WHITE LOVE
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
การกระทำบ่งเจตนา ภาคแรก

เบื่อว่ะค่ะ เรื่องลอกงาน จะเป็นนักเขียน แต่จับมาลอกมายำมันซะแทบทุกเรื่อง แบบนี้จะไหวเหรอ?

กรณีล่าสุดที่ข่าวคงจะกำลังกระจาย คือเรื่องที่ Char ลอกงานเรา ก็บอกชื่อไปโต้งๆ เลยละกัน เพราะเราไม่เห็นความจำเป็นจะต้องปกปิดให้

เรื่องที่โดนลอก มันเริ่มตั้งแต่ที่เพื่อนเรา ซึ่งเคยอีดิทงานให้ Char และตอนนี้ถอนตัวออกจากทีมมาแล้วส่งเรื่อง Lost impossible ที่ตัดตอนมาให้ จำนวน 7 หน้า หลังจากที่เราส่ง Bloody Ally ให้อ่าน

เป็น 7 หน้าที่ตึงเครียด เพราะมันไปเหมือนเรื่อง Bloody Ally ของเราถึง 14 จุด

ในขั้นแรก เราก็เก็บเอาไว้ ไม่อยากโวยวาย ด้วยสาเหตุหลายประการ คือ

1. เพื่อนเราคนนี้บอกว่า Char เป็นคนที่ออสโมซิสง่าย คือได้รับอิทธิพลมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว อาจจะไม่ตั้งใจลอก
2. รู้ว่าเรื่องนี้กำลังจะออกเป็นรวมเล่ม
3. ตอนนั้นเราเพิ่งราวีคนลอกไปอีกหนึ่งคน ชื่อ Nuknik ตอนนี้ไม่รู้ยังวนเวียนอยู่ที่บอร์ด De… นั่นอยู่อีกหรือเปล่า สรุปคือ เหนื่อย
4. ส่วนที่ลอกไป มันก็ไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องนัก เรียกว่าเป็นส่วนเพิ่มความสมบูรณ์มากกว่า

ด้วยเหตุผลที่ว่า ทำให้เราเกือบจะลืมๆ ไปแล้วด้วยซ้ำ จนกระทั่งคิงเพนกวินมีเรื่องโดนลอก แล้ว Char ก็โวยว่าโดนลอกโดยบุคคลคนเดียวกันด้วย ระหว่างที่คิงเพนกวินมาเล่าให้ฟังว่า Char ระบายงั้นงี้ เราเลยอดปากไม่ได้ว่า ทีลอกเรา ยังไม่เห็นคิดได้งี้เลย คิงเพนกวินที่กำลังพิมพ์เมามันเลยชะงัก ออกอึ้งๆ เพราะไม่เคยรู้มาก่อนหน้านี้ เพิ่งมาได้ยินจากเรา แล้วก็เลยสอบถาม เราก็เล่าให้ฟังว่าเรื่องเป็นอย่างนี้ แล้วก็อย่าโกรธนะ ที่เพื่อนเราเขาส่งมาให้ด้วยความหวังดี ไม่ได้จะเผยแพร่งานที่เตรียมจะพิมพ์ เนื่องจากยังไงมันก็มีจำนวนแค่ 7 หน้า

คิงเพนกวินไปสอบถาม Char ได้ความว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักเรา ไม่เคยอ่าน (ภายหลังมีคนยืนยันว่า Char เคยอ่านแน่ๆ) ณ จุดนั้นมันก็ปึ้ดเล็กๆ นะ 14 จุดใน 7 หน้าเนี่ยนะไม่ได้ลอก แล้วยังบอกมาอีกว่า แก้มาก่อนหน้าที่เราจะท้วงแล้วตรงจุดนั้น คิงเพนกวินเลยบอกว่า จะส่งที่แก้ให้ดู ก็ได้รับในอีกสองวันถัดมามั้ง ส่งเป็นไฟล์เต็มมาให้ ก็ปรากฏว่าแก้แล้วจริงๆ คิดปลงในใจว่า จับไม่ได้คาหนังคาเขา คิดแบบนักกฎหมายก็แล้วกันว่า บริสุทธิ์จนกว่าจะตัดสินว่าผิด ทั้งที่คิงเพนกวินก็ส่งให้นักเขียนที่รู้จักอ่านหลายคน เห็นพ้องต้องกันว่า ลอก เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราไม่คิดไปเอง ขอลงเทียบให้เห็น

