: : ไขว่คว้า..หาอะไร : :
ที่เขาใหญ่ อากาศยามเช้าสดชื่น ในบรรยากาศเงียบสงบ มีสายหมอกจางๆ ลอยเรี่ยในหุบเขา แม้ไม่ใช่ฤดูหนาว แต่อุณหภูมิก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าว เดินเล่นชมนกชมไม้ยามเช้า เป็นความรื่นรมย์ใจอย่างหนึ่งในชีวิต
ชวนให้คิดว่า คนเรานี้ช่างมีความต้องการไม่สิ้นสุด ได้คืบก็จะเอาศอก อย่างนี้ก็ไม่พอ อย่างนั้นก็ยี้ อย่างโน้นก็ไม่มีอะไรดี แค่ไหนจึงจะสุข เท่าใดจึงจะพอใจ มาสโลว์บอกว่า ความต้องการระดับสูงสุด คือ Self-actualization เป็นความหมายที่เข้าใจยาก หากยังไม่เคยมีประสบการณ์ตรง เราเองก็คงจะยังไม่ไปถึงขั้นนั้นเหมือนกัน ก็เลยไม่บังอาจแปลความ เดาว่าคำนี้น่าจะหมายถึง การที่เรารู้จักตัวเองและศักยภาพของตัวเรา รู้ว่าเรามีความสามารถจะทำอะไรได้ถึงขนาดไหน แล้วก็ลงมือทำให้ได้ตามนั้น จึงบังเกิดเป็นความพึงพอใจในผลสัมฤทธิ์ของตนเอง คล้ายๆ กับการค้นพบตัวเองในมิติที่ไม่เคยค้นพบมาก่อนกระมัง
สำหรับเรา การค้นพบว่าแท้จริงแล้วเรารักธรรมชาติ และมีความสุขในธรรมชาติ ก็อาจจะเป็นการค้นพบความต้องการระดับสูงสุดของเรา ณ วันนี้ กระมัง เพราะมาสโลว์บอกไว้ว่า Self-actualization ไม่ได้จบลงแบบการพบนิพพาน อาจจะมีการค้นพบใหม่ๆ ต่อไปได้อีกเสมอ ตราบใดที่มนุษย์ยังมีชีวิตอยู่
..บ่นยาวไปไย ไขว่คว้าหาอะไรกันไปนักหนา .. ..ชวนมาเดินเล่นยามเช้าด้วยกันดีกว่า..
..หมอกขาวยามเช้าลอยเรี่ยภูเขา..
..สีขาวจางๆ ซ่อนต้นไม้ใหญ่ชายเขา..
..ดอกหญ้าเล็กๆ ใกล้ใบหญ้าชุ่มน้ำค้าง..
..เงาน้ำค้างล้อแสงอาทิตย์ยามเช้า..
..เรียวใบหญ้าเขียวสดใส..
..หยดน้ำเล็กๆ เกาะตัวเป็นกระจุก..
..พระอาทิตย์ยังไม่แผดเผาละอองน้ำใสๆให้เหือดแห้ง..
..ใสแจ๋วดุจน้ำใจ..
..น้ำค้างพราวแพรว..ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน..
: : บันทึกวันสุข : : ..28 พฤษภาคม 2553..00.12 น.
กลับจากเขาใหญ่มาหลายวันแล้ว เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีรูปยามเช้าอยู่ชุดหนึ่งที่หลังขดหลังแข็งถ่ายไว้แต่ยังไม่ได้เอามาดู เพิ่งได้ฤกษ์มาเปิดไฟล์สำรวจดู จึงพบว่า รูปมัวไปกว่าครึ่ง ... เฮ้อ ปลงอนิจจัง ที่เหลือก็แต่พอดูได้ ดังที่นำมาลงไว้ ณ ที่นี้ ..สุขสันต์วันสุขนะคะ..
: : บันทึกวันเสาร์ : : ..29 พฤษภาคม 2553..22.48 น.
