กันยายน 2556

1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
20 กันยายน 2556
คิดมาก...นะ
  สวัสดีค่ะ ^^ เฟิร์นค่ะ แวะมาลงบันทึกอีกรอบละกันเนอะ

ไม่มีอะไรมากค่ะวันนี้ ฝนตก หลังคารั่ว น้ำเต็มบ้าน... โฮ....

น้องฝนไม่ช่วยกันทำมาหากินเลยค่ะ :(


คราวก่อนแอบมาเม้าท์มอยพี่ผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้ซะเสียอายเลย ฮี่ๆๆ มาเม้าท์ต่อได้ไหมเนี่ย

อยากจะบอกว่าพี่แกน่ารักนั่นล่ะคิดว่าชอบ แต่ชอบในรูปแบบที่ก็ชอบอ่ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี คืออยู่ด้วยแล้วสนุก ขำๆ มีหลายครั้งที่ออกอาการรำคาญหรือหงุดหงิด แต่พอรู้ตัวอีกที เฮ้! นี่ฉันคิดถึงเขาเกือบตลอดเวลาได้ยังไงเนี่ย? มันเริ่มต้นตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ งงมาก งงทั้งความรู้สึกตัวเอง และการกระทำของเขาด้วยนั่นล่ะ มันแปลกที่เราเองก็ดันไม่ชอบนะเวลาใครว่าอะไรเขา แต่พอคิดอีกทีคงเอาเขามารวมกับคำว่าเพื่อนไปซะแล้วมั้ง  ถ้าเป็นน้องแบมโดนนะ (เพื่อนสนิทที่เป็นเกย์) ป่านนี้ไอ้คนพูดโดนเฟิร์นตอกหน้าหงายแหงๆ ฮา... สองมาตรฐานค่ะ อันนี้นั่งเฉยๆ แล้วคิดได้ว่าไม่มีคำว่าดีเลิศ ในหมู่ของคนที่ไม่เคยเห็นความดีของคนอื่นหรอก ทำดี ใช่ว่าคนอื่นจะเห็นดีด้วยเสมอไปนั่นล่ะค่ะ

กลับมาเข้าเรื่องเถอะ... ฮี่ๆๆ

ก็อาทิตย์ที่ผ่านมาฝนตกถี่เหลือเกินค่ะ มีใครเป็นแบบเฟิร์นบ้างไหมเนี่ย? พอฝนตก เราเองที่เป็นประเภทภูมิแพ้อากาศนี่แย่เลยค่ะ เป็นไข้ฝืนตัวเองไปเรียนทุกวันโดยไม่ยอมทานยา  ผลเป็นอย่างไรไม่ต้องถามเลยค่ะ ป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน  คล้ายกับการสะสมเชื้อเอาไว้ในตัวจนมันระเบิดตู้มเป็นโกโก้ครั้นช์ประมาณนั้นค่ะ  ความจริงก็ป่วยตั้งแต่ก่อนกลับไปหออีกนะ พอวันจันทร์ถูกถูลู่ถูกังลากไปนู่นมาน่ก็เริ่มออกแนวซึมๆ ไปนิดหน่อยละ  วันอังคารไปเรียนเริ่มอยากอาเจียน มึนๆ ไม่ยอมทานข้าว เพราะทานเข้าไปก็เริ่มไม่รู้รส ไม่อร่อย ตอนอาจารย์ปล่อยทำงานก็คิดจะกลับอยู่นะ แต่รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งชวนเฟิร์นไปทานข้าว เพราะตอนพี่เขาถามทีแรกก็ยังไม่ได้กินอะไร เช้านี่ได้ข้าวไปไม่เกินสิบคำ กับยาพาราแก้ม่องเท่งก่อนเวลาอันควรลงกระเพาะ ตอนนั้นก็ราวบ่ายสองกำลังได้ที่ความมึน อึน ป่วยทีเดียว  พอปฏิเสธเสร็จก็ได้เวลาไปยืนหาที่พักพิงตรงผนังด้วยเสียวว่าจะร่วงผล็อยหล่นลงบันไดเป็นลูกขนุนไปเสียก่อน พี่ชายคนเดิมคนดีกำลังถูกน้องชวนไปทานข้าวก็ไม่ไป  อยู่ๆ ก็เดินมา

