沒 有 guts 。。。 就 不 能 選 擇 去 自 己 的 路 嗎 ?
Something between Us [11]

[ . . * ~ . . . I . . a M . . S o r R y . . . ~ * . . ]


“อ้าว...เฟลอร์ นี่ยังไม่ออกไปอีกเหรอ”


เจ๊อันเพิ่งกลับจากข้างนอกพร้อมข้าวของกองโตแปลกใจเมื่อเห็นเฟลอร์ยังนั่งทำงานง่วน


“ก็ว่าจะออกไปเหมือนกันค่ะ แต่เดี๋ยวให้งานชิ้นนี้เสร็จก่อน” เฟลอร์ตอบโดยไม่เงยหน้า


“แล้วนี่หาอะไรกินหรือยัง”


เจ๊อันถามอย่างเป็นห่วงเพราะนี่ก็เกือบห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว ว่าไม่ได้หรอกยายเด็กนี่พอได้ทำงานแล้วอะไรก็ลืมหมด


เฟลอร์เงยหน้าขึ้นมายิ้ม


“ก็ว่าจ....”


“ก็ว่าจะออกไป แต่ให้งานเสร็จก่อน”


เจ๊อันต่อให้อย่างรู้ทัน เฟลอร์เลยได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ


ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...


“ต๊าย...คุณเทียนหลาง มาได้ยังไงกันคะเนี่ยะ”


เจ๊อันเข้าไปหาชายหนุ่มหน้าตาดีที่ยืนยิ้มอยู่หน้าห้องด้วยท่าทางที่แทบจะร่อนเข้าสู่อ้อมอก


“สวัสดีค่ะ” เฟลอร์ทักทายเทียนหลางแล้วเผื่อแผ่ไปยังจื้อเหลียงที่เดินตามมาข้างหลังด้วย


“ผมโทรหาพี่จื้อเหลียง ก็เลยรู้ว่าวันนี้เจ๊อันกับคุณเฟลอร์มาทำงานน่ะครับ แวะมาเผื่อมีใครอยากออกไปดื่มกาแฟกับผมบ้าง”


“เจ๊ต้องขอบายค่ะ งานจะล้มทับตายก่อนถ้าไม่รีบเคลียร์ แต่คนโน้นน่ะ คุณเทียนหลางเอาตัวไปได้เลย”


เจ๊อันอันไม่พูดเปล่าแต่ไปรุนหลังเฟลอร์ให้ออกมาด้วย


“แต่งานของเฟลอร์น่ะยังไม่เสร็จเลยนะคะ” เฟลอร์ค้าน


“งานหล่อนเดี๋ยวกลับมาทำก็ได้ย่ะ แต่ถ้าหล่อนเป็นลมเป็นแล้งหรือหิวตายไป งานฉันก็จะยิ่งช้ากว่าเดิมนะยะ”


“ไปด้วยกันสิเฟลอร์ ฮยุนจองโดนลากออกไปตั้งแต่เที่ยง พี่ว่าจะทำงานต่อแป๊บเดียวแต่ก็เลยเวลาจนเย็นย่ำอย่างนี้ ถ้าเทียนหลางไม่โทรมาก็คงไม่รู้ตัวว่าหิว”


จื้อเหลียงชวนย้ำอีกที


คำพูดของจื้อเหลียงทำให้เฟลอร์ชะงัก แต่เพียงชั่วขณะก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอหันมาทางเทียนหลาง เห็นรอยยิ้มนั้นแล้วปฏิเสธไม่ลง


..ดีเหมือนกัน... ที่จริงตั้งแต่เช้าก็ได้นมไปกล่องเดียว นี่ท้องไม่ร้องประจานให้ขายหน้าก็บุญแล้ว










“ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าให้ระวัง อย่าพยายามเป็นข่าวช่วงนี้”


จื้อเหลียงโยนหนังสือพิมพ์ใส่คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง


