Bloggang.com : the Sixth Floor : [Life&Travel #21] . . . Siam Kempinski Hotel . . . เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร . . .

[Life&Travel #21] . . . Siam Kempinski Hotel . . . เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร . . .

...

สวัสดีครับ ทุกท่าน

นิตยสาร Life & Travel นี้ ผมตั้งใจเป็นแม็กกาซีนออนไลน์
สำหรับคนรักการท่องเที่ยว อยากให้เป็นทั้งคู่มือการเที่ยวแบบง่ายๆ
ตรงไปตรงมา ดีไม่ดีก็ว่ากันไปตามที่เห็น

พร้อมเป็นทั้งสมุดภาพบันทึกความทรงจำ
และเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ออกเดินทาง

เช่นเคย ... ถ้าชอบ Life &Travel แวะไปกด Like ให้กำลังใจกันได้ครับที่

นอกจากจะไม่พลาดทุกการอัพเดทของ Life & Travel
ยังมีข่าวสารการท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยน่ะครับ

[Life&Travel #21] . . . Siam Kempinski Hotel . . . เพชรเม็ดงามใจกลางมหานคร . . .

L&T ฉบับนี้เป็นฉบับที่ 21 แล้วครับ ผ่านไปเร็วเหมือนกัน
กำลังจะเข้าสู่ช่วงเดือนสุดท้ายของปีกันแล้ว

ปีนี้เป็นปีที่ผมเดินทางเยอะมากๆครับ ชีพจรลงเท้าไม่หยุด
ได้รับประสบการณ์ต่างๆมากมาย ได้ไปเที่ยวในที่ใหม่ๆ ได้มีโอกาสพักรีสอร์ทสวยๆ ทำให้ปีนี้เป็นอีกปีที่แม้จะเหนื่อยมากๆ แต่ก็มีความสุขมากด้วยเช่นกัน

วันนี้จะพาไปชมโรงแรมสวยๆ ใจกลางกรุงครับ กับ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้
ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังห้างดังอย่างสยามพารากอน

Siam Kempinski เป็นโรงแรมเชนด์สุดหรูจากยุโรป ที่เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงและเป็นที่กล่าวขานถึง การออกแบบและการบริการที่มีคลาสมากๆ
ความสวยงามและความหรูหราที่ตลบอบอวลไปทั่วของโรงแรม ทำเอาใครหลายคนที่มีโอกาสได้มาพัก ได้มาเดินชมต่างก็ต้องประทับใจกันไปตามๆ

เช่นเดียวกับผมครับ ... ประทับใจมากจริงๆ ซึ่งก็ไม่บ่อยนักที่จะไปพักที่ไหน
แล้วอยากจะกลับไปนอนอีกครั้ง แม้ราคาค่าตัวของห้องที่นี่จะสูงเอาการไม่น้อย

วันนี้เอาใจผู้ชมเป็นพิเศษขนรูปมาให้ดูมากหน่อยครับ
รับชมกันไปเรื่อยๆ น่ะครับ ...

01 ...
Siam Kempinski Hotel มีทำเลที่ตั้งที่ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ
ตั้งอยู่กลางสยามสแคว์หลังห้างพารากอน
ลูกค้าสามารถเดินออกจากโรงแรมแล้วช็อบปิ้งต่อได้ทันที เรียกว่า
เป็นสวรรค์ของนักช็อบปิ้งเลยทีเดียว

ไฮไลท์ของโรงแรมที่จะทำให้คุณประทับใจแรก

เห็นจะเป็นล็อบบี้ตรงนี้

ล็อบบี้ออกแบบให้โปร่งโล่ง และใช้สีอ่อนสร้างความรู้สึกอบอุ่น
พร้อมสดชื่นด้วยดอกไม้สีสันสดใสที่ประดับตกแต่งเสริมอารมณ์ของผู้มาเยือนได้อย่างลงตัว

02...

มีชุดเก้าอี้ดีไซน์สวยที่ตั้งอยู่รอบๆ บริเวณล็อบบี้

แม้ด้วยชื่อเคมปินสกี้จะมีภาพลักษณ์ของโรงแรมจะออกดูผู้ดียุโรป
แต่กระนั้นการเลือกใช้เฟอร์ ก็ยังเลือกให้มีดีไซน์เล็กๆ เพื่อให้ไม่รู้สึกว่าแก่ และดูมีคลาสมากๆ

03...

งานตกแต่งโคมไฟข้างเสาต้นใหญ่กลางล็อบบี้ก็สวยงามไร้ที่ติ
แน่นอนว่ามันเรียกสายตาของแขกให้ต้องหยุดมองอย่างเลี่ยงไม่ได้

04...

รู้สึกว่าใครไปที่นี่.... ก็ต้องแวะถ่ายมุมนี้กับบันไดวนที่แสนงามมุมนี้
บันไดนี้จะใช้เดินขึ้นไปยังชั้นลอยที่เป็นส่วนของ Function Room ครับ

05...

ยืนส่องไกลจากตรงบันไดวน ไปยัง ซุ้มดอกไม้ใจกล้างล็อบบี้

เคมปินสกี้ค่อนข้างให้ความพิถีพิถันกับดอกไม้ที่มาประดับมากๆ
ซึ่งก็จะใช้ดอกไม้สดจริงๆ มาตกแต่ง รวมไปถึงดอกไม้ที่ประดับอยู่ในห้องพักด้วยเช่นกัน

06...

มุมตรงนี้จะเป็น จะเป็นเคาเตอร์สำหรับเช็คอินครับ ...
แต่ตอนที่ผมไปเช็คอิน พนักงานพาไปเช็คอินตรงชุดโซฟาต้อนรับน่ะครับ

สัมผัสแรกที่ได้จากพนักงานบริเวณล็อบบี้
ต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ ครับ ... ยิ้มแย้มแจ่มใส นอบน้อม พูดจาและอัธยาศัยดีมากๆไม่เกี่ยงว่าแขกตรงหน้าจะเป็นคนไทย (ซึ่งแต่ตัวปอนๆ แบบผม 55+ )

07...

จริงๆ ผมว่าจะขอถ่ายรูป Lady in Red หรือสาวชุดแดงที่เป็นเหมือน
Brand Ambassador ของเคมปินสกี้สะหน่อยเห็นว่าน่ารัก

แต่มองซ้ายมองขวา ไม่ทราบว่าไปบริการแขกอยู่ตรงไหน เลยไม่มีรูปมาฝาก
รูปนี้เดินขึ้นไปถ่ายตรงชั้นลอยของล็อบบี้ครับ

08...

เก็บภาพของห้อง Grand Ballroom มาฝาก ...

วันนี้มีงานแต่งงานด้วยเห็นสต๊าฟกำลังเตรียมจัดดอกไม้กันอยู่เลย
ห้องเป็นแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาว โทนสีจะสว่างๆแบบในภาพครับ สวยงามไม่น้อย ... และราคาก็ไม่น้อยเช่นกันถ้าจะจัดงาน

09 ...

เดินลงมาชมความสวยงามของรอบๆล็อบบี้อีกครั้ง

มุมของเคาเตอร์เช็คอินจะมีสองฝั่งครับ
น่าจะเพียงพอรองรับ เวลาแขกเยอะๆได้เช่นกัน

ในช่วงเย็นๆ ไปจนหัวค่ำ ตรงล็อบบี้ก็จะมีชีวิตชีวาเยอะหน่อยเพราะไม่ว่าจะเป็นแขกที่มาพัก หรือ แขกที่มางานเลี้ยงก็จะเดินผ่านไปผ่านมาตรงนี้เป้นหลัก

10...

อย่าถามว่าทำไมรูปของผมผู้คนไม่มีเลย ...ผมตื่นมาถ่ายตอนตี 3 น่ะครับ

555+ เชื่อกันไหมเอ่ย ...

