沒 有 guts 。。。 就 不 能 選 擇 去 自 己 的 路 嗎 ?
Something between Us [15]

[ . . * ~ . . . A p A r t . . . ~ * . . ]





คนที่ยืนยิ้มตาหยีอยู่หน้าประตูทำเอาจื้อเหลียงอ้าปากค้าง ตาโต


“อื้ม... ใช้ได้ คุณไม่มีฟันผุนะ แต่อาการปากเสียนี่เกินกำลังหมอฟันอย่างผม ลองไปหาสัตวแพทย์ดู เขาอาจพอช่วยอะไรคุณได้บ้าง ^o^”


น้ำเสียงยียวนกวนประสาทกับคำพูดกวนอวัยวะเบื้องต่ำนี่ของแท้แน่นอน จื้อเงื้อมือกะซัดเต็มแรง


ฟ๊าบบบบบ.... ฟึ้บ !!!


นายหมียักคิ้วอย่างเป็นต่อเมื่อเขารับฝ่ามือพิฆาตของพี่ชายจอมโหดได้ถึงสองครา ...อุอุอุ ^^


“อ้ายยยยย....บ้าาาาาาาา.... นายหายพระเศียรไปไหนของนายมาสามวันเต็มๆ....ห๊าาาาาาาา..... มือถือก็ไม่เปิด ถามใครก้อไม่มีใครรู้ นายจะให้ฉันประสาทตายเร้ออออออ”


เสียงกัมปนาททำเอาฮยุนจองต้องยกมือขึ้นมาอุดหู จื้อเหลียงสบโอกาส ได้ฟาดกบาลไอ้ตัวดีสมแค้นแล้วก็เดินกลับเข้าห้องได้สบายใจ


“ปิดประตูด้วยนะเฟ้ย... ฉันไม่ใช่พวกโรคจิคชอบโชว์อย่างนาย”


ฮยุนจองคลำหัวป้อย อยากปิดประตูสักปังใหญ่แต่ยังรักชีวิตอยู่...


“นายมาก้อดีแล้ว คืนนี้ไปบาร์บีคิวปาร์ตี้ด้วยกันนะ”


“ฮ้า.... ฟังดูน่าสนใจแฮะ แล้วมีใครไปบ้างล่ะ”


“ก้อพวกเรากันเองทั้งนั้นแหละ ซวนซวน อันอัน เฟลอร์....”


ฮยุนจองใจเต้นแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้....


สามวันที่ผ่านมา เขาใช้เวลาอยู่กับตัวเอง โปสการ์ดทั้งหมดที่เก็บไว้อย่างดีในกล่องถูกนำออกมาวางเรียง ภาพวาดและตัวอักษรที่เรียงเป็นระเบียบบนโปสการ์ดแต่ละใบทำให้เขารู้สึกเหมือนเห็นตัวตนของคนเล่าเรื่องราวได้ชัดเจนมากขึ้น ....รู้ใจตัวเองมากขึ้น


ฮยุนจองยังไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อไป เดินเข้าไปบอกเฟลอร์ว่าเขารู้แล้วว่า Zimba คือใคร


หรือทำอย่างเดียวกับเธอ... ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านกระดาษแผ่นเล็กเหมือนเคยอย่างที่ผ่านมา


“นั่งเหม่ออะไรอยู่วะ” จื้อเหลียงแต่งตัวเสร็จพร้อมออกไปข้างนอกแล้ว


“รีบไปเถอะ เดี๋ยวซวนซวนว๊ากเอาไม่รู้ด้วยนะโว้ย เนี่ยะ...แล้วต้องแวะซื้อของให้ท่านท่านเขาด้วยนะ”


ประโยคหลังบ่นกระปอดกระแปดไม่จริงจังนัก


เขากำลังจะได้เจอคนที่อยู่ในความคิดเขาตลอดสามวันแล้วอย่างนั้นเหรอ....
















อากาศบนเขาคืนนี้ค่อนข้างเย็น แต่คนที่เดินไปเรื่อยๆตามทางเดินเล็กๆเหมือนไม่สะทกสะท้าน นั่นไม่ได้เป็นเพราะเขาอยู่เมืองหนาวมาตั้งแต่เกิด หากเป็นเพราะภายใจมันร้อนรุ่มต่างหาก


ชื่อเฟลอร์ทำให้เขาไม่ได้ยินเมื่อจื้อเหลียงบอกต่อว่าบาร์บีคิวปาร์ตี้คืนนี้เป็นการเลี้ยงส่งเทียนหลางก่อนเขาจะบินกลับไปเรียนต่อในวันพรุ่งนี้


รอบกองไฟที่อบอุ่นนั่น อันอันกับซวนซวนคงกำลังรินไวน์แจกทุกคน อ้อ...เว้นใครคนหนึ่งที่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้


จื้อเหลียงอาจกำลังหาซอสขวดใหม่ที่ซื้อมาอยู่หลังรถ


ส่วนคู่นั้น...คงกำลังช่วยกันปิ้งเนื้อหรืออะไรสักอย่าง


สายตาอ่อนโยนที่เทียนหลางมองเฟลอร์ รอยยิ้มสดใสที่เธอตอบกลับ... ฮยุนจองรู้สึกว่าภาพนั้นมันบาดใจจนเขานั่งไม่ติด


ขอบคุณน้องสาวตัวเล็กที่โทรทางไกลจากอีกซีกโลกมาหาเขา... มันพอทำให้หัวใจแห้งเหี่ยวชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง และทำให้เขาปลีกตัวออกมาจากที่นั้นได้ง่ายขึ้น






ฮยุนจองชะงักฝีเท้าที่กำลังจะเดินกลับลงไปตามทาง...