ฮยุนจองงัวเงียลุกขึ้นนั่ง เอามือตบหัวตัวเองเบา


“เม้งได้แต่เช้าเลยนะนายเนี่ยะ... โอย...แล้วทำไมมันปวดหัวอย่างนี้วะ”


“นายก็แหกตาดูเสียสิ รูปออกเบ้อเริ่ม มองไม่เห็นหรือไง”


จื้อเหลียงยืนพิงผนังเอามือกอดอก หน้าบึ้ง


“เฮ้ย... เป็นอย่างนี้ไปได้ไงกัน” ตารีๆเบิ่งโตเพราะภาพตัวเองกำลังโอบไหล่จีน่าชูแก้วฉลองยิ้มร่าใหญ่เกือบครึ่งหน้ากระดาษ พร้อมตัวอักษรข้างใต้ "รักรีเทิร์น"


“อ้อ...นี่ถึงขนาดกับจำไม่ได้เทียว เฮ้อ...ทำไมน้า พอไม่มีฉันไปด้วยมันต้องเกิดเรื่องอย่างนี้ทุกที”


“ฉันขอโทษ เมื่อคืนคงเมามากไปหน่อยจริงๆแหละ” ฮยุนจองมองหน้าจื้อเหลียงด้วยสายตาสำนึกผิด


“ขอโทษกับฉันไม่มีประโยชน์หรอก รีบอาบน้ำแต่งตัวเลยไอ้ตัวดี งานนี้นายต้องไปแก้ตัวกับมาดามเองแล้วล่ะ”












“หูชาเลยล่ะสิแก”


จื้อเหลียงเดินเข้ามาทันทีที่ฮยุนจองเดินออกจากห้องมาดาม น้ำเสียงประชดประชันแบบนี้แม้จะได้ยินบ่อยแต่ก็แปร่งหูชะมัด


“อย่างนี้ไม่คณนาพ่อหนุ่มนักรักเขาร้อกกกกก” ซวนซวนช่วยซ้ำเติมอีกแรง


ฮยุนจองกัดฟันกรอด...กรอด...เอาเข้าไป คนเราพลาดหน่อยเป็นไม่ได้ TT^TT


ใกล้เที่ยงแล้ว ไปชวนเฟลอร์กินข้าวดีกว่า ยายนั่นค่อยพูดน้อยหน่อยคงเจริญอาหารได้มากกว่า






“แหมวันนี้น้องสาวฉันเนื้อหอมจริ๊งงงงงงง เสียใจจ้ะ เพิ่งมีหนุ่มตัดหน้ามารับไปไม่ถึงห้านาทีนี้เอง”


“หนุ่มคนเดิมหรือเปล่าอันอัน” จื้อเหลียงที่เดินไล่หลังมายักคิ้วหลิ่วตาถาม


“คนเดิม คนไหนเหรอ” ซวนซวนงงพอๆกับฮยุนจอง


“คุณเทียนหลางค่ะเจ๊ เมื่อวานก็เพิ่งไปกินข้าวด้วยกัน วันนี้ยังมารับอีก แหม๊...งานนี้ถ้าไม่มีซัมติ้งสปาร์คล่ะก้อตัดหัวอันอันได้เลยค่า”


จื้อเหลียงเอามือลูบคาง ทำตากรุ้มกริ่ม


“อือมมมม...ไม่เสียทีที่เมื่อวานให้ไปส่งถึงบ้าน”


“ว๊าย...จริงหรือคะ เมื่อวานคุณจื้อเหลียงเปิดทางให้ขนาดนั้นเลยเหรอ งานนี้อันอันต้องอกหักอีกแล้วเหรอ”


อันอันแกล้งตีหน้าสลด


“นี่...นี่...นี่... เทียนหลางไหน อะไรกัน เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ >o<”


ซวนซวนเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้รู้จักเทียนหลางเพราะเธอไม่ได้ไปด้วยตอนฮยุนจองไปถ่ายทำ MV คราวที่แล้ว


งานนี้คนที่เล่าได้เหมาะที่สุดไม่มีใครเกินหน้าอันอัน


....


