บทความเกี่ยวกับบ้าน อาหาร โรงแรม แต่งงาน กีฬา ท่องเที่ยว เสื้อผ้า แฟชั่น ที่พัก เครื่องสำอาง ซื้อขาย สัตว์ เลี้ยง สุขภาพ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

ดูแลตัวเองในที่ทำงานได้ง่ายนิดเดียว : ดูแล ดูแล สุขภาพ ดูแล รักษา สุขภาพ วิธี ดูแล สุขภาพ ดูแล

ดูแล สุขภาพ, ดูแล ร่างกาย


รับรองว่าไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก
เสียเวลา ลองดูวิธีง่ายๆ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
ที่สำคัญว่าถ้าลองได้ทำเป็นประจำแล้ว
จะทำให้คุณถอยห่างจากโรคออฟฟิศซินโดรมไปเลย


พิมพ์เอกสารให้เจ้านายทั้งวันจนมือหงิก ปวดข้อแทบเคล็ด
ลูกโยโย่ช่วยคุณได้ เพียงแค่เล่นโยโย่ในช่วงพักเบรก ก็สามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณมือและข้อมือได้แล้วแถมยังแก้เครียดได้อีกด้วย
ใช้เวลาประมาณ 1 นาที


เดินใส่ส้นสูงทั้งวันจนเมื่อยขาและปวดน่องไปหมด
ท่าที่ 1
ถอดรองเท้า นั่งหลังตรง แยกขาออกพอประมาณ ค่อยๆ จิกปลายเท้าขึ้น - ลงกับพื้น ทำซ้ำ 5 - 10 ครั้ง
ท่าที่ 2
ถอดรองเท้า
เหยียดขาออกไปข้างหน้าให้ตึง วางส้นเท้ากับพื้น
ชันส้นเท้าขึ้นทำมุมฉากกับพื้นเท่าที่ทำได้
(กล้ามเนื้อขาจะเกร็งโดยอัตโนมัติ) แล้วค่อย ๆ แยกเท้าออกทำมุม 45 องศา
หันปลายเท้าเข้าหากันจนหัวแม่เท้าทั้งสองข้างแตะชิดกัน ค้างไว้ 3 - 4 วินาที

ทำซ้ำได้ตามต้องการ
ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที


หลังขดหลังแข็งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงจนปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณช่วงท้ายทอย บ่า และหัวไหล่ไปตามๆ กัน ใช้วิธีผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยท่าโยคะอย่างง่าย
ท่าที่ 1 ผ่อนคลายต้นคอ
เอียงคอสลับไปมาช้าๆ ทั้งซ้าย - ขวา ขึ้น - ลง และหมุนไหล่ไปด้านหน้า - หลัง ทำซ้ำประมาณ 5 ครั้ง
ท่าที่ 2 ผ่อนคลายบ่า หัวไหล่ และกล้ามเนื้อหลังส่วนบน

*อุปกรณ์: แถบผ้ายาวประมาณ 1 เมตร*
นั่งหลังตรง ถือแถบผ้ายืดออกเท่ากับความกว้างของช่วงไหล่ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะให้สุด
หายใจเข้า
ค่อย ๆ ยืดแขนข้ามศีรษะไปข้างหลังจนรู้สึกว่าแขนตึง
แล้วค้างไว้ผ่อนลมหายใจออก ทำซ้ำประมาณ 10 - 15
ครั้งหรือจนกว่าจะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อค่อย ๆ ผ่อนคลาย
ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที


Tips:

-
ควรเลือกเก้าอี้สำนักงานที่มีพนักพิงสามารถปรับระดับความโค้งตามหลังได้
เพราะมีผลการวิจัยออกมาแล้วว่าเก้าอี้ในลักษณะนี้จะช่วยให้กระดูกสันหลังอยู่ในลักษณะที่เหมาะสมขณะนั่งทำงานและควรหลีกเลี่ยงการนั่งไขว่ห้างนาน ๆ

- แม้งานจะรัดตัว แต่ควรลุกขึ้นเดินทุกๆ 30
นาทีเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปรับอิริยาบถ แทนที่จะนั่งในท่าเดิม ๆ
ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง จนเป็นสาเหตุให้กล้ามเนื้อบางส่วนตึงเครียด




มีพรีเซ้นต์งานเช้า ไหนจะต้องเคลียร์งานส่งเจ้านายอีก เครียดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ถ้าหลีกเลี่ยงงานหนัก
ๆ หรือความเครียดไม่ได้จริง ๆ
เบรกความเครียดไว้พักหนึ่งแล้วนั่งสูดลมหายใจลึก ๆ
จิบชาเปปเปอร์มินต์ที่มีสรรพคุณช่วยลดความเครียด ลดอาการปวดศีรษะ
ผ่อนคลายเส้นประสาท ช่วยให้สมองปลอดโปร่งขึ้น แล้วค่อยลุกมาสู้งานต่อดีกว่า
ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที


