Something between Us [8]
เฟลอร์... ทางนี้ อันอันโบกมือมาจากโต๊ะที่มีจื้อเหลียงกับเทียนหลางนั่งอยู่ด้วย ชายหนุ่มคนหลังลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้เฟลอร์นั่งระหว่างเขากับอันอัน เด็กสาวขอบคุณเขาเบาๆ แต่เจ๊แอบค้อนควับใหญ่ ..ขัดขวางทางรักชั้นนะยะหล่อน ><" ฮยุนจองล่ะ เขาอาสาจะไปรับเฟลอร์ลงมากินข้าวด้วยกัน จื้อเหลียงถามเมื่อเห็นเด็กสาวเพียงคนเดียว "เจอกันเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วค่ะ" เฟลอร์ตีหน้าซื่อบอกไปอย่างนั้น จะให้พูดออกไปตรงๆน่ะเหรอว่าหลังจากรอในห้องยี่สิบนาทีเธอเปิดประตูออกมาก็เจอคนที่นัดเอาไว้ดิบดีถูกนางเอก MV ของเขาดึงหายเข้าไปในห้องแล้ว เรื่องความรักความหลังของเขากับจีน่าใครๆก็รู้กันทั้งนั้น กลับเข้าไปรอต่อในห้องอีกห้านาทีก็นานเกินพอแล้ว อุ๊ย...มาโน่นแล้วงัยคะ เจ๊อันอันตาไวเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินตรงเข้ามา บอกให้รอก่อนไง นายหมีต่อว่าน้ำเสียงงอนเล็กๆ ...นายมีสิทธิ์งอนด้วยเหรอยะ ต้องเป็นฉันถึงจะถูก -_-!!! ฉันหิว เฟลอร์ตอบอีกอย่าง เออนี่... ยังไม่ได้แนะนำอย่างเป็นทางการเลยนะ นี่คุณซ่งเทียนหลาง ลูกชายคนเล็กของเจ้าของโรงแรมจ้า เจ๊อันภูมิใจเสนอเป็นอย่างยิ่ง เฟลอร์ห่อปากตาโต ส่วนฮยุนจองเลิกคิ้วหน่อยเดียว คุณเทียนหลางเพิ่งกลับจากสเตท ช่วงนี้กำลังทำปริญญาโทอยู่ที่ยู... เจ๊อันเอ่ยชื่อยูดังด้านศิลปะแห่งหนึ่ง ฉันก็จบจากที่นั่นเหมือนกัน เฟลอร์หลุดปากออกไปด้วยความดีใจ ฮยุนจอง จื้อเหลียง และอันอัน มองมาเป็นตาเดียว เพราะเฟลอร์ไม่เคยพูดถึงเลย เทียนหลางช่วยแก้สถานการณ์อึดอัดด้วยการซักกลับบ้าง คุณจบเมื่อไหร่ คนเอเชียที่นั่นน้อยมาก ทำไมเราถึงไม่เจอกันเลย ปีที่แล้วค่ะ แต่พอดีช่วงปีสุดท้ายทำโปรเจคอยู่ที่บ้านมากกว่าเข้ายู งั้นเราก็น่าจะรุ่นเดียวกัน ผมเพิ่งย้ายมาเรียนเมื่อกลางปีที่แล้ว มิน่าเล่า เราถึงไม่เคยเจอกันเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ดีใจครับที่ได้รู้จักเพื่อนร่วมสถานบันครับ Nice to meet you เทียนหลางยื่นมือให้จับท่าทางเป็นจริงเป็นจังเกินเหตุอย่างที่ใครก็มองออกว่าแกล้งทำ Nice to meet you, too เฟลอร์สนุกพอที่จะเล่นไปกับเขาด้วยการจับมือเขาเขย่าแรงๆ หัวเราะไปด้วย มีสักวันไหมยะที่หล่อนจะไม่ทำให้ฉันแปลกใจเนี่ยะ เจ๊อันอันค้อนอย่างไม่กลัวลูกตาจะหลุด จ๊อกกก... จ๊อกกกก... ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนฮยุนจองจะชูมือยอมรับพร้อมยิ้มอ่อยๆ คนที่เหลือเลยได้หัวเราะกัน แม้แต่เฟลอร์ที่ยังเคืองนายหมีอยู่ทีแรก เพราะใช้มือข้างเดียวไม่ถนัด เทียนหลางซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆเลยคอยทำหน้าที่บริการเต็มที่และเต็มใจอย่างยิ่ง ฮยุนจองมองอันอันที่สบตากับจื้อเหลียงแบบรู้กัน แล้วหันไปมองคู่นั้นอีกที จู่ๆอาหารมื้อนี้ก็ฝืดคอขึ้นมาอย่างประหลาด..... หลังมื้ออาหาร มีชา กาแฟมาเสริฟพร้อมขนมเค้กหน้าตาน่ากินหลายอย่าง อันอันที่บ่นว่ากลัวอ้วนถึงกับยอมให้วันนึง ขอเชิญคุณเทียนหลางให้เกียรติเล่นเปียโนให้เราฟังหน่อยได้ไหมครับ เสียงพิธีกรบนเวทีทำเอาเทียนหลางเกือบสำลักกาแฟเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เขาทำท่าจะปฏิเสธหากไม่เป็นเพราะคนที่นั่งข้างๆขยั้นขะยอ นะคะ เฟลอร์อยากฟัง ยิ้มหวานนั่นทำเอาชายหนุ่มยิ้มเขินๆจนเห็นลักยิ้มแก้มขวา ก่อนจะลุกขึ้นโดยดี เสียงปรบมือเกรียวกราวทันทีที่นิ้วเรียวจรดคีย์แรก ยิ่งพอเสียงทุ้มนุ่มร้องคลอ...ทำเอาสาวทั้งห้องเคลิ้มทีเดียวโดยเฉพาะ สาวจัดที่นั่งอยู่ข้างเฟลอร์I love you.... for sentimental reasonI hope you will believe meI'll give you my heartI love you.... and you alone were meant for mePlease give your loving heart to me And say well never apartI think of you every morningDream of you every nightDarling, I'm never lonelyWhen you are always inside.I love you.... for sentimental reason I hope you do believe meI've given you.... my heart...