เมื่อวานนี้ยืมหนังสือมาสามเล่ม(ภาษาไทยน่ะค่ะ :D) เป็นบันทึกประสบการณ์ชีวิตการทำงานของบุคคลในวิชาชีพเดียวกับพ่อเรานั่นคือ "สถาปนิก" .. อ่านได้อย่างเพลินสนุกสนานจนจบทั้งหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว คงเป็นเพราะตอนเด็กๆ เราก็เคยคิดฝันอยากเป็นสถาปนิกหรือนักออกแบบตกแต่งภายในอยู่เหมือนกัน เสียแต่ว่าเรามีปัญหากับวิชาเลขจนทำให้ต้องละวางความฝันเช่นว่านั้นไปพร้อมๆ กับการเข้าเรียนในสายศิลปภาษา
จริงๆ แล้วนอกจากพ่อ เราก็รู้จักสถาปนิกอื่นๆ อีกหลายคน ไม่ยักกะใช่บทบาทหน้าที่ของคนออกแบบบ้าน แต่กลับเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทโฆษณา .. คนแรกเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ (ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์) ที่ผันตัวเองไปเป็นนักประพันธ์ ... คนที่สองเป็นผู้กำกับศิลป์ (อาร์ต ไดเรคเตอร์) ตอนนี้ไม่รู้ไปทำงานเป็นไรแล้วเพราะแยกย้ายกันไปนานเต็มที ... คนหลังสุดนี่เป็นเหมือนคนแรก แต่ตอนนี้หน้าที่การงานใหญ่โตเป็นถึงระดับบริหารในเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ... แต่ละคนล้วนจบมาจากสถาบันเดียวกันคือละแวกสามย่าน และมีความเป็น "ศิลปิน" อยู่ในระดับหลุดโลกมากน้อยลดหลั่นกันไป
ทุกอาชีพล้วนมีจุดน่าเบื่อและน่าสนุกสนาน ข้อดีของอาชีพสถาปนิก คือได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แม้จะมีกรอบและกฎเกณฑ์เป็นตัวกำหนดขอบเขตของงาน แต่ก็ยังดีกว่าอีกหลายๆ อาชีพที่ต้องทำงานไปวันๆ โดยไม่ได้ใช้หัวคิดสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาเลย เรื่องของกรอบนี่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญมาก ไม่มีใครจะหลุดพ้นกรอบไปได้ตราบใดที่ยังอยู่ในสังคมโลก
อ่านเรื่องของเขาแล้วก็มานึกเปรียบเทียบกับตัวเอง แล้วอาชีพของเราล่ะ มีข้อดีไหม ... มีซิ ออกจะมีมากมายด้วยซ้ำ ประสบการณ์ที่เราทำงานมาหลายที่หลายแหล่งมีประโยชน์มากต่อการทำงานในปัจจุบัน โดยเฉพาะการบริหารจัดการข้อมูล การวิเคราะห์และวางแผน การทำงานกับคนหลากหลายพื้นเพ ... ที่สำคัญ ไม่ว่าในวันนี้จะทำงานอะไร ต้องทำให้ดีกว่าเมื่อวาน .. ไม่ใช่แค่ "จะพยายาม" แต่ต้อง "ทำได้" ...
..สุขสันต์วันสีม่วงนะคะ..
: : บันทึกวันจันทร์ : : ..31 พฤษภาคม 2553..08.42 น.
