[Life&Travel #03] .. ผืนน้ำจรดขอบฟ้า ตะวันลับตาที่ Hilton Pattaya Hotel ..
สวัสดีครับทุกท่าน ช่วงนี้พบกันบ่อยหน่อย ....
นิตยสาร Life & Travel นี้ ผมตั้งใจเป็นแม็กกาซีนออนไลน์สำหรับคนรักการท่องเที่ยว อยากให้เป็นทั้งคู่มือการเที่ยวแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมา
ดีไม่ดีก็ว่ากันไปตามที่เห็น พร้อมเป็นทั้งสมุดภาพบันทึกความทรงจำ และเป็นทั้งแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ออกเดินทาง
หลักๆ แล้วตั้งใจพยามจะให้เป็นการรีวิวท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สัมผัสวิถีชุมชน พาไปดูแง่มุมที่ไม่ค่อยได้พบเจอครับ ก็จะพยายามทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจ
ซึ่งการบรรยายก็จะเป็นสไตล์ผมที่จะไม่ได้เน้นข้อมูลนัก จะเป็นแนวเล่าเรื่องให้ฟังมากกว่า พ่วงด้วยการบ่นๆ ไปตามอารมณ์ช่วงนั้น
อีกอย่างที่ตั้งใจคือ เรื่องการรีวิวที่พัก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งหลังๆ ผมไม่ค่อยได้รีวิวเท่าไหร่ เพราะเวลาที่ค่อนข้างจำกัดกับจำนวนภาพที่เยอะในการรีวิวหนึ่งครั้ง
สุดท้ายหวังว่าหนังสือ Life & Travel คงจะมีประโยชน์ให้กับผู้ชมบ้าง ไม่ว่าจะเป็นด้านความบันเทิง หรือสาระที่ผมได้สอดแทรกลงไป
หากมีคำถาม ข้อติชม คำแนะนำ บอกได้ครับ ผมน้อมรับทุกฟีดแบ็ค หรืออยากให้พาไปเที่ยวไหน อยากให้ไปถ่ายรูปที่ไหนมาฝาก ก็ลองเมล์หรือหลังบ้านมาบอกกันได้ครับ
ถ้าพลังแห่งจักรวาลส่งคลื่นแม่เหล็กให้ใจเราตรงกัน อาจจะได้เห็นรีวิวที่คุณอยากเห็นในไม่ช้า

เช่นเคย ... ถ้าชอบ Life &Travel แวะไปกด Like ให้กำลังใจกันได้ครับที่ //www.facebook.com/thesixthfloorgallery

เชิญรับชมครับ

ผมผ่านไปแถวพัทยาหลายครั้งในช่วงขวบปีที่ผ่านมา และก็เห็นการก่อสร้างตัวโรงแรม Hilton มาโดยตลอดครับ
โรงแรมนี้น่าสนใจมากเพราะตั้งอยู่ด้านบนของห้าง Central Festival พัทยา เรียกได้ว่า แขกที่มาพักที่โรงแรมนอกจากจะมีความสุขกับการพักผ่อนบนห้อง ก็สามารถเดินลงมามีความสุขกับการช็อบปิ้งได้ทันทีเลย
......
 By staywithstyle ......
และในที่สุดการรอคอยของใครหลายคนก็สิ้นสุดลงเมื่อ Hilton ประกาศเปิดให้แขกเข้าพักได้
ช่วงแรกที่เป็น Soft Opening คนก็แห่กันไปพักกันจำนวนมากเลยละครับ
......
