสาวเธอ กำชับให้ส่งให้ผมหลังจากที่เธอได้เสียชีวิตไปแล้วครึ่งปี นั่นคือคำล่ำลาครั้งสุดท้ายของเธอ

นี่ผมทำอะไรลงไป ทำไมผมละเลยเธอขนาดนี้ ทำไมโรคร้ายนี้มันต้องเกิดกับเธอ ผมไม่รู้เลยว่าน้ำตาผมมันมาจากไหน

สิ่งเดียวที่ผมได้รู้คือ เธอรับรู้ในความรักของผม แต่ผมเองที่ไม่เคยรับรู้ความรักจากเธอเลย

ผมมองแมวเซรามิกในมือผม รับรู้ได้เดี๋ยวนั้นว่า ทำไมเธอถึงอยากให้ผมมีสิบแปดชีวิต





Create Date : 17 มีนาคม 2551
Last Update : 17 มีนาคม 2551 18:31:09 น. 5 comments
Counter : 522 Pageviews.

 
มันต้องอยู่ไปโดยไม่มีแกอีก18ชีวิตเลยเหรอ


โดย: 8e88 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:0:13:29 น.  

 
อ้าว ไม่ดีเหรอ โจ๊กจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์18ชีวิตและมาหยุดอยู่ที่ขิงคนเดียว อิอิอิ


โดย: ข้าวโพดแมวติสต์แตก วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:8:46:00 น.  

 
ได้อ่านครบทุกเรื่องเลยค่ะ อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย ไว้จะติดตามอ่านเรื่อยๆ นะคะ บางเรื่องอ่านแล้วคิดถึงตอนเป็นวัยรุ่นเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องแอบรักเพื่อนเนี่ย...ถนัด จะคอยติดตามนะคะ


โดย: Mydain (Mydarin ) วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:21:07:10 น.  

 


โดย: klin77 IP: 203.151.53.107 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:12:08:01 น.  

 
เศร้าจังเลยค่ะ


โดย: teansri วันที่: 25 เมษายน 2551 เวลา:20:11:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวโพดแมวติสต์แตก
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





myspace layout images



Friends' blogs
[Add ข้าวโพดแมวติสต์แตก's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.