JyHorseman
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
5 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
2011m07d05: Hidef Knowledge Management [รวมเกล็ดความรู้ไฮเดฟ]

=========================================
2011m04d28: Nice to get Hidef Player [อยากได้เครื่องเล่นไฮเดฟ]
2011m04d30: Already Got, "Dune HD Smart D1"
2011m05d18: Screenshot Builder for Dune Media Player [ทำปกหนังสำหรับเครื่อง Dune Media Palyer]
2011m05d20: How to Update Firmware Dune D1 [การอัพเดตเฟิร์มแวร์เครื่องดูน]
2011m05d30: Get the Additional Ones, Mede8er 500x [เพิ่มอีกเครื่อง, Mede8er 500X]
2011m07d05: Hidef Knowledge Management [รวมเกล็ดความรู้ไฮเดฟ]
2011m07d21: Hidef (Dune D1, Mede8er 500x), FAQ Collections
2011m08d01: 3D Glasses on Movies [แว่นตา 3 มิติ ที่ใช้ดูหนังแต่ละเรื่อง]
2013m09d04: Got Mede8er 800 X3D [เพิ่มสมาชิกใหม่ Mede8er 800 X3D]
2013m10d13: Get New Hidef Member, Mede8er 1000 X3D
========================================

2011m07d05: Hidef Knowledge [เกล็ดความรู้ไฮเดฟ]
Topic List:
1. What is "Hi-Def" ? ["ไฮเดฟ" คือ อะไร]
2. รู้จักกับ ไฟล์ Full Rip และ ไฟล์ MKV
3. Subtitle ของหนัง Hi-Def



1. What is "Hi-Def" ? ["ไฮเดฟ" คือ อะไร]
[Source: //www.boransat.net/board/index.php?topic=9445.0]

Hi-Def (ไฮเดฟ) ย่อมาจาก High-Definition (High = สูง, Definition = ความชัดเจน,ทำให้ชัดเจน) ถ้าจะแปลเป็นไทย (ในมุมมองของการชมภาพยนต์) คือ ภาพยนต์ที่มีความคมชัดสูง ซึ่ง Hi-Def เป็น Tecnology ทีเราสามาถรเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ก็จะใช้อยู่ทั้งใน ระบบภาพ และเสียง แล้วความคมชัดสูง ของ Hi-Def นั้นมันเป็นยังไง ?

เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ อยากให้นึกถึง ภาพของหนังวีซีดี (VCD) และ ภาพของหนังดีวีดี (DVD) แล้วก็มาดูภาพที่แสดงออกทางจอทีวีที่โชว์ตามห้าง ลองนึกถึงสมัยก่อนที่พึ่งจะมีวีซีดี(VCD) ภาพที่เห็นมันดูแตกๆ เป็นก้อนๆ ดูๆ แล้วไม่ค่อยชัดเลย ต่อมา ไม่กี่ปี ก็มีดีวีดี(DVD)ขาย ภาพที่ออกมาชัดกว่าวีซีดีหลายเท่า(สมัยนั้นใครๆก็ว่าอย่างนั้น) จนเริ่มเป็นที่นิยมแทนวีซีดีไป บางคนถึงขั้นว่ามีหนังที่เป็นวีซีดี(VCD) ไว้ดูอยู่แล้ว ยังต้องซื้อดีวีดี(DVD) มาดูอีกรอบหรือเก็บไว้เอาเลย

ทีนี้ก็มาถึง Hi-Def ลองนึกถึงทีวีที่โชว์ตามห้างนะครับ ดูแล้วบางคนถึงกับร้องเลยว่ารุ่นนั้นดีจังชัดแจ๋วเลย บางคนอาจถึงขั้นเปลี่ยน TV ใหม่เลย (ยิ่งถ้าเป็นจอ LCD TV นะครับ ถึงกับอยากหิ้วกลับบ้านเดี๋ยวนั้นเลยครับ) Hi-Def ที่พูดถึงก็คือ Tecnology ที่ทำให้ภาพออกมาอย่างที่หลายท่านเห็นตามร้านขายทีวีในห้างนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นหนังเหล่านั้นออกมาวางขายอยู่ในรูปแบบของสื่อบันทึกข้อมูลที่สามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่า VCD และ DVD นั่นก็คือแผ่นที่เรียกกันว่า Blue-Ray Disk เป็นที่มาของหนังที่เรียกว่า "หนังBlu-Ray" นั่นเองครับ ถ้านึกภาพกันออกแล้ว ต่อไปก็จะเปรียบเทียบความคมชัดให้เห็นกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นครับ โดยจะอธิบายเป็นตัวเลขเลย

