Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
28 กุมภาพันธ์ 2558
 
All Blogs
 
วิธีกำจัดเพลี้ยและมด




กำจัดเพลี้ยแป้ง


ตัดแต่งใบให้โปร่ง ถ้าเป็นพุ่มจะชอบมีเพลี้ยแป้ง ฉีดพ่นน้ำหมักสูตร ขม ฝาด เผ็ด ลื่น อะรที่มีรสฝาดใช้ได้หมด หมาก บอระเพ็ด ยาฉุนต้มผักให้เย็น ผักขี้เหล็ก น้ำยาล้างจาน ประโยชน์ยังกำจัดแมลงศัตรูพืชและมดได้อีกด้วย


https://www.youtube.com/watch?v=6xqAUlc7bwE#t=18






วิธีกำจัดเพลี้ยในนาข้าว
1 ผสมน้ำมันเครื่อง 3 ลิตร และน้ำมันโซล่า 2 ลิตร เขย่าให้เข้ากัน
2 เทน้ำมันที่ผสมแล้วใส่ลงไปในแกลลอนที่ต่อด้วยก๊อกน้ำ
3 เปิดปีมน้ำเพื่อลำเลียงน้ำเข้านา
4 เปิดก๊อกให้น้ำมันไหลลงไปในน้ำที่ลำเลียงเข้านา
วิธีที่ 2
ต่อสายยางเอาไปหยดเดินหยดในแอ่งน้ำในนาเสร็จแล้ว แช่น้ำ 1 คืน แล้วเปิดน้ำทิ้งน้ำมันเครื่องจะจับต้นข้าว เพลี้ยจะลงไปลงไปในน้ำ


https://www.youtube.com/watch?v=wFuDxOiP2B8







ไล่เพลี้ย และมด


สูตร1 เหล้าขาว1ขวดใหญ่ น้ำส้มสายชูกลั่น5% 1ขวดใหญ่ ยาฉุน2ขีด คนให้เข้ากันแช่รวมกันไว้ 1คืน ใช้อัตราส่วน 2-5ช้อนโต้ะต่อน้ำ10ลิตร

สูตร2น้ำส้มสายชู1ขวดใหญ่ พริกสด1ขีดหรือ1กำมือ โขลกพริกผสมน้ำส้มหมักไว้1คืน ใช้อัตราส่วน 2-5ช้อนโต้ะต่อน้ำ 10ลิตร
สูตร3 เหล้าขาว 2แก้ว น้ำส้มสายชู 1แก้ว EM 1แก้ว กากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง 1แก้ว ผสมทั้งหมดหมักไว้ 1คืน ใช้อัตราส่วน 5-10ช้อนโต้ะต่อน้ำ 20ลิตร

ทั้ง3สูตร เป็นยาฆ่าแมลง เวลาใช้ให้เจือจางตามสูตรที่ให้ แล้วเติมน้ำยาล้างจานด้วย 1 ชัอนชา เพือให้น้ำยาที่ฉีดจับใบหรือเกาะที่ใบพืชของเรานานๆ
เพลี้ย หนอนหลอด บุ้ง มด ตายภายในไม่ถึง 5 นาที
ตายแบบเพลี้ยไหม้เลย อย่าใช้อัตรส่วนที่เข้มข้นมากไป เพราะอาจทำให้ใบไหม้และตายได้ เพราะจะได้ผลดีคือฉีดตอนแดดจัด




สูตรขับไล่

สูตร1 น้ำจากการดองผักต่างๆหรือน้ำดองหน่อไม้ส้ม 5ช้อนโต้ะต่อน้ำ 10ลิตร

สูตร2 ข่าแก่ ใบขี้เหล็ก ใบสะเดา
ตำทุกอย่างพอแตก ผสมน้ำเปล่าพอท่วมหมักไว้ 1คืน

สูตร3ใบสาบเสือ ใบน้อยหน่า ใบกระถิน โขลกรวมกันให้ช้ำจนมีกลิ่นฉุนออกมา ผสมน้ำพอท่วมหมักไว้ 1คืน
ทั้ง3สูตร ใช้อัตรา 5 ช้อนโต้ะต่อน้ำ10ลิตรและเพิ่มน้ำยาล้างจาน 1ช้อนชาเพื่อจับใบ ฉีดให้เปียกชุ่มทั้วทรงพุ่มใต้ใบด้วย อาทิตย์ละครั้ง จะไม่มีแมลงมารบกวน