 By staywithstyle
การปล่อยราคา Soft Opening ออกมา เป็นการตลาดที่ฉุดความสนใจ ของผู้บริโภคได้อย่างดี ระยะเวลาในการตัดสินใจ และเปรียบเทียบความคุ้มค่าจะสั้นลง
ใครหลายคนอาจแค่มองวันว่างก็จองห้องพักได้เลยโดยอาจจะคิดน้อยกว่าการจองราคาปกติ เป็นเคสเดียวกับการจัดโปรโมชั่นในสินค้าอื่นๆ ที่ลดระยะการไตร่ตรอง
จริงๆแล้วโรงแรมในช่วง Soft Opening ควรจะใช้ประโยชน์จากการเปิดใหม่ และรองรับแขกในช่วง period แรกนี้ให้มากที่สุด สิ่งนั้นคือ Feedback และผลความพึงพอใจ
เพราะจะได้ทราบถึงปัญหา และจุดบกพร่องที่ตกหล่นไป ถึงแม้จะเป็นเชนด์ใหญ่ๆ แต่การทำงานบริการกับ คน ย่อมมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และนอกเหนือจากการคาดการณ์ไว้เสมอ
 By staywithstyle
เคยมีคนบอกผมว่า ยกตัวอย่าง ถ้าเปิดร้านขายข้าวแล้วคนแน่นเอี๊ยดในช่วงเดือนแรกเลย เจ้าของร้านคนอื่นอาจจะมองว่าดีได้เงินหมุนเวียนเยอะ แต่สำหรับเค้าไม่ดีเลย เพราะมันจะเกินความสามรถในการควบคุม และพอเกิดปัญหาแล้วแก้ไม่ใหวจะส่งผลระยะยาวให้คนไม่มาให้บริการอีก สู้ให้จำนวนคนมาใช้บริการกำลังดีๆ ...แล้วเพิ่มพูนฐานลูกค้าไปเรื่อยๆดีกว่า
 By staywithstyle ....
หลังจากจอดรถก็เดินขึ้นลิฟท์มาครับ ก็ค่อนข้างงงๆ เดินหาทางเข้าอยู่นานเหมือนกัน เพราะป้ายตรงที่จอดรถไม่ค่อย ชัดเจนเท่าไหร่ครับ
ตอนแรกเดินไปออกในส่วนของ Central เล่นเอาเดินไกล แต่สุดท้ายก็หาเจอ
เรามาเริ่มต้นกันที่ส่วนของล็อบบี้ก่อนเลย
 By staywithstyle
.....
จะเห็นว่าที่นี่ใช้สีการตกแต่งในส่วนของล็อบบี้นี้ด้วยสีครีม ตัดด้วยเฟอร์สีเอิร์ทโทน ซึ่งทำให้รู้สึกสบายตาและผ่อนคลายไม่น้อย
.....
 By staywithstyle
คอนเซ็ปการออกแบบคือ "สายลม ก้อนหินและเกลียวคลื่น" อันนี้ผมคิดชื่อเอาเองน่ะ
สรุปเองจากการเดินดูงานตกแต่งโดยรอบ ซึ่งไม่รุ้ว่าตรงกับเจตนารมณ์ของคนออกแบบจริงๆรึเปล่า
การใช้ผ้าทำเป็นเกลียวคลื่นบนเพดาน สร้างความสะดุดตาจากแขกได้ดีมากครับ สวยงาม ยามสายลมพัดเอื่อยๆ พลอยให้พลิ้วดั่งคลื่นดูมีชีวิตชีวามากๆ อันนี้ขอชม ....
 By staywithstyle
......
ยามค่ำคืนเมื่องานดีไซน์ชิ้นเด่นนี้เล่นกับแสงไฟดาวไลน์ก็สวยงามและได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ
จริงๆการชมความงามของการออกแบบโรงแรมรีสอร์ทต่างๆ นี้ แนะนำควรเป็นช่วงเย็นๆไปถึงกลางคืนครับ เดินชมกลางวันอาจจะยังไม่สมบูรณ์เพราะนักออกแบบเค้ามักจะคำนวนลูกเล่นของแสงไฟเข้าไว้ด้วย
......
 By staywithstyle
ผมใช้เวลาเช็คอินอยู่พักใหญ่ๆครับ ... แขกค่อนข้างเยอะทำให้บริเวณล้อบบี้ไม่มีที่ว่างกันเลยทีเดียว ในรูปนั่นลงมาถ่ายช่วงค่ำๆน่ะ
หลายคนที่เคยไปพักอาจจะมีติติงเรื่องเวลาที่ใช้ในการเช็คอิน สำหรับผมก็ยังถือว่าโอเคครับ อาจจะช้าแต่พอรับได้
.....
