Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
15 เมษายน 2548
 
All Blogs
 

ตอนที่๕ ครึ่งหลัง

คนที่ใช่คือเธอ
ตอนที่๕ ครึ่งหลัง
มาร์คัสพาราจารีย์ที่สีหน้าบึ้งตึงออกจากสถานที่เกิดเหตุโดยเร็วก่อนที่เกินความสามารถในการระงับอารมณ์ แม้เขาจะดูเยือกเย็นกับเหตุที่เพิ่งเกิด หากมีความขัดแย้งภายในตัวตนที่คุกรุ่นด้วยโทสะ แต่เขาก็รู้จักเลือกวิธีการรับมือกับบุคคลแต่ละประเภท บางคนอย่างปกรณ์ เขาต้องอาศัยความนิ่งที่ชาญฉลาดและไหวพริบเข้าจัดการ กับอีกบางกรณีก็ต้องใช้ความรุนแรงซึ่งหน้า

ชายหนุ่มผมทองแลมองสีหน้าด้านข้างของนิสิตสาวผู้ประสบเหตุ เขาเห็นความหวั่นเกรงระคนโกรธปรากฏบนใบหน้าของหล่อน ไม่ใช่เพียงความโกรธธรรมดา คงไม่ต้องหาคำจำกัดความเพื่อระบุการกระทำของปกรณ์ ถ้าหล่อนไม่จำเป็นต้องรับฟังถ้อยคำก่อนหน้าของเขา หล่อนคงจะประทับรอยฝ่ามือบนแก้มของคู่กรณีไปแล้ว หรือบางทีอาจเป็นการกระทำสักอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดว่าหล่อนสามารถหรือกล้าที่จะทำ ที่หล่อนเอาแต่เลี่ยงหนีปกรณ์ก็เพราะคำพูดของเขาแท้ๆ มาร์คัสรู้สึกผิดอยู่บ้างที่พาหล่อนมาพบเจอคนหยาบช้าแบบนั้น ก็เขาอยากพาหล่อนมาด้วยกันเพื่อสร้างความใกล้ชิด แม้รู้แก่ใจว่าหนึ่งในตัวแทนจากบริษัทยูนิคเป็นเช่นไร มีอย่างหนึ่งที่เขาสาบานได้ว่าไม่ได้คำนึงถึงสักนิด เขาไม่เคยคิดจะทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาว ทว่ากลับเป็นผลพลอยได้ที่ดีเยี่ยม พอใคร่ครวญอีกทีก็ให้ลังเลด้วยไม่แน่ใจว่าเป็นผลดีหรือผลเสียกันแน่

ราจารีย์รู้สึกฉุนจัดไม่หาย ถ้าไม่ติดว่าหล่อนรับปากเจ้านายหนุ่มในเรื่องที่เขาย้ำเตือนหลายครา หล่อนต้องตอบโต้ปกรณ์อย่างแน่นอน ทั้งรู้สึกหวาดกลัวสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับตัวของหล่อนเอง ผู้หญิงอย่างไรก็คือผู้หญิง การเอาตัวรอดจากเพศตรงข้ามย่อมยากเหลือเกินและผู้มากวัยอีกสองคนก็ต้องเข้าข้างคนของตัว หากมาร์คัสไม่เข้ามาขวางไว้ หล่อนคงตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แทบไม่อยากนึกคิดสภาพที่ว่าด้วยซ้ำ แต่คนที่นำพาให้ต้องเผชิญกับเรื่องที่เกือบทำให้เสื่อมเสียก็คือเขา อารมณ์พาลผสมผสานกับขุ่นเคืองใจทำให้หล่อนไม่ปริปากเอ่ยถ้อยคำใด หล่อนคิดว่าคนร่างสูงที่เดินเคียงอยากได้ยินคำขอบคุณ เรื่องอะไรหล่อนต้องพูดก็ในเมื่อเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากเขา

"พี่อยากแวะที่บางที่ก่อนกลับ" เสียงทุ้มบอกนิสิตสาวและเป็นการหยั่งอารมณ์ในตัว

คนฟังปิดปากเงียบ

"จ๋า" เขาเรียกขานพลางหยุดเดิน แต่ร่างบางก้าวเท้าอย่างไม่ฟังเสียง

"ราจารีย์" เขาขานชื่อเต็มของหล่อน

เจ้าตัวยอมชะงักเท้าอย่างกระแทกกระทั้น หล่อนไม่ยอมหันมองคนเรียก

"ไม่พอใจพี่เหรอ"

หล่อนไม่ตอบอยู่ดีทำให้มาร์คัสต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาและหมุนตัวยืนประจันหน้า

"พี่รู้ละ พี่เป็นคนสั่งให้จ๋ามาทำหน้าที่แทนคุณริน และพี่ก็ทำให้จ๋าต้องมาเจอกับผู้ชายรุ่มร่ามนั่น" เขาสบตาหล่อน

