A Journey to the Paradise (I) Fly to paradise , Zurich , 05-05-05 เช้าวันแรกที่สวิสเซอร์แลนด์ ฉันบินไปถึงซูริคตอนสิบโมงเช้า อากาศกำลังดีเลย ..แถมไปคราวนี้สะดวกสบายอย่างบอกไม่ถูก เพราะโรงแรม Swissotel ที่จองไว้มี shuttle bus จอดรอรับและพาไปส่งโรงแรมทุก 20 นาที .. สะดวกเหลือเกิ๊น ไม่ต้องไปงมหาโรงแรม เหมือนทริปที่ผ่านมา .. แต่เสียอย่างนึง บินมาลงที่ซูริค ฉันต้องผ่าน Custom เข้าไปด้วย (ปกติ ฉันจะได้ Scandinavian flight คือไม่ต้องเช็ควีซ่าก็ผ่านเข้าไปได้เลย) ยืนรอป้าแกพิจารณาพาสปอร์ตฉัน เป็นสิบนาทีเลย ประมาณว่าไม่แน่ใจว่า ฉันจะเข้ามาเป็นแรงงานเถื่อนหรือเปล่า ^^" แล้วพอป้าเห็นว่า วีซ่าฉันเป็น work permit ที่ออกโดยสถานทูตสวีเดน แกเอาเลย ส่งภาษาสวีดิชมา "สะเวริเยีย?" โถ งูๆปลาๆ เหมือนกันละซี้ .. ไม่ต่างกันๆ พอรับได้ ..คนสวีเดนเรียกประเทศตัวเองว่า Sverige ค่ะ "หยา (Yes) " ฉันตอบ และแล้วแกก็ถามฉันเป็นภาษาอังกฤษต่อ ว่ามาทำอะไร จะอยู่กี่วัน อะไรประมาณนั้น แล้วแกก็จบท้ายด้วย ภาษาสวีดิชว่า "แท็ก สมาเก้น" --> ขอบคุณจ้ะ "เวลคั่มเหม่น (you are welcome) " ฉันตอบ ... 555 ปกติก็รู้อยู่เท่านี้แหละ ฟิ้วววว... รอดไป ^^ Way on gray day , Zurich , 05-05-05 ไปถึงโรงแรมปุ๊บ ฉันก็เอา Iternary ที่ print มายื่นให้ reception ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองเป็นมนุษย์ "e" ไปซะแล้ว จะทำอะไรก็เป็นอันต้อง connect internet มาจัดการทุกทีสิน่า ตั้งแต่เริ่มจองโรงแรม และตั๋วเครื่องบิน เช็ค Reviews ของโรงแรมว่าคนที่ไปพักมาบอกว่ายังไง location ดีหรือป่าว พนักงานดีกับเราไม๊ ที่ //www.tripadvisor.com บนเน็ต จากนั้น ก็หาที่เที่ยวที่กินจาก //www.igougo.com พอได้โรงแรมที่พอใจแล้ว (หรือคนบ่นไม่เยอะมาก ทำเลดี อะไรประมาณนั้น) แล้วก็จอง day trip บนเน็ต (แพ็กเกจพาเที่ยว ฉันจองไว้สองวัน เพราะว่าถูกกว่าไปเองมาก เพราะแต่ละที่มันไกล๊ไกล ^^) หนำซ้ำ ตอน check in สนามบิน ก็ใช้บริการบนเน็ตอีกเหมือนกัน ฮี่ๆ (ที่เว็บของ SAS สามารถเช็คอินได้ 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ถ้าเป็นสายการบิน KLM ก็ สามสิบชั่วโมงก่อนเดินทาง แถมเลือกที่นั่งได้บินเน็ตอีกด้วย โอย.. ชีวิตกดเม้าส์ ..