Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
8 เมษายน 2548
 
All Blogs
 
ตอนที่๕ ครึ่งแรก

คนที่ใช่คือเธอ
ตอนที่๕
ชายหนุ่มผมทองผลักเปิดบานประตูด้วยรอยยิ้มอย่างผู้มีอัธยาศัยอันดี กลุ่มคนที่รออยู่ก่อนกำลังพูดคุยพลันชะงักและหันไปมองผู้มาใหม่ที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้บริหารบริษัทที่พวกเขาต้องร่วมทุน คนทั้งสามยิ้มแทนการต้อนรับและกล่าวเชื้อเชิญอย่างให้เกียรติอีกฝ่าย มาร์คัสตอบรับตามมารยาท มือก็เลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวข้างกายซึ่งเป็นที่สนใจของคนทั้งกลุ่มโดยเฉพาะชายหนุ่มอีกคนที่นั่งตำแหน่งตรงข้ามกับหล่อน สายตาพราวลอบมองร่างบางทุกอิริยาบถ มุมปากโค้งด้วยความพึงพอใจ เขานึกชื่นชมสายตาแหลมคมของมาร์คัส แลนด์ดอล์ฟ ที่เข้าใจหาหญิงสาวหน้าแฉล้มมาทำงานด้วย ผู้มากอาวุโสสองคนดูจะไม่ติดใจกับรูปร่างหน้าตาของเจ้าหล่อนมากเท่าตัวเขา การเซ็นสัญญาที่มีหญิงสาวร่วมโต๊ะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องยิ่งน่าอภิรมย์ ภายใต้ท่าทีที่รักษาความเป็นนักธุรกิจนั้นมีสัญชาตญาณของเสือหนุ่มที่กระหายอยากอย่างยิ่ง

เป็นครั้งแรกที่ราจารีย์ต้องพบปะผู้บริหารของบริษัทอื่นอย่างเป็นทางการ หล่อนรู้สึกประหม่าอยู่บ้าง และคำพูดของเจ้านายหนุ่มก็ทำให้หล่อนเกิดความรู้สึกหวั่นใจกับเหตุอันอาจจะเกิดขึ้น แต่จำต้องข่มใจให้สงบเยือกเย็นพลางทรุดตัวนั่งเก้าอี้

มาร์คัสเลื่อนเก้าอี้ให้ตัวเองและนั่งทีหลัง ดวงตาคู่สีมรกตกวาดมองผู้บริหารของบริษัทยูนิคอย่างจับสังเกต เขารู้ว่าควรต้องระวังใครเป็นพิเศษเพราะสายตาที่แฝงเร้นความปรารถนาจากอีกฝ่าย หากเขายังอ่านออก และเขาก็แนะนำตัวนิสิตสาวให้ทุกคนรู้จัก ราจารีย์ที่อ่อนวัยย่อมยกมือพนมไหว้ผู้บริหารบริษัทยูนิคทั้งสาม พวกเขารับไหว้ แต่ดวงตาคู่หนึ่งยังไม่เลิกติดใจในตัวเจ้าหล่อนทำให้มาร์คัสรู้สึกหงุดหงิดใจพอสมควร

"นักศึกษาฝึกงานเหรอครับ ผมนึกว่าทำงานแล้วเสียอีก" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างไม่คาดคิด เขาหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี

เจ้าตัวเพียงยิ้มน้อยๆ

"แถมการปฏิบัติก็อย่างกับรับเข้าทำงานจริงๆ เขาจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกคือทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ผมชอบนโยบายของบริษัทคุณ" เสียงเดิมพูดต่ออย่างเอาใจ

"ขอบคุณมากครับคุณปกรณ์" มาร์คัสตอบรับตามมารยาท

"แต่ผมว่าเรามาพูดเรื่องธุรกิจกันดีกว่า" เขาเปลี่ยนเรื่องเพื่อส่งสัญญาณบอกอีกฝ่ายเป็นนัยๆ

"เริ่มเลยก็ดีเหมือนกันครับ" ฝ่ายหลังยิ้มอย่างล้อเลียนแกมขบขันกับท่าทีที่คล้ายจะกันท่าของชายหนุ่มผมทอง

ขั้นตอนใช้เวลาอันสั้นและฉับไวเพราะเคยมีการเจรจาในส่วนรายละเอียดของธุรกิจดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ตลอดเวลาของการสนทนา ชายหนุ่มจากบริษัทยูนิคก็มองเป้าหมายอยู่บ่อยๆ ราจารีย์รู้ตัว แต่ต้องรักษากิริยาตามที่มาร์คัสย้ำนักย้ำหนา และแสร้งไม่ใส่ใจกับแววตาแฝงความกรุ้มกริ่มที่เจาะจงตัวหล่อน แม้รู้สึกรำคาญมากแค่ไหนก็ต้องอดทน