“อ้อ...แล้วเจ้าชายหนุ่มคนนี้ก็มาหลงรักนางซินของเรา”


ซวนซวนฟังจบแล้วอดแขวะคนเล่าไม่ได้ ก้อแม่ร่างใหญ่ใจสาวเล่าเสียมนุษย์ธรรมดาจะกลายเป็นเทวดาไปแล้ว


“ก็อาจยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่มันมีแนวโน้มสูงอ่ะเจ๊”


ท่าทางจีบปากจีบคอนั้นดูขัดตาฮยุนจองเป็นที่สุด


“อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่าคนที่ยายเฟลอร์มันนัดไว้เมื่อวานแหละ...”


“ฮ้า...ยังมีอีกรายเหรอ” จื้อเหลียงตาโต


“ก้อเดาเอาน่ะ เห็นเมื่อวานมันขยันดูนาฬิกา ข้าวปลาไม่ยอมไปกิน จนห้าโมงกว่าหนูต้องบังคับให้มันออกไปกินข้าวกับคุณจื้อเหลียงกับคุณเทียนหลางนั่นแหละ”


...


O_O เมื่อวาน... เมื่อวานมันวันศุกร์นี่นา... หรือว่ายายนั่นรอเขา -_-“













เฟลอร์ยืนโบกมือให้กับคนขับบีเอ็มสปอตสีน้ำเงินเข้มเกือบดำแล้วมองส่งจนรถหายลับโค้งไปก่อนจะหันหลังมาเปิดประตูบ้าน


เอ๊ะ... รถที่จอดอยู่อีกฟากถนนทำไมคุ้นตาจัง


เด็กสาวหันหลังกลับ เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ


ฮยุนจองเดินข้ามถนน สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างสูงโปร่งตรงหน้า ใบหน้าเรียบเฉยนั้นทำให้เขาใจไม่ดีนัก


“ฉันขอโทษ”


“ต้องเลี้ยงข้าวฉันหนึ่งมื้อถึงจะหาย”


ฮยุนจองยิ้มกว้าง และเฟลอร์ก็ยิ้มตอบ ...ค่อยหายใจโล่งหน่อย


“ได้สิ ฉันรู้จักบะหมี่อร่อยอยู่เจ้านึง อากาศเย็นๆอย่างนี้กินแล้วอุ่นท้องดี”


“คืนนี้คงไม่ได้หรอกค่ะ เพราะฉันมีงานต้องทำ ขอเป็นวันหลังนะ”


“หืมม...” ฮยุนจองยิ้มเก้อๆ รู้สึกแปลกข้างใน คงเพราะเป็นครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธมั้ง


“อืมมม... ก็ได้ ไว้ค่อยโทรนัดกันอีกที แต่ที่เธอต้องเลี้ยงฉันน่ะ ฉันยังไม่ลืมหรอกนะ”


เฟลอร์ยิ้มพยักหน้า


“รีบเข้าบ้านสิ ฉันจะได้กลับบ้าง”


“ขับรถดีๆนะคะ” เด็กสาวหันมาบอกอีกครั้งก่อนประตูบ้านจะปิดสนิท


....