คลิก คลิก) check in เสร็จ ก็จะได้ boarding pass เป็นไฟล์ pdf ส่งเข้าเมล์มาเลย .. ทำให้ฉันไม่ต้องเสียเวลาไปสนามบินก่อนเป็นชั่วโมงๆ ขอเวลาก่อนหน้า boarding time แค่ยี่สิบนาทีก็พอ อิอิ ฉันไปถึงโรงแรมประมาณสิบโมงเช้า แต่ต้องรอเค้าทำความสะอาดห้องให้ก่อน ประมาณชั่วโมงนึง ฉันก็เลยเอาสัมภาระฝากไว้ที่โรงแรม แล้วซื้อตั๋วรถไฟ day pass กระโดดขึ้นรถไฟเข้าเมืองเลย .. โรงแรมนี้พนักงานน่ารักมากๆ เพราะฉันเคยอ่าน review ของบางโรงแรม มีการคิดค่าฝากกระเป๋าด้วยนะ แต่นี่ เค้าให้พนักงานเอารถลากๆ มาขนของฉันไปเก็บให้เรียบร้อย แถมที่ counter โรงแรม ก็มีตั๋ว daypass ขายเลย ไม่ต้องไปงมๆ กับเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ หรือไปตะแคงหูฟังกับคนขายตั๋วให้เมื่อยตุ้ม ตั๋ว Day pass ราคา 7.6 ฟรังซ์ จ้า ขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถแทรม และรถบัส สำหรับ City Zone Me , Train and Rain , Zurich , 05-05-05 ก่อนจะขึ้นรถไฟ ต้องเอาตั๋วไป validate กับเครื่องก่อนนะ ตั๋วมันไม่ยาวมาก ปั๊มได้ประมาณสิบเที่ยว นั่นก็แปลว่า ถึงมันจะเป็นตั๋ว 24 hrs ก็ตาม แต่ถ้าปั๊มถึงสิบเที่ยวแล้ว ก็หมดสิทธิ์ปั๊มต่อนะจ๊ะ ออกจากโรงแรมมา ฉันทำท่าเหมือนรู้ดีว่าจะไปไหนไปงั้นแหละ จริงๆ ไม่รู้อะไรเลย เพราะทริปนี้เตรียมตัวมาน้อยมาก (เร่งปั่นงานซะหูตูบ) แต่ว่ามันเดาไม่ยากหรอก เพราะ ยุโรป มันมี theme ไม่ต่างกัน ถ้าใครชอบเล่นเกมส์ simulation ประเภทสร้างเมือง อย่าง Warcraft ,Starcraft ,AOE หรือ Heroes (แหะๆ เกมส์เก่าหน่อยนะ ไม่ได้เล่นเกมส์มาสี่ปีแล้วอ่ะจ้ะ ^^") ก็จะรู้ว่า เมืองหลวงแถวๆ นี้ก็ต้องมี Central Station มี The palace , The opera ,The tower hall และ National musuem อิอิ ฉะนั้น ฉันก็ต้องหาทางไปไอ้ Central Station นั่นแหละ Blue rainy day , Zurich , 05-05-05 Central Station ก็จะเป็นแหล่งรวมของ Transportation ทุกอย่าง เผลอๆ attraction สำคัญอย่าง National Musuem หรือ The palace หรือ Square ใหญ่ๆ ก็จะอยู่แถวนั้นแหละ .. พอไปถึง Central Station ได้ ก็หาสัญลักษณ์ i หรือ information เพื่อไปเก็บแผนที่ และ โบร์ชัวร์ แนะนำที่เที่ยวที่กินของเมือง ... เออ.. เล่าเหมือนแผนโกงเกมส์เลยแฮะ .. เดินไปโน่น แล้วเก็บของ แล้วเดินไปนี่ๆๆๆ ต่อ 555 แล้วฉันก็ถามคนแถวๆ สถานีรถไฟว่าจะไป Central Station ต้องขึ้นสายอะไร คุณป้าใจดีบอกฉันว่า อะไรก็ได้ ที่ไป Hauptbahnhof เพราะมันคือชื่อของ Central Station นั่งเอง ป้าบอกว่า ประมาณ 2 stop .. ฉันก็ขึ้นรถไฟสบายใจเฉิบ โหะๆๆ ของหมูๆ .. From