มาร์คัสก็คอยสะกดกลั้นอารมณ์ที่เกือบจะพลุ่งพล่านให้สงบนิ่งและเยือกเย็นที่สุด ในหัวท่องคำว่า 'ธุรกิจ' นับครั้งไม่ถ้วนจนได้เอกสารสัญญาที่มีลายมือชื่อของทั้งสองฝ่ายอย่างครบถ้วน

"ขอบคุณมาก คุณมาร์คัส" หนึ่งในผู้มากอาวุโสกล่าวพลางยื่นมือ

เขาจับตอบและเอ่ยถ้อยคำเช่นเดียวกับฝ่ายบริษัทยูนิค

กระบวนการสำคัญเสร็จสิ้นราจารีย์ก็หวังให้หล่อนหลุดพ้นเสียจากที่นี่โดยเร็ว หล่อนไม่รู้หรอกว่ามาร์คัสก็คิดไม่ต่างกัน ทว่ายังเหลือการร่วมรับประทานระหว่างสองฝ่ายอันแสดงถึงมิตรภาพในระยะเวลาตามสัญญากำหนด

ราจารีย์มองอาหารหลากชนิดที่พนักงานยกวางบนโต๊ะอย่างตื่นตะลึงและภาวนาให้ตัวหล่อนไม่หลุดกิริยาขายหน้าขายตาออกมา ความปริวิตกไม่อาจเก็บซ่อนจึงแสดงผ่านทางสีหน้าและแววตา

"คุณราจารีย์ไม่ต้องเกร็งนะครับ" ปกรณ์เย้ายิ้มๆ

"เอ่อ ค่ะ" หล่อนยิ้มจืดเจื่อน

"ถ้าตักอะไรไม่สะดวก ผมยินดีบริการครับ"

นิสิตสาวเหลือบตามองเจ้านายหนุ่มที่นิ่งขึงข้างตัว สีหน้าเรียบเฉยขัดกับดวงตาฉายแววแปลกที่ทำให้หล่อนนึกหวั่นใจ

ชายหนุ่มฝ่ายตรงข้ามบริการเจ้าหล่อนอย่างถ้อยคำด้วยที่นั่งที่เอื้ออำนวย ราจารีย์อยากปฏิเสธก็เกรงจะเสียมารยาท หล่อนต้องรับน้ำใจที่เขาหยิบยื่นให้อย่างจำใจกระทั่งมาร์คัสตักอาหารใส่จานให้หล่อนและเจตนากระทบช้อนกับเสือผู้หญิงที่เขาเคยกล่าวหา

"โอ๊ะ! ขอโทษครับ" ชายหนุ่มผมทองยิ้มเย็น น้ำเสียงเรียบเรื่อย

"ผมกับคุณ 'ใจตรงกัน' หรือเปล่าเนี่ย จังหวะชงพอดิบพอดี" คำถามหยั่งเชิง สุ้มเสียงกลั้วหัวเราะและเรียกอีกสองเสียงจากผู้มากอาวุโส

"นั่นสิครับ" มาร์คัสตอบทีเล่นทีจริง

คนฟังเลิกคิ้วสูง คำตอบที่ได้ยินชัดเจนอยู่ในตัว แต่ไม่คิดจะล้มเลิกความตั้งใจแม้แต่น้อย

คนกลางอย่างหญิงสาวมีสีหน้าปั้นยาก หล่อนไม่เข้าใจถ้อยโต้ตอบของพวกเขา หากรู้สึกถึงความตึงเครียดบางอย่าง

ชายหนุ่มผมทองพยายามขวางหนทางบริการของปกรณ์ แต่อีกฝ่ายก็หาจังหวะจนได้ทำให้ราจารีย์รู้สึกอึดอัดใจ

"ขอดิฉันตักเองบ้างเถอะค่ะ" หล่อนบอกหนุ่มๆ

"คุณราจารีย์ว่าไง ผมก็ว่าตามครับ"

มาร์คัสจำเป็นต้องหยุดมือ

สักพักคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเสือผู้หญิงก็ขอตัวไปทำธุระส่วนตัวและปล่อยให้คนอื่นๆทานอาหารกันต่อ ภายนอกห้องที่ไม่มีผู้รับรู้การกระทำ ร่างสูงก็เดินไปหาพนักงานของร้านอาหารและเรียกมาสั่งความ