รถRolls-Royce silver shadowแล่นออกจากคฤหาสน์ทรงคลาสสิคบริเวณชานเมืองลอสแองเจลลิส ขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าไปยังสำนักงานใหญ่ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แมคนีลล์ ปกติแล้วเอริคจะให้คนขับรถขับให้เพื่อเขาจะได้ใช้เวลารถติดของชั่วโมงเร่งด่วนสะสางงานไปด้วย แต่วันนี้หน้าที่สารถีถูกเขายึดเป็นการชั่วคราว
ชายหนุ่มลอบมองผู้ที่เหมือนจะสนอกสนใจกับโลกภายนอกพอดู ซึ่งแม้จะไม่ได้แสดงกริยามากนักแต่ดวงตาสีอำพันคู่นั้นไม่ได้ละสายตาจากหน้าต่างเลย แถมบางครั้งยังหันมาถามโน่นนี่นิดหน่อยด้วย ใจจริงเขาอยากจะจอดแวะพาเที่ยวเหมือนกัน แต่จำเป็นต้องสะสางงานให้เสร็จก่อน ที่ขับรถเองก็เผื่อว่าเลิกงานแล้วจะพาไปที่ไหนบ้างหรอกนะ
ไม่นานรถยนต์คันงามก็แล่นมาจอดเทียบหน้าตึกระฟ้า ซึ่งชั้น50-60เป็นสำนักงานของบริษัททั้งหมด ส่วนที่เหลือเปิดให้บริษัทอื่นเช่า เอริคจอดรถไว้ที่ประจำของเขาก่อนจะลงมาเปิดประตูให้อีกฝ่าย พาเดินไปยังออฟฟิศส่วนตัวท่ามกลางสายตาที่มองมาอย่างชื่นชมปนประหลาดใจ รู้สึกว่าร่างจำแลงของปีศาจรูปงามจะดึงดูดสายตาคนทั่วไปได้ดีทีเดียวแฮะ ชายหนุ่มสังเกตเห็นหลายคนที่ทักเขาแต่ตามองไปทางอื่น ซ้ำยังมองจนเหลียวหลังเสียด้วย ก็น่าอยู่หรอกนะ เขาเองยังเคลิ้มเลยนี่
“ประธานคะ” เสียงเลขาสาวทำให้เอริคหยุดเดิน
“มีอะไรเหรอ คุณพาร์สัน”
“เอกสารการประชุมเมื่อวันก่อนดิฉันรวบรวมไว้ให้บนโต๊ะแล้วค่ะ”
“ขอบใจมาก” ร่างสูงหมุนตัวจะเข้าห้องแต่ก็นึกอะไรได้ “เดี๋ยวยกอะไรมาเสิร์ฟคุณ…” ชายหนุ่มอึ้ง จะเรียกอัสทารอทได้ไงล่ะหว่า “คุณ อัลเลน…เอ่อ…จัดการด้วยนะ”
“ค่ะ” เธอรับคำ
….
วิวจากห้องทำงานชั้นบนสุดของประธานบริษัทคงถูกใจผู้มาจากโลกปีศาจ กระจกกว้างเป็นแนวยาวตลอดทำให้มองเห็นตัวเมืองด้านนอกอย่างเต็มที่ เอริคเดินมาพาดเสื้อนอกไว้กับพนัก แล้วเขยิบเข้ามาใกล้ร่างบางที่ยืนชิดกระจกพิศสิ่งรอบข้างจนทั่ว
“เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”
“อือ” อัสทารอทรับ ก่อนจะหันมาโอบแขนไปรอบลำคอหนา
โดยไม่ต้องรอให้บอก เอริคประทับจูบริมฝีปากบางนุ่มทันที มือใหญ่เกาะกุมเอวเล็กไว้หลวมๆ แต่เบียดร่างให้แนบชิด ดูดดื่มเคล้าคลอลิ้มรสหวาน ถึงจะรู้ว่าทุกครั้งเขาอาจสูญเสียพลังชีวิตไปทีละน้อยก็ตาม แต่เขาอยากขอแค่เวลานี้ที่รู้สึกเหมือนได้คนในอ้อมกอดมาเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ขออภัยค่ะ…อุ๊ย!” เลขาสาวโผล่เข้ามาได้จังหวะพอดี
เอริคจะผละออกด้วยสัญชาติญาณแต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจและยังไม่ปล่อย ชายหนุ่มจึงทำเป็นมองไม่เห็นทั้งที่ก็นึกเขินอยู่เหมือนกัน ดีที่เลขาของเขารีบวางถาดของว่างลงก่อนจะหลบฉากไปอย่างรวดเร็ว
เจสสิก้า พาร์สันยืนพิงประตูหน้าแดงด้วยความตกใจ ตั้งแต่ทำงานมาเจ้านายหนุ่มแทบจะไม่เคยพาใครมาถึงที่ทำงานเลย จะมีก็แต่คุณนาตาชา สาวไฮโซที่เคยคบกันอยู่พักนึงเท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยทำอะไรเปิดเผยอย่างนี้เลยแท้ๆ หนุ่มหน้าสวยคนนั้นเป็นใครกันนะ สวยกว่าคุณนาตาชาที่เป็นผู้หญิงเสียอีก มิน่าท่านประธานถึงอดใจไม่อยู่ หล่อนนึกขัน