 By staywithstyle
......
เดี๋ยวพาขึ้นไปชมห้องก่อนครับ ....
ลูกเล่นกับมิติของแสงไฟ สวยดี เขื่อว่าใครไปก็ต้องถ่ายมาเก็บไว้
......
 By staywithstyle
ห้องพักแบบ Deluxe ครับ เดินเข้ามาจะเจอห้องน้ำอยู่ซ้ายมือด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้า ก็รีเควส Double Bed ไป ได้ตามที่ขอ
 By staywithstyle
ตอนแรกก็แอบอยากให้คนเยอะๆ ตอนเช็คอินแล้วแม่บ้านทำห้องไม่ทัน เผื่อว่าจะโดนอัพเกรดไปห้องสวีท แต่ปรากฏว่าแห้ว 555+
เท่าที่อ่านดูจากหลายๆรีวิว รู้สึกว่า ฮิลตันเลือกจะไม่ใช้นโยบายอัพเกรดกับแขกในช่วงแรกนี้เท่าไหร่ครับ บางท่านเลยบ่น เพราะกว่าจะได้ห้องกันก็ปาเข้าไป 4-5 โมงเย็น ทั้งที่ควรจะได้ห้องตามเกณฑ์บ่าย 2 จริงๆ ควรอัพเกรดไปบ้างบางส่วน เพื่อซื้อใจแขกไปเลยเหมือนหลายๆ ที่
......
 By staywithstyle
...... จากข้อมูลห้องพักทั้งหมดมีทั้งสิ้น 302 ห้องครับ มีห้องพักหลากหลายประเภทให้เลือกพัก
ตั้งแต่ห้องดีลักซ์ Deluxe ไปจนถึงห้องสวีท Suite ห้องที่แพงที่สุดจากหน้าเว็บคือ King Grand Ocean Suite ราคาน่าจะเอาการอยู่ เห็นว่ามีอ่างริมระเบียงชมวิวทะเลกันแบบสวยงามเลยทีเดียว
 By staywithstyle
......
ดูในรูปถือว่าห้องน้ำจัดว่าหวาบหวิวอินเทรนด์ไม่น้อยครับ โดนใจชั้นหก 555+ ถ้าใครขี้อายก็สามารถกดปุ่มเลื่อนม่านไฟฟ้าลงมาได้ครับ แต่จากการพิจารณาม่านดังกล่าว ก็ไม่ถึงกับปิดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ครับ ถ้าไปยืนมองใกล้ๆก็เห็นอยู่บ้างให้พอหวั่นไหว
อ่างล้างหน้าจัดมาให้อ่างเดียว Amenities ต่างๆ มีมาให้เกือบครบ การแบ่งส่วนแห้งแล้วส่วนเปียกในห้องน้ำทำได้ดีครับ ใช้การเลื่อนผนังปิดไปมา
 By staywithstyle
ที่งงๆ ตอนแรกเข้าไปคือปุ่มสวิชไฟต่างๆ ครับ
ทำความคุ้นเคยอยู่ตั้งนาน อยากให้ตรงนี้สว่างก็ดันไปเปิดตรงนู้น อยากปิดตรงนี้ก็ดันไปเปิดตรงนู้น มั่วไปมาอยู่พักใหญ่ๆ
อ้อ... สิ่งประทับใจอย่างนึงคือระบบเครื่องปรับอากาศเงียบมากครับ ตอนแรกนึกว่าแอร์ไม่ทำงาน ก็กดเปิดปิดอยู่สองรอบ จริงๆแล้วแอร์ทำงานเพียงแต่เงียบมากจนแทบไม่รู้สึกเลย
 By staywithstyle
มุมทันสมัยเล็กๆ บริเวณโต๊ะหัวเตียง
ไม่รู้ว่าท่านอื่นคิดเหมือนผมรึเปล่าหมอนสแตนดาร์ดที่ฮิลตันใช้ค่อนข้างนุ่มมาก ตื่นมาแอบปวดคอเล็กๆ
