BlogGang.com : : howk_ky : ฤดูกาล 2008 - 2009 การเริ่มต้นที่ต่างไปจากเดิม

Love works in ways that are wondrous and strange. There's nothing in life that love cannot change.

<<

ตุลาคม 2551

>>

			1	2	3	4
5	6	7	8	9	10	11
12	13	14	15	16	17	18
19	20	21	22	23	24	25
26	27	28	29	30	31

8 ตุลาคม 2551

ฤดูกาล 2008 - 2009 การเริ่มต้นที่ต่างไปจากเดิม

ฤดูกาล 2008 - 2009 การเริ่มต้นที่ต่างไปจากเดิม

การเริ่มต้นของลิเวอร์พูลที่ต่างไปจากเดิม???

ที่จั่วหัวแบบนี้ เพราะมันเกิดความรู้สึกแตกต่างจริงๆ จากที่ผ่านมาหลายฤดูกาลนับตั้งแต่การเริ่มต้นคุมทีมของชายชาวสเปนที่ชื่อ ราฟาเอล เบนิเตซ

ลิเวอร์พูลมักจะเริ่มต้นฤดูกาลอย่างกระท่อนกระแท่น กว่าจะเครื่องร้อนก็ปาเข้าไปหลังปีใหม่ ซึ่งหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว ฤดูกาลที่แล้วที่ว่าเริ่มต้นได้ดีพอตัว ก็ยังสะดุดเสมอกับทีมที่ไม่สมควรเสมอไปซะหลายเกมส์ แล้วยังเครื่องดับไปหลังจากแพ้แมนยูฯ คาบ้านในช่วงเดือนธันวาคม กว่าจะกลับมาคืนฟอร์มจากการที่ราฟาค้นพบระบบการเล่นใหม่ 4-2-3-1 หลังจากโลเตชั่นมาครึ่งฤดูกาลก็ปาเข้าไปกลางเดือนมกราคม และเมื่อมองดูตารางคะแนน มันก็ต้องยอมรับอีกครั้งว่า พวกเราหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์อีกปีหนึ่งแล้ว

ผลงานในแชมเปี้ยนลีกส์ คงไม่ไม่ใครมีข้อกังขา กับการเข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้งใน 3 ปี และรอบรองชนะเลิศในปีล่าสุด แต่ผลงานในลีกต่างหากที่เป็นจุดบกพร่องจุดใหญ่ที่ทำให้สาวกหงส์แดงทุกคนเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่พูดถึง

ทีมเราเป็นทีมใหญ่ และถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกกันว่า "บิ๊กโฟว์" ซึ่งแน่นอนว่า ลิเวอร์พูลคือ "บิ๊กโฟว์" จริงๆ ไม่เคยได้รับการยกย่องให้สูงขึ้นไปกว่านั้น

ก็โอเค เราไม่ว่ากัน เรายอมรับว่าเราด้อยกว่าอีก 3 ทีม
และถึงแม้เราจะอยากได้แชมพรีเมียร์ลีกจนตัวสั่นงันงก
เราจะดีใจกันออกนอกหน้าในยากที่ทีมชนะ
เราจะคุยโวว่า "ปีนี้ล่ะ เราจะท้าชิงแชมป์จริงซะที" ให้แฟนทีมอื่นหัวเราะเยาะ
เราทุกคนก็ยังคงหวัง หวัง และหวัง ว่าเราจะสามารถเป็นอย่างที่เราคุยโวได้จริงๆ
เราทุกคนก็ยังศรัทธาว่า

"จะต้องมีวันของเรา"

แม้ว่าใครจะหัวเราะเยาะ มองเราเป็นตัวตลก และดูหมิ่นเรา

เราจะไม่แคร์

7 นัด 17 แต้ม คะแนนเท่าทีมสิงโตพันล้าน เชลซี แต่ประตูได้ - เสีย เค้าดีกว่า ทำให้เราอยู่ในอันดับที่ 2 ของลีก และตอนนี้คือ เดือนตุลาคมแล้ว แฟนหงส์แดงหลายคนหน้าบานกับตารางคะแนนในขณะนี้เหลือเกิน เพราะมันคือ