Tip: ความเครียดที่สั่งสมในแต่ละวันอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนออฟฟิศหลายคนตกอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงที่จะเป็นโรคเส้นเลือดตีบและความดันโลหิตสูงอีกด้วย
ดังนั้นควรเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละมื้ออาหารด้วย โดยเฉพาะผลไม้ที่มีเปลือกสีน้ำตาล เช่น องุ่นดำ องุ่นม่วง ซึ่งมีสารแทนนินที่ช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง


ไม่อยากเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจตีบก่อนวัยอันควร แต่ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสหลังเลิกงาน
เพียงแค่ขยับเขยื้อนร่างกายบ้างระหว่างวัน
ประมาณ 20 - 30 นาทีติดต่อกัน เช่น เดินไปส่งแฟกซ์ เดินเร็วไปถ่ายเอกสาร
หรือวิ่งขึ้น - ลงบันได ก็ช่วยให้ห่างไกลจากอาการหลอดเลือดหัวใจตีบได้
นอกจากนี้ยังช่วยลดการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายอารมณ์เครียด ๆ ได้บ้าง
อย่ามัวจับเจ่านั่งทำงานอยู่แต่ที่โต๊ะเลยสาว ๆ


ใช้สายตามาก ทั้งงานเอกสาร ดูแลบัญชีตัวเลข หรือนั่งหน้าคอมพ์จนตาพร่ามัว
ผ่อนคลายและยืดกล้ามเนื้อตาโดยการโฟกัสสายตาไปยังจุดใดจุดหนึ่งที่ไกลพอสมควร
หยุดค้างไว้ประมาณ 20 วินาที กลอกลูกตาไปมาตามเข็มนาฬิกา ทั้งขวา -
ซ้ายและจากบน - ล่าง ทำซ้ำ 2 - 4 ครั้ง
ประคบตาด้วยสองมือของเราเอง
โดยการถูมือเข้าด้วยกันจนกระทั่งฝ่ามืออุ่น
ปิดตาและนาบฝ่ามือลงบนตาทั้งสองข้าง หายใจเข้า - ออกประมาณ 10 ครั้ง
แล้วเปิดมือออก ถ้าการถูมือให้อุ่นยังไม่ทันใจ
แนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดจุ่มลงในน้ำอุ่นแล้วนำมานาบลงบนเปลือกตาที่หลับสนิททั้งสองข้าง
ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาทีแทนได้
ทั้งสองท่าใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที


มัวแต่เครียดเรื่องงานจนหน้าตาหงิกงอ ไม่สดใส
บริหารหน้ากันสักหน่อย
เพียงแค่หาเวลาเหมาะเจาะ ทางสะดวก มองตัวเองในกระจก ยิ้มให้กว้างที่สุด
เลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นทำซ้ำได้ตามต้องการ จะช่วยให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น
ท่านี้ก็ต้องอาศัยทางสะดวกอีกเช่นกัน
เริ่มจากยิ้มกว้าง อ้าปาก เม้มปากบน กระดกลิ้นขึ้นและเกร็งค้างไว้
พร้อมกับแตะปลายนิ้วชี้ - นางตรงเหนือโหนกแก้มขึ้นไป ค่อย ๆ
ดึงผิวหนังส่วนกระบอกตาล่างลงมาเบา ๆ ระหว่างนั้นให้ค่อย ๆ
หรี่ตาลงจนเกือบปิดสนิทเกร็งค้างไว้ 5 วินาที
จากนั้นลืมตาขึ้นและหรี่ตาซ้ำอีกประมาณ 10 ครั้ง
ช่วยลดการบวมของถุงใต้ตาได้
ใช้เวลาท่าละประมาณ 2-3 นาที



ที่มา นิตยสารสุดสัปดาห์

หางานสมัครงาน...คลิกที่นี่

Free TextEditor




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2552
1 comments
Last Update : 9 กรกฎาคม 2552 9:54:46 น.
Counter : 917 Pageviews.

 

ขอแปะ link ท่องเที่ยวของเราไว้หน่อยนะคับ

เทศกาลปีใหม่โล้ชิงช้า ปีใหม่ของชนเผ่าอาข่า ทัวร์3วัน2คืน เริ่ม 2,3,4,กันยายน52

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=khundoi&group=3


//www.hilltribeguide.com/autopage/show_page.php?h=1&s_id=3&d_id=4

 

โดย: guide doi 9 กรกฎาคม 2552 10:33:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tottui
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tottui's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.