ภาพกว้างๆของล็อบบี้ครับ สวยงามมากจริงๆ ...
แค่ได้มานั่งเล่นๆ มองสถาปัตยกรรมชิ้นเอกนี้ ก็รู้สึกคุ้มมากแล้ว

11...

พนักงานเดินมาบอกว่าห้องพักที่ผมจองเอาไว้ยังทำความสะอาดไม่เรียบร้อย
ต้องรออีกราวๆ 1 ชั่วโมง ผมเลยขอเดินเล่นรอบๆ ถ่ายรูปไปพลางๆครับ

12...

เคมปินสกี้ จะแบ่งออกเป็นสองฝั่งน่ะครับ คือ Royal Wing และ Garden Wing ครับ ห้องพักก็จะคละเคล้าปนกันไปทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบ
ดีลักษ์เริ่มต้นไปถึงระดับห้องสวีทสูงๆ

เดินเล่นมาเรื่อยๆครับ ขอเริ่มต้นกันที่ห้องอาหาร
Sra Bua by Kiin Kiin ห้องอาหารสระบัว บาย คินคิน
เป็นห้องอาหารไทยครับ ... เดินเข้ามาก็จะเจอกับมุมนี้ก่อน
มีการจำลองสระบัวเล็กๆ ตรงมุมนี้สร้างบรรยากาศด้วย

13...

ที่มาของห้องอาหารนี้ต้องเท้าความไปตั้งแต่ปี 2000
หัวหน้าเชฟ คุณ Henrick Yde Anderson เชฟระดับติดดาวมิชลินชาวเดนมาร์ค
ได้มีโอกาสมาอยู่เมืองไทยและศึกษาอาหารไทยร่วม 3 ปี
หลังจากนั้นเค้าก็ได้กลับไปยังบ้านเกิดเดนมาร์คเปิดร้านอาหารไทยกับเพื่อน
ชาวไทยในชื่อ kiin kiin

และในปี 2009 นี่เองก็ได้มีโอกาสจากเคมปินสกี้ให้นำคอนเซ็ปต่างๆ
ของร้านคินคินมาเปิดเป็นร้านอาหารไทยในโรงแรมสยามเคมปินสกี้นี้เอง

14...

มื้อเย็นของห้องอาหารจะเปิดตอน 6 โมงเย็นครับ
ผมมาเดินถ่ายรูปช่วงบ่ายแก่ๆ เลยไม่มีผู้คนสะดวกหน่อย
เสียดายไม่ได้เอาขาตั้งกล้องมาด้วย ไม่งั้นภาพน่าจะเนี้ยบกว่านี้อีก

15...

ห้องอาหารสระบัวนี้ ได้รางวัล 2011 Thailand Best Restaurant ด้วยน่ะครับ
รวมทั้งยังได้คำชมในเรื่องไอเดียและรสชาติอาหารที่จะเป็นอาหารไทย
แต่มีดีไซน์ของหน้าตาที่ทำให้ผู้มากินแปลกตาไปจากที่คุ้นเคย

ตอนแรกว่าจะลองมากินมื้อเย็นที่นี่ แต่ไปๆมากินอยากกินเนื้อย่างขึ้นมา
เลยยอมนั่ง BTS ไปหาอะไรกินซะไกลเลย

16...

ภาพของห้องอาหารอีกมุมครับ ...

ขนาดของห้องอาหารกำลังดีครับ
ไม่ใหญ่มากและก็ม่ได้คับแคบเกินไป
ข้อมูลจากเว็บบอกไว้ว่าจุคนได้ราว 60-70 ที่นั่งครับ

17...

ส่งท้ายภาพของห้องอาหาร สระบัวด้วยรูปนี้ครับ

เดี๋ยวจะพาไปชมห้องอาหารหลักอีกห้องนึงของเคมปินสกี้
ซึ่งจะอยู่อีกฝั่งนึงเดินไปไม่ไกลนัก

18...