อยากจะพูดอะไรหรือเปล่า อลิซ” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกมา หลังจากที่เงยหน้าขึ้นมามองเห็นเลขานุการิณีทำท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง
“พูดได้หรือคะ” เอลิซ่าเอียงคอถามอย่างรู้ทันความคิดเจ้านาย
“สีหน้าเธอดูเหมือนอยากจะพูดนี่” พิพัฒน์กระตุกยิ้ม ก้มหน้าลงเท้าคางกับโต๊ะ มองหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสายตารู้เท่าทันเช่นกัน
“พนักงานข้างนอกเขาลือกันน่ะค่ะ”
“ลือ?…”
“ลือกันว่าเจ้านายพาคนรักมาที่บริษัท”
“ใครคนรัก?”
เอลิซ่ากระตุกยิ้ม เอียงคอทำท่าถามเจ้านายหนุ่มแทน
“เขาไม่ใช่คนรักฉัน”
“แน่ใจนะคะว่าไม่ใช่ ถ้าดิฉันจะพูดอะไรสักอย่าง เจ้านายจะว่าดิฉันไหมคะ”
“พูดมาสิ ตอนนี้ฉันจะฟัง กำลังอารมณ์ดี” พิพัฒน์กลั้วหัวเราะ ละมือจากเอกสารส่วนน้อยที่ค้างอยู่ มาเอนพิงพนักอย่างสบาย สายตายังคงทอดมองริชาร์ดด้วยสายตาโหยหาและตัดพ้อในเวลาเดียวกัน
“เท่าที่ดิฉันสังเกต บอกตามตรงว่ายังไม่เคยเห็นเจ้านายพาใครมาที่นี่สักที บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เจ้านายเคยคบหา พวกหล่อนก็มาเองกันทั้งนั้น ถ้ารวมรายล่าสุดนี่ด้วยนะคะ…” หญิงสาวหมายถึงอมารดี ที่โกรธจนหน้าแดงก่ำกลับไปเรียบร้อยแล้ว และเชื่อเถอะว่าลูกคุณหญิงคนนั้นไม่เลิกราง่าย ๆ แน่
“แล้วในที่สุดเจ้านายก็พาเขาคนนั้นมา เจ้านายคงไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไง แต่พวกพนักงานคนอื่นคิดกันไปแล้วว่าเจ้านายกับเขาเป็นคนรักกัน สายตาเจ้านายล่ะหนึ่งที่บอกว่าเขาสำคัญมาก…และยังฉากเด็ดที่เจ้านายทำก่อนเข้าห้องทำงานอีกล่ะค่ะสอง เลยยิ่งมั่นใจว่าใช่ชัวร์”



เพียงแค่วันเดียวข่าวคู่ควงคนใหม่ของเอริค แมคนีลล์ก็แพร่กระจายไปทั้งสำนักงาน แน่นอนว่าเลขาผมบลอนด์ปากหนักพอที่จะไม่ได้บอกใครถึงเรื่องที่เธอเห็น แต่ความลึกลับของชายหนุ่มรูปงามที่ไม่เคยปรากฏตัวในวงสังคมทำให้เป็นที่โจษจันกันสนุกปาก ไหนจะยังท่าทีที่ประธานบริษัทปฏิบัติราวกับเป็นคนสำคัญเสียเหลือเกินอีก ไม่นานซาตานแม่ทัพจากแดนสนธยาก็เป็นที่รู้จักในนาม ดร. อัลเลน เวบบ์

ข่าวลือระบือไปตั้งแต่ชั้นล่างยังชั้นบนสุด เมื่อพิพัฒน์พาแขกมาด้วย ทุกคนที่ว่างจากงานแอบผลัดกันออกมาดูรูปโฉมของแขกแปลกหน้า และการคอยดูแลชนิดริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมของชายหนุ่ม สร้างเสียงลือออกไปว่าแขกที่เจ้านายพามาไม่ใช่ใครอื่น เป็นคนรักชาวต่างชาติของเจ้านายมากกว่า

“ใครนะ?… อัลเลน เวบบ์ เป็นหมอเหรอ? ไม่เห็นจะรู้จัก …แน่ใจเหรอ?…อืม…ขอบใจ” โทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กสีเงินปิดฝาเพื่อตัดสาย หญิงสาวเม้มปากอย่างครุ่นคิด
ตั้งแต่ที่เธอหยุดความสัมพันธ์กับเอริค นาตาชาคิดมาตลอดว่าเพราะความจำเป็น ชายหนุ่มให้เหตุผลว่าเขาไม่อยากเห็นแก่ตัวเพราะเขาต้องการทุ่มเทเวลาให้น้องสาวที่กำลังป่วยหนัก ซึ่งหล่อนก็ยอมจากไปด้วยดีและหวังว่าสักวันนึงจะกลับมาคบกันได้อีกในเมื่อทั้งเขาและเธอไม่ได้หมดรักซึ่งกันและกัน อย่างนั้นแล้วเธอจึงคอยติดตามความเคลื่อนไหวของเอริคอยู่เสมอ แล้วนี่อะไร? จู่ๆก็มีมือดีที่ไหนไม่รู้มาคาบไป แถมเป็นผู้ชายเสียอีก นาตาชารู้สึกเหมือนถูกฉีกหน้า หล่อนมีอะไรที่สู้ผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ได้หรือ? หญิงสาวกัดเล็บยาวสีน้ำตาลแดงอย่างแค้นใจ อย่างนี้มันต้องพูดกันให้รู้เรื่อง!