"การเริ่มต้นฤดูกาลที่น่าจะดีที่สุด"

ตั้งแต่ราฟาเข้ามาคุมทีมเลยทีเดียว

แต่ที่ทำให้พวกเรารู้สึกฮึกเหิมยิ่งกว่าเดิมก็คือ

การเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเตด ในเกมส์ลีกได้ในรอบ 7 ปี

นอกจากดีใจที่สามารถเก็บ 3 แต้มและตัดแต้มคู่แข่งสำคัญได้ 3 แต้มแล้ว ความสะใจมันล้นเหลือจริงๆ เหมือนกับการเก็บงำความแค้นมานานหลายปี และสามารถชำระแค้นนั้นได้ แม้จะเป็น 3 แต้มที่เหมือนกับการชนะทีมอื่นๆ แต่เหล่า The kop ต่างก็รู้สึกสะใจกับชัยชนะนัดนี้มากเหลือเกิน

อีกเหตุผลของความฮึกเหิมก็คือ

"Comeback to WIN"

ยอมรับตามตรงว่า ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ทีมยังไม่สามารถค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้เลยในเกมส์ลีก (ขอละแชมเปี้ยนลีกส์ไว้ในฐานที่เข้าใจ อิอิ) และหลายเกมส์ที่เราเกือบจะเป็นผู้แพ้ โดยเฉพาะ เกมส์เปิดบ้านรับเดอะ โบโร่ และเกมส์บุกไปเยือน แมนซิตี้

เกมส์กับ เดอะโบโร่ นั้น สามารถอ้างได้ว่า เพราะเล่นในบ้าน ความทุ่มเทของนักเตะจึงมากเป็นพิเศษ ต้องเล่นเพื่อแฟนบอล แต่เกมส์กับแมน ซิตี้ นี่มันคือเกมส์เยือน โอเค จะอ้างว่าเราเล่น 10-11 ก็ได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะให้ความสำคัญมากไปกว่าเรื่องของ

"จิตใจของผู้กระหายชัยชนะ"

ทั้งสองเกมส์นั้น เราได้เห็น ความทุ่มเท การไม่ยอมแพ้ และจิตใจที่เข้มแข็งของนักเตะทุกคน เราไม่อาจยกย่องใครคนใดคนหนึ่งให้เป็นฮีโร่ได้เลย กับเดอะ โบโร่ เจอร์ราร์ดอาจเป็นผู้บันดาลประตูชัย แต่เพื่อนอีก 10 คน และ The kop ในแอนฟิลด์เป็นผู้ที่มีส่วนทำให้เขาสามารถทำประตูนี้ได้ และในเกมส์กับแมน ซิตี้ ก็เช่นกัน เดิร์ก เค้าท์ เป็นผู้ยิงประตู 2-3 แต่มันก็เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของเพื่อนอีก 9 คนในสนาม และแน่นอน สเคอเทลที่บาดเจ็บจนต้องหามออกจากสนามไป

เราไม่ได้เห็น "คาแรกเตอร์" แบบนี้มานานแล้ว เราไม่เคยรักษาระดับจิตใจที่เข้มแข็งแบบนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

ในวันที่เล่นดี เรามักไม่เฉียบคมพอที่จะเอาชนะ
ในวันที่เล่นไม่ดี เรามักถอดใจและไม่สามารถกลับมาได้
แต่ตอนนี้ เราได้เห็น การ Comeback ในเกมส์ที่เล่นได้ไม่ดีนัก ไม่ใช่เพียงแค่ขอ 1 แต้ม แต่เราสามารถกระชากมาได้ทั้ง 3 แต้ม

