----------ดัชนี วัดความกลัว ของนักลงทุน /// ราคาออปชั่น ถูกแพงดูที่ตรงนี้ IV -------
สืบเนื่องมาจากวันวาน บอกวิธีดูอาการ ของวิกฤต ว่าให้ดูที่ กราฟ VIX
วันนี้จะขออธิบายรายละเอียดว่าทำไมต้องใช้กราฟนี้
1 CBOE คือ
2 ดัชนี VIX ได้รับการยอมรับ ตั้งแต ปีคศ 1993 ว่าเป็น " ดัชนีวัดความกลัวของนักลงทุน " หรือ ความหมายจริงๆๆคือ " ดัชนีวัดความผันผวนของตลาด S&P 500 "
3 เพราะดัชนี้ใช้ดัชนี ของS&P 500มาคำนวน
4 ย้อนเอากราฟก่อน เกิด 2009 มา ดาวเทียบกับVIX
5 แต่ปัจจุบัน เป็นแบบนี้ จึงยังไม่ใช่ วิกฤต
และโดยหลักการเสมือนปัญหา รับรู้กันมาพอสมควรและได้รับการแก้ไข มาเรื่อยๆๆ มิได้ถูกปิดบัง เช่นก่อน การแก้ปัญหา ของประเทศยุโรป ก็รับรู้และได้รับการแก้ไข มาเรื่อยๆๆเช่นกัน ส่วนปัญหา ประเทศในกลุ่ม Emerging Economic ( กำลังจะโต ตามหลักเกณท์ ไอเอมเอฟ ถ้าพวก เมกาและยุโรปจะเรียก Advance Eco ถ้าอ่านเจอในข่าวจะได้เข้าใจ ศัพท์เฉพาะ) กลุ่มนี้ เจริญเติบโตไวและดี เช่นจีนและอินเดีย กลายเป็นฟุ่มเฟือย ใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ขวางงหน้า ทำให้กิจการอสังหา ปลูกบ้านขายรถ ขายเครื่องบิน บูมแบบชนิดไม่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อน แต่นั้นเป็นภาพของคนไม่กี่ล้านคน ของจีน ส่วนใหญ่รัฐบาลยังมองว่า รายได้ต่ำลำบาก จีนจึงใช้นโยบายเอาเงินได้จากภาษ๊คนรวยไปสร้างเมกาโปรเจค สร้างเมืองใหญ่ๆๆแบบดูไบ ในที่ที่รัฐบาลอยากให้เกิด เมืองใหม่ (แท้จริงแล้ว ทะเลทรายที่เพิ่มขึ้นไวมาก จนทำให้เกิด พายุทะเลทรายใก้ลปักกิ่งจนคนปักกิ่งเองต้องเจอฝุ่นทรายทุกครั้ง จนดูแล้วไม่น่าจะอายุยืนต่อไปได้ดีเพราะสภาพแวดล้อมทางฝุ่นสูงและบ่อยมาก และมากขึ้นเรื่อยๆๆ การคิดย้ายกระจายคนไปที่ที่ดีกว่า จึงเกิด เมกกะโปรเจค แต่ในยูทูป นำเอาภาพที่ยังไม่มีคนมาลง จนน่ากลัวว่าเมืองร้าง ดังนั้นการจะอ่านข่าวแล้วสรุปอะไร เรายังต้องรู้ตื้นลึกหนาบางของประเทศเขาพอสมควร)
จากเหตุการณ์บูมอสังหา จนหลายประเทศมองว่า จีนจะฟองสบู่อสังหา ขณะที่ค่าเช่าในปักกิ่งแพงเกินเงินเดือน ที่ดินแพงมาก คนที่มีเงินจึงลงทุนในบ้านหลังแรก หลังสองหลังสาม รัฐบาลจีนพยายามมานานพอสมควรในการแก้กฏหมายคนมีบ้านหลังที่สองสามจะเสียภาษี ราคาบ้านแพงหรือ ดอกเบี้ยกู้แพง จนสามารถ ลดการ บูมของอสังหา เราดูจากกราฟ นี้
จากการที่ อยากรู้ทิศทางตลาดให้ดีดีเพื่อจะได้มองตลาดไทยให้ถูกต้องและทันโลก
จึงดัดแปลงวิธีคิดเดิม จากมองตลาดหุ้น แค่เพียงกราฟไทยกราฟหุ้นตัวนั้น หรือ พื้นฐานหุ้น 500กว่าตัวมานั่งเลือกจนได้หุ้นในใจสัก 10-20ตัว แต่20กว่าปีไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะ เราเล่นได้ทางเดียว พอเรารู้ว่าลง ก็มีแต่หยุด ///ขาย///ออกจากตลาดไปนั่งรอ จนมาอ่านการเล่นขาลงได้จากฟิวเจอร์ และออปชั่น
ไม่ยาก ลดการเสี่ยงลงได้ แต่
ผิดทางง่ายเพราะ ความไวของข่าว
จึงต้องพัฒนาการหาทิศทางจาก ข่าว ในข่าวมีตัวเลขประกาศทางเศรษฐกิจ
ทุกอย่างเลยต้องเรียนใหม่หมดทีละคำ ทีละความหมาย แล้วจึงมาแปลให้ถูก และจับอารมณ์ต่อตัวเลขและข่าวนั้น ชั่งน้ำหนักถ้ามีหลายข่าวว่าคนแต่ถิ่นจะคิดอย่างไร อันไหนสำคัญกว่ากัน
แล้วระบบเทรด ก็พบมากขึ้น
ทั้งหมด ต้องขอบคุณ ผู้ที่ตามอ่านแล้วพิมพ์ ให้กำลังใจเล็กๆๆน้อยๆกันมาตลอด แม้จะเพียงไม่กี่คน
แต่สำหรับผู้เขียนแล้วมันมีค่าความหมายถึงว่าเราเขียนเขาเข้าใจไหม เราทำให้เขาสับสนหรือป่าว เรากำลังคิดผิดนำเสนอสิ่งผิดหรือป่าว
ขอเพียงบอก กดโทร หรืออีเมลหรือ เข้ามาบอกในSkype ว่าทำให้ท่านเสียหายอย่างไร ก็ได้ แต่ต้องขอคุยด้วย เพราะท่านอาจจะเข้าใจอะไรผิด หรือยังยึดมั่นถือมั่นอะไรตามเดิมอยู่ หรือขาดอะไรที่จะทำให้ได้ตามแบบเรา
วันนี้เลยได้แค่นี้ พรุ่งนี้จะต่อว่า Volatility เอาไปใช้หาออปชั่นราคาถูกๆๆได้อย่างไร
นี่ก็ได้จากการหาข้อมูลเขียนวันนี้นี่แหละ ก็เลยเข้าใจค่า IV Implied Volatility ในตารางวันคลิก เจอวิธีหาออปชั่นราคาถูกโดยดูตารางนี้
จะไปอ่านก่อนก็ได้ภาษาไทย (ผมเจอแล้วผมก็อ่านไม่เข้าใจ แต่ ผมเข้าใจก่อนเจอ ภาษาไทยนี้เลยรู้ว่าเขาเขียนตามตำรา ไม่ได้เขียนตามความเข้าใจ แล้วลองอ่านผมเขียนตามเข้าใจพรุ่งนี้ละกัน)
ลิ้งค์บทความภาษไทย //www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=316&Itemid=247&limit=1&limitstart=0
Create Date : 24 กันยายน 2554 |
|
24 comments |
Last Update : 24 กันยายน 2554 6:40:09 น. |
Counter : 2173 Pageviews. |
|
|
|
หัวข้อข่าวว่า หุ้นเมกาขึ้นเพราะการเทรด แบบ ผันผวน
หรือ " Volatile Trading "
เมื่อคืน ดาว + 37.65จุด
หรือง่ายๆๆก้เพราะตลาดซึม ของถูกเต็มตลาดนั่นเอง
ในออปชั่น เขามีตาราง บอกค่า IV Implied Volatility
ถ้าใช้เป็นจะหาออปชั่นราคาถูกๆๆเป็น ยิ่งผันผวนยิ่งจะมีของถูก
ตามอ่านพรุ่งนี้ละกัน