ข่าวเรื่องคนรักของพิพัฒน์ ทำให้คนที่รออยู่เพราะทราบว่าชายหนุ่มจะมา ต้องรีบเร่งไปพบอย่างไม่อยากเชื่อ หญิงสาวชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเคียงคู่มากับหนุ่มแปลกหน้า รูปงามอย่างที่พนักงานหลายคนว่าไว้จนหญิงสาวต้องออกมาปรากฏตัว

…
เสียงส้นสูงเดินกระทบพื้นหินขัดดังค่อนข้างรัวแสดงถึงความร้อนใจได้เป็นอย่างดี หญิงสาวผมแดงร่างสูงโปร่งในชุดสูทเข้ารูปสีดำทำให้เธอดูสง่าปราดเปรียว ทรวดทรงอ้อนแอ้นแต่หน้าอกกับสะโพกอวบอิ่มได้รูปขับให้เธอโดดเด่นทุกย่างก้าว เจสสิก้าเงยหน้าจากโต๊ะทำงานขึ้นมองอดีตคู่ควงของเจ้านายที่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วเอ่ยปากถาม
“มีอะไรให้รับใช้คะ? คุณนาตาชา”
“เอริคอยู่รึเปล่า” เลขาหน้าห้องจับได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงโทนต่ำเซ็กซี่ เธอนึกภาพออกเลยว่าตอนนี้ดวงตาสีฟ้าอมเทาภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงระยับจะฉายแววเช่นไร
“อยู่ค่ะ แต่มีแขก”
“แขกคนไหน ดร. เวบบ์อะไรนั่นใช่มั้ย?” หล่อนคาดคั้นทันที
“เอ่อ…คือ…” เจสสิก้าอึกอัก ไม่รู้จะบอกไปว่าไงดี
“ไม่ต้องแล้ว” นาตาชาเดินสะบัดผลักประตูไม้บานหนาเข้าไปโดยไม่เคาะให้เจ้าของอนุญาตก่อน
เอริคเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่เสียมารยาทบุกเข้ามาเป็นใคร
“นาตาชา?”
“ค่ะ เอริค แปลกใจมากหรือคะ” ริมฝีปากสีแดงอิ่มยิ้มหวาน พลางสอดสายตาหาคนที่หล่อนต้องการตัว และแล้วก็กวาดตาไปพบเข้ากับร่างบางที่นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหนังสีเข้ม สูทตัวใหญ่ที่คลุมร่างนั้นทำให้หล่อนแทบคลั่ง เสื้อนอกของเอริค!
“คุณมีธุระอะไรกับผมหรือ?” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินมาหา เขายังงงไม่หาย ทำไมหล่อนถึงได้ดูหงุดหงิดนัก
นาตาชาถอดแว่นกันแดดออก เธอคอแข็งด้วยความไม่พอใจอย่างไม่คิดปิดบังตามประสาคนที่ถูกตามใจและเชื่อมั่นในตัวเองสูง
“ฉันมีธุระกับคุณ และกับเขา” ดวงตาคู่สวยปรายไปยังผู้ที่ยังหลับใหลไม่รู้เรื่อง “คุณต้องอธิบายทุกอย่างมาเดี๋ยวนี้!”
“เดี๋ยวสิ! นี่ผมยังไม่รู้เลยนะว่าคุณพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่?”
“ก็ที่คุณมีคู่ควงใหม่เป็นดร.อะไรนี่ไง! ทำไมคะ? ทั้งๆที่คุณบอกว่าเรื่องของเราแค่พักไว้ก่อน แล้วจู่ๆคุณคว้าเอาใครที่ไหนก็ไม่รู้มาแทนที่ฉันได้ยังไง?!” หล่อนกราดเกรี้ยว
“ใคร? อัส…เอ่อ…อัลเลนน่ะเหรอ? มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
“ไม่จริง! คุณเอาใจใส่ผู้ชายคนนี้มาก มากเกินกว่าจะเป็นแค่หมอธรรมดา”
เอริคอึ้ง มันก็จริงอยู่แต่…
“ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ใช่… เขาเป็นคนสำคัญ สำคัญมากด้วย”
หญิงสาวแทบอยากกรี๊ด เธอกระทืบเท้าอย่างขัดใจ
“เอริค! นี่คุณ…!! คุณหลงมันขนาดนี้เลยเหรอ!”
“อย่าพูดแบบนั้นนะนาตาชา เขาไม่ใช่คนที่คุณจะมาจิกหัวเรียกได้” ชายหนุ่มหมายความตามนั้นจริงๆ
นาตาชาถึงกับอ้าปากค้าง เธอตัวสั่นด้วยความโกรธ


