---------พื้นฐานของคณิต----ที่มาดัชนีอ่านเป็น-----จุด----(วันสบาย วันหยุด)
สืบเนื่องจากกระทู้ในสินธรเกี่ยวกับ กราฟ คำตอบที่มือใหม่อยากได้คือ 1 จะเข้าซื้อตรงไหน 2 จะขายตรงไหน 3 ต้องใช้กราฟอะไร 4 ต้องใช้ อินดี้อะไร 5 ต้องขีดเส้นอย่างไร 6 หาแนวรับแนวต้านได้อย่างไร 7 ขึ้นคราวนี้จะถึงไหน หรือลงคราวนี้จะถึงไหน
แต่คนที่เล่นมาก่อน มือเก่าทุกคนก็ทราบคำตอบ ว่า กราฟ จะใช้อินดี้ ใข้อะไรเป็นตัวชี้นำให้ตัดสินใจ เข้าซื้อหรือขายออก ทุกอย่างไม่ว่า ด้วยMACD RSI EMA5/50 หรือด้วยระบบ โปรแกรมบอกให้เลยไม่ต้องมาอ่าน Simulate อีกหลาหหลายขนิด ที่คิดค้นกันใหม่ขึ้นทุกวัน จนคนที่ศึกษากราฟมาโดยตรงเองยังต้องตามตลอดเพื่อหา จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละโปรแกรมที่คิดใหม่ๆ ว่าดีอย่างไร
ผลสุดท้าย ทุกคนจะมาสรุปว่า ไม่มีกราฟอะไรจะดี 100%
ความผิดพลาดส่วนใหญ่ที่เห็นคือ ทุกคน ไม่แน่น เบสิค
จึงทำให้ตัวเองต้องไปนั่งนึกย้อนหลังว่าทำไมเป็นคนชอบคณิตศาสตร์
ตั้งแต่เริ่มจำความได้
เกิดในตลาดของจังหวัดหนึ่ง ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา เห็นแม่น้ำกว้างมาก น้ำสีน้ำตาลลูกรัง ยามน้ำหลาก เห็นปลาสังกะวาด (กิน) ทาน (ขี้) อุจจาระ เป็นเรื่องปกติ เพราะที่หน้าบ้านริมน้ำ มีแพไม้ไผ่ มัดลอยน้ำ แล้วปูพื้นกระดานให้เรียบ เพื่อใช้เป็นแพรับส่งสินค้า มีเรือมาจอด ประจำ แล้วคนเรือก็ถ่ายปลดทุกข์ ด้านข้างเรือ กันเป็นเรื่องปกติ คนอาศัยอยู่ริมน้ำ หรือเด็กที่ชอบไปอาบน้ำ ว่ายน้ำ โดดน้ำเล่น ย่อมเคยเห็น หมาตายลอยน้ำมา สัตว์ตายลอยมา จนกระทั่ง อุจจาระ ที่มีปลา ล้อมแทะกินตามมาด้วยเป็นประจำ ที่บ้านมีกิจกรรมผู้ใหญ่ ฝึกนับเลขกันประจำ สิ่งที่เหลือเมื่อหมดวัน หรือแจ้งแล้ว คือเศษเงินค่าต๋งในขันเงิน ใหญ่กว่าฝ่ามือ หน้าที่ของผมถูกกำหนดให้นับจำนวนเหรียญในขัน เป็นที่มาของการถูกฝึกคณิตศาสตร์พื้นฐานของผม จากมารดา ที่เป็นลูกของก๋งผม ที่เป็นจีนแท้ แล้วแต่งงานกับย่าคนไทย ก๋งเป็นเจ้าของโรงยาฝื่น ย่าได้เห็นเพียงในรูปไม่ทราบประวัติว่าเสียหรือไปไหน ตอนผมเกิด ยังมีโรงยาฝิ่นเก่า ร้างข้างในจำได้ว่ามืดมาก ไม่นานแม่ก็รื้อทิ้งเก็บไม้ไว้ แม่เล่าว่าก๋งเสียตอนแม่ อายุราว16ปี แม่ได้พาก๋งไปส่งเมืองจีนด้วยสำเภา แล้วกลับมา มีร้านขายไม้ อุปกรณ์ก่อสร้าง แม่จบเพียง ป4 แต่แม่บอกว่า เวลาคิดไม้เป็นยก มีสูตรจีนไหหลำสอนไว้ แม่คิดได้ไวกว่าคนทั่วไป(น่าจะเป็นจุด ไอดอล ในใจ)
จากงานที่แม่ให้ทำนับเศษเงิน ก็พัฒนาให้ความขี้เกีจต้องคิดวิธีที่นับได้ไวไว จำได้เลยว่าได้คิดวิธีเอาเหรียญตั้งกองสูงเท่าๆๆกันห้าเรียญตามชนิดของเหรียญ ทำให้นับเสร็จไวกว่าเดิมมากมาย จึงได้ไปวิ่งเล่นไวขึ้น
