กรกฏาคม 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ห ล อ น :: เรื่องเล่าจากความทรงจำ
ถ้า "หลอน" จะหมายถึงอาการสั่นประสาท ที่ทำให้ขวัญเสียแล้วล่ะก็ ..
ฉันก็เรื่องราวบางเรื่องที่ติดแน่นอยู่ในความทรงจำ .. มาเล่าให้คุณฟัง


เมื่อสองสามปีก่อน
ฉันได้เริ่มต้นการเขียนไดอารี่ออนไลน์ของตัวเอง
มันเป็นการทำด้วยความสุข และรู้สึกดี ๆ กับมัน
ชุมชนออนไลน์แห่งนั้นไม่ใหญ่มาก เราจึงมีกลุ่มเฉพาะตัว

..
และนั่น ก็ทำให้ฉันได้รู้จักกับน้องสาวคนหนึ่ง
คนที่ทุกข์ระทมเศร้าอยู่กับการจากไปของคนรัก .. ไม่สร่างซา

คนรักของเธอเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และเฝ้านับวันจากไปตั้งแต่คบหา
เธอใช้ทุกวินาทีที่มี เฝ้าดูแลความรักดี ดี ไว้ในหัวใจ
วันที่เขาจากไป เธอก็เพียงได้แต่ยืนยิ้มจับมือ และบอกให้เขาหายกังวล
คนรักที่หลับตาลงในอ้อมกอดของเธอ .. ช่างน่าเจ็บปวดเหลือเกิน
เวลาผ่านไปสามปีแล้ว เธอยังสวมเสื้อคลุมของความหดหู่ใจ

ฉันอ่านเรื่องเล่าของเธอ
ที่ แม้จะบอกว่าพยามยามเข้มแข็งขึ้นมามากเพียงใด
แต่สิ่งที่เห็น เป็นเพียงหญิงสาวที่เหน็บหนาวด้วยความอ่อนแอ

ฉันเฝ้ามองเธออยู่นาน
นานจนเป็นความรู้จักมักคุ้น นานจนเหมือนคนคุ้นเคย
นานจนพอที่อยากจะให้ใจ .. ให้ใจได้เข้าไปรู้จักกันมากกว่าที่จะคุ้นชิน


นับเวลาผ่าน
ฉันและเธอ เราได้ทำความรู้จักอย่างเงียบ ๆ ระหว่างกัน
ไม่มีอะไรมากไปกว่า การสื่อสารบนกระดาษอิเลคทรอนิคส์
และนับครั้งได้ ที่เราจะโทรหาเพียงถามไถ่กันเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ฉันเชื่อว่า .. เราต่างรู้ ในความคิดของเรา ที่.. มันเริ่มไม่ซื่อ .. กับใจ
ใจที่บอกว่า เราต่างจะเป็นเพียงแค่คนรู้จักนับถือกัน

แล้ว .. อะไรบางอย่างก็ ส่งสัญญาณเตือน


ใช่ อย่างที่คุณคิดนั่นแหละ ..
อย่างเคย ที่ในทุกค่ำคืนเราจะนั่งออนไลน์พูดคุยกันบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ
เธอบอกกับฉันว่า อีกสองวันจะครบรอบวันจากไปของเขา
อยากไปหา อยากไปพบ อยากไปร้องไห้กับเขาด้วยความคิดถึงสุดใจ

ฉันเพียงแต่ปลอบโยน เพียงแต่ปลอบใจ และคิดเพียงว่า
ไม่อยากให้เธอเดินทางไปหาเขาเพียงลำพัง เพราะอันตราย
ในวัดต่างถิ่นที่เธอจะเดินทางไปนั้น มันค่อนข้างจะเปลี่ยวพอควร
แล้วนึกภาพสิว่า .. หญิงสาวตัวเล็ก ๆ เดินร้องไห้อยู่ลำพัง ฉันว่ามันน่ากลัว

ขณะที่ ฉันพยายามบอกเธอ พยายามจะร้องขอไปเป็นเพื่อน
แล้ว .. ฉันก็ได้กลิ่นอะไรอ่อน ๆ ลอยลมมา จากทางหน้าต่างด้านซ้าย
อืมม ไม่นะ ฉันลองสูดหายใจเข้าไปอีกที อย่าง - เต็มแรง
บ้า ประสาทไปเองน่ะ ไม่เห็นมีอะไรสักหน่อย ไม่มีกลิ่นอะไรเลย

แต่ก แต่ก แต่ก แต่ก เสียงพัดลมที่หมุนแล้วติด ๆ ขัด ๆ
สงสัยจะต้องซื้อใหม่ซะแล้วสิ มันหมุนไปแล้วไม่ค่อยยอมหมุนมา
ฉันขยับตัวลุกขึ้นไปจับให้มันอยู่นิ่ง ๆ กับที่แทน