 By staywithstyle
ภายในห้องใช้สีขาวครีมและโทนเย็นสีฟ้า เป็นหลักในการตกแต่ง เน้นเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความทันสมัย
 By staywithstyle
มุมห้องอีกด้านนึงก็จะเป็นโต๊ะทำงานครับ ก็ไม่ค่อยได้นั่งเท่าไหร่ เพราะมีเดย์เบดอยู่อีกฝั่งไว้นั่งชิลมากกว่า
 By staywithstyle
เดย์เบดที่กล่าวไปครับ สามารถหมุนได้รอบด้านด้วยน่ะ ผมยังหมุนหันออกไปนั่งชมวิวนอกหน้าต่างในตอนกลางคืนเลย
 By staywithstyle
โดยรวมห้องพักถือว่าโอเคเลยครับ สำหรับการเป็นห้องแบบเล็กสุดของที่นี่
ในรูปลงไม่หมด ...สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ครบน่ะครับในห้อง ไม่ว่าจะเป็นเซฟบ็อค เตารีด มินิบาร์ เสื้อคลุมอาบน้ำ
 By staywithstyle
เดี๋ยวเราลงไปเดินเล่นในส่วนอื่นกันต่อครับ
 By staywithstyle
เริ่มจากขอพาไปชม Infinity Pool ของที่นี่ครับ ส่วนตัวคิดว่าเล็กไปหน่อย
ในช่วงบ่ายจนลากยาวไปถึงช่วงเย็นๆ แขกของโรงแรมทั้งคนไทยและต่างชาติจะมารวมตัวกันตรงนี้ซะเยอะเลย เล่นเอาทำให้สระที่เล็กยิ่งดูเล็กลงไปอีกครับ
ที่นั่งรูปทรงไข่ สัญลักษณ์ของมุมนี้ก็มักจะถูกจับจองกัน ตั้งแต่เช้า สาย บ่าย เย็น เรียกว่าถ้าจะถ่ายรูปตอนไม่มีคน อาจจะต้องตื่นแต่เช้าตรู่กันเลย
 By staywithstyle ......
ใกล้ๆกันมีมุมบาร์ในชื่อ Shore
ผมมองดูแล้วคนเยอะครับ ไม่เชื้อเชิญให้ถ่ายรูปสักเท่าไหร่ มองไปมาถ่ายได้มา 2- 3 ช็อตก็ตัดสินใจเดินออกจากมุมนี้ดีกว่า
.....
เดินลอยไปลอยมา ในช่วงเย็นๆ ก็ยังเห็นมีแขกทยอยมาเช็คอินเรื่อยๆ
ผมพาตัวเองพร้อมกล้องคู่ใจเดินผ่านส่วนของล็อบบี้ไปยังอีกโซนไฮไลท์ของฮิลตัน
จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก เลาจน์ในชื่อ Drift ครับ ซึ่งตั้งอยู่ติดกับล็อบบี้เลย
 By staywithstyle
ผมเดินไปเดินมาอยู่พักนึงระหว่างตรงสระว่ายน้ำกับตรงเลาจน์
และก็รู้สึกชอบตรงนี้มากกว่า ....
ตัดสินใจนั่งเล่นรอแสงช่วงพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้ครับ ได้รูปมาฝากหลายมุมเลย
 By staywithstyle
ตอนผมไปไม่มีแขกมานั่งเล่นตรงนี้เท่าไหร่
ส่วนใหญ่ไปกระจุกตัวกันอยู่ที่สระว่ายน้ำและตรงบาร์ ซะส่วนใหญ่ครับ เลยถ่ายรูปได้อย่างสบายไม่ต้องไปรบกวนแขกท่านอื่นเท่าไหร่
 By staywithstyle
......