“สวัสดีค่ะพิพัฒน์”
“สวัสดีอมารดี” น้ำเสียงตอบกลับดูห่างเหิน รักษาระยะห่างไว้มากกว่าที่ควรเป็น หญิงสาวชักตากระตุก จ้องเขม็งไปยังชายหนุ่มที่ยืนเคียงคู่อยู่ข้างร่างสูงใหญ่
“ไม่แนะนำแขกของคุณให้ฉันรู้จักหน่อยหรือคะ”
“ริชาร์ด เซนยาร์ด ดาลิม โอติลฟาครับ” ริชาร์ดเอ่ยชื่อเต็มของตัวเองออกไป ไม่มีประโยชน์อีกแล้วที่เขาจะต้องปกปิดฐานันดรที่แท้จริงของตัวเองกับพิพัฒน์
สำเนียงภาษาไทยชัดเจนทำให้อมารดีนึกแปลกใจ หญิงสาวยิ้มหวาน เดินเข้ามาใกล้เพื่อจับมือทักทายตามวัฒนธรรมฝรั่ง พิพัฒน์ส่งสายตาดุเป็นเชิงบอกห้ามแตะต้อง ร่างบางชะงักทำได้แต่เพียงแค่นยิ้มออกมา
“อมารดีค่ะ เป็นคนรักของพิพัฒน์”
“อมารดี...”
ทุ้มเสียงดุบอกถึงความไม่พอใจ แต่หญิงสาวไม่คิดจะสนใจ จะไม่มีใครหน้าไหนแย่งผู้ชายของเธอไปได้ “จริงนี่คะ ฉันพูดอะไรผิด คุณหญิงแม่ท่านก็ทราบ ญาติทางฝ่ายคุณก็รู้”
“หรือครับ ไม่คิดว่าพิพัฒน์จะมีคนรักสวยเช่นคุณ ทำไมเขาถึงไม่ยอมแนะนำให้ผมรู้จักบ้างนะ” คราวนี้ริชาร์ดหันมาทางคนที่กำลังไม่พอใจหญิงสาวเต็มที่ รั้งมือออกจากอุ้งมือหนา แต่ชายหนุ่มกอบกำไว้แน่น จนกลายเป็นสงครามเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสังเกต
“เท่าที่ผมจำได้ เราไม่เคยมีความสัมพันธ์เฉกคนรัก”
คำพูดไร้เยื่อไยตัดสัมพันธ์สนิทได้อย่างหน้าตาเฉย อมารดีกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าที่ปั้นแต่งเสริมสวยเพื่อผู้ชายของเธอดูมึนตึงและเย็นชา ดวงตาสีดำวาวโรจน์อย่างเคืองแค้น กับท่าทางของผู้ชายที่เคยประเล้าประโลมเธอมา
“แล้วที่ออกข่าวกันครึกโครมทั้งที่นี่และที่ไทยล่ะคะ จะแปลความหมายของเราว่าไม่ใช่คนรักอีกงั้นหรือ” อมารดีเอ่ยถามเสียงเบา ประโยคพูดเน้นหนัก ให้ชายหนุ่มนึกถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าสนใจ
“ผมจำได้ว่าตอนนั้นเราตกลงเป็นแค่คู่ควงกันเฉย ๆ หรือไม่ก็คู่นอนกันในบางครั้ง มันเป็นความพอใจส่วนตัวไม่ใช่หรือไง”
อมารดีหน้าเสียที่ชายหนุ่มไม่ไยดีเอาเสียเลย ซ้ำยังเอาความสัมพันธ์นั้นมาประจานให้หล่อนต้องอับอาย มือเรียวบางกำแน่นพยายามยกขึ้นชี้หน้าหนุ่มหน้าสวยคมที่พิพัฒน์พามา
“แล้วเขาคนนั้นล่ะคะ เป็นคู่นอนของคุณด้วยใช่ไหม!!” ร่างบางชะงักกึก ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นสายตาชายหนุ่ม ดวงตาสีดำแข็งกร้าวขึ้นอย่างที่ไม่เคยทำกับหญิงสาวมาก่อน
“อย่า…หยาบคายกับเขา เธอไม่มีค่ามาตีหน้าด่าใคร โดยเฉพาะกับเขา!”
“แล้วเขาเป็นใครล่ะคะ คุณจะไม่ใจดีบอกหน่อยหรือ”
หญิงสาวแค่นหัวเราะหยัน มองริชาร์ดที่ยังคงสงบนิ่งเรียบ ถึงแม้จะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำนั้น พิพัฒน์ปรายหางตาไปยังริชาร์ดที่เมินหน้าหนีไปทางอื่น มือหนาบีบกุมมือที่พยายามดึงออกไปไว้แน่นขึ้น
“คนสำคัญมากที่สุดของผม”
“คนสำคัญ!! ผู้ชายนี่นะ…” อมารดีหัวเราะเสียงแปร่ง ปรายตามองคนสำคัญของพิพัฒน์ด้วยแววตาเยาะหยัน