วิธีกำจัดมด

- หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาวพอประมาณ ชุบกับน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือจาระบี แล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะ หรือจะใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองที่ขาตู้ก็ได้ และหากพบมดไต่ขึ้นมาตามรอยแตกร้าวของคอนกรีต ให้ใช้น้ำมันก๊าดเทลงไปในร่อง มดก็จะไม่โผล่หน้าขึ้นมาให้เรารำคาญใจอีกนาน

- ใช้แป้งฝุ่นสำหรับทาป้องกันเห็บหมัดของสุนัขหรือแมวมาโรยตามพื้นหรือบริเวณที่มดขึ้น เมื่อมดเดินผ่านก็จะเกิดการระคายเคืองและตายในเวลาอันรวดเร็ว หรืออาจฝานมะนาวเป็นแผ่นบางๆ มาไปวางในบริเวณที่มดขึ้นก็ได้

- หากพบว่ามีมดขึ้นอยู่ในขวดน้ำตาลหรือขนมปังที่ใส่อยู่ในกระป๋อง ให้ เราปิดฝาขวดหรือกระป๋องนั้นให้สนิท จากนั้นให้ออกแรงเขย่าเพียงเล็กน้อย แล้วเปิดฝาทิ้งไว้หรือนำไปผึ่งแดดสักครู่ มดตัวน้อยตัวนิดก็จะพากันหนีออกมาเอง

- ในกรณีที่พบรังมด ให้ใช้น้ำที่แช่หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดองเปรี้ยวราดไป ที่รัง มดจะอพยพไปอยู่ที่อื่นทันที แต่ถ้าต้องการกำจัดให้สิ้นซาก ให้ใช้การบูรและยาสูบอย่างละ 1 ส่วน นำไปแช่น้ำตั้งไฟให้เดือด จากนั้นเอาไปราดที่รัง มดก็จะตายและไม่กล้ามาทำรังอีกแน่ๆ




การกำจัดเพลี้ยแป้ง เพราะคนที่ปลูกไม้กระถางหรือผักสวนครัวมักถูกเพลี้ยแป้งเข้ามารบกวนการใช้สารเคมีฆ่าเพลี้ยเท่ากับฆ่าเราด้วย เพลี้ยแป้ง เป็นแมลงที่คอยดูดกินน้ำเลี้ยงตามต้นไม้ ยอดใบอ่อนหรือใต้พุ่มใบ โดยอาศัยมดคอยคาบเพลี้ยไปวางตามยอดไม้ แล้วคอยกินน้ำหวานที่เพลี้ยถ่ายออกมาวิธีการกำจัดคือ

1. กำจัดที่ต้นตอ คือ มด ออกไปเสียก่อนเพลี้ยแป้งเคลื่อนไหวช้ามาก มดต้องคาบไปวางตามยอดไม้ แล้วคอยกินน้ำหวานที่เพลี้ยถ่ายออกมาเหมือนเราเลี้ยงวัวนม ถ้ากำจัดมด ได้ทำให้เพลี้ยหมดรถเดินทางเคลื่อนย้ายระบาดได้ยาก

2. ตัดส่วนที่มีเพลี้ยแป้งออกไปทิ้ง

3. ใช้น้ำส้มสายชู 1 ฝา ผสมกับน้ำเปล่า 2-3 ลิตร พอให้เจือจาง นำไปผสมกับน้ำยาล้างจานอีกเล็กน้อย แล้วฉีดพ่นที่ตัวเพลี้ย ไม่นานเพลี้ยจะหายไป

4. ใช้พริก จะสดจะแห้งก็ได้ เอาเผ็ดๆ สักช้อน-2ช้อนกาแฟน้ำยาล้างจาน แบบที่ไม่มีสารฟอก 1 ช้อนกาแฟ
กระเทียมสด 1 หัวใหญ่หัวหอมสด 1 พอๆ กับกระเทียมปั่น , เติมน้ำให้ปั่นให้ทั่วได้เติมน้ำเกือบเต็มขวดน้ำอัดลม 2 ลิตร เอาของที่ปั่นแล้วเทลงไป หมักทิ้งไว้ 1 คืนกรอง แล้วเอาไปใช้กับสเปรย์ได้เลยระวัง พวกผักใบอ่อน เช่น ผักกาด อาจจะไหม้

5. วิธีการนี้ได้มาจาก รักบ้านเกิด ดอทคอม
- สูตรที่ 1 : นำเอาเนื้อในผลแก่จัดของน้ำเต้าจำนวน 1 กิโลกรัมคั้นเอาเฉพาะน้ำกรองด้วยตาข่ายเขียวและผ้าขาวบางจากนั้นนำไปผสมกับ น้ำเปล่าจำนวน 5 ลิตร นำไปใช้งานในอัตราส่วน 1 ลิตรผสมกับน้ำเปล่า 200 ลิตรทำการฉีดพ่นเพื่อกำจัดราดำและเพลี้ยในถั่วฝักยาว