ห้องอาหาร Brasserie Europa ครับ
เป็นห้องอาหารหลักอีกห้องของเคมปินสกี้ ซึ่งเราก็จะมากินอาหารเช้ากันที่ตรงนี้ด้วย

19 .. ห้องอาหารตรงนี้เป็น All Day Dining ครับ
ตกแต่งแบบ ยูโรเปี้ยนสไตล์

20 ...

ขนาดจะกว้างกว่าห้องอาหารสระบัวพอควรเลยครับ
มีทั้งที่นั่งภายใน และที่นั่งด้านนอกริมสระว่ายน้ำแบบโอเพ่นแอร์

21 ...
ชมภาพบรรยากาของห้องอาหารไปเรื่อยๆ ละกันครับ

22 ...

ยังไม่มีแขกมานั่งกินข้าว เลยถ่ายรูปได้อย่างสบายใจหน่อย ...

มีคนถามว่าถ่ายยังไงให้ไม่ติดคน ตอบง่ายๆเลย เห็นมีคนก็อย่าไปถ่ายครับ
เพราะโดยมาก City Hotel จะค่อนข้างเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของแขก
ใจเขาใจเรา ถ้าเรานั่งกินข้าวแล้วมีคนมายืนๆถ่ายรูปมันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน

23....

มองดูนาฬิกายังเหลือเวลาอีกร่วมครึ่งชั่วโมงกว่าห้องจะเสร็จ

พนักงานเลยพาเราขึ้นไปนั่งรอที่ Executive Lounge ที่ชั้น 17 ของฝั่ง Royal Wing ซึ่งจากห้องที่พักก็ได้สิทธิ์การเข้าใช้เลาจน์ตรงนี้อยู่แล้วครับ

Benefit ของ Executive Lounge ถือว่าดีมากๆครับ จากรายละเอียด
จะมีที่เด่นๆคือบริการ Afternoon TEa และ Cocktail & Canape รอบเย็น

ตาลุกวาวตรงคอกเทลไม่อั้นนี่แหละครับ
เลยต้องตั้งนาฬิกาเตือนเอาไว้เลยจะได้ไม่พลาด

24...

ในส่วนของ Executive Lounge ก็ถือว่ากว้างขวางดีครับ
มีมุมให้นั่งหลายโซน มีอินเตอร์เนต มีทีวีบริการ รวมไปถึงห้องประชุมขนาดเล็กด้วย

25...

ก็จะมีทั้งวิวแบบริมกระจกชมกรุงเทพในมุมสูงแบบนี้ด้วย

26...
สิ่งที่ต้องชมเชยคือ พนักงานที่บริการอยู่ตรงเลาจน์นี้บริการและให้ความใส่ใจดีมาก คอยถามไถ่และบอกความคืบหน้าว่าห้องใกล้เสร็จแล้ว รบกวรคุณผู้ชายรออีกนิดนะคะ คงจะกลัวเราเบื่อที่ต้องนั่งรอ พยายามหาอะไรมาให้ทานเล่นตลอด

27...

ตรงนี้จะเป็นโซนโต๊ะรับประทานอาหารของเลาจน์แบบเป็นกิจจะลักษณะครับ
คือเราก็สามารถถือจานมานั่งกินตรงรูปข้างบนได้เหมือนกัน

แต่ตรงนี้จะใกล้กับตรงเคาเตอร์อาหารมากกว่าครับ
วันนี้ไม่ค่อยมีแขกมาใช้บริการ เลยเหมือนฟลอร์นี้เป็นของผมคนเดียวเลย

28...

สำหรับช่วง Afternoon Tea นี้ก็จะมีพวกแซนวิช พวกชีสเค้กบริการครับ
รสชาติใช้ได้ครับ

29...
ขอถ่ายอาร์ทๆ กับบริเวณชั้นวางแก้วสักใบครับ

30 ...