การตกแต่งและเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์รูปทรงกลมและรี เพื่อให้ความรู้สึกเป็นเหมือนก้อนหินก้อนกรวดริมหาดทรายกระมั้งครับ
รูปทรงแบบนี้เลยให้อารมณ์ที่พลิ้วไหวมาก
เมื่อรับส่งกับแสงอาทิตย์ยามอัสดงเช่นนี้ช่างเข้ากันดีเหมือนชีสเค้กนุ่มๆคลอเคลียกับชาร้อนๆ มิปาน
......
 By staywithstyle ง่ายๆเลย มันสวยงามมากครับ ....
ในตอนกลางวันอาจจะร้อนและไม่น่านั่งเท่าไหร่ แนะนำเลยว่า ช่วงแดดเริ่มเบาลงสัก 4-5 โมงไปลองมาสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งชมวิวตรงนี้ อาจจะทำให้เคลิ้มจนไม่อยากลุกไปไหน
 By staywithstyle at 2011-05-20
Daybed ทรงรีเหล่านี้บางอันใหญ่มากจนสามารถนั่งเล่นกับหมู่เพือนฝูง 4-5 คนพร้อมกันได้สบายๆครับ
วิวดี บรรยากาศเลิศ เสียอย่างเดียวทางโรงแรมไม่ได้จัดโปรโมชั่นเครื่องดื่มช่วง Happy Hour ไม่งั้นจะสั่งให้เมาคอพับมันตรงนี้เลย 555+
 By staywithstyle
บรรยากาศก็ค่อยๆโรแมนติกเพิ่มขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ในขณะที่แสงไฟต่างๆของ Drift เริ่มเจิดจ้ามากขึ้น
 By staywithstyle
ทุกวินาทีในช่วงฟ้าทไวไลท์ถือเป็นช่วงแห่งมนตราของธรรมชาติ สีสันท้องฟ้าจะแตกต่างกันไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังหยอกล้อเล่นกับผู้ชมอย่างเรา
Drift จะแบ่งเป็นสองโซนครับ คือในห้องแอร์และด้านนอกซึ่งเป็นโอเพ่นแอร์
 By staywithstyle
พามาชมด้านในครับ
 By staywithstyle
ก็เลือกนั่งกันได้ตามสบายครับ ว่าชอบแบบห้องแอร์เย็นๆหน่อยหรือจะชอบ สูดอากาศชมวิวทะเลแจ่มๆ ด้านนอก
 By staywithstyle
ส่วนตัวแล้วจากการไปพักมา ประทับใจตรงส่วนของ เลาจน์ดริฟนี่แหละครับ
จริงแล้วไฮไลท์อีกอย่างของฮิลตันคือห้องอาหารชื่อ Horizon บนชั้นดาดฟ้าของฮิลตันครับ แต่ตอนที่ผมไปพักนั้นยังตกแต่งไม่เรียบร้อย น่าเสียดายมากๆ อดขึ้นไปเก็บภาพ คิดว่าปลายปี 2554 นี้ น่าจะเรียบร้อย
น่าจะเป็นห้องอาหารแบบ Rooftop สุดยอดแห่งหนึ่งในพัทยาแน่ๆครับ
 By staywithstyle
หันไปมองด้านนอก พระอาทิตย์ก็ลาเราไปทักทายคนที่ฝั่งของโลก
ผมเป็นคนที่หลงรักช่วงพระอาทิตย์ตกน้ำเสมอ ระยะเวลาสั้นๆ แต่เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำไม่น้อย
 By staywithstyle
สุดท้ายแล้วขอจบรีวิว Life & Travel ฉบับ ฮิลตัน พัทยาไว้แค่นี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายมารับชมกันอยู่เสมอครับ แล้วเจอกันใหม่ในเร็วๆนี้ครับ
Create Date : 20 พฤษภาคม 2554 |
|
5 comments |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 22:01:45 น. |
Counter : 5372 Pageviews. |
|
 |
|