- สูตรที่ 2 : นำน้ำผงซักฟอกที่ใช้ซักผ้า(น้ำแรก)จำนวน 10 ลิตรผสมกับน้ำเปล่า 200 ลิตรนำไปฉีดพ่นในช่วงที่มีอากาศเย็น1-2 ครั้งสามารถกำจัดเพลี้ยแป้งได้

- สูตร ที่ 3 : ใช้น้ำผงซักฟอกจำนวน 100 ซี.ซี.ผสมกับน้ำเปล่า 200 ลิตรแล้วนำไปผสมกับน้ำของน้ำเต้าที่กรองแล้วจำนวน 1 ลิตร สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืชได้ดี

6. วิธีจากลุงเบิ้มฟาร์ม สิ่งที่ต้องเตรียม ก็มีแป้งข้าวเจ้าหรือข้าวเหนียวละเอียด 2 ถ้วย + น้ำ 5-10 ลิตร ฉีดพ่นใส่ต้นพืชบริเวณที่ เพลี้ยอ่อน ไร กำลังระบาด ตอนเช้า แสงแดดเริ่มส่อง พอถึงตอนกลางวันขอให้มีแสงแดดจัด เมื่อแดดร้อนขึ้นน้ำในแป้งแห้งเหลือแต่แป้งคลุมตัวเพลี้ยอ่อนและไร ทำให้หายใจไม่ออกและแป้งร้อนขึ้นจนเพลี้ยอ่อนแลไรตาย การใช้แป้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อการสังเคราะห์แสงของพืชนะครับ

7. สูตรคุณบุญล้อม เฉิดไธสงค์ เกษรตกร บ้านห้วยค้อ ต.หนองแวงนาเป้า อ.พล จ.ขอนแก่น
- ส่วนผสม และวัสดุอุปกรณ์
1.ใบมะละกอสด 5 ก.ก.
2.ยาฉุน 2 ขีด
3.น้ำหมัก EM สูตรสมุนไพร 1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำเปล่า 5 ลิตร
5.ถุงมือแพทย์
- วิธีการทำ
นำเอาใบมะละกอสด มาขยี้คั้นเอาแต่น้ำ ผสมยาฉุนขยี้และกรองเอาแต่น้ำ ผสมน้ำหมัก EM สูตรสมุนไพร 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
วิธีการนำไปใช้
นำ เอาน้ำสกัดหยอดน้ำมันพืชลงไป 1 ช้อนชา นำไปฉีดพ่นทางใบ โดยไม่ต้องผสมน้ำอีก บริเวณเกิดการระบาดของเพลี้ยที่เกิดจากพืชทุกชนิด อาทิ พริก ถั่วฝักยาว มะเขือ แตงกวา เป็นต้น สรรพคุณสามารถกำจัดเพลี้ยแป้ง เพลี้ยดำ แมลงหวี่ แมลงวันทองได้

**** แถมอีกนิด กับ สูตรการกำจัดเพลี้ยและแมลงต่างๆ

สูตรป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง หนอนชอนใบ และแมลงอื่นๆ
ส่วนประกอบ
1. เหล้าขาว 2 ขวด
2. น้ำส้มสายชู5% 1 ลิตร
3. สารอีเอ็ม 1 ลิตร
4. กากน้ำตาล 1 ลิตร
5. น้ำสะอาด 10 ลิตร

วิธีทำ
นำกากน้ำตาลผสมน้ำคนให้เข้ากันใส่เหล้าขาว น้ำส้มสายชู และสารอีเอ็มผสมให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะให้สนิท หมักทิ้งไว้ 10-15 วัน คนส่วนผสมในภาชนะทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการนอนก้น เปิดฝาระบายก๊าซหลังจากคน เมื่อครบกำหนดแล้วจึงนำไปฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลง และป้องกันโรคพืชบางชนิด เช่น ใบหงิกและใบด่าง

วิธีใช้
- ใช้ 1-5 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาด 5-10 ลิตร
- ฉีดพ่นให้ชุ่มและทั่วถึงทั้งนอกและในพุ่ม
- ใช้กับพืชผักทุก 3 วัน สลับกับพ่นปุ๋ยน้ำ
- พืชไร่ พืชสวน พ่นทุก 3-7 วัน สลับกับการพ่นปุ๋ยน้ำ
- ผสมกับกากน้ำตาล หรือนมสด ฯลฯ เพื่อเป็นสารจับใบ