*I Love You For Sentimental ReasonBy Nat King Cole เทียนหลางทอดเสียงอ่อนหวาน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มส่งผ่านความอ่อนโยนมายังดวงตาสีน้ำเงินจัด เฟลอร์ยิ้มรับ ผู้ชายคนที่นั่งอยู่หลังเปียโนสามารถส่งความอบอุ่นผ่านปลายนิ้วและเสียงทุ้มนุ่มถึงทุกคนจริงๆ เพอออออออออออรรรรรรรรรรร์เฟค เจ๊อันอันกรี๊ดกร๊าดทันที่เพลงจบและเห็นทีจะตบมือดังกว่าใครๆในห้องนั้น เห็นทีจะต้องเกี้ยวให้มาเข้าบริษัทเราให้ได้เสียแล้ว หรือนายว่าไงฮยุนจอง จื้อเหลียงหันไปถามความเห็น แล้วแต่นายสิ...เดี๋ยวฉันมานะ ฮยุนจองว่าแล้วลุกออกไปทันที ก็จู่เกิดอึดอัดหายใจไม่ออกขึ้นมา เก้าอี้ร้อนจนนั่งไม่ไหว ต้องไปสูดอากาศหายใจข้างนอกสักหน่อย จื้อเหลียงงงนิดหน่อยแต่ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเทียนหลางเริ่มเล่นเพลงต่อไปแล้วReason : sad theme from My Sassy Girl ทุกคนมัวแต่ดื่มด่ำกับเสียงหวานเศร้า ไม่มีใครทันสังเกตว่ารอยยิ้มของเฟลอร์เริ่มจางหาย เด็กสาวกำมือเข้าหากันโดยไม่รู้ตัว เหงื่อซึมไปทั่วร่าง เฟลอร์ขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย เฟลอร์พยายามเต็มที่ที่จะบังคับไม่ให้เสียงสั่น เป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดจัง จื้อเหลียงถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง เฟลอร์ส่ายหน้า ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ รู้สึกระบมที่แผลน่ะค่ะ เดี๋ยวกลับไปกินยาแก้อักเสบและนอนพักก็คงหาย เจ๊ไปส่งที่ห้องนะ อันอันทำท่าจะลุกขึ้นแต่เฟลอร์ดึงแขนไว้ก่อน ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวกินยาแล้วเฟลอร์ก็จะนอนเลย เจ๊อยู่ฟังเพลงเป็นเพื่อนพี่จื้อเหลียงเถอะ ฝากลาคุณเทียนหลางให้เฟลอร์ด้วยนะคะ ว่าแล้วก็รีบลุกออกไปทันที อันอันกับจื้อเหลียงมองตากัน รู้สึกตรงกัน ...แปลก !!! ทันทีที่หันหลังออกเดินเฟลอร์เอามือปิดหน้าสาวท้าวออกจากห้องนั้นโดยเร็ว ฮยุนจองที่เดินสวนเข้ามาทำท่าจะทักแต่ดูเหมือนเฟลอร์จะไม่เห็นใครในสายตาอีกแล้ว เพราะในใจคิดแต่เพียงจะออกไปให้พ้นห้องนี้โดยเร็วที่สุด พอลับมุมห้อง เด็กสาวก็ต้องอาศัยกำแพงช่วยพยุงตัวเพราะขาเธออ่อนล้าเกินไปเสียแล้ว ทั้งที่อยากหนีไปให้ไกล แต่เสียงเพลงนั้นกลับเหมือนมีสายใยเหนียวๆฉุดรั้งเธอไว้ สุดท้ายเฟลอร์ก็ทรุดตัวข้างพุ่มไม้ใหญ่ ร้องไห้อย่างกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ฮยุนจองยืนมองเงียบๆ ปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจ พอร่างบางเริ่มสงบเขาก็เข้าไปนั่งใกล้ๆ ยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งให้ เฟลอร์เหลียวมามอง แต่ฮยุนจองกลับทอดสายตามองไปข้างหน้า เธอรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาเงียบๆ แม่ฉันชอบเพลงนี้มาก จำได้ว่าตอนเด็กๆ แม่จะเล่นเพลงนี้ให้ฟังทุกวัน ทุกวัน ตอนนั้นฉันเบื่อมาก แต่ตอนนี้ ตอนนี้... น้ำเสียงเฟลอร์เริ่มสั่นเครือขึ้นมาอีก Why dont you call her You missed her, then just call (ปกติเวลาอยู่กันสองคนก็พูดภาษาอังกฤษกัน) .....Shes already pass away...... น้ำเสียงที่พูดออกมานั้นเบาราวกระซิบ ฮยุนจองถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ... ......... It doesnt matter you can call her anytime you want Didnt you here me? Shes already GONE!!! เฟลอร์ระเบิดอารมณ์ใส่นายหมี น้ำตาที่เพิ่งเหือดหายไหลทะลักออกมาอีก ฮยุนจองผุดลุกขึ้นแล้วกระชากข้อมือเฟลอร์ตามไปด้วย เขาลากเธอไปตามทางโดยไม่ไยดีต่อการดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์ ...