VCD ความคมชัดอยู่ที่ 240p (เส้นของสี 352X240 เส้น)
DVD ความคมชัดอยู่ที่ 480p (เส้นของสี 720X420 เส้น)
Hi-Def ความคมชัดอยู่ที่ 720p (เส้นของสี 1280X720 เส้น) ไปจนถึง 1080p (เส้นของสี 1920X1080 เส้น) โดยที่ ตัวเลขทางซ้าย = เส้นของสีในแนวตั้ง , ตัวเลขทางขวา = เส้นของสีในแนวนอน

หากจะกล่าวแบบรวบรัดเพื่อให้เข้าใจถึงความแตกต่างในภาพรวมแล้ว

ระบบภาพของฟอร์แมท DVD
มาตรฐานจะมีความละเอียดเส้นแนวนอนที่ 480 เส้น (480P) ในระบบ NTSC และ 576 เส้น (576P) ในระบบ PAL ซึ่งมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Standard Definition (SD) มีสัดส่วนภาพทั้งแบบ Fullscreen และ Widescreen
ส่วนระบบภาพแบบ High Definition (Hi-Def หรือ HD)
มาตรฐานจะมีความละเอียดเส้นแนวนอนที่ 720 เส้น (720P) และ 1080 เส้น (1080P) โดยจะใช้สัดส่วนภาพแบบ Widescreen ทั้งหมด และอัตราบิตเรทที่ได้จะสูงกว่าฟอร์แมท DVD แบบเดิมๆมากแบบเทียบกันไม่ติด

Blu-ray เป็นเทคโนโลยีสำหรับการบันทึกข้อมูลลงแผ่น Blu-ray disc (BD) ซึ่งมีความจุในการเก็บข้อมูลสูงกว่า DVD หลายเท่า ถ้าเป็นแบบหน้าเดียว Single-layer จะมีความจุถึง 25 GB ถ้าเป็น Doble-layer ก็มีความจุเป็น 2 เท่านั่นคือ 50 GB วัตถุประสงค์หลักของเทคโนโลยีก็คือ การใช้สำหรับบันทึกไฟล์วีดีโอคุณภาพสูงที่เรียกว่า HD (High Definition)

Blu Ray ดีกว่า DVD อย่างไร ?
1. ความจุมากกว่า Single Layer Blu Ray มีความจุ 25 GB (DVD 4.7 GB) ส่วน Dual Layer Blu Ray มีความจุ 50 GB (DVD 8.5 GB)

2. ภาพระดับ High Definition คมชัดกว่า ความละเอียดภาพของ Blu Ray อยู่ที่ 1080P (1080 เส้น) ในขณะที่ DVD อยู่ที่ 576P (576เส้น) เรียกว่าชัดกว่า DVD แบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว

3. เสียงระดับ High Definition ไม่มีการบีบอัด เสียง High Definition อย่าง Dolby True HD (ตัวท็อปของค่าย Dolby) และ DTS HD Master (ตัวท็อปของค่าย DTS) ซึ่งจะหาได้จากแผ่น Blu Ray เท่านั้น ซึ่งระบบเสียงแบบ High Definition (HD) เหนือชั้นกว่าระบบเดิมมากๆ

4. เครื่องเล่น Blu Ray สามารถเล่นแผ่น DVD ได้ แต่เครื่องเล่น DVD ไม่สามารถเล่นแผ่น Blu Ray ได้

Blu Ray มีข้อเสียอย่างไร ?
1. มีภาพยนตร์ออกมาน้อยกว่า DVD หากเทียบกับ DVD แล้ว Blu Ray ยังมีภาพยนตร์ออกมายังไม่มากเท่ากับ DVD แต่ภาพยนตร์ที่ออกมาจำหน่ายในฟอร์แมต Blu Ray ส่วนใหญ่จะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ระดับทำเงิน และระดับนักสะสม

