|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
นานาประโยชน์ของ “กล้วย”
นานาประโยชน์ของ “กล้วย” ถ้าต้องการให้ระดับพลังงานที่หย่อนยานลงให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วไม่มีอาหา > >>รว่างใดดีไปกว่ากล้วย > > > >> อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโคส > > > >>รวมกับเส้นใยและกากอาหาร > > > >>กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด > > > >>จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ > > > > กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที > > > >>จึงไม่น่าแปลกใจที่กล้วยเป็นผลไม้อันดับหนึ่งของนักกีฬาชั้นนำระดับโลก > > > > ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มพลังงานเท่านั้นยังช่วยเอาชนะ และป้องกันโรคต่าง ๆ > > > > ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรค จึงควรรับประทานทุกวัน > > > >> > > > >> 1. โรคโลหิตจาง > > > >>ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด > > > > และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะโลหิตจาง > > > >> > > > >> 2. โรคความดันโลหิตสูง มีธาตุโปรแตสเซียม สูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำ > > > >>ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะช่วยความดันโลหิตมาก อย. - > > > > ของอเมริกา ยินยอมให้อุตสาหกรรมการปลูกกล้วยสามารถ โฆษณาได้ว่า > > > >>กล้วยเป็นผลไม้พิเศษช่วยลอันตรายอันเกิดจากเรื่องความดันโลหิตหรือโรคเส้นเ > >>ลือดฝอยแตก > > > >> > > > >> 3. กำลังสมอง นักเรียน 200 คน ที่โรงเรียน Twickenham > > > >>ได้รับผลดีจากการสอบตลอดปีนี้ ด้วยการรับประทานกล้วย > > > >> > > > >> ในมื้ออาหารเช้า ตอนพัก และมื้ออาหารกลางวันทุกวัน > > > >>เพื่อช่วยส่งเสริมกำลังของสมองในพวกเขา จากงานวิจัยแสดง > > > >> > > > >> ให้เห็นว่าปริมาณโปรแตสเซียม > > > >>ที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในกล้วยสามารถให้นักเรียนมีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้ > >>น > > > >> > > > >> 4. โรคท้องผูก > > > >>ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ > > > > และยังช่วยแก้ ปัญหาโรคท้องผูกโดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย > > > >> > > > >> 5. โรคความซึมเศร้า จากการสำรวจเร็ว ๆ นี้ > > > >>ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคนจะมี > > > >>ความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วย เพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า try > > > > potophan เมื่อสารนี้เข้าไปในร่างกายจะ ถูกเปลี่ยนเป็น serotonin > > > >>เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ > > > >>คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง > > > >> > > > >> 6. อาการเมาค้าง วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง คือ > > > >>การดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง กล้วยจะทำให้ กระเพาะของเราสงบลง > > > >>ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไปในขณะที > >>่นมก็ช่วย > > > > ปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา > > > >> > > > >> 7. อาการเสียดท้อง กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเรา > > > >>ถ้าปัญาเกี่ยวกับอาการเสียด ท้อง ลองกินกล้วยสักผล > > > >>คุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้ > > > >> > > > >> 8. ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า > >> การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร > > > >>จะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที่ > > > >>เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า > > > >> > > > >> 9. ยุงกัด ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัด > > > >>ลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด > > > > มีหลายคนพบอย่างมหัศจรรย์ว่า > > > > เปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้ > > > >> > > > >> 10. ระบบระสาท ในกล้วยมีวิตามินบี สูงมาก ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้ > > > >>โรคน้ำหนักเกินและโรคที่ เกิดในที่ทำงาน > > > >>จากการศึกษาของสถาบันจิตวิทยาในออสเตรียค้นพบว่า > > > >>ความกดดันในที่ทำงานเป็นเหตุนำไปสู่ การกินอย่างจุบจิบ > > > > เช่นอาหาพวกช็อคโกแล็ต และอาหารประเภททอดกรอบต่าง ๆ ในจำนวนคนไข้ 5,000 คน > > > > ในโรงพยาบาลต่าง ๆ นักวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นโรคอ้วนมากเกินไป > > > >>และส่วนใหญ่ทำงานภายใต้ความกดดันสูง มาก จากรายงานสรุปว่า > > > >>เพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนกและนำไปสู่การกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง > > > >>เราจึงต้องควบคุม ปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด > > > >>ด้วยการกินอาหารว่างที่มีปริมาณคาร์โบโฮเดรตสูง เช่น กินกล้วยทุก 2 > >>ชั่วโมง > > > > เพื่อรักษาปริมาณน้ำตาลให้คงที่ตลอดเวลา ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่อยยา > > > >>การกินกล้วยที่มีวิตามินบี 6 ซึ่งประกอบด้วย > > > >>สารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ได้ > > > >> > > > >> 11. โรคลำไส้เป็นแผล กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุม > > > >>เพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผล เพราะ > >>เนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดี > > > > เป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรค > > > > ลำไส้เรื้อรัง และกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคือง > > > > และยังไปเคลือบผนังลำไส้และ กระเพาะอาหารด้วย > > > >> > > > >> 12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วย > > > >>คือผลไม้ที่สามารถทำให้ อุณหภูมิเย็นลงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ > > > >>โดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง > >>ตัวอย่างในประเทศไทย > > > > จะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่า > > > > ทกรกที่เกิดมา จะมีอุณหภูมิเย็น > > > >> > > > >> 13. ความสับสนของอารมณ์เป็นครั้งคราว > > > >>กล้วยสามารถช่วยในเรื่องของอารมณ์และความสับสนได้ > > > >>เพราะในกล้วยมีสารตามธรรมชาติ try potophan ทำให้อารมณ์ดี > > > >> > > > >> 14. การสูบบุรี่ กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่ > > > >>เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี เอ บี6 และบี 12 ที่สูงมาก > > > >>และยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียม > > > >>ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็วอันเป็นผล > >>จากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง > > > >> > > > >> 15. ความเครียด โปรแตสเซียมเป็นสารอาหารสำคัญ > > > >>ที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ การส่งออกซิเจน ไปยังสมอง > > > >>และปรับระดับน้ำในร่างกาย เวลาเกิดอารมณ์เครียด อัตรา metabolic > > > >>ในร่างกายของเราจะขึ้นสูง และทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลง > > > > แต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วยจะช่วยให้เกิด ความสมดุล > > > >> > > > >> 16. เส้นเลือดฝอยแตก จากการวิจัยที่ลงในวารสาร "The New England Journal > >> of > > > >>Medicine" การกิน > > > > กล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40% > > > >> > > > >> 17. โรคหูด การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติ > > > >>โดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูด > > > >>แล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอก > > > > ก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้ หายได้ เห็นหรือไม่ว่า กล้วยรักษาโรคต่าง ๆ > > > > อย่างธรรมชาติได้มากมาย ท่านควรลองพิสูจน์ด้วยตัวเองบ้าง > > > >>ว่าจะได้ผลตามที่กล่าวหรือไม่ และเมื่อเปรียบเทียบแอปเปิ้ลแล้ว > > > >>กล้วยมีโปรตีนมากกว่าแอปเปิ้ล 4 เท่า มี คาร์โบรไฮเดรตมากกว่า 2 เท่า > > > > มีฟอสฟอรัสมากกว่า 3 เท่า มีวิตามินเอ และธาตุเหล็กมากกว่า 5 เท่า และมี > > > > วิตามินรวมทั้งแร่ธาตุอื่น มากกว่าอีก 2 เท่า > > > > และกล้วยยังอุดมด้วยโปรแตสเซียม กล้วยจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุด
Create Date : 03 มิถุนายน 2551 |
|
22 comments |
Last Update : 3 มิถุนายน 2551 22:12:27 น. |
Counter : 1998 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Takaw (Takaw ) 17 มิถุนายน 2551 0:08:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: โสดในซอย 17 มิถุนายน 2551 17:31:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoawarat 24 มิถุนายน 2551 20:43:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoawarat 24 มิถุนายน 2551 20:48:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: Yoawarat 10 กรกฎาคม 2551 19:51:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: iszabella IP: 125.27.63.217 6 มิถุนายน 2553 1:45:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
เชียงราย Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ผู้หญิงธรรมดา ธรรมดา ที่มองโลกตามความเป็นจริง.. และใช้ชีวิตบนความสับสนของตนเอง รักการเรียนรู้ แต่ไม่ชอบความผูกพันธ์ เพราะเป็นคนโลเล ความคิดไม่เคยหยุดนิ่ง ชอบคิด-ชอบทำแต่ไม่ชอบสานต่อ เข้าใจเรื่องอื่นๆได้ดี แต่ไม่เคยเข้าใจตัวเองเลย... <º))))> ฉันเห็น ขุนเขา. ตะวัน. จันทร์เพ็ญ. โดดเด่น.. แต่ว่า..เดียวดาย <((((º>
|
|
|
|
|
|
|