ขณะที่ทั้งคู่กำลังทุ่มเถียงกันอยู่นั้น อีกหนึ่งคนที่เหลือก็เพิ่งจะตื่นจากภวังค์และยันกายลุกขึ้นนั่ง ด้วยความที่หญิงสาวหันหลังให้ เอริคจึงเป็นฝ่ายเห็นก่อน เขาเดินผ่านเธอเข้าไปหาร่างนั้นที่โซฟา
“ขอโทษที่ทำให้ตื่น” ร่างสูงทรุดนั่งโอบไหล่เล็กไว้แล้วใช้นิ้วเรียวเกี่ยวปอยผมที่ระใบหน้าเนียน
ภาพนั้นยิ่งทำให้นาตาชามองด้วยความริษยา ร่างเพรียวบางผิวขาวเนียน ใบหน้าหวานมีเสน่ห์รับกันไปทุกส่วน งามเหนือชาย ไม่สิ! เหนือกว่าผู้หญิงเสียอีก และที่ไม่อยากยอมรับคือ…เหนือกว่าหล่อน!
เอริคหันมามองอดีตคนรักแล้วทำใจพูดตัดรอน
“คุณกลับไปเสียเถอะ เรื่องของเรา เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าจะเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคงไม่มีทาง” เขาอดเหลียวมาสบดวงตาสีอำพันนั่นไม่ได้ เอริคไม่ใช่ไก่อ่อน เขารู้ตัวว่าคงตกหลุมรักซาตานตนนี้เข้าเสียแล้ว
“คุณ!! คุณมีอะไรกับผู้ชายคนนี้จริงๆใช่ไหม?! คุณถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้!” ดวงตากลมโตมองมาด้วยความเจ็บปวด
หากก่อนที่เอริคจะทันพูด เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เอริคเป็นของผม” ศีรษะเล็กซบลงบนบ่าหนา พลางใช้ปลายนิ้วไล่ระไปตามแก้มของชายหนุ่ม แววตาง่วงซึมและใบหน้าที่ไม่ได้แสดงอารมณ์กลับทำให้นาตาชายิ่งเพิ่มความแค้นเข้าไปใหญ่ เธอจ้องมองเอริคอย่างต้องการคำตอบ
“ผมขอโทษ” เขามองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าอมเทาคู่นั้นแล้วเอ่ยจากใจจริง
นาตาชาทำเสียงในลำคออย่างแค้นเคือง แล้วเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างรวดเร็วราวพายุ หล่อนเกลียด! หล่อนชัง! ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้วแม้แต่วินาทีเดียว เธอไม่เคยต้องเสียศักดิ์ศรีเท่านี้มาก่อน ผู้ชายโง่!! อย่าหวังว่าหล่อนจะยอมรามือง่ายๆอย่างคราวที่แล้ว ไม่มีทาง!!


“พิพัฒน์!! คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง” อมารดีกรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด ตรงดิ่งหมายจะเข้ามาดึงทึ้งร่างสูงใหญ่ที่ปฏิเสธเยื่อใยหญิงสาวอย่างไม่ไยดี
ริชาร์ดผละตัวหลบกงเล็บที่จ้องจะมาฟาดมาทางเขา ให้พิพัฒน์รับมือด้วยท่าทางยุ่งยากใจ ดวงตาสีดำเขม่นจ้องริชาร์ดด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ มือหนาเข้ารวบร่างบาง ผลักไปยังยามรักษาความปลอดภัยที่รอท่ารับคำสั่งชายหนุ่มไว้อยู่แล้ว อมารดีกรีดร้องลั่น ตะโกนด่าชายหนุ่มอย่างคับแค้นใจ
“พิพัฒน์!…มันไม่จบแค่นี้หรอกนะ คุณรู้จักฉันน้อยไป พิพัฒน์!!”