ร่างสูงโปร่งคุ้นตายืนหันหลังมองออกไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวเบื้องหน้า... แผ่นหลังบางที่ห่อเล็กน้อยเมื่อลมพัดมาเบาๆทำให้เขาก้าวเข้าไปข้างหน้าช้าๆราวกับต้องมนต์


ในความเงียบ... หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าคนที่ยืนอยู่จะได้ยิน


“ผมชอบคุณ”


ฮยุนจองหยุดกึก....


ระยะเพียงแค่นั้น เขามองเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างเบือนไปตามเสียงช้าๆ


เฟลอร์ยิ้ม.... ยิ้มกระตุกหัวใจเขา


ฮยุนจองรีบหันหลังกลับ แต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปเสียแล้ว


“ฉันก็ชอบคุณค่ะ”












ฮยุนจองทุ่มเทกับการซ้อมอย่างหนัก เขาเริ่มต้นตั้งแต่สิบโมงเช้า ใส่ใจกับทุกรายละเอียด ไม่ยอมปล่อยผ่านหากยังทำได้ไม่ดี เที่ยงคืนถึงบ้านเขาก็เหนื่อยแทบจะทรงตัวไม่ไหว และหลับได้ในทันทีที่หัวแตะหมอนเพื่อจะตื่นมาอีกครั้งในเก้าโมงเช้าของวันใหม่


เจ็ดวันต่อสัปดาห์


...นานนับเดือนที่ไม่เจอใคร....



12 กันยายน XX



ความคิดถึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับระยะทาง...ฉันเพิ่งแน่ใจ !!!
ระยะห่าง... ต่างหาก ที่ทำให้เรารู้สึกเหงาได้



~~ Zimba ~~




ฮยุนจองยิ้มขมขื่นกับกระดาษแผ่นนั้น ...เธอคงไม่เหงาสินะ... เพราะเขามองไม่เห็น"ระยะห่าง" ของคนสองคนที่อยู่ไกลกว่าครึ่งฟ้า


"ระยะห่าง" ระหว่างเธอกับเขาต่างหากที่ทำให้เกิดความคิดถึงและเจ็บปวดอยู่อย่างนี้ ถึงอยู่ใกล้แค่เอื้อมคว้า แต่"ระยะห่าง"นั้นช่างชัดเจนเหลือเกินในความรู้สึก




18 กันยายน XX



ฉันยังสนุกกับงานเหมือนเดิม ...แต่ชีวิตคนเราไม่มีเพียงงานอย่างเดียวนี่นา

ช่วงนี้คุณคงทำงานหนักเหมือนกันสินะ...
รักษาสุขภาพด้วย



~~ Zimba ~~




ถึงจะมีใครอยู่ในใจ ...แต่ดูเหมือนเธอไม่เคยลืมส่งความห่วงใยมาให้ "เพื่อน" คนนี้ แล้วเจ้าตัวจะมีเวลาใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองหรือเปล่านะ.. คนที่พอได้ทำงานแล้วเหมือนจะลืมโลกรอบข้างอย่างนั้นน่ะ


กระแสอ่อนโยนยังอาบท้นเนื้อหัวใจทุกครั้งยามนึกถึง ...ถ้าเพียงเขาสัมผัสมันได้เร็วกว่านี้สักนิด..


ฮยุนจองเก็บโปสการ์ดสองใบล่าสุดลงกล่องรวมกับใบอื่นๆที่ได้รับก่อนหน้า หลังจากชั่งใจอยู่นานเขาก็หยิบทั้งกล่องใส่ลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ พร้อมสำหรับงานโปรโมทอัลบั้มในประเทศต่างๆทั่วเอเชีย















กล่องรับจดหมายว่างเปล่า.... เหมือนวันอื่นๆที่ผ่านมาตลอดเดือน


โปสการ์ดใบสุดท้ายของฮยุนจองคือใบที่เธอทำหาย...


แล้วนั่นคือใบสุดท้ายจริงๆเหรอ...


เหงาจัง...


ฮยุนจองบินไปโปรโมทอัลบั้มตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนโดยมีจื้อเหลียงทำหน้าที่ดูแลในครั้งนี้ ทั้งคู่ยังไม่กลับมาจนกว่าจะถึงอาทิตย์หน้า ซวนซวนก้อเพิ่งออกเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศในฐานะตัวแทนของมาดาม คงกลับช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน


วันนี้ลมเย็นกว่าทุกวัน... เฟลอร์กระชับแจ็คเก็ตยีนส์ตัวเดิมเข้ากับตัวก่อนสไลด์โรลเลอร์เบลดไปข้างหน้า ยังมีงานรออยู่มากมายที่บริษัท สำหรับคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ของฮยุนจองในช่วงคริสต์มาส










“โทรศัพท์จ้ะ”


“ขอบคุณค่ะ” เฟลอร์บอกขอบคุณอันอันที่ยื่นมาให้


ปลายสายพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้คิ้วเรียวขมวดมุ่น


“สักครู่นะคะ..." เฟลอร์บอกปลายสายก่อนยื่นกระบอกโทรศัพท์กลับมาให้อันอันอีกครั้ง


“ช่วยฟังหน่อยได้ไหมคะ เฟลอร์ไม่ค่อยเข้าใจ”


....



ใบหน้าอันอันค่อยๆถอดสี เธอมองหน้าเด็กสาว ถามอะไรปลายสายอีกสองสามคำแล้วก็วาง


“ไปโรงพยาบาลกันนะเฟลอร์ เดี๋ยวเจ๊ไปเป็นเพื่อน”















Create Date : 30 มีนาคม 2549
Last Update : 30 มีนาคม 2549 18:48:18 น. 0 comments
Counter : 615 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gracie Lou Freebush
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Gracie Lou Freebush's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.