เฮ้ย เอาแล้วไง ฉันกลั้นหายใจ ขนที่หลังลุกเกรียว
กลิ่นมันแรงขึ้นกว่าเมื่อครู่นี้อีก จากทิศเดิม ทางเดิม
หางตาเห็นเงาวูบวาบอยู่ภายนอก กระจกฝ้าบานเกล็ดแสดงรอยเคลื่นไหว
มือกำแน่น เต็มไปด้วยเหงื่อชื้น เย็นวาบทั่วทั้งหลังและลำคอ

ไม่เป็นไร ฉันเฝ้าปลอบตัวเอง มันต้องไม่เป็นไรสิ อย่ากลัวไป
เดินกลับลงมานั่งตรงที่เดิมหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยความมั่นใจ
เธอทิ้งคำค้างไว้ ไปนอนก่อนนะแม่ลงมาตามแล้ว เดี๋ยวถูกดุ
ฉันได้แต่อือ ไป ตามนั้น เพราะเจ้าตัวคงไม่อยู่หน้าเครื่องแล้วเหมือนกัน

ถามใจ "อะไรนะที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ เงาวูบใหญ่ คล้าย..... คน
กลิ่นเหม็นเน่า .. ที่ส่งกลิ่นตามลมมาตลอดเวลา มันทวีความรุนแรง
ฉันรับรู้กับอาการนี้ ได้ในทุกรูขุมขน เหงื่อซึมทั้งที่พัดลมยังแรง
เอี๊ยดดด เสียงไม้ลั่นที่หลังครัว มันอยู่ถัดจากหน้าต่างนั้นไป

เสียวสันหลัง เอาน่ะ ถ้าไม่อยากให้ยุ่งก็จะไม่ยุ่ง อย่ามาทำแบบนี้
"เก๋" ควรจะต้องมีคนดูแล ไม่สงสารเธอหรือ ที่ปล่อยให้เธอเศร้าลำพัง
ยังไงซะ ฉันก็อยู่ในฐานะพี่ ถึงจะไม่ใช่พี่โดยตรง ก็พี่ร่วมสถาบันกัน
ฉันร้องบอกเขาในใจ ก่อนเอื้อมมือไปปิดคอมพิวเตอร์ลง

กระเถิบตัวขึ้นเตียงนอน ขยับพัดลมให้หันมาทางที่นอนมากขึ้น
ปรายตามองที่หน้าตาบานนั้น ไม่พบเห็นอะไร .. มองนาฬิกาอีกที
ตีสองแล้ว นอนดีกว่า พรุ่งนี้จะไม่ไหวเอา

ความง่วงงุนส่งผลให้หลับไปอย่างไม่รู้ตัว .. เสียงแว่วแผ่วมาไกล ๆ
" ห ว ง " กลิ่นโชยมาอ่อน ๆ ยังรู้สึก แต่ก็จางเหลือเกิน


เช้า .. ฉันตื่นสายเกินกว่าจะดูแลอะไรได้รอบ ๆ บ้าน
เวลาเข้างานกระชั้นมาจนต้องรีบอาบน้ำแต่งตัว สตาร์ทรถออกไปด้วยความรีบเร่ง
สายลมยามที่เราวิ่งมอเตอร์ผ่านมัน สดชื่นหัวใจดี ฉันชอบเวลานี้ที่สุดเลย
แต่เอ๊ะ อะไร .. กลิ่นเน่าเหมือนเมื่อคืนยังติดอยู่ในจมูกอยู่เลย
แม้จะไม่ฉุนจัดอย่างที่ควรรู้สึกนัก แต่มันปลุกประสาทให้ตื่นเมื่อรับรู้มัน

แน่นอนว่า ฉันไม่กล้าโทรบอกเก๋หรอก เพราะกลัวเธอจะยิ่งกังวล
เขาของเธอยังไม่ไปไหนไกล ยังคงห่วง หวง อยู่รอบ ๆ เธอ

เย็นนี้ จะแวะไปหาพระแล้วทำบุญ ทำสังฆทานไปให้นะ อย่าเบียดเบียนกัน
ถึงที่ทำงานแล้ว ฉันถอดเสื้อแจ็กเก็ตทิ้งไว้ที่รถพร้อมหมวกกันน๊อค
รีบวิ่งขึ้นไปตอกบัตรเข้างาน พร้อม ๆ กับนึกถึง เขา แล้วกลิ่นก็จางหายไป



กรี๊ด .................................. ด ด พี่ พาใคร มาทำงานด้วยน่ะ
เสียงน้องที่ทำงานฉันร้องลั่นด้วยความตกใจ




:: หลอน ที่ ยังคงส่งผลให้รับรู้ได้ถึงวันนี้ ::




Create Date : 06 กรกฎาคม 2552
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 17:21:46 น.
Counter : 539 Pageviews.