“ฮยุนจองคะ”


เสียงเปิดประตูพร้อมเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาสองสามก้าวทำให้ฮยุนจองที่เกือบจะเดินถึงตัวรถต้องหันกลับ


“เรื่องนั้น... ข่าว... เอ้อ... มาดาม”


“อ๋อ...” คำพูดอึกๆอักๆกับสีหน้าเป็นกังวลทำให้ฮยุนจองพอจะเดาได้ เขาถอนหายใจยาว “เมื่อวานเพื่อนฉันคนนึงเพิ่งมาจากอเมริกาน่ะ พวกเพื่อนๆที่นี่ก็เลยลากตัวไปเจอกันกินข้าวพูดคุย เพราะต่างคนก็ต่างทำงานไม่ได้เจอกันนาน จีน่าก็รู้จักกับเพื่อนคนนี้ดีก็เลยมาคุย มาดื่มด้วยกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ...ขอโทษนะ ที่เมื่อวานฉันไม่ได้โทรบอกเธอ”


เฟลอร์ส่ายหน้า


“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ เจ๊ซวนบอกว่ามาดามไม่ค่อยพอใจ... เอ่อ... คุณจะเป็นอะไรไหมคะ”


ฮยุนจองยิ้ม ... ยายคนนี้นี่นะ ต่อให้คนรอบข้างทำอะไรกับตัวเอง หากใครคนนั้นมีเรื่องเดือดร้อนก็คงลืมหมด แล้วก็วิ่งไปห่วงไปกังวลกับเขาอีก


“ไม่เป็นไรหรอก แค่โดนบ่นหูชาเท่านั้นเอง แล้วก็บอกว่า” ฮยุนจองทำท่ากระแอมแล้วดัดเสียงเรียบๆเย็นๆแบบมาดาม “พี่ไม่ว่าอะไรหรอกนะหากเธอจะคบใครเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ถ้าเรื่องนั้นจะมากระทบถึงงานแล้วล่ะก็ เธอน่าจะต้องคิดให้มากว่าเธอและพวกเราทุกคนทุ่มเทกันมากแค่ไหนกับโปรเจคนี้ ถือว่าพี่ขอร้องแล้วกัน ห่างออกมาสักพักเถอะนะ”


เฟลอร์หลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ฮยุนจองพูดเองก็ขำตัวเองเหมือนกัน ...




... เขาเพิ่งรู้สึก เวลายายนี่หัวเราะ อะไรรอบข้างเหมือนจะพลอยสว่างไสวไปด้วย หัวเราะได้บ่อยๆอย่างนี้ก็ดีสิ ... เขาชอบลูกแก้วสีน้ำเงินจัดคู่นี้จัง ชอบดูเวลามันเปลี่ยนไปตามอารมณ์เจ้าของ ...



“ไม่มีอะไรแล้วฉันเข้าบ้านก่อนนะ” จู่ๆเฟลอร์ก็หยุดหัวเราะก้มหน้าหมุนตัวกลับซะงั้น ทำเอาฮยุนจองตามอารมณ์แทบไม่ทัน


“นี่... บะหมี่ร้านนั้นน่ะ อร่อยจริงๆนะ” เขาตะโกนไล่หลังก่อนเด็กสาวจะก้าวเท้าเข้าประตู


เฟลอร์ชะงัก ...ครู่หนึ่งก็หันมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ


“ถ้าคืนพรุ่งนี้เขาเปิดร้าน...”


“ถึงไม่เปิด เราไปหาร้านอื่นด้วยกันก็ได้” ฮยุนจองไม่รอให้เฟลอร์พูดจนจบ


เฟลอร์ทำท่าลังเลให้คนรอคำตอบใจเสียเล่นก่อนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มสดใส ...ประตูบานเล็กปิดอีกครั้ง


ฮยุนจองรอจนเสียงฝีเท้าวิ่งหายเข้าไปในตัวบ้านแล้วค่อยหันหลังกลับ ... เขาออกรถพร้อมเปิดซีดีเพลงโปรด.. เพลงแรพเพลงเดิมแต่วันนี้ทำไมฟังแล้วคึกคักนักก็ไม่รู้ ...












Create Date : 12 มีนาคม 2549
Last Update : 19 มีนาคม 2549 20:46:28 น. 0 comments
Counter : 474 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gracie Lou Freebush
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Gracie Lou Freebush's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.