ราจารีย์จ้องเขาตาขุ่น ฝ่ายหลังก็รู้ตัวว่าเขาผิดเต็มที่

"พี่ขอโทษ"

หล่อนเอาแต่จ้องจนคนที่อยู่ต่อหน้ารู้สึกถึงสถานการณ์ที่ตนเป็นฝ่ายตกที่นั่งลำบาก

"ขอโทษครับ ยกโทษให้พี่นะ" สุ้มเสียงอ่อนบอกชัดเจน ดวงตาคู่สีมรกตมีร่องรอยของความรู้สึกสำนึกที่ฉายชัด

"คำสั่งของเจ้านาย ดิฉันต้องทำตาม และถึงดิฉันต้องมาเจอะเจอใคร คุณก็ไม่ผิดนี่คะ" หล่อนพูดกระแทกเสียงก่อนเอ่ยต่ออย่างประชด

"ต้องขอบคุณคุณมากนะคะที่มาช่วยทันเวลา"

มาร์คัสทอดถอนใจหนักๆ

"เรารีบไปกันเถอะ" พูดจบก็คว้าต้นแขนของหล่อนกึ่งลากกึ่งจูงอย่างถือสิทธิ์โดยไม่สนใจเสียงต่อว่าและกิริยาขัดขืนของนิสิตสาวแม้แต่น้อย เพราะหล่อนดื้อรั้นเอากับเขา ทางเลือกจึงเหลือน้อย

เขาปล่อยแขนหล่อนก็ตอนที่ทั้งคู่เดินมาถึงพาหนะ คนขับรถเปิดประตูให้ราจารีย์ตามคำสั่งของเจ้านาย ราจารีย์ก็เข้านั่งด้านในด้วยสีหน้าเคียดขึ้ง พอถึงคราวของมาร์คัส เขากลับโบกมือเป็นเชิงปฏิเสธและบอกให้คนขับรถเข้าประจำที่

"ลุงครับ ผมอยากแวะ…" คนสั่งก็เอ่ยชื่อสถานที่

นิสิตสาวสวมบทคนใบ้ทำให้ชายหนุ่มผมทองรู้สึกยิ่งเครียดเคร่งและอึดอัดใจเป็นล้นพ้น เขาทำสิ่งผิดพลาดหลายครั้งอย่างไม่น่าให้อภัย เขาต้องคอยควบคุมแรงกดดันและบีบคั้นไม่ให้ปะทุ หากขาดความยั้งคิด เหตุการณ์จะยิ่งเลวร้าย ความสนิทสนมที่หวังก็จะสูญไป แต่ความยากก็เท่ากับเป็นความท้าทาย คนอย่างเขาไม่คิดจะยอมแพ้หรือท้อถอยง่ายๆ ยิ่งกับหญิงสาวที่เขาหมายมั่นก็จะไม่มีวันปล่อยให้หลุดมือ ราจารีย์คือความยากที่ยิ่งยวดกว่าสิ่งใดที่เขาเคยประสบ และคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่ต้องฝ่าฟันด้วยหัวจิตหัวใจอย่างที่ไม่เคยกระทำมาก่อน

เขาใช้ความคิดว่าด้วยเรื่องของร่างบางข้างตัวเพียงประการเดียว และยอมตกอยู่ในความเงียบงันกับหล่อน สารถีมองกระจกหน้าเป็นระยะและเหลือบด้านซ้ายทีด้านขวาที เขาก็เข้าใจสภาพการณ์ ดูท่าเจ้านายของเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

"คุณหนูเงียบจังครับ"

ราจารีย์ยังไม่รู้ตัว แต่หล่อนก็ขานเสียงสูงเป็นเชิงถาม

"คะ"

มาร์คัสคิดว่าตัวเขารู้ คนขับรถต้องการทำบางสิ่งเพื่อเขา ฉะนั้น เขาควรเลือกที่จะเป็นผู้ฟังในทีแรกและคอยหาจังหวะทีหลัง

"ผมเห็นคุณหนูเงียบผิดปรกติน่ะครับ"

"เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะ จ๋ามีเรื่องต้องคิดค่ะ" หล่อนพูดปด

"เรื่องอะไรเหรอครับคุณหนู"

"เยอะแยะค่ะ สาวๆมีแต่เรื่องจุกจิกแหละค่ะ" นิสิตสาวฝืนหัวเราะ

"เรื่องนายพรานผู้พลาดพลั้งครับลุง" เจ้านายหนุ่มเอ่ยสอดแทรกอย่างติดตลกทันควัน

"พลาดยังไงครับคุณมาร์ค"

"ก็แทนที่หลุมของนายพรานจะดักได้อย่างอื่น แต่ตัวเองดันตกลงไปเพราะไม่ระวังน่ะสิครับ"

ราจารีย์แอบเบ้ปาก หล่อนไม่รู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร และก็ไม่อยากรู้ ผู้มากวัยต่างหากที่รับรู้ความนัยแฝง

"พลาดอีท่าไหนครับคุณมาร์ค" คนขับรถหัวเราะในคำ ถ้อยคำของเขาไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการกระเซ้า