คุณค่าของชัยชนะในเกมส์แบบนี้ มันมากกว่า 3 แต้ม เชื่อได้เลยว่า แฟนหงส์แดงทุกคนจะต้องรู้สึก "ตื้นตันใจ สะใจ และชื่นใจ" ที่ได้เห็นความพยายามและทุ่มเทของทีม และนี่เองที่เป็นสัญญาณที่ดีในการประกาศให้โลกรู้ว่า

"เราจะสู้จนนาทีสุดท้ายทั้งกายและใจ"

แน่นอนว่า วันนี้คงไม่สามารถตัดสินได้หรอกว่า ลิเวอร์พูลจะสามารถก้าวขึ้นไปลุ้นแชมป์ลีกได้อย่างจริงจังหรือยัง หรือเป็นเพียงแค่ลมที่พัดผ่านมาให้ชื่นใจชั่วครู่ชั่วยาม แต่ที่เราได้สัมผัสเกมส์กันมา 2 เดือน อยากจะบอกว่า

เราเริ่มต้นได้ต่างจากเดิม และมันเป็นฟอร์มที่ดีดีเดียว

และในฐานะของคนที่รักลิเวอร์พูลสุดหัวใจคนหนึ่ง

เราจะมีความหวัง และศรัทธาในทีม
เราจะรอวันแห่งชัยชนะของเรา
และเราจะเชื่อมั่นว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะได้ยกถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกชูขึ้นต่อหน้าคนทั้งโลกในสีเสื้อลิเวอร์พูลแน่นอน

Create Date : 08 ตุลาคม 2551

Last Update : 8 ตุลาคม 2551 12:44:25 น.

3 comments

Counter : 408 Pageviews.

แฟนลิเวอร์พูลเหมือนกันค่ะ

ปีนี้มาดีกว่าทุกปี แม้หลายเกมส์ถึงฟอร์มไม่ดี แต่ก็ชนะ

ลุ้นเกมส์ชนกับเชลซีท้ายเดือน

ถ้าเราสามารถชนะได้ คราวนี้ได้ลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวเลยค่ะ

รอมาหลายปี ปีนี้อาจเป็นปีของเราก็ได้ค่ะ

ลิเวอร์พูลสู้ๆ

โดย: Nancarly

วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:14:13:07 น.

ฤดูกาลนี้ เราก็รู้สึกแตกต่างไปจากเดิม เป็นความรู้สึกแตกต่างเหมือนกับที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลิเวอร์พูลชนะโอลิมเปียกอสในฟุตบอลยุโรปปี 2005 เหมือนความรู้สึกที่เกิดขึ้นหลังชนะแมนฯยูในเอฟเอคัพปี 2006

เรารู้สึก แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมากนะ เพราะว่ามันเพิ่งเริ่มต้นเอง ยังเหลือแข่งอีกเยอะ

ไหนๆก็เป็นแฟนลิเวอร์พูล เราขอแอดบล็อกดื้อๆอย่างนี้ล่ะนะ

ป.ล. คอมเมนต์ข้างบนอ่ะ น้องแนนรึเปล่า นี่พี่ฝ้ายนะมีบล็อกแก็งค์ด้วยก็ไม่บอก แอดบล็อกอีกคนนึงเลยนะ

โดย: The Field Where I Died

วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:0:51:02 น.

ตามมาอ่านบล๊อกเก่าๆ ค่ะ...
ชอบและเห็นด้วยในหลายๆ ข้อความจากใจเลยทีเดียว

ไม่ว่าที่ผ่านมา.. จะเป็นยังไง
ไม่ว่าต่อไป.. จะต้องเจอกับอะไรอีก

เราก็ยังคงเชื่อมั่น ว่าซักวันจะเป็นวันของเรา

โดย: WoNaM

วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:22:19:45 น.

howk_ky

Location :

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

When everything has its proper place in our minds, we are able to stand in equilibrium with the rest of the world.

(เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมีเฉพาะในจิตใจเรา เราก็จะสามารถยืนหยัดได้อย่างสมดุลในโลก)

[Add howk_ky's blog to your web]

Bloggang.com