วันสิ้นเดือนอีกแล้ว.. พรุ่งนี้ก็ย่างเข้าสู่เดือนที่หกของปี คนที่ต้องทำงานโดยมีเส้นตายกำหนดไว้ คงจะมีชีวิตอยู่อย่างร้อนๆ หนาวๆ พอประมาณ แม้จะไม่คอขาด แต่การรักษาเวลา ไม่ว่าจะเป็นการไปตามนัดให้ตรงเวลา หรือการทำงานให้เสร็จเรียบร้อยตามกำหนดเวลา ย่อมเป็นสิ่งที่พึงประพฤติปฏิบัติให้เป็นนิสัยอยู่เสมอ เราเคยคิดพิศวงว่า ทำไมบางชาติเขาถึงได้มีผลผลิตการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีจัง เมื่อไปพิเคราะห์ดูปัจจัยแวดล้อมจึงได้เห็นว่า จุดแข็งของชาติเหล่านั้นคือ "ทรัพยากรคน" ที่มีคุณภาพ อันนี้ไม่ได้หมายถึงความจำเป็นต้องมีคนเก่ง คนฉลาด อัจฉริยะอะไรมากมาย แต่หมายถึงคนที่มีจิตสำนึกของการเป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีการยึดมั่นในภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เชื่อมั่นในทีมและให้ความร่วมมือกับทีม .. อะไรประมาณนั้น ลักษณะนิสัยประจำชาติของคนไทยประการหนึ่งที่ดูจะเป็นข้อด้อย คือเรื่องการทำอะไรตามสบาย ไม่ค่อยมีระเบียบวินัย วลีติดปากคือ "ไม่เป็นไร" และ "หยวนๆ" ที่แน่ๆ คือ คนไทยส่วนใหญ่ทำงานร่วมกันเป็นทีมไม่เป็น .. เหล่านี้คืออุปสรรคในการทำอะไรให้เจริญก้าวหน้า และการจะฝากความหวังไว้กับเด็กรุ่นใหม่ก็ดูจะเป็นเรื่องริบหรี่เลื่อนลอย เพราะผู้ที่เป็นแบบอย่างของเด็กๆ ไม่ว่าครอบครัว สถานศึกษา หรือสังคม ก็ยังไม่ค่อยจะตระหนัก เข้าใจ และเห็นความสำคัญของการปรับปรุงข้อด้อยเหล่านี้สักเท่าไหร่ เอาเถอะ .. วางเรื่องเหล่านี้ไว้ก่อน ไปทำงานดีกว่า ว่าคนอื่นเขาไว้เยอะว่าไม่ค่อยรับผิดชอบงาน แล้วตัวเราเองล่ะ .. นี่ๆๆ .. มาใช้เวลาเขียนบล็อกอยู่ได้ไง (ถามเองตอบเอง .. ระหว่างจิตสำนึกที่ดีกับจิตสำนึกที่ไม่ดี) ..สุขสันต์วันสีเหลืองนะคะ..
: : บันทึกวันอังคาร : : ..1 มิถุนายน 2553..22.48 น.
ขึ้นเดือนใหม่แล้ว แต่ยังมิสามารถอัพบล็อกใหม่ได้เลย เนื่องเพราะยามกลางวันก็ปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่แบบนันสต็อป จนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนมนุษย์กึ่งจักรกลที่เดินเครื่องไม่หยุด (คล้ายๆ "บอร์ก" ในสตาร์เทรค) ทำนี้เสร็จต่อด้วยโน้น ติดๆๆๆๆๆๆ กันไปไม่ต้องหยุดกันละ (ขนาดนั้นงานก็ไม่มีวันเสร็จ) .. ยามเย็นกลับบ้านก็เจอรถติดสองสามชั่วโมงจนง่อยหงิกอยู่ในรถ ถึงบ้านก็เลยขอนั่งเหยียดขาปล่อยจิตให้ว่าง .. หมดปัญญาจะคิดอะไร เหมือนไฟมอดแบตหมดไปชั่วขณะ ..
อย่างไรก็ตาม การพักผ่อนนอนหลับนี่ละน่าจะช่วยเรื่องการฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายได้ เจ้ากรรมอีกที่เราเป็นคนหลับยาก แถมเมื่อคืนตีสองกว่าๆ มีเสียงอะไรไม่รู้ดังตูมๆ มาจากถนนใหญ่ไกลๆ ไอ้เราก็ประสาทรับประทาน พาลนอนไม่หลับ กว่าจะข่มตาหลับก็ปาเข้าไปตีสามกว่า แล้วตีห้าก็ต้องตื่นแล้ว ..
ยังดีที่เช้านี้เราไม่ค่อยรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนหรืออ่อนเพลียเท่าไหร่ แต่คาดว่าบ่ายๆ เย็นๆ คงจะมีอาการ อย่างเมื่อวานตอนรถติดแถวพระรามเก้า เราก็ง่วงโงกเกือบหัวโขกพวงมาลัยไปหลายรอบ .. เดี๋ยวต้องไม่ลืมไปโรงอาหารแวะซื้อมะม่วงเปรี้ยวๆ เตรียมไว้ขบเคี้ยวระหว่างขับรถกลับบ้าน ..
.. สุขสันต์วันสีชมพูนะคะ ..
: : บันทึกวันจันทร์ : : ..31 พฤษภาคม 2553..08.42 น.