ไหนก็แปะรูปโซนเลานจน์แล้วขอรวดเดียวละกันน่ะครับ
คราวนี้มาเป็นช่วงเย็นครับ ตามเวลาคือราว 5 โมงเย็นถึง 1ทุ่ม
ซึ่งจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหารนิดหน่อยให้แขกแบบไม่อั้น
อาหารก็จะมีเยอะพอประมาณครับ กินเล่นๆ หรือกินจริงจังก็พออิ่มได้อยู่

31 ...

ไฮไลท์อีกอย่างของตรงนี้เห็นจะเป็นมุมทำแซนวิชแบบ Made-to-order ครับ
ก็จะมีขนมปังหลากหลายชนิด รวมทั้งเนย ชีส และพวกแฮม เบคอน
แซลมอนรมควันต่างๆ ให้แขกสามารถเลือกได้ตามใจชอบครับ

อยากกินแบบไหน สอดไส้อะไรก็เลือกได้เลยครับ เดี๋ยวน้องพนักงานก็จะทำให้เราและมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะเอง

32...

มาดูตรงมุม Canape และก็พวกอาหารคาวหนักๆครับ
จำเมนูมาไม่ได้หมดก็จะมีพวกข้าวผัด มีซูชิ พวกยำต่างๆ

33...
เดินกลับมาที่โต๊ะแซนวิชชิ้นโตที่สั่งเอาไว้ก็มานอนรอที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ชิ้นนี้ชิ้นเดียวเล่นเอาอิ่มกันเลยทีเดียว

34...

พวกเครื่องดื่มต่างๆ ก็สั่งได้เลยครับ
ถามพนักงานบอกว่าไม่มีเมนูครับ คุณผู้ชายอยากกินอะไรก็สั่งมาเลยครับ
เออ ดีแฮะ ... ว่าแล้วก็สั่งไหมไทย มาแก้ง่วงสักแก้ว
จริงๆก็จะมีทั้งน้ำผลไม้ปั่น รวมไปถึงไวน์ขาว ไวน์แดงก็มีพร้อมครับ

35...

ขอตัดภาพมาที่ T Lounge ครับ จะอยู่ชั้น 1 ใกล้ๆกับห้องอาหารสระบัว
เป็นมุมที่เอาไว้พบปะพูดคุยกัน หรือนั่งผ่อนคลาย ก็จะมีชาต่างๆจากหลากหลายมุมทั่วโลกมาให้ลิ้มลอง
เห็นมีหลายคนในช่วงบ่ายก็สั่งชุด Afternoon Set นั่งกินกันใหญ่เลย ..
ส่วนผมขอบายเพราะอิ่มมากๆ มาจาก Executive Lounge แล้ว

36...
T Lounge อีกมุมนึงครับ
ในตอนกลางคืนก็จะมีการเล่นเปียโนสดๆ ด้วยน่ะครับ
เป็นอีกมุมที่แขกเลือกจะมานั่งชิลลกันครับ

37...
เดินถ่ายรูปอยู่ไม่ถึงนาที ...
เดี๋ยวจะพาไปชมห้องพักกันครับ

38...

กดลิฟท์ขึ้นมา ...

ระหว่างทางเดินก็จะมีงานศิลปะดีไซน์สวยๆ ตั้งไว้ตลอดข้างผนังครับ
พนักงานบอกว่ารวมทั้งโรงแรมนี้จะมีผลงานพวกศิลปะแบบนี้รวมๆ 4 พันชิ้นเลยครับ เยอะมาก

ห้องพักในส่วนของโรงรมแคมปินสกี้มีทั้งสิ้น 303 ห้องครับ
เริ่มจากห้องเริ่มที่ Deluxe Room ไปจนถึงห้องระดับ Royal Suite

สำหรับวันนี้ผมจะพาไปชมห้องแบบ Executive Suite ครับ
ตามมากันเลย

39...

ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก็เล่นเอานิ่งไปอยู๋ราว 5 วินาทีครับ
ห้อง Executive Suite ห้องนี้สวยงามมากจริงๆ

เปิดเข้ามาจะมีห้องน้ำเล็กๆขวามือครับ
ตรงเข้าไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น

40...
ดูข้อมูลจากในเว็บ ห้องนี้จะเป็นห้อง สวีท เริ่มต้นของเคมปปินสกี้น่ะครับ
ค่อยเดินเข้ามาสำรวจในห้องพักของเรากันต่อ....

มุมขวามือตรงนี้ก็จะเป็นมุมโต๊ะทำงาน
มองไปไกลๆ มี Welcome Fruit รอเราไว้พร้อมแล้ว

41...
ผมชอบการให้สีภายในห้องพักมากครับ
โทนที่ออกมา เวลาพักแล้วอบอุ่น รวมถึงการจัดแสงในห้อง
ให้ความสว่างสูงสุดที่กำลังดี ไม่มืดเกินไปแล้วก็ไม่ได้สว่างมากจนรู้สึกแสบตา

42..

ด้านหลังโต๊ะทำงานที่เห็นเป็นตู้ไม้นั่นเป็นมุมของมินิบาร์น่ะครับ

ตู้เย็นก็จะซ่อนอยู่ในตู้นั่น ซึ่งเครื่องดื่มต่างๆในตู้เย็นเราสามารถทานได้ฟรีหมด มีทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม มีเบียร์ให้หลายประป๋องเหมือนกัน
ผมชอบโรงแรมที่ดูแลตรงนี้ให้แขกเพราะห้องระดับสวีทมักจะราคาสูงอยู่แล้ว

การ Complimentary ตรงนี้ได้ทั้งซื้อใจแขกและแขกจะได้หยิบกินได้อย่างสบายใจไปเลย

43...

รูปวาดเขียนที่แปะไว้ตรงห้องนั่งเล่นครับ
การออกแบบก็จะเป็นแบบไทยผสมผานกับทางยุโรปครับ ซึ่งทำได้เนียนตาดีมากๆ

44...

ถ้าจำไม่ผิด Siam Kempinski ก็พึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็น World Hot List ในปี 2011 ของนิตยสาร Conde Nast ด้วย
ซึ่งที่ตามดูมาหลายปี Hot List ของ Conde Nast นั่นเชื่อถือได้มากๆ
ว่าเป็นโรงแรมที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมจริงๆครับ
ในแต่ละปีก็จะมีรีสอร์ทของไทยติดอยู่บ้างประปราย
ลองตามไปหาข้อมูลกันดูครับ

45...

สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนั่นก็ครบถ้วนดี
ใช้ Internet TV ตามสมัยนิยม

เดี๋ยวตามไปดูในห้องนอนกันต่อ

46...

เดินเข้ามาเตียงนอนอยู่ซ้ายมือ ด้านขวาเป็นห้องน้ำซึ่งเป็นกระจกใสติดกับเตียง
คิดว่าจากนี้ไปเทรนด์การออกแบบคงจะเป็นแบบนี้กันหมดแล้ว

47...
ภาพของห้องนอนแบบกว้างๆครับ
ในห้องนอนก็จะมีทีวีไว้ให้อีกเครื่องนึง

48...
เราเริ่มกันจากห้องน้ำก่อนเลยครับ

49...

ขนาดของห้องน้ำจะไม่ได้ใหญ่มากนัก
แต่แยกสัดส่วนเอาไว้ชัดเจนดีครับ อ่างล้างหน้ายังมีแค่อันเดียว

50...

มองอีกมุมนึงครับ

51...

มองจากมุมห้องน้ำออกไปยังห้องนอนครับ

ตรงอ่างอาบน้ำนั่นมีม่านไฟฟ้าที่เลื่อนลงมาปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัวน่ะครับ
แต่ใครจะเปิดแบบโล่งๆ แล้ว แช่อ่างไปดูทีวีไปก็เพลินดีครับ
เพราะโรงแรมจะต่อลำโพงจากทีวีเข้ามาในห้องน้ำให้ด้วย

52...

ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Molton Brown
แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่นของมันเท่าไหร่ ปกติผมจะชอบกลิ่นที่มันดูบูติก
ให้อารมณ์สปาอย่างพวกกลิ่นตะไคร้ พวกนั้นมากกว่า

53...

ภาพของห้องนอนอีกมุมครับ
ความนุ่มหลับสบายของเตียงนั่นไม่ต้องพูดถึงครับ
เล่นเอาตื่นสายกันไปเลยทีเดียว

ตรงหัวเตียงก็เป็นรูปดอกบัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของสยาม เคมปินสกี้
ก็น่าจะเป็นเพราะการตั้งอยู่บนพื้นที่ติดกับวังสระปทุมนี่แหละครับ

ระเบียงด้านนอกนั่น ก็จะเชื่อมกับระเบียงตรงห้องนั่งเล่นด้วยครับ
นั่นก็จะทำให้ระเบียงข้างนอกของห้องกว้างมากๆครับ มีเตียงให้นอนเล่นด้วย

ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมา

54...

เดินไปมาในห้องอยู่พักนึงเลยละครับ
ถ่ายรูปแล้วมีความสุขเพราะสวยไปซะทุกมุมมองจริงๆ

ตรงโต๊ะรับแขกก็จะมีผลไม้ตามฤดูกาลเอาไว้และก็จะมีข้อมูลให้อ่านด้วย

55...

ช่วงที่ผมไปพักนั้น ยังเป็นหน้าฝนอยู่เลยครับ ฝนค่อนข้างตกเกือบทั้งวัน
แม้จะไม่หนักมาก แต่ก็ทำให้พลอยอดว่ายน้ำไปด้วยเลย ...

56...

บางคนบอกว่าสระว่ายน้ำที่นี่ไม่ค่อยส่วนตัวนักเพราะออกแบบให้อยู่ตรงกลางของพื้นที่
ซึ่งถ้าคนนั่งกินข้าวจากห้องอาหาร Brasserie หรือ จากตรงT-Lounge จะมองเห็น

แต่ส่วนตัวผมเท่าที่ดูนี่เฉยๆน่ะครับ กลับมองว่าเป็นจุดเด่นและออกจะเอนไปทางชอบมากกว่าด้วย
เพราะมองแล้วเค้าให้ความสำคัญในการสร้างบรรยากาศให้โรงแรมเป็นเหมือน City-Resort กลายๆ ครับ

ซึ่งสระว่ายน้ำพวก City Hotel ส่วนมากจะเอาไปไว้ชั้นลอยสูงๆ
เป็นสระแบบสี่เหลี่ยมเรียบๆ ซึ่งขนาดจะไม่ใหญ่มาก ในขณะที่สระว่ายน้ำของเคมปินสกี้จะค่อนข้างใหญ่และมีมุม มีรูปร่างที่น่าจะว่ายสนุกกว่า

57...

ถ้าเป็นวันที่แดดแรงๆ
เตียงอาบแดดเหล่านี้ก็น่าจะถูกจับจองไปเรียบร้อยแล้ว

Final ...

สรุปแล้ว ...เคมปินสกี้ยอดเยี่ยมมากในหลายๆจุด

ด้านบริการทำได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ให้ความรู้สึกว่า 5 ดาว จริงๆ
โดยเฉพาะชั้น Executive Floor ที่น่ารักทั้งอัธยาศัยและการดูแลแขก
ส่วนของห้องพักนั้นก็ถือว่าออกแบบได้ดีจริงๆ ลงตัวทั้งในเรื่องการใช้สี การให้อารมณ์ของการพักผ่อนในห้อง

