ผู้ใดมีปัญญาผู้นั้นเห็นเรา1
บุรุษทุกผู้ล้วนแต่กระหายน้ำ
-บุรุษที่หนึ่ง บุรุษที่หนึ่งแย่งชิงน้ำจากผู้อื่นมาดื่มกิน แต่ทว่าน้ำนั้นหมดไปอย่างรวดเร็ว และเขากลับยิ่งกระหายมากขึ้นกว่าเดิม
-บุรษที่สอง บุรุษที่สองแบ่งน้ำของตนให้ผู้อื่นดื่มกิน ทว่าน้ำของเขากลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งผู้อื่นก็แบ่งปันน้ำให้แก่ชายคนนี้ ทว่าแม้น้ำจะมากมาย แต่เมื่อเขาดื่มน้ำหมดไปแล้วความกระหายน้ำก็ยังคงอยู่ ความกระหายและการดื่มน้ำจึงสลับวนเวียนกันอยู่เช่นนั้นเรื่อยไป
เช่นนี้แล้ว บุรุษที่หนึ่ง กับ บุรุษที่สอง เป็นอย่างไหนดีกว่ากัน -----------------------------------------------------
-บุรุษที่สาม บุรุษที่สามรินน้ำออกจากขวดได้โดยไม่มีวันหมด จะดื่มเท่าใดก็ได้ตามต้องการ แต่ทว่าเมื่อหยุดอื่มก็ยังคงกระหายน้ำอยู่ ซ้ำนานไปกลับยิ่งกระหายน้ำมาก และยิ่งกระหายมากก็ยิ่งเปิดขวดน้ำได้ยากยิ่ง
เช่นนี้แล้ว บุรุษที่หนึ่ง บุรุษที่สอง และบุรุษที่สาม เป็นอย่างไหนดีกว่ากัน -----------------------------------------------------
-บุรุษที่สี่ บุรุษที่สี่ค้นพบความจริงว่า "กระหายน้ำคืออะไร ทำไมถึงกระหายน้ำ ไม่กระหายน้ำเป็นเช่นไร และทำอย่างไรถึงไม่กระหายน้ำ" เช่นนี้แล้วบุรุษที่สี่ จึงไม่กระหายน้ำอีกต่อไป
เช่นนี้แล้ว บุรุษที่หนึ่ง บุรุษที่สอง บุรุษที่สาม และบุรุษที่สี่ เป็นอย่างไหนดีกว่ากัน ? -----------------------------------------------------
มนุษย์ทุกผู้ล้วนแต่กระหายความสุข
-ความเชื่อที่0 เราชิงความสุขมาได้จากผู้อื่น ทว่าสุขนั้นหมดไปอย่างรวดเร็วและเรากลับยิ่งทุกข์ ด้วยหวาดระแวง จึงทุกข์ยิ่งกว่าเก่า
-ความเชื่อที่1 สิ่งศักดิสิทธิ์ ความเชื่อที่สอนให้ศรัทธาในสิ่งศักสิทธิ์ ให้เราแบ่งความสุขให้แก่ผู้อื่น ได้รู้จักสุขจากการให้ อีกทั้งผู้อื่นก็แบ่งปันความสุขให้แก่เรา ทว่าแม้สุขจะมากมาย แต่เมื่อสุขผ่านไปแล้วทุกข์ก็ยังคงตามมาอยู่ดี ความทุกข์และสุขจึงสลับวนเวียนกันอยู่เช่นนั้น
เช่นนี้แล้ว ความเชื่อที่0 กับ ความเชื่อที่1 อย่างไหนเป็นความเชื่อที่เราควรน้อมนำมาเป็นที่พึ่งของตนเองมากกว่ากัน
-----------------------------------------------------
-ความเชื่อที่2 ทำจิตตนเองให้มีความสุข ความเชื่อที่สอนให้เราหาปิติสุขจากสมาธิเองได้ อันปิติสุขจากณานนั้นสุขยิ่งกว่าสุขใดๆทางกาย และไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอก จะทำเท่าใดก็ได้ตามต้องการ แต่ว่าเมื่อไม่ได้ปฏิบัติสมาธิ ความอยากได้ ความโกรธ ความหลงผิด ก็ยังคงอยู่ ซ้ำนานวันไป ความอยากได้ ความโกรธ ความหลงผิด กลับยิ่งมาก ยิ่ง ความอยากได้ ความโกรธ ความหลงผิด มากก็ยิ่งทำสมาธิได้ยากยิ่ง
เช่นนี้แล้ว ความเชื่อที่0 ความเชื่อที่1 และความเชื่อที่2 อย่างไหนเป็นความเชื่อที่เราควรน้อมนำมาเป็นที่พึ่งของตนเองมากกว่ากัน -----------------------------------------------------
-ความเชื่อที่3 ทำจิตใจตนเองให้พ้นไปจากทุกข์ ความเชื่อที่3 สอนเราว่า "ทุกข์คืออะไร ทำไมถึงมีทุกข์ ไม่ทุกข์เป็นเช่นไร และทำอย่างไรถึงพ้นทุกข์" เช่นนี้แล้วเราจึงพ้นไปจากทุกข์
เช่นนี้แล้ว ความเชื่อที่0 ความเชื่อที่1 ความเชื่อที่2 และความเชื่อที่3 อย่างไหนเป็นความเชื่อที่เราควรน้อมนำมาเป็นที่พึ่งของตนเองมากกว่ากัน -----------------------------------------------------
Create Date : 01 มิถุนายน 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 19:32:13 น. |
Counter : 8080 Pageviews. |
|
|
|