"เฟิร์นไปกินข้าวไหม พี่ไปนั่งเป็นเพื่อน"

อ้าว... ทีเมื่อครู่น้องชวนไม่ไป ห่วงเราด้วยหรือนั่น? =w=; แต่ก็ตามเสตปค่ะ ไม่ไป แล้วก็ตรงเอามากๆ ที่บอกเลยว่าอยากอาเจียน  กับพี่แกเฟิร์นเป็นอะไรไม่รู้ชอบหลุดปากพูดสิ่งที่คิดโดยไม่คิดถึงใจพี่แกตลอดๆ เหมือนไว้ใจ แล้วก็สบายใจล่ะมั้ง?

พี่แกก็ไม่ยอมนะ สุดท้ายแกก็บอกไปหาน้ำกินก็ยังดี นี่ก็เลยไปก็ไป สรุปได้ไอติมมาหนึ่งแท่ง (ทั้งที่ตัวเองเป็นไข้ ปล.ไม่ได้บอกพี่แกว่าเป็นไข้ ฮ่าๆๆ) พอพี่แกซื้อน้ำมาก็ตามเสตปโค้กขวดหนึ่ง งงตรงมีลูกอมเคี้ยวๆ ยี่ห้อหนึ่งกับหมากฝรั่งติดมากองตรงหน้าด้วย คือพี่แกเป็นคนไม่ทานลูกอม หมากฝรั่งก็ไม่ พอถามแกก็บอกเศษมันเหลือขี้เกียจแลกคูปองคืน (มันเหลือขนาดไหนเนี่ยมาจัดเต็มขนาดนี้) ถามว่าแกทานของแบบนี้ด้วยเหรอ (ปกติเฟิร์นนี่ล่ะที่ติดลูกอม เวลาหน้ามืดยัดปากไว้ก่อน ช่วงที่ทำงานเครียดๆ นอนไม่ค่อยพอต้องติดไว้ตลอด) แกบอกเปล่าซื้อมาให้เฟิร์น เออ....แปลกดี แต่ก็ดีค่ะ มีคนมาห่วงใยบ้าวก็ดี ปกตินี่ดูแลคนอื่นมาแบบนี้ก็แปลกๆ ดีเหมือนกัน  แต่เอาจริงๆ เม็ดเดียวเท่านั้นที่ตกถึงกระเพาะเฟิร์น ที่เหลือคุณน้องชายผู้มานั่งเม้าท์เขมือบลงท้องเกลี้ยงเกลาเลยค่ะ (ขำน้องมากวันนั้น)

ถัดมาอีกวัน พี่ผู้หญิงชวนเฟิร์นไปกินข้าวอีกค่ะ คราวนี้ไม่กล้าปฏิเสธแล้วอ่ะเกรงใจพี่แกมาก  พอตอบตกลงไปพี่ชายหันมาขวับ... โอย... หน้าตาจะมากินหัวเค้าอยู่แล้ว หน้าบูดมาเชียว ตลอดเวลาที่ไปกินข้าวแกก็นั่งมองเฟิร์นแบบไม่พอใจอ่ะ ไม่รู้ไปทำอะไรผิดมา เฮ้อ...

