Group Blog
มกราคม 2567

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
ฝึกสมาธิเพื่ออะไร จิตทำมโนกรรมอย่างไรจึงเข้าสู่ฌาณได้ง่าย

ฝึกสมาธิเพื่ออะไร จิตทำมโนกรรมอย่างไรจึงเข้าสู่ฌาณได้ง่าย

`ธรรมนี้เกิดเห็นโดยส่วนตัวแต่ผมผู้เดียว ไม่ใช่โดยตรงจากที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาตรัสสอน จึงไม่ใช่ธรรมของจริงแท้ ยังเป็นเพียงธรรมปลอม หากแต่เป็นความรู้ด้วยการเข้าถึงสภาวะธรรมโดยส่วนตัวของปุถุชนอย่างผมพอจะมีปัญญาเข้าถึงตามธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ดีแล้วนั้นได้ เคยเห็นจิตกระทำแล้วบ้าง อาจแม้เพียงโลกียะ หรือจิตหลอกจิตก็ตามแต่ แต่ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่า เราฝึกสมาธิเพื่อสิ่งใด การเข้าฌาณ คลองฌาณเบื้องต้นนั้น จิตมีมโนกรรมอย่างไรเท่านั้น มิได้อวดอ้างแอบอ้างความสืบต่อหรือแจ้งว่าตนบรรลุธรรมใด เป็นเพียงบันทึกกรรมฐานส่วนตัวของผมเท่านั้น`

*แต่หากธรรมนี้ทางนี้ทำให้ท่านผู้อ่านเข้าใจและให้ผลได้ ให้รู้ไว้เลยว่าธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ผลได้ไม่จำกัดกาล และมีคุณมาก มีดังนี้เป็นต้นครับ*


 




*เราฝึกสมาธิ..เพื่อให้จิตตั้งมั่นด้วยสติ มีกำลังอยู่ได้ด้วยตัวเอง*

*เมื่อจิตตั้งมั่นด้วยสติ..ก็จะเกิดผู้รู้*

*เมื่อจิตเป็นผู้รู้ชัด..ก็จะเกิดผู้ตื่น*

*เมื่อจิตเป็นผู้ตื่น..จิตก็จะเกิดนิพพิทา*

*เมื่อเป็นนิพพิทา..จิตจะน้อมเข้าฌาณได้ง่ายและไว* _(เหตุเพราะจิตหน่ายต่อโลก จิตคลายความยึดมั่นถือมั่นในโลก ใจคลายจากสภาพแวดล้อมของโลกความเป็นโลกที่เป็นอยู่ ที่ยึดอยู่ ที่อยู่จับอยู่ ที่ติดตรึงใจ ที่ตราตรึงใจไว้อยู่นั้นๆ คือ คลายจากกามคุณ ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฐัพพะ จิตจะจับที่ลมหายใจ (ตลอดจนต้นลมหายใจและปลายลมหายใจ) หรือจับนิมิตทางลม หรือจับกสินนิมิต หรือนิมิตต่างๆได้มั่น ..จิตคลายออกจากโลกโดยอาศัย..ลมหายใจ หรือนิมิตเหล่านั้น เพื่อเคลื่อนออกจากโลก แล้วยกจิตขึ้นอยู่ในสภาวะที่ใจไม่กวัดแกว่ง เอนเอียง อ่อนไหว คล้อยตาม น้อมใจไปในโลก ใจมีพลังตั้งอยู่ได้ด้วยตัวเอง ทำให้เคลื่อนจิตเข้าฌาณได้ง่าย สติที่เกิดพร้อมบริสุทธิ์..จะจดจำคลองธรรมคลองเข้าฌาณได้ง่าย ดังนั้นไม่ต้องไปจำจดจำจ้องคลองธรรม วสีใดๆ ให้ปล่อยมันเคลื่อนไป เมื่อเข้าได้บ่อยๆก็จะเกิดความรู้พร้อมในคลองธรรมหรือวสีเอง จะได้วสีก็ต้องฝึกบ่อนๆให้เข้าได้บ่อยๆจิตจะเห็นของธรรม ขณะเข้าจิตอยู่กับปัจจุบันอาจจะไม่นึกถึงการจดจำสภาวะ แต่เมื่อสติบริสุทธิ์ทุกๆครั้งที่ออกจากสมาธิก็จะยังคงเหลือสัญญาอยู่เสมอ เพราะสัญญาเกิดพร้อมด้วยสติระลึกรู้)_

*เมื่อจิตเข้าฌาณอันเป็นสัมมาสมาธิได้..จิตก็จะเกิด สุจริต ๓ (มรรคมีองค์ ๘)*

เมื่อจิตเป็นฌาณพร้อมด้วยสุจริต ๓ (มรรคมีองค์ ๘)..มรรคก็จะสืบต่อได้นานด้วยกำลังฌาณสมาธิ

เมื่อสุจริต ๓ (มรรคมีองค์ ๘) สืบต่อได้นาน ก็จะเกิดมัคสมังคีอ มัคสามัคคีกันเป็นองค์เดียว
_(เห็นชอบ คิดชอบ วาจาชอบ ประพฦฤติชอบ เพียรชอบ ระลึกชอบ ตั้งมั่นชอบ รวมเป็นองค์เดียว ทั้งหมดนี้เป้นสถภาวะธรรมในองค์ธรรมเดียว)_

*เมื่อกิดมัคสมังคี (มรรคสามัคคีรวมกันเป็นหนึ่ง)..จิตก็จะแทงขึ้นญาณทัสนะ คือ มหาสติปัฏฐาน ๔*

*เมื่อจิตเข้าถึงมหาสติปัฏฐาน ๔..ก็จะเกิดสัมโพชฌงค์ ๗*

*เมื่อเกิดเกิดสัมโพชฌงค์ ๗ ก็จะเกิดสู่วิชชา ปัญญา ฌาณ*

*เมื่อเข้าสู่วิชชา ปัญญา ฌาณ ก็จะถึง พระอริสัจ ๔ ใน รอบ ๓ อาการ ๑๒*




Create Date : 28 มกราคม 2567
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2567 15:33:49 น.
Counter : 217 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 1075032
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]