After Sunset...Before Sunrise
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
29 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 

วันที่ฉันถูก_ถอนฟัน

เราว่าเราเป็นคนมีสุขภาพปานกลาง คือไม่ได้ป่วยบ่อย แต่มีเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลนับได้ 5-6 รอบ ในช่วง 2 เดือนมานี้ ก็เพราะ “ฟัน” ค่ะ เราเคยภูมิใจมาตลอดว่าไม่เคยมีปัญหาเรื่องฟันเลย จนอายุขนาดนี้ไม่เคยมีฟันผุ ฟันเรียงตัวปกติ ไม่ต้องดัด เราเคยเจอคุณป้าที่ไม่รู้จักคนหนึ่งเข้ามาชมตรงๆ ค่ะว่า...ฟันหนูสวย ยิ้มแล้วสวย.. ปลื้มไปเลย

หลังๆ นี้เราสังเกตว่าหินปูนมันชักเยอะ ก็เลยจะไปขูดหินปูนซะหน่อย จำได้ครั้งล่าสุดที่ไปขูดก็ซักประมาณ 5 ปีที่แล้ว ครั้งนี้เราไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐค่ะ เพื่อความประหยัด อีกอย่างมันอยู่ใกล้ที่พักเรามากๆ ปั่นจักรยานไปอะ ก็รอคิวตรวจอยู่เกือบ 3 ชั่วโมง พอได้ตรวจ หมอก็ร่ายให้ฟัง มีฟันผุเห็นชัดเจนที่ฟันกรามซี่ในสุดทั้ง 4 ซี่ เพราะเราแปรงไม่ถึง แนะนำให้ถอนไปเลย เก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ แถมยังดูแลรักษายาก และระหว่างซี่ฟันที่มันชิดกันหมอก็สงสัยว่าผุอยู่หลายซี่ ต้อง x-ray ดูก่อนแล้วค่อยอุด ส่วนหินปูนก็มีเยอะแต่เอาไว้ทำหลังสุด...



มึนค่ะ ไม่นึกว่าฟันเราจะแย่มากขนาดนั้น หมอบอกว่าเราแปรงฟันแรงด้วยทำให้เหงือกร่นลง... อันนี้รู้ตัว แล้วหมอก็ถามว่า วันนี้จะให้ทำอะไรระหว่างถอนกับอุด เราตอบแบบไม่ต้องคิดว่า... อุดค่ะ ก็ถ้าจู่ๆให้ถอนฟันนี่ มันยังทำใจไม่ด้ายยย

สรุปเราก็อุดไปทั้งหมด 5 ซี่ค่ะ หมดกันความภาคภูมิใจ แต่อย่างน้อยก็ผุไม่มาก หมอใช้วัสดุสีเหมือนฟันอุดให้ด้วย ดูแทบไม่รู้เลย อุดไปหมดแล้ว เราก็ขอหมอขูดหินปูน คือทุกอย่างไม่ได้ทำครั้งเดียวนะคะ อุดฟันก็ทยอยทำทีละซี่ สองซี่ เราเลยเข้าออกแผนกทันตกรรมจนซี้กับพี่พยาบาลหน้าห้องไปละ ตอนที่ขูดหินปูนก็ทรมานน่าดู มันไม่เจ็บแต่มันเสียวอะ ยิ่งตอนใช้เครื่องมือเข้าไปขัดหินปูนที่โคนฟันนี่....ซี๊ดดดดดด

และก็มาถึงคิวถอนละ เราไม่ค่อยกลัวมากเท่าไรนะ ตลกดี เราคิดเล่นๆ ว่า ในชีวิตผู้หญิงเราจะต้องเจออะไรที่มันเจ็บกว่านี้อีกคือตอนคลอดลูก เพราะฉะนั้นแค่ถอนฟันเท่านี้...เราบ่ยั่น แต่ตอนขึ้นไปบนขาหยั่ง เอ๊ย...ไม่ใช่ เก้าอี้ทำฟัน ก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ

ในรูปซี่ที่วงไว้คือที่เราต้องถอนค่ะ



หมอดูฟีล์ม x-ray แล้วก็บอกว่าจะถอนคู่บน_ล่าง ด้านซ้ายก่อนนะ เริ่มจากฉีดยาชาก่อน จะเจ็บนิดนึง และก็เจ็บจริงแหละแต่ไม่มาก รอแป๊บนึงแล้วหมอก็ทดสอบว่าชารึยัง เอาอะไรมากดเหงือกแต่เราเจ็บอะ หมอก็เลยเพิ่มอีกเข็ม และอีกเข็ม มันไม่ชาซักที สรุปจิ้มไป 6 ครั้งคร่า หมอคงว่า ยัยนี่มันดื้อด้านมาก แล้วก็เริ่มละ เอาเครื่องมือมาหนีบฟันแล้วก็ดึง ๆ ๆ มันไม่ง่ายเลยอะ เราอ้าปากจนเมื่อยไปหมด หุบไม่ได้เพราะหมอมีเครื่องถ่างไว้ ได้ยินหมอว่ารากฟันมันแน่นมาก รู้สึกว่าใช้เวลานานมากๆ กับซี่แรกนี้ แล้วความพยายามของหมอก็สำเร็จ แต่เราไม่รู้สึกหรอกค่ะ มันชาอยู่ ระหว่างนี้เราได้แต่หลับตา เค้าเอา suction มาดูดน้ำลาย(และเลือด) เสียงดังคร่อกๆ ครั่กๆ แล้วก็มาซี่ที่สอง ซี่นี้หมอบอกว่าดูจากฟีล์มรากฟันมันโค้งด้วยทำให้ถอนยากนิดนึง เราก็ได้แต่ฟัง ใช่ซี้....นาทีนี้ทุกอย่างมันอยู่ในเงื้อมมือหมอแล้วนี่ และแล้วมันก็หลุดค่ะ หมอเอาผ้าก็อซมาให้เรากัดแน่นๆ แล้วเราก็ลุกมึนๆ ไปรับยาแก้ปวดกับพยาบาล มันมีข้อปฏิบัติหลังถอนฟันวันแรกมีดังนี้ค่ะ