รวมทั้งสะท้อน "รสนิยม" ที่ลงตัวของศิลปะของไทยและยุโรปได้อย่างดีมากๆ
ไม่รู้จะบอกยังไง ผมประทับใจกับที่นี่มากจริงๆ ครับ...
ตั้งใจเอาไว้แล้วถ้าได้โปรโมชั่นที่พอสมเหตุสมผลก็อยากจะกลับไปพักอีกครั้ง

ผมให้คะแนนของโรงแรมสยามเคมปินสกี้นี้ไว้ใน หน้าเฟซบุคแฟนเพจซะสูงมากๆ คือ
ได้ 4.75/5 น่าจะเป็นอันดับหนึ่งของโรงแรมในกรุงเทพปีนี้ที่ได้ไปพักมาเลย
ปีหน้ามีสามโรงแรมแน่ๆ ที่จ่อเตรียมไปสัมผัสคือ โอเร็นเต็ล, Hotel Okura และ W Bangkok เอาไว้จะมารีวิวให้ดูกันอีก ...
ตอนนี้โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพทยอยเปิดแข่งกันสนุกเลย
ปั้มเงินตามไม่ทันแล้วค้าบบบ 555+

ลากันด้วยภาพนี้ครับ เป็นภาพจากตรงสระว่ายน้ำในยามค่ำคืน

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมารับชมครับ ช่วงนี้ปล่อยรีวิวรีสอร์ทที่พักเยอะหน่อย
กำลังเคลียร์ภาพเก่าๆ ที่ดองๆ เอาไว้ให้หมด

ตั้งใจจะรีวิวทริปเนปาลที่ค้างเอาไว้ แบบรวดเดียว 3 ตอนจบให้ได้ก่อนสิ้นปีนี้

พบกันใหม่รีวิวหน้าครับ ....

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 6 พฤศจิกายน 2554 11:36:17 น.

5 comments

Counter : 7789 Pageviews.

ถ่ายรูปสวยมากๆค่ะ

รอชมรีวิวด้วยคนนะคะ

โดย: สาวหน้าใส

วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:22:51 น.

Lily ขอเก้าอี้fbนะคะ

โดย: สาวหน้าใส

วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:12:27:16 น.

รูปสวย โรงแรมน่าพักมากค่ะ
หลงเรียก พี่ซิกมานาน ที่แท้ต้องเรียก น้องซิก ถึงจะถูกจ๊ะ

โดย: แป้งสีฝุ่น (แป้งสีฝุ่น

) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:14:26 น.

โดย: Kavanich96

วันที่: 7 พฤศจิกายน 2554 เวลา:4:20:37 น.

รับสมัคร นักเรียน นักศึกษา หรือพนักงานประจำ

ที่ต้องการหารายได้เสริม

แบบPast-time รายได้ 5000-10000 บ/ด
แบบFull-time รายได้ 10000-20000 บ/ด

คุณสมบัติของผู้ที่สนใจ !!
- ชาย/หญิง ที่มีเวลาและสนใจในการทำงาน
- สามารถใช้คอมพิวเตอร์ Internet พื้นฐานได้
- อายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไป
- ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์
FULL-TIME 20,000 บาทขึ้นไป / เดือน

คิดรายได้ให้เราทุกวันและโอนเงินผ่าน ATM ทุกวันพฤหัส 1 เดือนโอน 4 ครั้ง ดูรายละเอียดก่อนได้นะคะ
อยากเป็นวัยรุ่นที่ First Class มีเงินใช้สอยอย่างไม่ขาดสาย

สามารถตอบโจทย์ชิวิตของคุณได้

คุณเองก็สามารถประสบความสำเร็จอย่างเราได้
โอกาสที่ดีมาถึงคุณแล้ว สนใจกรอกข้อมูลเพื่อรับรายละเอียด(รับจำนวนจำกัด)
//www.thefirst-one.com/clients/join/031885

โดย: กัญญารัตน์ IP: 124.120.76.80 วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:3:04:37 น.