เพียงครู่เดียวพนักงานก็เข้าไปในห้อง VIP 3 และถามอย่างสุภาพด้วยท่าทางอ่อนน้อมที่แนบเนียนว่า

"คุณมาร์คัสคือท่านไหนคะ"

คนถูกเรียกก็ขานตอบ

"ผมครับ"

"เพื่อนของคุณรอพบค่ะ"

คนฟังมีสีหน้างงงันด้วยความสงสัย พนักงานสาวก็รีบพูดต่อ

"เผอิญมิสเตอร์พักที่โรงแรมและโทร.ไปหาคุณที่บริษัทเพราะจำเบอร์มือถือไม่ได้ค่ะ ทางบริษัทของคุณก็บอกมิสเตอร์ว่าคุณมีนัดกับบริษัทยูนิคที่นี่ มิสเตอร์เลยมาตามหาคุณค่ะ"

"ตอนนี้เหรอครับ" เจ้าตัวถามขรึมๆ

"ค่ะ รออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรมค่ะ เห็นบอกว่ามีเวลาครู่เดียวที่จะพบ"

มาร์คัสมีท่าทีลังเลใจและไม่ทันถามชื่อของเพื่อนที่หล่อนกล่าวอ้าง หล่อนก็ชิงหนีไปดื้อๆ ใจหนึ่งที่คิดการบางประการส่งให้เขายิ้มมุมปาก

"เชิญคุณมาร์คัสตามสบายครับ" ผู้มากอาวุโสคนหนึ่งเอ่ยอนุญาต

"ขอตัวครับ" พูดจบก็บอกนิสิตสาวที่ยังทานอาหารไม่อิ่ม

"จ๋า รอพี่อยู่นี่นะ"

หล่อนพยักหน้ารับคำ

รอจนชายหนุ่มผมทองเดินพ้นจากตัวร้านอาหาร ใครอีกคนก็กลับเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ

"คุณมาร์คัสล่ะครับ" เขาถามราจารีย์และหย่อนกายนั่งข้างหล่อน

นิสิตสาวชะงักมือ หล่อนรีบรวบช้อนส้อมอย่างระแวดระวังพลางตอบ

"ทำธุระค่ะ"

"เขาไปพบเพื่อนน่ะ" กลุ่มคนบริษัทเดียวกันขยายความ

"อ้อ ครับ" ปกรณ์บอกอย่างรับรู้

ระหว่างที่สองผู้มากอาวุโสทานอาหารอย่างเงียบๆ ชายหนุ่มก็ถามเรื่อยๆ

"คุณเป็นแฟนกับคุณมาร์คัสหรือเปล่า"

หล่อนส่ายหน้าแทนคำตอบ

"เขาหวงคุณน่าดู" ปากพูด แต่เอื้อมมือจะโอบไหล่ของหล่อน

"คุณมาร์คัสเป็นญาติของพี่เขยค่ะ" ราจารีย์ขยับตัวให้แผ่นหลังพ้นจากพนักเก้าอี้

"พวกคุณดองญาติกันนี่เอง" คนพูดไม่คิดจะเปลี่ยนความตั้งใจ มือที่พลาดหนแรกก็เอื้อมหาเป้าหมาย

นิสิตสาวหันขวับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเคียดขึ้ง

"คุณจะทำอะไรไม่ทราบคะ" ถามเสียงห้วน

"ถามอะไรอย่างนั้นครับ" หัวเราะร่วนขัดกับอากัปกิริยาที่หวังฉวยโอกาสเต็มที่

หล่อนผุดลุกทันทีทำให้ปกรณ์ชักมือกลับ แต่ยังลุกตาม

"น่า คุณราจารีย์ เราแค่หาความสุขกันนิดหน่อย และคุณก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกับเขา เขาไม่แคร์หรอกว่าคุณจะเป็นยังไง" เขาเกลี้ยกล่อม

"ถอยไป!" หล่อนตวาดเสียงดังลั่นยังผลให้คนสองคนที่แสร้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่อาจนิ่งเฉย

"เกิดมีใครได้ยิน คุณไม่อายหรือครับ" ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าหาหล่อน

ร่างบางก็ถอยหนี

"ดิฉันกล้าตะโกนก็แล้วกัน" หล่อนข่มขู่อย่างหวาดกลัว

"พอเถอะ หลานปกรณ์ สำหรับรายนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิด" เสียงหนึ่งยับยั้งเหตุ

"ผมต้องหาวิธีให้เขาออกไปจากห้องเชียวนะ ไม่ยอมสูญเปล่าแน่"

