มาคุยเรื่อง 5G กันต่อนะครับ แต่คราวนี้จะมาดูกันที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตบ้างละกันนะครับ


ด้วยความสามารถที่สูงขึ้นของ 5G ทำให้ในปัจจุบันมีหลายๆประเทศ เริ่มนำข้อดีของ 5G มาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึง
เพิ่มประสิทธิภาพของตัวสินค้ากันมากขึ้น 

โดยเฉพาะสินค้าประเภท OEM ถ้าใครที่อยู่ในแวดอุตสาหกรรมการผลิตอยู่แล้ว น่าจะทราบกันดีว่า OEM เนี่ยมีโวลลุ่มการผลิตที่สูงมากก็จริง แต่กำไรที่ได้ก็ต่ำมากด้วย เต็มที่อาจจะได้แค่ 2-3% ด้วยซ้ำ

แล้วจะทำยังไงให้สินค้า OEM สามารถสร้างมูลค่าที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ได้ แนวทางหลักๆที่หลายประเทศนำไปใช้ก็คือ การลดต้นทุนการผลิตครับ

ถ้าให้พูดกันตรงๆ ตอนนี้เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า การเข้ามาของ 5G ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันทางด้าน ต้นทุนการผลิตจากต่างประเทศ

คือข้อดีหลักๆของ 5G ต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต จะมีอยู่ 3 อย่าง ตามนี้ครับ

หนึ่ง การส่งข้อมูลความเร็วสูงในระดับ กิกะบิต ต่อวินาที (Gbps) 
สอง การใช้งาน ที่มีการเชื่อมต่อ ของอุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่เดียวกันได้
สาม การส่งข้อมูลที่มีความเสถียรมาก และมีความหน่วง ในการส่งข้อมูลต่ำในระดับ 1 มิลลิ วินาที 

ซึ่งข้อดีเหล่านี้ ผู้ผลิตในหลายๆประเทศ ก็เริ่มนำเอาไปปรับใช้กันมากขึ้นละครับ

อย่างเช่นการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในไลน์การผลิตแทนมนุษย์ หุ่นยนต์ที่พูดถึงนี่แตกต่างจาก พวกแขนกล พวกเครื่องจักร ที่ แค่ทำงานตามแพลตฟอร์มเดิมๆนะครับ 

การพัฒนาหุ่นยนต์ในยุค 5G คือหุ่นยนต์ AI ที่สามารถประมวลผลสั่งการ การทำงานต่างๆด้วยตัวเอง ผ่านการประมวลผลบนคลาล์วได้ครับ

การใช้ 5G เข้ามาช่วยในกระบวนการนี้ จะช่วยในเรื่องหลักๆ 2ด้านด้วยกัน
หนึ่ง การเก็บข้อมูลการทำงานต่างๆขึ้นบนคลาล์ว คือ AI เป็นระบบประมวลผลที่สามารถจดจำ และพัฒนาตัวเองได้การนำส่งข้อมูลใหม่ จากการทำงานเพิ่มเข้าไปในเรื่อยๆ มันคือการพัฒนาให้ AI มีความสามารถที่สูงขึ้น

สอง ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตหุ่นยนต์ลง ว่าง่ายๆ การเชื่อมต่อหุ่นยนต์ทุกตัวเข้ากับ สมองกลบนCloud ตัวเดียว มันประหยัดกว่าการยัดสมองกล เข้าไปในหัวของหุ่นยนต์ทุกตัวมาก 
คือข้อมูลปริมาณมหาศาลขนาดนั้น มันคงไม่สามารถจะยัดลงไปอยู่ในหัวของหุ่นยนต์ ที่มีขนาดไม่ได้ต่าง จากหัวมนุษย์ได้หรอกครับ ดังนั้นการนำสมองกลไปฝากไว้บน Cloud แล้วใช้ 5G เป็นตัวเชื่อมต่อ ในการสั่งงานต่างๆ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แล้วก็จะทำให้หุ่นยนต์ มีความฉลาดมากขึ้นด้วยครับ
กระทั่งกับระบบขนส่งภายในโรงงานเอง ก็เริ่ม หันมาใช้หุ่นยนต์กันมากขึ้นครับ
เพราะข้อดีหลักๆของหุ่นยนต์คือ มันไม่เหนื่อย มันทำงานได้ตลอดเวลา และที่สำคัญ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุของบุคคลากรในโรงงานได้
เมื่อในไลน์การผลิตมีหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่ ก็สามารถลดต้นทุนทางด้านแรงงานไปได้เยอะ ถึงแม้ว่าการลงทุนในช่วงแรก จะต้องใช้เม็ดเงินที่เยอะมากแต่เมื่อมองในระยะยาวแล้ว ผลกำไรที่จะเกิดขึ้น มันจะได้มากกว่า การผลิตด้วยแรงงานคนแบบเดิมๆแน่นอนครับ
ตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะไปถึงจุดคุ้มทุนก่อนแค่นั้นเองครับ



Create Date : 25 มีนาคม 2566
Last Update : 25 มีนาคม 2566 9:49:49 น.
Counter : 430 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฟาฬ
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ฝากช่องยูทูป Misterfharl ด้วยนะครับ
มีนาคม 2566

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog