---------เบิ้องหลังกราฟ มาจากไหน ?? และ เบื้องหน้าการแปลผล ??---2---
กราฟ ตอนที่ 2 สำหรับคนไม่รู้เรื่อง จากตอนที่แล้ว (ถ้าไม่ได้อ่านย้อนไปก่อนนะ) แท่งเทียนมีใส้แล้ว แล้วแท่งหนึ่งวันบีบอัดเหตการณ์หนึ่งวันไว้อย่างไร ลองขยายหนึ่งแท่งออกให้เห็นแล้ว และบอกแล้วว่า ยิ่งเล่นอะไรเสี่ยงๆๆไวไว ยิ่งต้องใช้กราฟระยะเวลาแต่ละแท่ง เป็นนาที ทำไม (ทุกอย่างเราได้ทดลอง และพิสูจน์ร่วมกับนักเรียนใหม่ๆๆไปหลายคนแล้ว จาก ฟิวเจอร์ ที่น่ากลัว เขาเริ่มสนุกกับการโต้คลื่น หลากหลายคลื่นในแต่ละวันไปแล้ว) การเรียนต่อไปนี้ เราจะให้ท่านไปหาอุปกรณ์ประกอบ ที่เวบนี้
//stockcharts.com/h-sc/ui กดเปิดไว้เเลย แล้วอ่าน จากที่นี่ แล้วไปทดลองทำตามที่ละขั้นตอน 1 เปลี่ยน Indu (ชื่อกราฟดาวโจนส์)เป็น Seti(ชื่อกราฟ เซทอินเดก ของไทย) 2 เลื่อนหน้าต่างขึ้นมา ช่วงล่างจะเห็น ดังนี้
เริ่มทำตามตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 12ดังนี้ 1 กราฟ วัน (ถ้าอยากดูกราฟ อาทิตย์เดือน เปลี่ยนตรงนี้) 2 เลือกระยะเวลาช่วงกราฟจะดู นานกี่เดือน กีปี ตรงนี้ ลองเลือก 3เดือนก่อน 3 รายละเอียดที่เลือกจะไปปรากฏใน 3นี้ ยังแก้ไขให้เป็นเดือน2 หรือเดือน 4 เดือน5ได้อีก 4 เปลี่ยน เส้นค่าเฉลี่ย เป็น 5 และช่องล่างถัดไปเป็น 10 5 เลือกเป็น simple Mov Avg 6 เปลี่ยนเป็น 20 7 กลุ่มที่เราจะเลือกตัวชี้ นำ (Indicator) (เรียกย่อๆๆว่า " อินดี้" คือ พวกนี้แหละ ) 8 กดเปลี่ยนเอามาใว้ด้านล่าง เหมือนอินดี้อื่น 9 ปกติจะใช้ MACD ,RSI ,Slow Stochastics สำหรับดาวโจนส์ ข้อมูลเขามี วอลุมด้วย แท่งที่ซ้อนในกราฟด้านบน จึงสามารถเลือกใช้อินดี้ ที่ เอาวอลุมมาคำนวนได้ด้วยเช่น การคำนวนหาเงินไหลเข้าออกด้วย Chaikin Money Flow (CMF) หรือถ้าอยากดูความแรงของ ตลาด ไม่ว่าขึ้นหรือลง รุนแรงไหมใช้ Wilder's DMI (ADX)มีอธิบายไว้ในหัวข้อเรื่องบทเรียนเพิ่มเติม วันนี้ ให้เลือก RSI MACD ADX ละกัน 10 และ 11 ตามบอกใน 9 12 กด อัพเดท กราฟตามที่ตั้งค่าใหม่ ทุกครั้งหลังการเปลี่ยนการตั้ง ( แถม ตรงคำว่า Default กดเลือกกราฟสีสวยๆๆได้ด้วยนะ )
เอาละเห็นกราฟที่ตัวเองตั้งค่าทั้งหมดด้วยตัวเองแล้ว จะอ่านแปลผลอย่างไร เริ่มจาก 1 ชื่อกราฟของอะไร ด้านบน ซ้าย หาสมุดจดชื่อย่อ และชื่อเต็มไว้ด้วย (ถ้าเจอกราฟที่เราไม่เคยดู เพราะชื่อย่อที่นี่ไม่ค่อยเหมือนที่อื่น) 2 ถัดมา กราฟวันสุดท้าย คือวันที่กราฟแสดง วดป อยู่ตรงนี้ แล้วอ่านต่อไปบนเส้นกรอบกราฟนี้ จะบอกราคาเปิด ราคาปิดราคาสูงสุดของวันสุดท้ายที่แท่งเทียนแสดง นั้นเอง 3 กรอบเส้นสีแดง คือ เส้นค่าเฉลี่ยที่เราตั้งไว้นั่นเอง MA (Mean Average) อ่านตัวเลขดูด้วย จะชัดเจนกว่าการดูเส้น ซึ่งปกติ เมื่อกราฟขึ้นจริงๆๆ แท่งเทียนคือราคา1วัน จะต้องสูงกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน/10วัน/20วัน ดังกรอบเส้นสีเขียว (ตรงกันข้ามถ้าช่วงลง แท่งเทียนก็จะอยู่ต่ำกว่าเส้นสามเส้นนี้ ) โดยสังเกตดูซิเห็นไหมว่า ก่อนการจะเปลี่ยนทิศทาง เราได้อธิบายแล้วว่า ใส้เทียน คือพลัง ใส้ด้านบน คือแรงขาย ใส้ด้านล่างคือแรงซื้อ วันไหนที่ ราคาเปิดและปิดเกือบเท่ากัน แท่งเทียนจะสั้นมากหรือเป็นกากะบาดไปเลย วันเหล่านี้แหละ( ตามเส้นดำชี้ไว้)จะเป็นวันที่บอกว่า เริ่มมีกำลังเท่าๆๆกันละ ให้สังเกตวันต่อไป อาจจะกลายเป็นวันเปลี่ยนทิศทางของตลาด ดังนั้น แท่งเทียนที่ต้องรู้จักและจำไว้แท่งแรก คือ กากะบาด เมื่อเห็นวันไหน ให้เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ในวันต่อไป แบบนี้มันเป็นแบบปกติ ใช้พยาการณ์วันต่อไปได้ ดี