ตกเย็นมีซ้อมรับทุน กับพิธีไหว้ครูของคณะค่ะ เฟิร์นก็ไปเดินหมุนไปหมุนมากับเพื่อนๆ ตามปกตินะ พี่แกเป็นพิธีกรคู่กับผู้หญิงอีกคนสูงมากๆ (อยากได้ความสูงของเขาและเธอ ฮ่าๆๆ) ดูท่าทางพิธีกรหญิงที่คู่กับพี่แกคงปลื้มไม่น้อย จำได้ว่าเจอหน้ากันทีไรกระโดดกอดแขนพี่แกตลอด แปลกๆ ดี  และก็นั่นล่ะเฟิร์นไม่ได้เอาแก้ไข้ติดมาเรียน เพราะไม่คิดว่าการซ้อมจะยืดเยื้อ ซึ่งเอาจริงๆ คือพิธีกรหญิงมาสายกว่าเวลานัดราวเกือบชั่วโมงทำให้เริ่มซ้อมจริงๆ จังๆ ไม่ได้ (ซึ้งใจเธอจริงๆ นะ) เฟิร์นก็เริ่มคอตก ตาลาย อยากอาเจียน ความรู้สึกปั่นๆ ในท้องมันก็เริ่มก่อตัวราวกับมีพายุหมุนลูกเล็กๆ อยู่ข้างในเลยทีเดียว  สักพักมีน้องปีหนึ่งที่ต้องกล่าวคำไหว้ครูมาขอให้ช่วยการแปลคำกล่าว กับอะไรต่อมิอะไร  เฟิร์นอารมณ์นั้นคือไม่ไหวละ ไม่อยากพูดอะไร เดี๋ยวอาการออก พยายามนั่งนิ่งๆ ไม่อยากให้ใครรู้ว่าป่วยด้วยล่ะ มันเหมือนเราไปทำให้เขาลำบากใจ ไม่สบายใจไปกัยเราด้วย พอน้องถามเลยย้อนว่าน่าจะถามพี่ผู้ชายที่เป็นพิธีกรเพราะน่าจะเข้าใจมากกว่าเฟิร์น ซึ่งก็พี่ชายคนนั้นนั่นล่ะ  น้องก็มาส่ายหน้าดุิกดิกไม่ยอมท่าเดียวบอกพี่แกยุ่งอยู่ เฟิร์นเงยหน้าไปมองก็เห็นแกถูกฟ้าพิธีกรหญิงเกาะแขนอยู่แล้วมันยุ่งตรงไหน เลยโบกมือหยอยๆ ไม่ออกเสียงให้พี่แกมาช่วยน้องซะเลย (แลท่าทางแกจะดีใจมากไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร มาหุบยิ้มตอนบอกให้ช่วยน้องแล้วเฟิร์นหัวเราะร่านี่ล่ะ) 

วันรับทุนจริง เมื่อวานนี้... ก็เดินมาเจอพี่แกอยู่กับพิธีกรหญิงคู่กัน ก็ไม่ได้อะไรเพราะไม่รู้จะอะไรด้วยยังไง เห็นเหมือนซ้อมบทซ้อมอะไรอยู่ก็เลยกะว่าไม่ยุ่งดีกว่า  แต่พี่แกก็เงยหน้ามาเลยยกมือไหว้ตามปกติ ดูท่าทางอารมณ์พี่เขาคงไม่ดีเท่าไหร่ด้วย  ไปเจออีกทีตอนคนเริ่มทยอยกันเข้าห้องประชุมเตรียมพร้อม พี่แกก็มาถามไม่นั่งเหรอ เฟิร์นเลยไปนั่งที่ที่มีชื่อตัวเองแปะไว้ตรงช่วงของคนที่ต้องรับทุน สักพักแกก็เดินมา "เฟิร์นพี่ฝากกระเป๋ากล้องหน่อยนะ" ก็งงๆ แตก็รับมา พี่แกบอกไม่ต้องถือเอาใส่ใต้เก้าอี้เฟิร์นไว้ก็พอ

ที่งงเพราะตรงที่พี่แกยืนเป็นพิธีกรมันมีพื้นที่พอสำหรับการเอากระเป๋าหลบมุม แลวแกเองก็ต้องยืนประจำอยู่ตรงนั้น แต่คิดอีกทีอาจจะไม่เหมาะ กลัวหายล่ะมั้ง  แต่ตัวกล้องแกก็แลจำใจให้คนอื่นเอาไปถ่ายแทน รู้สึกจะเป็น Cannon 60D ส่วนตัวไม่ทราบราคาค่ะ แต่รู้ว่ายิ่งเลขหลักน้อยยิ่งแพง

...สรุปนี่แวะมาเวิ่นเว้อค่ะ ฮี่ๆๆๆ อ้อ! คราวก่อนคุณนุ่นบอกให้มาอัพเดตเรื่องตาสองชั้นที่ไปจัดการมาด้วย เมื่นวานเย็นไปหาหมอยังมีรอยแดงแปร๊ดราวกับเขียนตามาเอง หมอสรุปได้ว่าเพราะสีผิวมันขาวก็เลยเห็นชัด ถ้าคนอื่นป่านนี้มองไม่เห็นแล้ว (ซึ้ง....ค่ะหมอ)




ปล. คำแค่ตานะคะ ฮา... ที่เหลือเพราะแสงช่วยค่ะ พอถ่ายรูปมาก็ไม่ค่อยเนอะว่ามันแดงอ่ะ ฮา...