วันนี้ยังคงดองบล็อก เนื่องจากเหนื่อยมากทุกวัน เหนื่อยกายพาลเหนื่อยใจ คิดไรไม่ออก กลับถึงบ้านก็นั่งเหยียดขา เปิดแมคบุควางบนตัก ดูรูปดู FB ไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีสติปัญญาจะเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว คงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกสักพักจนกว่าอะไรๆ จะเข้าที่เข้าทาง ที่จริงการเขียนบล็อก น่าจะเป็นอะไรที่ว่ากันไปเรื่อยๆ ได้ตามสบาย แต่ในความเป็นจริง บล็อกเป็นสถานที่กึ่งสาธารณะ ใครที่มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตใคร่เข้ามาชมก็มาได้ ฉะนั้น การเขียน (หรือพิมพ์) ข้อความใดๆ ในนี้ ก็น่าจะมีกรอบกว้างๆ อยู่บ้าง เช่น ควรเป็นเรื่องที่ไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิ หน้าที่ของคนอื่น ไม่สร้างความแตกแยก ไม่ใช้คำไม่สุภาพ และไม่ควรเป็นเรื่องส่วนตัวมากเกินไป สำหรับเรา ใช้พื้นที่บล็อกนี้ส่วนใหญ่เป็นการเขียนเรื่องที่เราชอบหรือสนใจ แสดงความคิดเห็นในบางประเด็น รวมทั้งโพสต์รูปที่เราถ่ายมา ส่วนการเขียนไดอารีประจำวัน เขียนคำรำพึง เรามักจะไปเขียนในสมุดบันทึกเล่มใหญ่ที่เราพกติดตัวไปไหนๆ มากกว่า เพราะมีความรู้สึกว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องงานบางอย่าง อาจไม่เป็นประโยชน์ในการเผยแพร่ต่อสาธารณะในบล็อก .. เกรงใจผู้บังเอิญผ่านมา แต่ก็ไม่ได้แปลว่า สิ่งที่เราเขียนในบล็อก เป็นการ "เฝค" หรือแสร้งคิดแสร้งเขียนให้ดูดี .. ไม่ใช่เช่นนั้นเลย ทุกอย่างที่อยู่ในบล็อกของเรานี้ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา เป็นตัวเราอย่างแท้จริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของความเป็นตัวเรา .. เราอาจจะมีความเป็นตัวของตัวเองในมิติ มุมมอง และส่วนเสี้ยวอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งตัวตนเหล่านั้นก็อยู่ในแนวๆ เดียวกับในบล็อกนี้แหละค่ะ เพียงแต่มีรายละเอียดจุกๆ จิกๆ มากมาย ที่เอามาเขียนเท่าไหร่ก็ไม่หมด บันทึกไว้สั้นๆ สักนิด ว่าเมื่อวานนี้ (๑ มิถุนายน ๒๕๕๓) มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเราถึงสามเรื่อง คือ ๑. ปัญหาของพีซีใหม่ของเรา (ที่ใช้วินโดว์ส เซเวน โปร) เรื่องการเซฟไฟล์ต่างๆ ไม่ได้เนื่องจากการตั้งค่าแอดมิน สามารถแก้ไขได้แล้ว โดยผู้รู้ด้านไอทีผู้อารีคนหนึ่ง ล้วงลูกเข้ามาแก้ให้เราโดยใช้ซอฟท์แวร์ ทีมวิวเวอร์ (เขาอยู่ออฟฟิศเขา เราอยู่ออฟฟิศเรา แต่เขามาล้วงลูกพีซีเราได้หมดเลย) ไชโยๆๆ ๒. ปัญหาในการพิมพ์รายงานวิเคราะห์ข้อมูล กับระบบของเน็ตเวิร์คข้างนอก แก้ไขได้แล้ว หลังจากที่อีเมล์โต้ตอบกันไปมาแปดตลบ ไชโยๆๆ ๓. คุณคนข้างๆ ที่ไปสัมมนาที่บาหลี กลับมาก่อนกำหนดหนึ่งวัน เย่ๆๆๆ (ชอบให้มีคนนี้อยู่เป็นเพื่อนในบ้าน) ส่วนวันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง .. ก็ว่ากันไป .. ..สุขสันต์วันสีเขียวนะคะ..
Create Date : 28 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 8:38:11 น. |
|
24 comments
|
Counter : 1064 Pageviews. |
|
|