Darkness to Light , Zurich , 05-05-05 แต่พอไปถึงนี่ดิ มันกว้างงงงงมาก แล้วจะได้ดิฉันเดินไปทางไหนดีละก๊า .. ฉันเดินๆๆ ชมๆวิวไป กลิ่นฝนพรำๆ กับต้นไม้เขียวๆ ทำเอาฉันเพลินไปเลยเหมือนกัน แล้วเป็นไปตามที่คาดหมาย National Musuem อยู่ข้างๆ สถานี central นั่นเอง ฉันได้ โบชัวร์มาเป็นกอบเป็นกำ จาก Information Centre .. คราวนี้ก็ถึงเวลาลุยกันซะที เริ่มต้นจาก National Musuem ที่มีหลายชั้นมาก แถมมีห้องโบราณจำลองชีวิตความเป็นอยู่ของขุนนาง และ พ่อค้า(รวยๆ) สมัยก่อน ห้องตกแต่งด้วยไม้ ฉันเข้าไปเดินๆนั่งๆ อึ้งอยู่หลายห้องเหมือนกัน รู้สึกเหมือนได้ย้อนประวัติศาสตร์กลับไป ออกจาก National Musuem ฉันก็เดินเลาะแม่น้ำ Limmat ไปเรื่อยๆ แม่น้ำนี้ ตามแผนที่บอกว่า จะพาฉันไปถึงทะเลสาบ Zurich ที่กว้างใหญ่ .. ระหว่างทาง ฉันก็เดินไปเจอตึกคู่ ที่ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นโบสถ์ .. มีคนเข้าออกตลอดเวลาเลยทีเดียว มีรึ ฉันจะพลาด .. พอเข้าไปถึงได้รู้ว่า .. "Let light shine out of darkness" , Zurich , 05-05-05 โอ๊ะ .. จบตอน จบแบบค้างๆ คาๆ ให้คนติดตาม ..คิคิ ^^ (จริงๆ มันเริ่มยาวแล้วน่ะค่ะ อยากเขียนละเอียดๆ นิดนึง ในแต่ละสถานที่ จะได้เล่าประวัติความเป็นมา และจุดสนใจในแต่ละที่ ^^ ~ แอบซื้อหนังสือ Zurich ติดมือกลับมาด้วย .. เลยอยากเอามาแปลประกอบ ;D ) ________________________________________ ________________________________________ คุณวัวชมสวน ภาคตัวเต็ม .. , Zurich , 05-05-05 ปล. รูปวันแรกที่ซูริค จะมืดๆ หม่นๆ อย่างที่เห็น เพราะฝนตก Y-Y แย่ชะมัด ปล2. ตอนนี้อยากแปลงร่างเป็นปลาหมึก .. ทื่อ (Manager ใหม่) ให้ฉันไปช่วย project ของ Italy กับ Belgium ด้วย ตอนนี้เลยเหยียบโปรเจ็กท์สามประเทศ เพราะว่าใกล้จะ Launch แล้วเหมือนกัน ... หนูไม่ใช่ powerpuff girl นะ จะได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เหมือนทื่ออ่ะ . ความเป็นมาของทื่อ อ่านได้ ที่นี่ จ้ะ เพลงประกอบ .. ชื่อเพลง: อย่าลืมบอกรักกันบ่อยๆ/ Singer .. จิรัฐติพันธ์ พงษ์สุวรรณ&เดอะวินด์กรุ๊ป Create Date : 19 พฤษภาคม 2548 Last Update : 1 มิถุนายน 2548 5:02:02 น. 0 comments Counter : 523 Pageviews. Share Tweet

ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

1	2	3	4	5	6	7
8	9	10	11	12	13	14
15	16	17	18	19	20	21
22	23	24	25	26	27	28
29	30	31