พอมาอยู่ ที่ใหม่ นอกตลาด ปากทางเข้าตัวเมือง เพื่อ เปิดปั้มขายน้ำมัน ตราดาว (Caltex) มีตัวปั้มแบบใช้สายเติมมีเลขบอกจำนวนลิตร์ และเศษของลิตร์ได้ รวมทั้งตั้งราคาลิตร์ละไว้ จะมีช่องคำนวนราคาจำนวนเงินรวมไว้ให้เลย สมัยนั้นจำได้ว่านานมากกว่าจะได้เปลี่ยนราคาที่ตั้งในเครืองสักหน และเมื่อเครื่องเติมเสีย หลอดแก้วแสดงความสกปรก ก็จะมีช่างจาก กทม มาเปิดแก้ไข ทำความสะอาด แล้วผมก็ได้เห็นว่า ท่อน้ำมันที่ดูดขึ้นมาจากถึงเก็บใต้ดินห้าพันลิตร์ วิ่งวนไปผ่านเครื่องนับจำนวนลิตร์ ที่เป็นลูกล้อกลมๆๆ เขียนหมายเลขไว้ ตั้งแต่ 0 ถึง 9 อยู่ทั้งหมด 4หลัก 4วงล้อและแถวบนเป็นจำนวนเงิน
ตอนย้ายออกมาตอนนั้นจำได้ว่ายังเรียน โรงเรียนเดิม ที่ต้องเดินผ่านทุ่งนาไปทางหลังโรงเรียนที่มองเห็นลิบๆๆ แล้วเด็กในตลาดมาเจอหน้าฝนกับทุ่งนา ไว้ว่างจะเล่าให้ฟัง มาจำความได้อีกทีก้พี่สาวคนที่2 จบพานิชย์พระนคร กลับมาเป็นผู้จัดการสาว สมัยนั้นผมใช้ ลูกคิด (รางไม่แก้ว) พี่สาวเล่าให้ฟังว่าต้องเรียนภาษาจีน เชาวเลขและลูกคิดด้วย เชาวเลข พี่สาวบอกว่าไม่ใช่เลข แต่เป็นวิชาที่จดไวไวเพราะจะเรียนไปเป็นเลขาเจ้านายเวลาเขาสั่งหรือคุยอะไรค้องคอยจดบันทึก นักเรียนพานิชย์ เลยจะมีวิธีจดแปลกๆๆ พี่สาวลองเขียนให้ดู ผมเห็นเหมือน ภาษาไก่เขี่ย ยึกยือยึกยือ แต่เขาอ่านออกมาได้อย่างง่ายเลย ก็แปลกดี ส่วนลูกคิด พี่สาว บอกให้ลองบวกเลข 1ถึง9ด้วยลูกคิด 9ครั้ง แล้วถามว่าได้คำตอบอะไร ก็ทำด้วยลูกคิดแล้วตอบไป พี่สาวบอกว่านี้เขาเรียก มังกรคาบแก้ว ถ้าใครไม่เก่ง ลุกคิดจะช้า ถ้าใครทำผิดจะตรวจง่าย (อยากทราบคำตอบลองหยิบลุกคิดมาบวกซิครับ1ถึง9 จำนวน9ครั้ง จะเห็นที่ลุกคิดเป็นรูปมังกรไหม และเห็นลูกแก้วไหม)
จากพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายการคำนวนมาแบบนี้ จึงปลูกฝังตัวเองให้ชอบตัวเลข และมีอะไรสนุกกับตัวเลขเสมอ จนเชื่อว่าตัวเองเก่งคณิตศาสตร์ แต่แปลกนะ เวลาขึ้นชั้นเรียนใหม่ ทดสอบคณิต มักจะสอบตกเสมอ และไปสอบเข้าเตรียมอุดมไม่ได้ พอกลับมาบ้านลองทำใหม่ข้อสอบง่ายๆๆ สรุปว่าตื่นคนที่มากมาย พอไปสอบครั้งที่2 อำนวยศิลปฺพระนคร ไม่ใส่ใจใครแล้วเพราะตั้งใจมาจากบ้านแล้วว่า ที่บ้านโรงเรียนประจำจังหวัด มี ม ปลาย เปิดใหม่ไปได้ราวสามปี อย่างละ1ห้องมีอาจารย์จบวิทย์ จุฬาไปสอนอยู่คนหนึ่ง เหมาเกือบทุกวิชาและมศ รุ่นแรกและรุ่น2 ต้องสอบรวมทั้งประเทศ ตกยกชั้น ก็เลยสาบานว่า ไงก็ขอเรียน ที่กรุงเทพ อย่างไรก็มีโรงเรียนกวดวิชา แล้วข้อสอบก็ง่าย ผ่านเข้าไปสบายๆๆ ตั้งใจจะเอนท์ วิดวะ
แต่มาเปลี่ยนในเดือนเกือบสุดท้ายเพราะแม่ลงมา กทม แล้วอยากไปตรวจว่าทำไมจึงผอม พี่สาวพาไป รพ รามา ตั้งแต่เช้า กลับมาตอนเย็น แม่ร้องไห้