2. ราคาแผ่นแพงกว่า DVD มาก แผ่น Blu Ray ยังคงแพงอยู่มาก ภาพยนตร์แบบ Blu Ray แผ่นละประมาณ 700-2500 บาท ส่วนแผ่นเปล่าแบบ Single Layer ความจุ 25 GB ราคาแผ่นละ 450-600 บาท

3. ราคาเครื่องเล่นแผ่น Blu Ray แพงกว่าเครื่องเล่น DVD มาก ปัจจุบันเครื่องเล่น Blu Ray มีราคาตั้งแต่ 15,000-30,000 บาท ซึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับเครื่องเล่น DVD


จะดูภาพยนตร์แบบ High Definition แบบประหยัดได้อย่างไร ?
ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันท่านสามารถชมภาพยนตร์แบบ Hi-Def ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น Blu Ray และเครื่องเล่นแผ่น Blu Ray ซึ่งมีราคาแพงมาก เพียงท่านมี เครื่องเล่นไฟล์ Hi-Def ท่านก็สามารถชมภาพยนตร์ได้ด้วยระบบภาพ และเสียงแบบ Hi-Def ได้แล้ว อีกทั้งเจ้าเครื่องนี้ยังสามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์แบบ DVD ได้อีกด้วย และสัญญาณภาพจากไฟล์ภาพยนตร์ DVD ยังถูก Upscale ให้มีความคมชัดมากกว่าเล่นแผ่น DVD กับเครื่องเล่น DVD ทั่วไปหลายเท่า อีกทั้งภาพยนตร์ในรูปแบบไฟล์ภาพยนตร์ ยังมีราคาถูกกว่าแบบแผ่นมากๆ เรียกว่าคุ้มสุดๆจริงๆ



2. รู้จักกับ ไฟล์ Full Rip และ ไฟล์ MKV
[Source: //mede8erthai.com/forum/index.php?topic=1677.0]

ไฟล์ Full Rip เป็นไฟล์ ที่มาจากแผ่น Blu-ray โดยใช้ Computer ที่มี่ drive Blu-ray rom แล้ว Rip (ดึง) ข้อมูลออกมา เรียกไฟล์แบบนี้กันเต็มๆว่า Blu-ray Full Rip หรือเรียกโดยย่อว่า ไฟล์ Full Rip ซึ่งไฟล์ภาพยนตร์ที่ได้มานั้น จะมีคุณภาพเท่ากับแผ่นแท้ Blu-ray ไม่ได้ลดทอนสิ่งใดออกไปเลย

ไฟล์ Full Rip ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. Full Rip แบบมีเมนู
เป็นไฟล์ที่ Rip ออกมาจากแผ่น Blu-ray แล้วไม่ได้มีการลบหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใดๆ เมื่อนำมาเปิดเล่น จะเหมือนกับแผ่น Blu-ray ทุกประการ
2. Full Rip แบบมีแต่ภาพยนตร์
เป็นไฟลที่เมื่อ Rip ออกมาแล้ว ได้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ลบส่วนที่เป็นเมนูออก เหลือเพียงตัวภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังคงความคมชัดเท่ากับแผ่น Blu-ray

TIP : ไฟล์ Full-rip โดยทั่วไป มีขนาดตั้งแต่ 25 – 45 GB ตามขนาดของแผ่น Blu-ray

โครงสร้างของ ไฟล์ Full Rip จะประกอบไปด้วย โฟลเดอร์ต่างๆมากมายดังนี้

* MOVIE
- BDMV
--- AUXDATA
--- BACKUP
--- BDJO
--- CLIPNF
--- JAR
--- META
--- PLAYLIST
--- STREAM
--- Index.bdmv
--- MovieObject.BDMV
- CERTIFICATE

