หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศโบสถ์ gothic ที่ฉันชื่นชอบแล้ว เราก็เลยแพลนกันว่าจะตามรอย Leonardo Da Vinci ไปชมภาพ The last supper ที่โบสถ์ Santa Maria delle Grazie ที่กว่าจะหาโบสถ์เจอ พลิกแผนที่เดินกันจนเมื่อยตุ้ม .. พอไปถึงก็ปรากฏว่า ต้องมากับทัวร์ หรือว่าจองจะเข้าชมล่วงหน้าเท่านั้น ถึงจะไปเข้าไปชมได้ ก็เป็นอันว่า ดูภาพจำลองจากข้างนอกโบสถ์ไปก่อน เพราะว่าไม่ได้จอง (หรือซื้อทัวร์ไว้) เลยอดไปตามระเบียบ ฉะนั้นใครอยากจะเห็นภาพต้นฉบับของ The Last Supper อันโด่งดัง บนผนังโบสถ์ ก็อย่าลืมจองล่วงหน้าไปนะคะ ^^
Santa Maria delle Grazie , Milan , March 2008
ตกเย็นวันนั้น เราก็นั่งรถไฟใต้ดินกลับไปที่ La Scala หรือ ชื่อเต็มๆ ว่า The Teatro alla Scala หรือ จะเอาชื่อเต็มๆ ตอนสร้างเสร็จในปี 1778 ว่า Nuovo Regio Ducal Teatro alla Scala เป็น Opera house ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยความที่คุณแฟนมีงานอดิเรกด้วยการเล่นอยู่ในวงดนตรีออเครสตร้า ก็เลยเป็นความใฝ่ฝันว่าจะได้เข้าไปชมคอนเสิร์ตใน La Scala ซักครั้ง .. ตอนแรกก็กะว่าค่าตั๋วจะต้องแพงหูฉี่แน่ๆ เพราะไม่มีอะไรไม่แพงในอิตาลี ^^" ปรากฏว่า อาทิตย์นั้นมี คอนเสิร์ต Philharmonic ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม (โดยไม่ต้องแต่งตัวไฮซ้อไฮโซ แต่ว่าต้องนั่งชั้นบนๆ ค่ะ ข้างล่างสำหรับตั๋ว VIP เท่านั้น) ฉันกะคุณแฟนก็เลยดีใจใหญ่ เพราะไม่ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แถมค่าตั๋วก็แค่คนละสิบห้ายูโรเอง ^^ คืนนั้นเราก็เลยได้ชม Filarmonica della Scala อย่างอิ่มอกอิ่มใจ การตกแต่งใน La Scala หรูหราสวยงามจริงๆค่ะ สมกับที่เป็น Opera house ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลก ..
What a wonder it is! So grand, so solemn, so vast! And yet so delicate, so airy, so graceful! A very world of solid weight, and yet it seems ...a delusion of frostwork that might vanish with a breath!... ~ Mark Twain