Bloggang.com : kokoo_129 : ✿..แอ่วเหนือระรื่นใจ 4..✿

✿..แอ่วเหนือระรื่นใจ 4..✿

✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿

มาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาต่อเรื่องราวการเดินทางชมเมืองเหนือของโก้ วันสุดท้ายกันนะคะ ^o^

เช้าวันใหม่ ณ เชียงใหม่.....

คณะของเราพร้อมเพียงกันที่ล๊อบบี้ของโรงแรม ยกเว้น......โก้ แหะๆๆๆ ก็อาบน้ำ แต่งตัวช้าไปนิด แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นต้องคอยนาน เพราะคุณลุง คุณป้า ท่านอื่นๆ ก็กำลังยืนคุยกัน บางคนก็กำลังดื่มกาแฟร้อน ไปพรางๆ อืมมมมมม

พี่คนขับรถ รีบเดินมาหาโก้ แล้วยิ้ม พูดคุยทักทาย ตามประสาคนวัยใกล้เคียงกัน เอิ๊กกกกกกกกก แกคงขำโก้ที่ช้าที่สุด -*- เมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็ออกเดินทางกันต่อ

เช้านี้ พี่คนขับพาพวกเราไปทานอาหารเช้าในตลาดค่ะ เห็นพี่เค้าบอกว่า ร้านนี้อ่ะ ดังที่สุด อืมมมมมมมมมม

ร้านนี้เป็นร้านที่ขาย ต้มเลือดหมู และโจ๊ก ชื่อร้านชื่อ ร้านพยอม หรือไรเนี่ยะละคะ คือโก้จำไม่ค่อยได้ แหะๆๆๆๆ

พี่คนขับ และโก้ ก็ช่วยกันพาลุงๆ ป้าๆ ข้ามถนนไปยังร้านค่ะ พอส่งคุณป้า คุณลุงไปถึงร้านแล้ว โก้ก็แวะที่หน้าร้านนิดหน่อย ขอใส่บาตรสักนิด ที่เมืองชลฯ ไม่ค่อยได้ทำ ขอมาทำที่เชียงใหม่แล้วกัน เอิ๊กกกกกกกกกก

ใส่บาตรเสร็จ ก็เข้าไปทานโจ๊กในร้าน อืมมม ตามผนังมีรูปดาราเต็มไปหมด แสดงให้เห็นว่า ร้านนี้ได้เคยต้อนรับดาราน้อยใหญ่ หลายต่อหลายคนมาแล้ว และวันนี้ก็ได้ต้อนรับโก้ด้วยอีกคน 999999999999999

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเราก็มุ่งหน้าไปยัง ดอยสุเทพ ค่ะ ซึ่งโก้เคยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่รสชาติการเดินทางในครั้งนี้เปลี่ยนไปนะคะ ไม่เหมือนคราวก่อน เพราะครั้งก่อนโก้ไปกับเพื่อนๆ วัยเดียวกัน ลุยกันสนุกๆ เดินขึ้นบันได แต่คราวนี้ ขึ้นลิฟธ์ค่ะ ก็ป้าๆ ลุงๆ ขึ้นบันได้ม่ายหวายยยยยยยยยยยยยย

เราขึ้นไปนมัสการ พระธาตุ และรับน้ำมนต์จากพระ แถมด้วยการแวะชมทิวทัศน์ที่มีแต่หมอกบดบัง -*- เรียกว่า สวยไปอีกแบบ อันนี้โก้ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีกอ่ะละคะ มัวแต่ถ่ายวีดีโอ แหะๆๆๆๆๆ

ลงมาก็ชอปปิ้งอีกนิดหน่อย มีสตอเบอรี่หวานๆ ลูกโต วางขายเรียงรายเต็มไปหมด โก้ก็ซื้อมา 3 ตะกร้าเอง เอิ๊กกกกกกกก

หลังจากนั้นเราก็เดินทางกันต่อ แวะซื้อของฝากอีกนิดหน่อย ก่อนจะเดินทางไปยัง ........."ดอยอินทนนท์"