11 comments
  
ฮืมม .. กลัวอ่ะ ไอ้กลิ่นแบบนี้น่ะ
เคยได้กลิ่นครั้งเดียวในชีวิต
แต่แค่นั้นก็พอแล้ว
โดย: Paulo วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:29:57 น.
  
โหย หลอนจริงๆค่ะ
โดย: ผู้หญิงชื่อส้ม วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:14:02 น.
  
หรือว่าจะเป็น เทวดา สาธุ ^_^
โดย: ม้าสว่าง วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:42:31 น.
  
อ่านแล้วหลอนจนขนลุกเลยค่ะ
โดย: แม่ไก่ วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:10:05 น.
  
อร๊าย..ย..น่ากลัวจัง แบบนี้
เคแต่ได้ยินคนโน้นเล่า คนนี้เล่าเรื่องลึกลับ
แต่ก็ไม่เคยเจอกับตัวจะๆ ซักครั้งเดียว

แต่ได้เห็น ได้ยิน ได้รู้สึกแบบนี้ ต้องแย่แน่เลย
ส่วนมาก..ที่เคยประสบ..มันก็แบบเจือจาง..ไม่รู้สึกชัดๆ
จนบางครั้ง..เราแอคิดว่า เราคงติดไปเองมากกว่า
โดย: nikanda วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:21:45 น.
  
อย่า.. ตัวเอง

เค้ากลัว

^ ^

หวัดดีนะตัวเอง

..

อย่า หวง เค้านะ

โดย: ขาประจำห้าทุ่มกว่า.. (U can call me anytime ) วันที่: 7 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:04:49 น.
  
เรื่องจริงหรอครับ
ตามไปทำงานด้วยเลยหรอ
น่ากลัวอ่ะ หลอนสุดๆ

หัวข้อหน้าเขียนอีกนะครับ อยากมีเพื่อนร่วมโครงการเยอะๆ อิอิ
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:19:27 น.
  
สวัสดีค่ะ
เล่าให้ฟังก่อนว่าตามมา 11 เรื่องหลอน
คิดว่าน่าจะคบ แต่เหมือนเอะใจค่ะ
เลยเข้าบล็อก คุณ nikanda
แล้วนับได้ 12 ก็นึกว่าตาฝาด นี่ถ้ามีกลิ่น หงายท้อง
โชคดีด้วย ที่อ่านตอนนี้ ถ้าเป็นกลางคืน
จะทำไง
ไม่อยากบอก ว่าพอพี่ขึ้น ว่า
ใช่ อย่างที่คุณคิด
หนูก็อึ้งอยู่ว่า "แล้วตรูจะคิดอะไรฟระเนี่ย"
อ๊าย นึกมาได้ ว่านี่มัน เรื่อง หลอน
โอ้ย ไม่น่าคิดเลยตรู
โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:19:45 น.
  
ตะเอง

หายไปหลอนใครที่ไหนเหรอ

กลับมา กลับมา

นึกถึง

ไม่มีรัยจะอ้อนหรอก

ไม่ต้องกลัว

..

โดย: .. IP: 119.31.9.129 วันที่: 10 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:26:36 น.
  
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านหลอน แม้จะช้าไปหน่อย...
แต่หลอนนนนนนได้ใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

วันก่อนที่นั่งอ่าน "หลอน" ติดกันประมาณ 6 คน
เชื่อไหมคะ เล่นเอาเก็บไปฝันเลยล่ะ ฝันร้ายด้วย
ฝันแบบหลอน ๆ มีทั้งกลิ่น ทั้งภาพ เต็มไปหมดเลย
วันนี้มาเจอบลอคคุณคนเดียว ท่าทางจะได้ฝันอีกแน่
ยิ่งเป็นคนกลัว ๆ อะไรแบบนี้อยู่ด้วยล่ะค่ะ

ว่าแต่ เห็นหลอน 2 ขอตามไปอ่านก่อนนะคะ
โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 10 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:01:29 น.
  
สวัสดีจ๊ะคุณ

ขอโทษที่เงียบหายไปและมาติดตามช้าไปหน่อย
อ่านจากมือถือได้หลายวันแล้วนะคุณ
แต่เพิ่งหาคอมฯเล่นได้ โน๊ตบุคเสียยังไม่หายป่วยเลยล่ะ

เรื่องหลอนบรรดามีในคราวนี้
ยกให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเด่นในดวงใจ
คืนนั้นฝันร้ายเลยนะ ไม่ได้โม้
โดย: BeCoffee วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:36:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

inmemoir
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



-in memoir-

งานเขียนย่อมจัดเป็นงานวรรณกรรม
ซึ่งงานอันมีลิขสิทธิ์
ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 6

ซึ่งให้ความคุ้มครองแก่ท่านเจ้าของลิขสิทธิ์
ในงานเขียนดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
ไม่จำต้องจดทะเบียน
  •  Bloggang.com