แล้วเล่าให้ฟังว่า รอหมอจนได้ตรวจภาคบ่าย พอเจอหมอถามว่าเป็นอะไร ก็บอกไปว่า ไม่ได้เป็นอะไรแต่อยากตรวจว่าทำไมจึงผอม หมอแสดงอาการไม่พอใจบอกว่า คนไม่สบายผมยังไม่มีเวลาจะตรวจถ้าไม่เป็นอะไรก็ไม่ตรวจให้ ผมเลยบอกแม่ว่าอย่าเสียใจผมจะเรียนเป็นหมอเอง
ก็ได้สมใจ ก็ต้องทำใจให้ชอบอยู่ 2ปี ตอนอยู่ ปี1ปี2 สมัยนั้น จบแล้วมีตำแหน่งรอเลย เพราะเขาเซ็นต์สัญญา ไม่ต้องจ่ายค่าเทอมปีเป็นแสน จบแล้วใช้หนี้สองปี (จริงๆๆกฏหมายลักไก่ เพราะรุ่นก่อนหน้าก็ไค่เทอม เหมือนที่จ่ายจริงเท่าๆๆคณะอื่น แต่มาอ้างว่า ค่าเทอมปีละแสน ไม่ต้องจ่ายเซ็นต์ชื่อรับทุนไว้เท่านั้น) ดูเหมือนจะเต็มใจเซนต์กันเกือบหมด ก่อนรุ่นผม จบแล้วเหมาเครื่องบินไปนอกกัน(รุ่นไม่มีสัญญาใช้ทุน) (รุ่นมีสัญญาบางคน บอมให้ปรับแล้วไปทำงานเอกชนเลย เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่า และเลือกทีทำงานเองได้ พวกใช้ทุน ไปตกลงกันเองใครจะไปจังหวัดไหน ที่กระทรวงมาบอกว่าที่ไหนว่างบ้าง แต่ไม่บังตับเลือกให้ ให้มาตกลงกันเอง ถ้าเลือกมากกว่าจำนวนที่ว่างก็จับฉลากกัน)
และแล้วก็ได้เริ่มต้นวิชาใหม่ กับการเรียนปีแรก ในมหาลัย คณิตศาสตร์
เนื่องจากการเป็นมหาลัย ที่ต้องอ้างอิงความเป็นสากล โดยใช้หลักสูตรจากต่างประเทศ อาจารย์ก็ต้องดีกรีสูงกว่าปริญญาตรี หรือจบต่างประเทศ แม้แต่ภาษาอังกฤษ ทุกคนต้องผ่าน 4 เทอมเป็นอย่างน้อย เพิ่อให้แน่ใจวานักศึกษาที่จบที่นี่ ต้องอ่านเขียนภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และคณิตศาสตร์ ก็ต้องผ่าน แคลคูลัสเบื้องต้น
จบบทนำของเรื่อง ว่างจะเขียนต่อนะครับ
คำถาม ใครคิดว่าคำตอบคืออะไรลองตอบกันมา ผมไม่แน่ใจว่า จะมีคำตอบไหม เอาเป็นว่าคำตอบของผม คิดเองว่าน่าจะเป็นอย่างนี้สำหรับคำถาม " ทำไมดัชนีตลาดหุ้นไทยต้องอ่านว่า .......จุด ลงท้าย "
Create Date : 16 มกราคม 2554 |
Last Update : 16 มกราคม 2554 5:51:00 น. |
|
13 comments
|
Counter : 1936 Pageviews. |
|
|
|
|
ระบบเมื่อสภาวะผิดปกติ ระบบใหม่จะเกิดขึ้นลองอ่าน
" การอาศัยข้อมูลราคาในอดีตใดๆ ย่อมไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือตลาดอย่างต่อเนื่องได้ "
" เขาเลยมาหาวิธีวิธีเล่นแบบ แอ๊บ แอ๊บ "
." Abnormal ของเขาตรงกับที่ผมบอกไปวันก่อนเลย "
" เลือกเล่นหุ้นในรายการหุ้น ท๊อป 20ตัวแรก เอาตัวมีวอลุมขึ้น "
//portal.settrade.com/blog/1001ii/2011/01/14/973
ลองตามไปอ่านดู ฝรั่ง เขาก็คิดแบบเดียวกับเรานั่นแหละ ยามไหนที่เล่นตามระบบเดิมแล้วไม่กำไรดี
ก็ต้องหาระบบใหม่มาใช้ไปก่อนจนกว่าเหตุการณ์จะปกติ
เขาทดลองปรับพอร์ตทุกเดือน