พวกเราเดินทางไปยังวัดเชิงดอยก่อนค่ะ พี่คนขับรถพาพวกเราไปส่งที่ตรงนั้น เพื่อเคลื่อนคณะไปขึ้นรถรับจ้างเพื่อขึ้นดอย

รถคันน้อยพาพวกเราขึ้นไปบนดอย ระยะทางก็หลายสิบกิโลอยู่ค่ะ เห็นคุณลุงคนขับบอกว่าประมาณ 45 กิโล นับเวลาแล้วก็เกือบๆ 1 ชั่วโมง อืมมมม

จากด้านล่างที่อากาศอบอุ่นธรรมดา ไม่หนาว ไม่ร้อน พอขึ้นสูงไปเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นเป็นลำดับ ตอนแรกโก้ใส่แค่ เสื้อกันหนาวแบบผ้าร่มธรรมดา (วันนี้ไม่ได้สวมถุงเท้าซะด้วย) โก้เริ่มรู้สึกถึงความเย็นได้จากปลายเท้า และเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ

รถคันน้อยพาเราไปยังจุดพักรถ และย้ายให้พวกเราไปขึ้นรถที่จะเข้าไปเยี่ยมชมพระธาตุ เจดีย์องค์ใหญ่ ภปร และ สก ซึ่งสวยงามมาก รถอื่นๆ ไม่สามารถเข้าได้ นอกจากรถที่จัดไว้เท่านั้น

เมื่อเปลี่ยนรถเรียบร้อย รถก็แล่นพาพวกเราผ่านประตูด้านแรก เพื่อเข้าไปยังสถานที่ที่เราต้องการเข้าไปชม และโก้ก็ได้เห็นดอกไม้สวยๆ น้อยใหญ่เต็มไปหมด โดยเฉพาะดอก ไทเดนเยีย เต็มไปหมดเลยค่ะ ส่วนภาพเบื้องหน้าที่เจอก็คือ เจดีย์สถานที่ใหญ่โต และสวยงาม สองเจดีย์ ซึ่งหันหน้าเข้าหากัน ฝั่งซ้ายคือ ภปร และฝั่งขวาคือ สก สวยงามไร้ที่ติจริงๆ ค่ะ

ภปร

พอรถจอด โก้ก็รับรู้เลยถึงความเย็นของอากาศค่ะ เย็นจนมือชาไปหมด โก้เลยรีบเข้าไปในร้านอาหารที่เค้าจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการ อ๊ะ ถุงมือออออออออออออ โก้เลยจัดการซื้อถุงมือมาสวม 1 คู่ เพื่อบรรเทาอาการเย็นที่ปลายเล็บมือ ทำให้โก้สามารถถ่ายรูปได้เหมือนเดิมมมมม เหอๆๆๆๆๆ

ตรงกลางจะเป็นวงเวียนเล็กๆ ที่ให้รถขึ้นมารับ-ส้ง นักท่องเที่ยวค่ะ แค่วงเวียนก็สวยแล้วอ่ะ มีดอกไม้แปลกตาปลูกเต็มไปหมด พอเงยหน้ามองไปที่เจดีย์ด้านซ้ายก็จะพบกับ เจดีย์ที่มีสัญญาลักษณ์ ภปร สวยมากเลยค่ะ มีน้ำตกเล็กๆ ด้วย ดูเย็นตามากๆ เลยค่ะ แข็งแกร่ง ร่มเย็น มั่นคง

ส่วนทางด้าน สก นั้น จะประดับประดา เต็มไปด้วยพรรณดอกไม้สีสันต่างๆ สวยงามอ่อนโยนมากค่ะ สวยมากๆ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เข้าไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ยยย ระลึก

พอขึ้นไปด้านบนของเจดีย์ สก ด้านในก็จะพบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สีขาวสวย โก้ไม่แน่ใจว่า พระพุทธรูปองค์นี้แกะสลักมาจากหินอ่อน หรือว่า หยกขาวกันแน่ (ไม่กล้าแตะ) แต่ที่รู้ๆ ก็คือสวยงามมากค่ะ ส่วนผนังด้านในนั้น มีรูปภาพเขียนที่สวยงามมากๆ รายล้อมเต็มไปหมด เลยค่ะ

