All Blog
|
ว่าด้วยการอ่าน (๑) อินทรวิเชียรฉันท์ สวัสดีค่ะ.... แฮ่... อาจจะแปลกๆ วันนี้มาอะไรที่ดูแบบมีสาระขึ้นมาจากปกติ เหตุเกิดการอยู่ดีๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า เอ... เราแต่งกลอนแล้วนะ หลายท่านเคยถามด้วยว่าแต่งกลอนได้อย่างไร บางท่านคิดว่าอายุสักเลข 3 อีกต่างหาก ฮา... ก่อนอื่นเฟิร์นไม่ได้เริ่มต้นจากการแต่งกลอนค่ะ โดยปกติเรียกว่าเป็น "นักอ่าน" จะเหมาะกว่า เริ่มตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ นู่น... แลไกลเนอะว่าไหม? ฮี่ๆๆ ก็มีหลายๆ อย่าง (แกมบังคับ) ทำให้ต้องหัดอ่านกลอนสุภาพ หรือกลอนแปด แน่นอนว่าบทนั้นคือ "เด็กเอ๋ย เด็กน้อย" จำได้เลยว่าตอนนั้นป่วยเป็นภูมิแพ้ ไปแข่งระดับจังหวัดแล้วเตอแอร์เข้าไปน็อค... อ่านไม่ได้ คือตอนออกไปอ่านไม่มีเสียงออกจากปากเลย แข่งเสร็จร้องไห้โฮ... (นึกแล้วก็ขำตัวเอง) ไม่ได้อะไรหรอกนะที่แข่งแพ้ (ร้องตั้งแต่ผลยังไม่ออก) แต่เจ็บใจที่ไม่มีเสียงซะได้นี่สิเรื่องใหญ่ ตั้งแต่นั้นก็พยายามจะเอาชนะแอร์ (มาหายเอาจริงๆ ช่วงมัธยมปลายที่บ้านติดแอร์ในห้องนอนให้) แต่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจมาตั้งแต่เด็ก ปอดอักเสบบ้าง อะไรต่อมิอะไรนักก็สุดจะสาธยาย เอาเป็นว่าอับอายก็ตอนราวมัธยมต้นยังไปนั่งพ่นยากับเด็กน้อย ๕ ขวบที่มองเราตาแป๋ว... น้องเขาคงคิดล่ะ... นั่นพี่ทำบ้าอะไร เขาให้เด็กพ่นมิใช่หรือไง? ฮี่ๆๆ เข้าเรื่องดีกว่า... มีคนหลายคน (เชื่อแบบนั้นนะ ฮี่ๆๆ) งง...และสับสนกับฉันทลักษณ์ของกลอน กาพย์ โคลง และฉันท์ แน่นอนว่ารวมถึงการอ่าน ถ้าถามว่าจำฉันทลักษณ์อย่างไร อ่านอย่างไร ก็จะขอเอาความรู้ที่เคยได้เรียนมาจากท่านครู และอาจารย์ทุกท่านที่ได้สั่งสอนศิษย์คนนี้มาตลอดจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ มาถ่ายทอดให้ได้พอเป็นแนวทางในการอ่าน เผื่อมีใครใคร่สนใจศิลปะแขนงนี้ เพื่อธำรงค์ไว้ห้อยู่คู่สืบไปเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ก่อนอื่นขอเริ่มต้นด้วยการนำฉันทลักษณ์ เบื้องต้นของฉันท์... ที่ตัวเฟิร์นเองพออ่านได้และยังไม่ลืมวิธีอ่านมาลง เพื่อให้ได้ทราบแนวทางคร่าวๆ ในการอ่าน และอาจรวมไปถึงการเขียนอีกประการ อินทรวิเชียรฉันท์ มีความหมายว่า "ฉันท์ที่มีลีลาดุจสายฟ้าของพระอินทร์" เป็นฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด มีลักษณะและจำนวนคำคล้ายกับกาพย์ยานี 11 แต่ต่างกันเพียงที่ว่าอินทรวิเชียรฉันท์ มีข้อบังคับ ครุและลหุ หนึ่งบทมี 2 บาท บาทละ 11 พยางค์ แบ่งเป็น 2 วรรค วรรคแรก 5 พยางค์ วรรคหลัง 6 พยางค์ ส่งสัมผัสแบบกาพย์ ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ ตัวอย่างคำประพันธ์
มาลองดูบทต่อจาก 2 บทที่กล่าวมาแล้วนะคะ ลองแบ่งวรรคก่อนเน้อ....
มาต่อน้อ... ใครสังเกตบ้างเอ่ยว่า ช่วงบทหลังเฟิร์นอ่านอะไรผิดแผกไปกันเอ่ย? อาชญา = อาด-ชะ-ยา ปัพพาชนีย์ = ปับ-พาด-ชะ-นี ราชโองการ = ราด-ชะ-โอง-กาน ทำไมอ่านแบบนี้เพราะดูจากบริบท คำแวดล้อมเอาฮะ... จาด "ประกาศ" และดูแล้วว่ากวีน่าจะลงที่แม่กด มากกว่าจะเป็นที่แม่กอกา ทำให้เฟิร์นลากเชื่อมเสียงดูสละสลวย และอ่า่นถูกขระวิธีในแบบปกติ ที่ไม่บังคับ อีกอย่างถือไม่ได้ผิดฉันทลักษณ์ คุ-ลหุของอินทรวิเชียรฉันท์ค่ะ อ้อ... หากถามเรื่องการเอื้อน... มีเทคนิคเล็กน้อยค่ะ สังเกตไหมเอ่ย... ตรงที่เอื้อนมักจะเป็นเสียง "จัตวา" นี่ล่ะหนาเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องมีเสียงจัตวาเวลาแต่งกลอนแต่ละครั้ง เพราะมันทำให้นักอ่านนั้นเอาไปอ่านออกเสียงได้อย่างไพเราะ หากถามว่าถ้าอ่านเป็นได้ประโยชน์อย่างไร... อ่านเป็น จะจำได้ เขียนได้ เพราะอ่านได้ เวลาเขียนเสร็จแล้วมาลองอ่านของตนเองจะทราบได้เลยทันทีว่า "เสียง" ตรงจุดไหนที่อ่านแล้วสะดุด ดูแล้วไม่สละสลวย... ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดค่ะ... ถ้ามีโอกาสจะมาต่อเรื่องอื่นๆ ให้ได้ลองเอาไปใช้ดูนะคะ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการพร่ำเพ้อเพียงเท่านี้ (ฮี่ๆๆ จะว่าเวิ่นเว้อแบบศัพท์วัยรุ่นก็ได้มังคะ) ...พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ... ฆโนทัย ปล. ขออภัยค่ะ เค้าแทรกโค้ดของ SoundClound ลงไม่ได้อ่ะ... กดไปเอาแล้วกันเนอะ T T ฮือ.... แฮ่... ไม่แน่นเท่าไหร่ค่ะคุณนุ่น ออกแนวพยายาม (ต้องแข่งตอนนั้น) หลายๆ อย่างประกอบกันเลยออกมาเป็นเช่นนี้ค่ะ
กอด... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ โดย: ฆโนทัย วันที่: 16 กรกฎาคม 2556 เวลา:8:30:03 น.
|
S_Maple
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Friends Blog
Link |
นุ่นไม่เป็นเลยแหละ
คุณเฟิร์นเรียนมาแน่นปึ๊กนี่เอง
ถึงแต่งเก่งขนาดนี้
ชื่นชมๆๆ