…
“คุณจะหลับต่อก็ได้นะ ผมจะไม่ให้ใครมากวนอีก” ชายหนุ่มบอกกับดวงตาที่หรี่ปรือ
“อืม…” ใบหน้าใสยากจะเดาอายุซบอยู่กับอกกว้าง อัสทารอทหลับไปอีกครั้งทั้งอย่างนั้น การที่เขาฝืนตื่นในเวลาที่ควรหลับในโลกที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาต้องการพักผ่อนมากกว่าปกติ สองมืออ้อมโอบเอวอีกฝ่ายไว้คล้ายจะยึดเป็นหมอนข้าง โดยหารู้ไม่ว่าท่านั้นยิ่งเพิ่มความทรมานทางความรู้สึกให้เอริคมากเพียงใด
ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มให้กับคำพูดเมื่อครู่… ‘เอริคเป็นของผม’ รู้อยู่หรอกว่าความหมายของเขากับความหมายของซาตานหนุ่มไม่เหมือนกัน แต่เขาก็ยังอยากคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ดีล่ะนะ เอริคประทับจุมพิตลงบนเปลือกตาที่หลับพริ้ม ความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้มันเจ็บปวดอย่างนี้นี่เอง…


“ตกลงเอาชุดนี้ครับ แล้วก็ชุดนี้ด้วย”
“ค่ะ ไม่ทราบว่าจะชำระเป็นเงินสดหรือเครดิตการ์ดคะ?”
“เครดิตครับ” ว่าพลางควักบัตรมาสเตอร์การ์ดสีทองส่งให้เจ้าหล่อนไป
“กรุณารอสักครู่ค่ะ”
เอริคหันไปหาร่างบางที่เดินออกมาจากห้องลองเสื้อในชุดใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อให้ ร่างจำแลงสวมชุดเสื้อเชิ้ตกระดุมโลหะแขนยาวสีดำพอดีตัว กางเกงยีนส์เดนิมส์แบบยูนิเซ็กส์ตัดกระชับขับช่วงขาเรียวยาว ดูเพรียวระหงสมส่วนจนมิอาจละสายตา
“ดูอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”
“ไม่ต้องหรอก ผมอยู่อีกแค่ไม่กี่วัน”
ชายหนุ่มใจหายกับความจริงข้อนั้น แต่แล้วก็ยิ้มกลบเกลื่อน
“ถ้างั้นไปหาอะไรรองท้องกันดีกว่า” มือใหญ่โอบเอวเล็กทางด้านหลัง ดุนให้ตามมาอย่างสุภาพ โดยไม่ลืมจะหยิบสัมภาระชิ้นใหม่จากพนักงานห้างร่างท้วมมาด้วย ตอนนี้มืออีกข้างของเอริคจึงเต็มไปด้วยถุงชอปปิ้ง ดูราวกับคนรักเอาใจแฟนจนพนักงานสาวแอบซุบซิบด้วยความชื่นชมปนอิจฉากันใหญ่
…
ภัตตาคารขนาดกลางก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงส้มคือที่ประจำของเอริค บรรยากาศภายในเรียบง่ายดูสงบเป็นกันเองภายใต้แสงเทียนเย็นตาและเสียงไวโอลินให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย กัปตันเดินเข้ามาทักทายชายหนุ่มก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะมุมด้านในตัวเดิม จากนั้นอาหารรสเลิศจากพ่อครัวฝีมือเยี่ยมจึงค่อยทยอยเสิร์ฟตามลำดับ
เอริคมองมือที่กำลังจิ้มเนื้อลูกแกะย่างเข้าปากแล้วความสงสัยก็เข้ามาอีกครั้ง
“ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณก็กินอาหารธรรมดาได้ด้วย”
“ก็แค่รสชาติ แต่ไม่ให้พลังงาน”
ใบหน้าคมพยักเป็นเชิงเข้าใจ นี่ความรู้ใหม่นะเนี่ย
“เอ่อ…เมื่อตอนบ่ายผมต้องขอโทษแทนนาตาชา เธออารมณ์ร้ายไปหน่อย”
“ผู้หญิงคนนั้น…เหรอ” ดวงตาสีอำพันเสมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “ร่างนั้นตอนนี้เป็นที่สิงสถิตของสมุนบัลเบโรแล้ว”
“ใคร?”
“ราชินีแห่งความมืด เป็นซาตานเหมือนข้า”
เอริคผงะด้วยความตกใจ “หมายความว่าเธอเป็นโรคร้ายเหมือนมิเชล?”
ริมฝีปากบางคู่นั้นยกยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่เยียบเย็นอย่างบอกไม่ถูก
“เป็นโรคร้ายน่ะใช่ แต่มิใช่ทางกาย จิตใจของเธอกำลังถูกครอบงำด้วยความพยาบาท หนึ่งในบาปเจ็ดประการที่ซาตานอย่างพวกเราครองอยู่”
“แล้ว…”
“เธอจะต้องก่อความเดือดร้อนให้เจ้าแน่ หรือไม่ก็…ให้ข้า”
พูดจบอัสทารอทก็สนใจกับอาหารแปลกตาตรงหน้าต่อไป ปล่อยให้ชายหนุ่มใช้ความคิดไปเพียงลำพัง นาตาชา…หล่อนจะทำอะไรกันแน่…