ส่วนด้านนอกก็มีรูปภาพที่สวยๆ เต็มไปหมดเลยค่ะ ทิวทัศน์ก็สวยงาม ชวนตะลึง เรียกว่า งดงามมากๆ เลยค่ะ มีคุณลุงท่านหนึ่งเคยมาแล้ว ท่านบอกว่า คราวก่อนที่มานั้น มีเมฆหมอกหนามากๆ มองไม่ค่อยจะเห็นอะไรนัก แต่ก็เป็บบรรยากาศที่สวยไปอีกแบบ คล้ายๆ กับว่า อยู่บนวิมาณเมฆค่ะ เพราะหมอกจะปกคลุมไปทั่ว เห็นแค่ยอดเจดีย์ มองไปด้านล่างจะไม่เห็นอะไรเลย เหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ค่ะ

วันนี้ที่เรามานั้น เป็นช่วงเวลาเกือบๆ บ่ายโมง อุณหภูมิก็ 11.6 องศาค่ะ

น่าเสียดายนะคะ ที่รูปข้างบนนี้ส่วนใหญ่โก้ใช้วีดีโอถ่าย พอจะ แคป ออกมาเป็นภาพ ก็ไม่ชัดอ่า คงเพราะถ่ายไป เดินไปมั้งค่ะ ภาพมันเลยเคลื่อนๆ น่าเสียดายมาก รู้งี้ใช้กล้องถ่ายอย่างเดียวก็ดีอ่า

และบนนี้นี่เอง ที่โก้ได้พบกับ "ดอกฝิ่น" ของจริง ดอกฝิ่นนั้นสวยมากค่ะ สีสด กลีบบางอ่อน

แล้วก็ยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ หลากหลายมากค่ะ และรวมไปถึง...."โคมญี่ปุ่น"

หลังจากชื่นชมความงามของสองเจดีย์ใหญ่ เรียบร้อยแล้ว คณะของเราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ เรากับไปยังรถคันน้อย เพื่อลุยขึ้นไปบนยอดดอยอินทนนท์ ไปยังจุดสูงสุดแห่งประเทศไทย "จุดสูงสุดแดนสยาม"

และบนนี้เองที่มีดอกไม้อยู่พันธ์หนึ่งที่เค้าว่ากันว่า มีเพียงบนยอดดอยอินทนนท์แห่งนี้เท่านั้น นั่นก็คือ "ดอกบัวทองอินทนนท์"

อืมม โก้ลืมบอกไปว่า ระหว่างทางที่เดินทางมาบนจุดสูงสุดเนี่ยะ มีดอกไม้ชนิดหนึ่งที่สวยมากๆ ขึ้นเรียงรายอยู่ตามสองข้างทางค่ะ ดอกไม้ชนิดนั้นก็คือ "กุหลาบพันปี" แต่เป็นสีขาว สวยมากๆ ค่ะ สวยจนเก็บภาพไม่ทัน -*-

แต่โก้ก็มาเจอกับ กุหลาบพันปีสีขาว ข้างบนที่พักของเจ้าหน้าที่ด้านบนนี้ค่ะ โย้ๆๆๆๆๆ

หลังจากชมความงามของธรรมชาติบนยอดดอยอินทนนท์เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับลงไปยังเชิงดอยค่ะ ไปแวะทานอาหารที่น้ำตกกลาง และเดินทางต่อไปยังลำปาง แวะทานอาหารเย็นที่บ้านป้าเพื่อนของแม่โก้ค่ะ เสร็จสรรพก็เดินทางกลับเมืองชลบุรี ถึงบ้านก็เช้าของวันใหม่พอดี อิอิอิ

ทริปการท่องเที่ยวของโก้ก็จบลงแค่นี้ล่ะคะ หวังว่า เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คงสนุกไปกับการเดินทางของโก้ด้วยนะคะ

ถ้าโก้ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ไหนอีก โก้จะเก็บภาพ และเรื่องราวสนุกๆ แบบนี้มาฝากกันอีกนะคะ ^o^