Bloggang.com : : แมวเหมียวลาย ๆ สบาย ๆ อ้วนพี : วิ่ง 20 ไมล์/ 20 mile-run DONE

วิ่ง 20 ไมล์/ 20 mile-run DONE

วันนี้ออกไปวิ่ง 20 ไมล์ (32 กิโลเมตร) อากาศวันนี้หนาวมากกกกก ช่วงที่วิ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ28-30 F เมื่อคืนนี้ก่อนนอน เราก็เตรียมตัวเข้านอนโดยใส่เสื้อผ้าสำหรับวิ่งไว้เลย แล้วก็เตรียมขวดน้ำ ไอพอด มือถือ GPS ที่รัดหัวเข่า แล้วก็ขนมปังสี่แผ่นกะ Nutella เอาไว้ ตื่นเช้ามาจะได้ไม่เสียเวลา ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 6 โมงเช้า ตื่นมากินขนมปังเสร็จก็กลับไปนอนต่อ ตั้งนาฬิกาปลุกอีกทีตอน 8 โมงเช้า แต่ตื่นจริงๆ เกือบจะเก้าโมงแล้ว ตืนมาล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็ warm up ประมาณห้านาที ก็ได้เวลาออกไปวิ่ง

อากาศข้างนอกหนาวจับใจ ขนาดใส่ถุงมือแต่มือก็ยังเย็นมาก ฟุตบาทบางจุดยังมีน้ำแข็งอยู่เลย ก็เลยต้องวิ่งแบบช้า ๆ แล้วก็ระวัง ไมล์แรกเป็นเนิน วิ่งไปได้แต่หวังว่า ตอนวิ่งสิบไมล์หลังหวังว่าจะยังมีแรงเหมือนตอนนี้อยู่ วิ่งไปประมาณเกือบ ๆ สามไมล์ก็ถึง Matthew Henson trail ที่เราวิ่งเป็นประจำ ยังมีหิมะและน้ำแข็งอยู่บนทางเป็นช่วง ๆ โดยเฉพาะตรงส่วนที่เป็นสะพานไม้ เราวิ่งช้ากว่าปกติมาก ช่วงสิบไมลฺ์แรก เวลาออกมาที่ประมาณ 10-11 นาทีต่อไมล์ เราไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนกับตอนที่วิ่ง 18 ไมล์เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว

ไมล์ที่ 11 เราแวะเข้าห้องน้ำที่บ้าน (ไมล์นี้เวลาปาไปที่ 14.02 นาทีต่อไมล์แน่ะ) ตอนแรกคุณสามีบอกว่าจะออกมาวิ่งด้วยตอนสิบไมล์หลัง พอเราเข้าห้องน้ำเสร็จ วิ่งออกมาด้วยกัน ไม่ถึงครึ่งไมล์ ฮีบอกว่า it's freezing out here. เราก็เลยบอกว่า ก็กลับไปก็ได้นะ ฮีเลยวิ่งกลับบ้านไป (ไม่ได้ห่วงเราเร้ยยยย จริงๆ นะเนี่ย) สรุปเราเลยวิ่งต่อ คราวนี้ไม่ไป trail เดิมช่วงแรกแล้วอ่ะ เพราะว่าหิมะและน้ำแข็งเยอะเกิน ก็เลยวิ่งริมถนนไปเรื่อย ๆ แล้วไปเข้า trail ที่ช่วงที่สอง ช่วงสิบไมล์หลัง เราเพิ่มความเร็วมากขึ้น จากไมล์ 12-17 เวลาออกมาที่ 9.02 - 9.36 นาทีต่อไมล์ (สงสัยว่าอากาศจะหนาวมากเกินไป ไอพอดตายซะงั้น ทั้ง ๆที่เมื่อคืนชาร์ตเต็ม เพิ่งเอาออกจากที่ชาร์ตเมื่อเช้าก่อนออกมาวิ่งเอง อีกสามไมล์ที่เหลือก็ต้องวิ่งแบบไม่มีเพลงให้ฟัง ส่วนมือถือก็เตือนว่าแบตเหลือน้อยเต็มทน) พอไมล์ที่ 18 เริ่มเหนื่อย ขาเริ่มล้า เวลาออกมาที่ 10:11 min/mi พอไมลฺ์ที่ 19 เหนื่อยโคตร ๆ ทางเป็นเนินสูงประมาณเกือบ ๆ 100 ฟุต อยากจะหยุดวิ่งใจแทบขาด แต่ก็เอาวะ วิ่งเหยาะ ๆ ไปเรื่อย ๆ เวลาออกมาที่ 11:27 min/mi

ส่วนไมล์สุดท้ายค่อนข้างสบาย เป็นทางลาดลง แล้วก็มีเนินแต่ไม่สูงมาก ปรากฏว่ามือถือแบตหมด แป่ววว จากไมล์ 19-20 ก็เลยกะ ๆ เอา ลองเอาทางที่วิ่งมาเช็คกะกูเกิ้ลแมบ ปรากฏว่าได้ประมาณหนึ่งไมล์ ก็โอเค ตอนก่อนจบไม่รู้เอาแรงมาจากไหน แอบสปริ้นท์หน่อย ๆ เป็นอย่างนี้เกือบทุกครั้ง รู้สึกว่า ไหน ๆ มันก็จะจบแล้ว แรงเหลือเท่าไหร่ วิ่งให้หมด สรุปเวลาทั้งหมดวิ่งไป 3:26:22 pace 10:19 ถือว่าโอเคนะ

ตอนเดินกลับบ้าน โอ้ แม่เจ้า เหนื่อยมาก ๆ รู้สึกเหมือนขาจะเป็นตะคริว แต่ก็ยังเดิน ๆ ๆ ๆ ประมาณ 0.2 ไมล์ กลับถึงบ้านก็ยืดเส้นยืดสาย แกะช็อคโกแลตเอาเข้าปากทันที หิวมาก แล้วก็กินยา Ibuprofen ไป เค้าบอกว่าจะช่วยป้องกันหัวเข่าและกล้ามเนื้ออักเสบ จริง ๆ ตอนที่วิ่งช่วงแรก ๆ ประมาณไมล์ 2-5 หัวเข่าแอบเจ็บแปล้บ ๆ แล้วก็ตอนใกล้ ๆจะจบ ก็เจ็บอีกรอบ เฮ้ออออ ดีใจที่ผ่านไปได้ด้วยดี

วันนี้รู้สึกว่าตัวเองวิ่งแบบฉลาดอ่ะ แรงไม่หมดตอนกลางคันเหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว The next four weeks, my long run will be at about 13 miles, 22 miles, 10 miles, and 20 miles, then 3 week- taper time.

วันนี้หลังจากวิ่งเสร็จก็เลยไปกินบุฟเฟ่ต์มื้อใหญ่ เอาแคลอรีเข้าร่างกายหลังจากที่เสียไปประมาณสองพัน

เหลืออีก 49 วันก็จะถึงแข่ง ตื่นเต้นทุกทีที่นึกถึง สู้ ๆ ต่อไปนะเรา

I can run farther, I can run longer!!

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2556

Last Update : 4 เมษายน 2556 10:45:35 น.

1 comments

Counter : 694 Pageviews.

เข็ดขยาดกับการเจ็บเข่าค่ะ
ตอนนี้ต้องคอยระมัดระวังสุดฤทธิ์

โดย: เหมือนพระจันทร์

วันที่: 14 มิถุนายน 2556 เวลา:15:58:02 น.