สูตรป้องกันกำจัดหนอนหลอดหอม หนอนชอนใบ เพลี้ยกระโดด เพลี้ยในผลไม้ (สูตรเข้มข้น)
ส่วนประกอบ
1. เหล้าขาว 2 แก้ว
2. น้ำส้มสายชู5% 1 แก้ว
3. สารอีเอ็ม 1 แก้ว
4. กากน้ำตาล 1 แก้ว
วิธีทำ
นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในภาชนะคนให้เข้ากันและปิดฝาให้สนิท หมักทิ้งไว้ 1 วัน แล้วนำไปฉีดพ่น
วิธีใช้
ใช้ 5-10 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร

สูตรไล่หอยหรือเพลี้ยไฟป้องกันใบข้าวไหม้
ส่วนประกอบ
1. ยอดยูคาลิปตัส 2 กิโลกรัม
2. ยอดสะเดา 20 ยอด หรือ 1 ปี๊บ
3. ข่าแก่ 2 กิโลกรัม
4. บอระเพ็ด 2 กิโลกรัม
5. จุลินทรีย์ 1 แก้ว
6. กากน้ำตาล 1 แก้ว
วิธีทำ
นำยอดยูคาลิปตัส ยอดสะเดา ข่าแก่ และบอระเพ็ด แต่ละอย่างแยกกันใส่ปี๊บ ใส่น้ำให้เต็มต้มให้เหลือน้ำอย่างละครึ่งปี๊บทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาเทรวมกันใส่โอ่ง ใส่จุลินทรีย์ลงไป 1 แก้ว กากน้ำตาล 1 แก้ว ปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้ 3 วัน แล้วกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้มาใช้
วิธีใช้
ใช้ 0.5 แก้ว ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นราดในไร่หรือนาข้าว

อีก 1 สูตรกับสูตรของทางเว็บรักบ้านเกิด
1.กระเทียม : ใช้ส่วนหัวสดแก่ 1 กก. โขลกละเอียดแช่ในน้ำมันก๊าดหรือแอลกอฮอล์พอท่วม (ประมาณ 1 ลิตร) นาน 24 ชม. หรือแช่ในน้ำร้อนจัด 1 ลิตร นาน 24 ชม. เหมือนกัน ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อทั้งหมดผสมน้ำ 60 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช ด้วงหมัดผัก ด้วงปีกแข็ง ด้วงงวงกัดใบ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไส้เดือนฝอย แมลงหวี่ขาว เชื้อรา(โรคกลิ่นสับปะรด โรคต้นเน่าผลเน่า โรคผักเน่า โรครากำมะหยี่หรือใบไหม้ โรคราน้ำค้าง โรครากเน่าโคนเน่า โรคเหี่ยว โรคใบจุด โรคใบเน่า) ไวรัสวงแหวนในมะละกอ แบคทีเรียต่างๆ
2.ขมิ้นชัน : ใช้ส่วนหัวแก่ 1 กก. โขลกละเอียดแช่น้ำ 20 ลิตร นาน 24 ชม. ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 1-2 ลิตร/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช เชื้อรา(โรคผลเน่า โรคใบแห้ง) หนอน(หนอนกระทู้ผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนแก้ว หนอนใยผัก หนอนเจาะยอด) ด้วงเจาะเมล็ดถั่ว ด้วงงวงข้าวเปลือก มอดข้าวเปลือก ไรแดง
3.ยาง มะละกอ : ใช้ส่วนใบแก่สดและเปลือกผลแก่ติดยาง 1 กก. บดป่นแช่น้ำ 20 ลิตร นาน 24 ชม. ได้หัวเชื้อ อัตราใช้ หัวเชื้อ 30-50 ซีซี./น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มทุก 3-5 วัน ศัตรูพืช ราสนิมกาแฟ ราแป้ง เพลี้ยไฟ
4.น้ำยาฉุนเพื่อฉีดป้องกันและกำจัดแมลง
น้ำยางกล้วย + กระทิงแดง 1 ขวด
1. รองน้ำยางกล้วยจากการตัดปลีกล้วยออก
2. นำมาผสมในกระทิงแดงจนเต็มขวด
3. เขย่าขวดแช่ตู้เย็นไว้
การใช้งาน
1. ผสมน้ำยางกล้วยผสมกระทิงแดง 1ฝา ต่อ น้ำ 20 ลิตร
2. ป้องกันมด,แมลงกับเพลี้ยอ่อน

ขอบคุณที่มา ของการรวบรวมสูตรต่างๆ โดย : อาจารย์ชาตรี ต่วนศรีแก้ว

//www.farmthailand.com/webboard/forum.php?mod=viewthread&tid=138












Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 6 สิงหาคม 2559 15:27:16 น. 0 comments
Counter : 5793 Pageviews.

ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.