จากกากะบาด ถ้าวันต่อไป ตลาดเปลี่ยนทิศทางจริง แท่งเทียนก็จะเปลี่ยนสีด้วยแล้วราคา ของวันต่อๆๆไปจะเริ่มลดลงจนต่ำมาทับเส้น น้ำเงิน 5วัน แล้ววันต่อไปอาจจะลงต่อไปจนต่ำกว่าเส้น5วัน นั่นคือเหตุการณืเริ่มจะบอกการเปลี่ยนทิศทางชัดเจนขึ้น ย้อนไปดูต่อ เส้นสามเส้น ค่าเฉลี่ย เส้น5วันเราใช้เป็นพื้นฐานการบอกช่วงขาขึ้นหรือช่วงขาลง ถ้าแท่งเทียนอยู่บนหรืออยู่ต่ำกว่า คราวนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสามเส้น เมื่อไรที่เส้น 5วันราคาเริ่ม ลดลง จนน้อยกว่าราคาเฉลี่ยเส้น10 (ตัวอย่างที่ กราไทยตอนนี้ ถ้าดูที่เส้น น้ำเงิน (5วัน) ตัดลงผ่านเส้น แดง (10วัน )จะมองยาก ลองไปดูที่กรอบสีแดง MA5 = 988.79 MA10= 989.13 จะเห็นชัดกว่าว่า เส้น5วัน ค่าน้อยกว่าเส้น10วันแล้ว นี่เป็นเงือนไขที่2 หลังจาก แท่งเทียนเริ่มเปลี่ยนทิศทิศ จากบนเส้นลงมาทับและต่อมาอยู่ใต้เส้น ถ้ารวมกับการตัดลงของเส้น 5วันลงด้วย (เวลามักจะมากกว่า2-3วันตสมปกติ แต่ถ้าผิดปกติ การทิ้งดิ่ง อาจจะเปลี่ยนทุกอย่างภายในวันเดียวหลังจากกากะบาด หรือข้ามกากะบาดไปเลยก็ได้ ถ้าข่าวรุนแรง มาก่อนตลาดเปิด ) จากแท่งเทียนและเส้นแล้วคราวนี้ ไป MACD ก็เป็นการเอาค่าราคามาคำนวน เช่นเส้น5วัน10วัน20วันนี่แหละ แต่เขาพบว่า ถ้าเอา ราคา14วันมาเป็นตัวแสดงสัญญาณเขาพบว่า มันสามารถบอกการเปลี่ยนทิศทางจากลงเป็นขึ้นจากขึ้นเป็นลงได้ดีมากมาก ในหลายๆๆข้อมูลที่นำไปทดลองใช้ ดังนั้น MACD จึงด้รับความนิยมมาแต่อดีตว่าเป็นเครืองมือ อินดี้ยืนยันการปลี่ยนทิศทาง บอกการเข้า ซื้อและออกจากตลาดได้ดีมากๆๆ (อย่าเถรตรงนักนะ โปรแกรมทุกอย่างต้องทดลองใช้ก่อนว่าเหมาะกับเราไหม เหมาะกับข้อมูลชุดที่เราจะใช้ไหม เออเร่อมากขนาดไหน เราต้องปรับเข้าไวกว่าเส้นบอกหรือ ให้ช้ากว่านิดหนึ่ง จึงจะพอดีสำหรับเรา มืออาชีพเขาจะทดลองโปรแกรมก่อเสมอว่าดีหรือยังหรือต้องแก้เออเร่ออะไรก่อน) จบแบบไม่เน้น ให้อ่านให้เข้าใจแล้วตอบคำถาม 1 จุดไหน จะเข้าซื้อ 2จุดไหน จะขาย 3 อย่างไรถือต่อ 4 อย่างไร เรียกขาขึ้นต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง 5 อย่างไร เรียกขาลง ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ลืมเลย RSI เอาไว้บอก ลงถึง 30เปอร์เซนต์ แสดงว่ามีคนขายหุ้นออกไปมากแล้ว ถ้าขายต่ำกว่า 30แสดงว่าขายมากเกินจำนวนหุ้นที่เคยหมุนเวียนปกติในตลาด OVER SOLD เท่านั้น RSI ไม่ได้บอกขาลงขาขึ้น RSI เกิน 70% แปลว่า ซื้อเกินกว่าปกติแล้ว หรือถ้าสืบได้ไว้ มีข่าวดี หรือมีเงินไหลเข้า การเกินตรงนี้ จะต้องเข้าได้กับข่าวดี หรือเงินไหลเข้านั้น หรือมีมือที่มืด แอบมาดัน หุ้น
Create Date : 31 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 31 ตุลาคม 2553 6:54:48 น. |
|
10 comments
|
Counter : 5782 Pageviews. |
|
|
|
|
ขอบคุณคะ