1 ต้องกัดผ้าก็อซไว้แน่นๆ ประมาณ 1-11/2 ชั่วโมง เพื่อห้ามเลือด
2 ห้ามบ้วนปาก มีเลือดหรือน้ำลายให้กลืนอย่างเดียว
3 เวลาดื่มน้ำใช้หลอดดูดช่วย
4 ทานยาแก้ปวดทุก 6 ชั่วโมง

ก่อนกลับเราแวะเข้าห้องน้ำ ดูในกระจกหน้าเราเหมือนมันบวมๆ ล่ะ เห็นปากแห้งเราเลยควักลิปมันมาทา ปรากฏว่าเราทาลิปออกมาเลยริมฝีปากค่ะ ขำดี คือมันชาไปทั้งแถบ ตอนยาชาเริ่มหมดฤทธิ์มันก็เริ่มเจ็บละ เราก็กินยาแก้ปวดแล้วนอนไปเลย ตื่นมาหิวก็ได้แต่กินนม อ้อ กินกล้วยได้ด้วยแต่ต้องใช้ฟันอีกด้านเคี้ยว พอมาอีกวันมันเจ็บน้อยลงเยอะมาก เราก็กินข้าวตามปกติค่ะ แต่ต้องบ้วนปากและกลั้วน้ำเกลือ แต่แผลเราอักเสบหลังจากนั้น ก็กินยาแก้อักเสบไป แผลเราหายสนิทใน 3 อาทิตย์ค่ะ



เราเก็บซากฟันกลับมาด้วยค่ะ เอาไว้เตือนใจว่าต้องดูแลรักษาฟันให้ดีกว่านี้ สิ่งที่หมอแนะนำเรามาคือวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง อายเหมือนกันนะ อายุขนาดนี้ให้หมอสอนแปรงฟัน หมอฟันแต่ละคนก็ดูเด๊ก เด็ก กันทั้งนั้น อีกอย่างที่ต้องใช้คือ ไหมขัดฟันค่ะ ยอมรับว่าเราไม่เคยใช้ เคยคิดว่าแปรงฟันให้สะอาดอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว...แล้วเป็นไงล่ะ ฟันเราที่เจอว่าผุน่ะ คือระหว่างซี่ที่ชิดกันทั้งนั้นเลยนะ เราขอบอกว่าต้องใช้ค่ะ เอาไว้ขัดทำความสะอาดซอกฟัน มันใช้เวลาไม่นาน แค่ครั้งละ 3-5 นาที อีกอย่างที่ควรมีคือกระจกที่เอาไว้ตรวจฟันด้วยตัวเอง มันจะมาพร้อมเหล็กขูดหินปูนแต่อันนี้เราไม่ใช้ กลัวพลาดแล้วได้เลือด

เร็วๆ นี้เราจะไปถอนฟันคู่ที่เหลือค่ะ เพื่อนเราบอกว่ามันเป็น Wisdom teeth นะ เราเลยว่า For now and then, I’m stupid






 

Create Date : 29 มิถุนายน 2550
1 comments
Last Update : 2 กรกฎาคม 2550 15:27:16 น.
Counter : 4035 Pageviews.

 

โดนเหมือนกัน แบบว่าเป็นโรคไม่ชอบหมอฟันมาแต่เกิดค่ะ
จะไม่ยอมไปเด็ดขาดถ้าไม่ปวดจนทนไม่ไหว อิอิ
ตอนอยู่ไทยก็ไปหาหมอที่มหิดลค่ะ ไปตรวจๆไว้ พอหมอนัดก็ไม่ยอมไปตามนัด
พอมาอยู่นี่เกิดปวดฟันจนทนไม่ไหว
ผลออกมาเลยต้องไปหาหมอฟันทุกอาทิตย์ค่ะ เป็นเวลา 3 เดือน
เพื่อรักษารากฟัน อุดฟัน ถอนฟัน และขูดหินปูนค่ะ
ตอนนี้กลายเป็นคนไม่กลัวหมอฟันไปแล้วค่ะ เพราะเจอหมอใจดี
ไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียวค่ะ โชคดีจริงๆ ตอนทำอยู่ไทยแหมเล่นซะร้องไห้ไปหลายรอบ อิอิ
แม่ต้องคอยเช็ดน้ำตา อายหมอฟันไปเลยค่ะ

 

โดย: Complicatedgirl 29 มิถุนายน 2550 23:27:42 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


After Sunset_Before Sunrise
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




I have a life to live, goals to achieve and love to care.

ผู้ชมทั้งหมด คน
ติดต่อหลังไมค์ กดที่นี่ค่ะ
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add After Sunset_Before Sunrise's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.