มาร์คัสเพียงหัวเราะหึๆ

"จ๋า รู้เรื่องไหม" เขาถามเจ้าหล่อน คนที่เขาตั้งใจขุดหลุมดัก

"ไม่ค่ะ"

"นายพรานผู้น่าสงสาร" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนใจเรียกความสงสัยจากราจารีย์ที่นิ่วหน้า

"คุณหนูสงสารนายพรานผู้พลาดพลั้งหรือเปล่าครับ" เสียงของคนที่อยู่ด้านหน้าถามไถ่

"เขาดักสัตว์ถือเป็นการทำบาป ก็สมควรละค่ะที่ตัวเขาจะตกหลุมซะเอง เรียกว่าดาบนั้นคืนสนอง"

คนขับรถหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ แต่เจ้านายหนุ่มกลับทำหน้าเมื่อย หญิงสาวหนึ่งเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวก็ยิ่งข้องใจ

"พูดถูกทีเดียวครับ"

"น่าจะพูดว่าสมน้ำหน้าใช่ไหมจ๋า" มาร์คัสถามเจ้าหล่อนตรงๆ

"ค่ะ" หล่อนตอบเต็มปากเต็มคำ

"ลุงขำอะไรคะ" ถามต่ออย่างต้องการคำอธิบายให้คลายความงุนงง

"มุมมองของคุณหนูกับคุณมาร์คัสครับ ต่างมุมกันเลย"

"แต่ผมอยากให้จ๋ายืนมุมเดียวกับผมนี่นา" มาร์คัสแย้งราวกับเด็กเอาแต่ใจ

"เรายืนคนละมุม ดีแล้วค่ะ" นิสิตสาวสวนคำ

"สักวัน…จ๋าต้องเปลี่ยนใจ" ถ้อยความหนักแน่น ทว่าอ่อนโยน สีหน้าและแววตาของคนพูดทำให้คนฟังเกิดความความรู้สึกหวามไหวอย่างประหลาด

สารถีจำต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของคู่หนุ่มสาวและตัวเขาก็ทำหน้าที่ของตนอย่างแสร้งไม่ใส่ใจกับถ้อยสนทนาของทั้งคู่

ราจารีย์เผลอตัวประสานสายตากับคนร่างสูง ความร้อนผะผ่าวเหมือนจะซ่านบนใบหน้า หล่อนรีบสะบัดหนีจนเส้นผมเงางามที่ปล่อยตามธรรมชาติกระจายตามแรงกิริยาที่กระทำ

คนมองอยากใช้มือช่วยจัดแต่งแพรไหมสีดำให้นัก แต่ก็ต้องหักห้ามใจอย่างที่สุดเพื่อป้องกันความรู้สึกนึกคิดที่อาจเลยเถิดอันจะก่อให้เกิดผลร้ายยิ่งกว่าที่กำลังเผชิญอยู่




 

Create Date : 15 เมษายน 2548
2 comments
Last Update : 15 เมษายน 2548 15:37:45 น.
Counter : 327 Pageviews.

 

wow ตอนใหม่คร๊าบ ตอนใหม่ เข้ามาcomment ให้กำลังใจคนแรกด้วย ดีใจสองเท่าคะ ยังเชียร์คุณมาร์คัสอยู่เสมอนะคะ
อิอิอิ สงกรานต์เป็นไงบ้างคะ หวังว่าคงจะสนุกนะคะ ส่วนข้าน้อยต้องจัดของจัดบ้านเหนื่อยสายตัวแทบขาดคะ

 

โดย: creamsoda IP: 161.200.255.161 16 เมษายน 2548 1:07:14 น.  

 

คุณcreamsoda : ขอบคุณมั่กๆค่ะ สงกรานต์ที่ลำปางก็ไม่ได้เล่นน้ำนะคะเพราะรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว แหะๆ ^^'' ให้น้องกะหลานๆไปเล่นกันค่ะ อายเด็กอะ

 

โดย: กาญจน์ฏี IP: 203.145.12.120 16 เมษายน 2548 15:14:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กาญจน์ฏี
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




โอม ศรี คเณศา ยะ นะ มะ ฮา โอม คะชานะนัม ภูตะคะณาธิเสวิตัม กะปิตะถะชัมพูผะละ จารุภักษะณัม อุมาสุตัม โศกะวินาศะการะกัม นะมามิ วิฆเนศวะระปาทะปังกะชัม.


ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นใน blog นี้เป็นของผู้เขียนตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากต้องการนำงานเขียนชิ้นใดไปเผยแพร่ ไม่ว่าเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ กรุณาติดต่อขออนุญาตโดยติดต่อผ่าน ได้ที่อีเมลล์ภายในบอร์ดข้อมูลส่วนตัว มิฉะนั้นอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

**คำบูชาองค์ไกรลาสบดี**
'โอม นะมัห ศิวายะ'









Friends' blogs
[Add กาญจน์ฏี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.