โดยโฟลเดอร์ที่เก็บภาพยนตร์ที่อยู่นอกสุดคือ โฟลเดอร์ BDMV จึงมีการเรียกไฟล์ Full Rip กับอีกชื่อว่า ไฟล์ BDMV ส่วนไฟล์ Full Rip ที่ตอน Rip ออกมาจากแผ่น Blu-ray ได้ Rip ออกมาในรูปแบบของไฟล์ ISO จึงมีอีกชื่อเรียกว่า BDISO

ไฟล์ MKV เป็นการนำเฉพาะส่วนภาพยนตร์ของไฟล์ Full Rip มาทำการบีบอัด ลดขนาดลง โดยที่ยังคงให้คุณภาพใกล้เคียงกับแผ่น Blu-ray มากที่สุด โดยส่วนที่แตกต่างจาก ไฟล์ Full-rip ที่เด่นชัด จะเป็นเรื่องของระบบเสียง ไฟล์ Full rip จะมีระบบเสียงแบบ HD ก็คือ DTS-HD,TrueHD ส่วนไฟล์ MKV ที่ถูกลดทอนลง ส่วนใหญ่จะเป็นระบบเสียง DTS, Dolby Digital (AC3)

ไฟล์ MKV จะแบ่งตามความละเอียดภาพได้ 2 แบบ ได้แก่
1. ไฟล์ MKV แบบ 1080p จะมีความละเอียดภาพที่ 1920 x 1080 มีขนาดไฟล์ตั้งแต่ 9 – 20 GB ส่วนมากจะมีขนาดที่ประมาณ 12 -15 GB และหากเป็น การ์ตูนอนิเมชัน จะมีขนาดที่ 4 – 6 GB
2. ไฟล์ MKV แบบ 720p จะมีความละเอียดภาพที่ 1280 x 720 มีขนาดไฟล์ตั้งแต่ 5 – 10 GB และหากเป็น การ์ตูนอนิเมชัน จะมีขนาดที่ 2 – 4 GB

นอกจากนี้ ไฟล์ MKV ยังเป็นไฟล์ที่ชาว Hi-Def นิยมเล่นกันมากที่สุด เนื่องมาจาก
1. ไฟล์ MKV มีขนาดไฟล์ที่ไม่ใหญ่จนเกินไป หากเทียบกับไฟล์ Full rip แล้ว ไฟล์ MKV จะประหยัดพื้นที่มากกว่า 2-3 เท่า ยกตัวอย่างเช่น
ฮาร์ดดิสก์ 1 TB (1000 GB)
- ไฟล์ MKV จะเก็บหนังได้ 80 – 90 เรื่อง
- ไฟล์ Full rip จะเก็บหนังได้เพียง 25 - 30 เรื่อง
2. และด้วยขนาดของไฟล์ MKV ที่ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป และยังคงรักษาคุณภาพของภาพได้เทียบเท่าแผ่น Blu-ray จึงเป็นที่นิยมและแพร่หลาย การหาไฟล์ภาพยนตร์แบบ MKV จึงเป็นที่ง่ายดายกว่าการหาไฟล์หนัง Full rip
แต่ในระยะหลังนี้ ไฟล์ Full rip ก็เริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ดังๆ อย่างเช่น Avatar, Tranformers นักสะสมทั้งหลายที่ชื่นชอบ ก็เลือกที่จะสะสม ไฟล์ Full rip ที่ให้คุณภาพูงสุดเหมือนแผ่นแท้ Blu ray ทุกประการ



3. Subtitle ของหนัง Hi-Def
[Source: //hideflism.wordpress.com/category, //www.boransat.net/board/index.php?topic=25627.0]

โดยส่วนตัว เรื่องฟอร์แมทของซับไทเทิ้ล จะได้นำมาใช้ก็ตอนเวลาจะซื้อเครื่องเล่น กับ จะหาไฟล์หนังมาดู จะมีประโยชน์ตรงนี้ คือ เครื่องเล่นนี้สามารถเล่นซับไทเทิ้ลอะไรได้บ้าง ตลาดหนังเขาทำหนังซับไทเทิ้ลฟอร์แมทอะไรออกมากัน เพราะถ้าไม่ดูให้ดี เวลาดูหนังก็จะเปิดหรือปรับแต่งซับไทเทิ้ลไม่ได้ นั่นก็คือ ต้องฟังเสียงจากหนังนั่นเอง