"หล่อนไม่เล่นด้วย อาจกลายเป็นการหาเรื่องใส่ตัว" อีกเสียงพยายามทัดทาน

"ผมก็ว่างั้นแหละครับ" เป็นเสียงแปลกปลอมของคนที่เปิดประตูห้องอย่างเงียบกริบ ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มที่ทำให้เป้าสายตารู้สึกหนาวเยือก

"คุณ…" ฝ่ายตรงข้ามพูดไม่ออก

"ผมมาเร็วไปมั้ง"

ราจารีย์ก็วิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของชายหนุ่มผมทองผู้เป็นที่พึ่ง

"ผมแค่ล้อเธอเล่น"

"ล้อผมด้วย ไม่ใช่แค่เธอ ละถ้าผมบอกคู่หมั้นของคุณที่เป็นลูกสาวพ่อเลี้ยงอะไรน้า ผู้มีอิทธิพลใหญ่นั่นน่ะ พอดีผมบังเอิญรู้มา ถ้าผมพาจ๋าไปยืนยันคำพูด กับตัวผมอีกเสียงที่ชื่อเสียงของตระกูลช่วยรับรองให้เรื่องที่พูดมีน้ำหนัก เธอต้องรับฟังแน่ ผลที่จะตามมา… ใครๆก็คงรู้ ตัวคุณคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับเพราะคิดว่าคุณคงมีข้อแก้ตัวดีๆให้คู่หมั้นฟังทุกครั้งที่ประพฤติตัวแบบว่า… ผมไม่ขอพูด กลัวจะหยาบคาย" มาร์คัสข่มขู่ด้วยท่าทีสบายอารมณ์

"ผมขอโทษ" คนพูดที่ยืนคอตกก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

"คุณคงไม่คิดจะยุ่งกับจ๋าอีก"

"ผมจะไม่ยุ่งกับคุณราจารีย์ สาบานได้"

"คุณรับปาก ผมจะเชื่อสักครั้ง จริงๆผมก็ไม่อยากให้คุณต้องเดือดร้อน" มาร์คัสบอกด้วยสีหน้าเย็นชา

"ผมคิดถูกหรือเปล่าที่ทำสัญญากับพวกคุณ ผมไม่แคร์ถ้าต้องล้มเลิกสัญญา โจน่าก็คงคิดเหมือนผมเพราะจ๋าเป็นน้องภรรยาของเขา" เขาถามคนจากบริษัทยูนิคทั้งหมด

"คุณมาร์คัสครับ พวกเรามีส่วนผิดที่ทำเหมือนรู้เห็นเป็นใจกับเขา พวกเราต้องขอโทษคุณอย่างมาก" หนึ่งในผู้มากอาวุโสเอ่ยอย่างเกรงว่าจะเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท

"จะมีผลกระทบต่อสัญญาที่พวกเราทำจริงเหรอครับ" เป็นอีกเสียงที่ถาม

คนฟังแสร้งทำท่าคิดหนักกับการตัดสินใจ

"ปรกติผมไม่เคยเอาเรื่องธุรกิจมาเกี่ยวข้องกับเรื่องพฤติกรรมส่วนบุคคล จะครั้งไหนผมก็แยกแยะได้"

"คุณจะไม่ล้มเลิกสัญญาใช่ไหมครับ" คนก่อเรื่องเอ่ย

"อย่างที่คุณเข้าใจ"

"ขอบคุณเหลือเกินครับ คุณมาร์คัส" ปกรณ์พูดกับอีกฝ่ายโดยตรง


Create Date : 08 เมษายน 2548
Last Update : 8 เมษายน 2548 23:36:36 น. 0 comments
Counter : 294 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาญจน์ฏี
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




โอม ศรี คเณศา ยะ นะ มะ ฮา โอม คะชานะนัม ภูตะคะณาธิเสวิตัม กะปิตะถะชัมพูผะละ จารุภักษะณัม อุมาสุตัม โศกะวินาศะการะกัม นะมามิ วิฆเนศวะระปาทะปังกะชัม.


ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นใน blog นี้เป็นของผู้เขียนตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน หากต้องการนำงานเขียนชิ้นใดไปเผยแพร่ ไม่ว่าเป็นการส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ กรุณาติดต่อขออนุญาตโดยติดต่อผ่าน ได้ที่อีเมลล์ภายในบอร์ดข้อมูลส่วนตัว มิฉะนั้นอาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย

**คำบูชาองค์ไกรลาสบดี**
'โอม นะมัห ศิวายะ'









Friends' blogs
[Add กาญจน์ฏี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.