หลอกลวงผู้บริโภคจังนะ Smiley

...พอแค่นี้ล่ะ สงสารคนดู สองรูปบนก่อนทำค่ะ ข้างล่างทำแล้วเนอะ

ใครมีเรื่องสงสัยเกี่ยวกับทำตานี่ถามได้ค่ะ จมูกเดี๋ยวถามคุณเพื่อนให้ ฮ่าๆๆๆ ส่วนตัวไม่กล้าทำจมูกค่ะ รู้สึกว่าเอาอะไรไม่รู้ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกายเราเอามาใส่จิ้ม แปะ เอาไว้บนหน้า กลัว... แต่ตานี่ยังไงก็เนื้อหนังเรา กรีดๆ ตัดๆ ยังพอโอเค ฮ่ะๆๆ

ขอให้มีความสุขกับวันศุกร์ค่ะ เจอกันใหม่บล็อคหน้าค่ะ Smiley



Create Date : 20 กันยายน 2556
Last Update : 20 กันยายน 2556 11:17:24 น.
Counter : 623 Pageviews.

3 comments
  
สวัสดีค่า คุณเฟิร์น ^^
หายไปหลายวันเลย
เห็นที่กระทู้ ว่างแล้วเหรอคะ

ทำแล้วสวยขึ้น อิอิ
แปลกไปเลย

ขอบคุณมากๆนะคะ ^^

โดย: lovereason วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:1:05:11 น.
  
กอดคุณนุ่น หนีงานมาเวิ่นเว้อค่ะ
ฮา... เตรียมรับ Research ต่อคงไปสิงแถวห้องสมุดค่ะ
โดย: ฆโนทัย วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:14:11:49 น.
  
น้องเฟิร์นนนนนนนนนนนน... ยินดีด้วยที่ได้รับทุนจ้าาาาา
ไม่บอกกันมั่งรุย แอบน้อยใจ อุอิ ล้อเล่งนะ (^_<)
ทำตาสองชั้นแล้วดูแปลกตาไปนิดหน่อย
ส่วนตัวแล้วชอบตาชั้นเดียวนะ แต่เพื่อสุขภาพในภายภาคหน้า ก้อต้องทำแหละเนอะ แต่ทำออกมาก้อดูดีนะ แค่ยังไม่คุ้นเท่านั้น
แล้วน้องเฟิร์นรู้สึกไงอ่ะคะ? ทำแล้วเป็นไงมั่ง?
ส่วนจมูก เคยได้ยินมาว่า เค้าจะเอากระดูกอ่อนตรงใบหูเสริมให้อ่าค่ะ เคยอ่านข่าวของไมเคิล แจ็กสัน มา คนเอามาโพสท์เค้าว่าไว้เงี้ยอ่ะนะ แต่ไมรู้ว่าจริงเท็จยังไง แต่คิดว่าเป็นไปได้ อุอิ
อากิไม่เคยคิดอยากเปลี่ยนนู่นนี่อะไรบนหน้าเท่าไหร่ กลัวเจ็บอ่า แต่เคยคิดเล่นๆว่า ถ้าจะทำล่ะก้อ อยากเปลี่ยนทั้งหน้าให้เหมือน HYDE ซะเลย ชอบอ่ะ
คิดถึงเมื่อไหร่ ก้อไปส่องกระจกเอา ฮ่าๆๆๆๆ
คงจะหงแต่เงาในกระจกเหมือนที่ นาซิสซัสหลงเงาตัวเองในน้ำล่ะมั้ง ฮี่ๆๆๆ
โดย: EmptyBlackRiver วันที่: 23 กันยายน 2556 เวลา:23:45:57 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

S_Maple
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



Welcome



กรุ่นไอดินกลิ่นอายฝนคลายหม่นหมอง

ดังทำนองร้องรับขับขานเสียง

ดุจดนตรีธรรมชาติเคล้าคลอเคียง

ฟังสำเนียงเพียงระรื่นชื่นวิญญาณ์



...ฆโนทัย...