ฟอร์แมทของซับไทเทิ้ล [Subtitle format] :
- MicroDVD [.sub],
- SubRip [.srt],
- Sub Station Alpha [.ssa],
- Sami [.smi]
- idx+sub
- PGS subtitle

PGS –> เป็นซับที่มากับ Full Rip หรือ แผ่น Blue Ray ครับ (ยังไม่เคยเจอในไฟล์ .mkv นะครับ) ซับประเภทนี้ผู้ผลิตแผ่นเป็นผู้ทำ ทำมาดีครับ อ่านได้สบายตาและคมชัด ไม่เสียอารมณ์ดูหนังเพราะซับประเภทนี้อย่างแน่นอน

idx+sub –> ซับประเภทนี้จะมาพร้อมกัน 2 ไฟล์เสมอ ไฟล์หนึ่ง format เป็น .idx อีกไฟล์เป็น .sub เวลาใช้งานต้องมาคู่กัน หากขาดไปไฟล์ใดไฟล์หนึ่งแล้วจะใช้ไม่ได้เลยครับ เข้าใจว่าซับนี้เป็นแบบ image คือซับทุกตัวเป็น(คล้ายๆ) รูปภาพ ดังนั้นซับประเภทนี้ไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เลย

.ssa และ .srt –> คงไม่เข้าไปศึกษารายละเอียดนะครับ แค่จะบอกว่าเป็นซับประเภท “Text” ซึ่งทำให้สามารถปรับแต่งได้ (เช่น เปลี่ยนสี ขนาด)

ซับฝัง คือ ซับที่มันฝังมากับไฟล์หนัง (ตอนนี้ถึงหมายถึงแค่ไฟล์ .mkv ไม่เกี่ยวกับไฟล์ .m2ts สำหรับไฟล์ .m2ts นั้นซับฝังคือ PGS)

ซับนอก คือ ซับที่ไม่ได้อยู่ในไฟล์หนัง เป็นอีกไฟล์หนึ่งตะหาก ซึ่งจะเป็น format อะไรก็ได้ (เช่น .srt / .ssa /.idx+sub ได้หมด) ส่วนใหญ่จะต้องทำให้ชื่อซับนั้นตรงกับชื่อไฟล์หนังแล้วโปรแกรมอย่าง KMplayer หรือเครื่องเล่นไฮเดฟถึงจะอ่านได้ [และถ้าเข้าใจไม่ผิด ซับฝังทั้งหลายของ .mkv ก็คือพวก .srt /.ssa /idx+sub นั้นเอง]



=========================================
2011m04d28: Nice to get Hidef Player [อยากได้เครื่องเล่นไฮเดฟ]
2011m04d30: Already Got, "Dune HD Smart D1"
2011m05d18: Screenshot Builder for Dune Media Player [ทำปกหนังสำหรับเครื่อง Dune Media Palyer]
2011m05d20: How to Update Firmware Dune D1 [การอัพเดตเฟิร์มแวร์เครื่องดูน]
2011m05d30: Get the Additional Ones, Mede8er 500x [เพิ่มอีกเครื่อง, Mede8er 500X]
2011m07d05: Hidef Knowledge Management [รวมเกล็ดความรู้ไฮเดฟ]
2011m07d21: Hidef (Dune D1, Mede8er 500x), FAQ Collections
2011m08d01: 3D Glasses on Movies [แว่นตา 3 มิติ ที่ใช้ดูหนังแต่ละเรื่อง]
2013m09d04: Got Mede8er 800 X3D [เพิ่มสมาชิกใหม่ Mede8er 800 X3D]
2013m10d13: Get New Hidef Member, Mede8er 1000 X3D
========================================



Create Date : 05 กรกฎาคม 2554
Last Update : 15 ตุลาคม 2556 16:06:07 น. 1 comments
Counter : 1440 Pageviews.

 
ขอบคุณมากๆเลยครับ


โดย: Chaky IP: 103.1.164.199 วันที่: 10 ตุลาคม 2554 เวลา:20:42:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yoadjarust
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




:Users Online
Jy Horseman
New Comments
Friends' blogs
[Add yoadjarust's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.