ริชาร์ดเหลียวหลังหันกลับไปมองหญิงสาวที่ถูกลากถูลู่ถูกังอย่างเป็นห่วง หน้าตาตอนที่ได้ฟังคำพูดชายหนุ่มราวกับจะร้องไห้ออกมา แต่เพราะทิฐิที่มากเกินไปกระมังถึงยังนิ่งอยู่ได้ แต่ที่น่ากังวลก็คงเป็นสายตาอาฆาตแค้นนั่น
“ไม่รู้หรือว่าพิษที่ร้ายที่สุดก็คือผู้หญิง เธอคงไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้หรอก ระวังตัวไว้เถอะ”



“ตกลงว่าหลังจากการประชุมวางแผนครั้งแรกวันพุธหน้า ต่อจากนั้นสองสัปดาห์เราจะส่งงานดิบ หรือแบบแปลนร่างครั้งแรกให้คุณนะครับ” หัวหน้าสถาปนิกร่างท้วมกล่าว
“ตามนั้นเลยครับ” เอริคพยักหน้ารับ “สำหรับเรื่องเอกสารต่างๆ คุณพาร์สันจะเป็นคนรับเรื่องทั้งหมด ถ้ามีข้อสงสัยอะไรก็ถามจากเธอโดยตรงได้เลยนะครับ ทุกท่าน ขอบคุณมาก” ท่านประธานหนุ่มลุกขึ้นจับไม้จับมือกับกลุ่มคู่ค้าที่ต่างก็รีบลุกขึ้นอย่างงงๆในการรวบรัดปิดประชุมของชายหนุ่ม แต่ก็เออออไปตามนั้น
“คุณพาร์สัน ผมยังมีงานอะไรสำคัญอีกหรือเปล่า?” เอริคถามเมื่อทั้งคณะคล้อยหลังไป
“เอ่อ…ก็มี…แต่ไม่สำคัญเท่าไหร่ค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้” เจสสิก้าตอบยิ้มๆอย่างรู้แกว ดูท่าท่านประธานจะมีธุระด่วนที่อื่นล่ะมั้ง
“งั้นก็ดี ถ้ามีอะไรด่วนคุณก็โทร.ไปตามผมที่บ้านก็แล้วกัน” พูดจบก็รีบเก็บเอกสารเดินออกจากห้องประชุมไปโดยเร็ว ทิ้งให้เลขาสาวมองตามด้วยความสงสัยว่าอะไรหนอ เป็นสาเหตุให้ท่านประธานทิ้งบริษัทก่อนเลิกงานได้เนี่ย


เสียงโครมครามและเสียงตะโกนด่าสบถ ดังมาจากข้างในห้องประธานฟังไม่ได้ศัพท์ เลขานุการิณีที่อยู่หน้าห้องเป็นห่วงแขกที่พิพัฒน์พามาอย่างบอกไม่ถูก ยามเจ้านายหนุ่มโมโหโกรธาน่ากลัวเสียยิ่งกว่าภูเขาไฟระเบิดเสียอีก จนเสียงภายในห้องสงบลงได้ประมาณสองสามชั่วโมง เอลิซ่าจึงเคาะประตู หอบเอกสารเตรียมเข้าไปข้างในให้ชายหนุ่มเซ็น
“ยังมีเอกสารต้องให้เซ็นอีกหรือ อลิซ”
“ชุดสุดท้ายแล้วค่ะ แล้วหลังจากนั้นเจ้านายจะไปไหนก็ไปได้แล้วค่ะ” เอลิซ่าตอบเสียงนุ่ม สายตาปราดมองหาคู่กรณีเจ้านายหนุ่มว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน

…

สรุปจุดที่เหมือน

พระเอกพานายเอกไปออฟฟิศ
ให้นายเอกที่ง่วงนอน นอนบนโซฟา
พนักงานตะลึงในรูปโฉม ฮือฮาจนเข้าใจว่าเป็นคนรัก
เลขาคิดว่าคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญเพราะพระเอกแทบไม่เคยพาใครมาถึงที่ทำงาน
เลขาเห็นฉากเด็ดของพระเอกกับนายเอก
พระเอกมีแฟนเก่าซึ่งได้ข่าวในวันนั้นตามมาราวี
แฟนเก่าพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับนายเอก
พระเอกไม่พอใจพูดปกป้อง
พระเอกอธิบายถึงนายเอกด้วยคำว่าเป็นคนสำคัญ
พระเอกพูดจาตัดรอนแฟนเก่า
แฟนเก่าอาฆาตว่าจะไม่จบง่ายๆ
นายเอกเตือนพระเอกเรื่องความพยาบาท
พระเอกทำงานเร่งรีบ ถามเลขาว่ามีงานอื่นอีกไหม
เลขาบอกว่าสุดท้ายแล้ว เพราะรู้ทันว่าพระเอกต้องการเลิกเร็ว



ถัดมา คิงเพนกวินก็เลยถามว่าเราอยากจัดการยังไง เราก็บอกว่าเราไม่อยากได้อะไร ถ้าแก้แล้วก็เอาเป็นว่าประกาศเหตุผลที่แก้ คือยอมรับว่ามาเหมือนของเรา (เราไม่ได้บังคับว่าให้ใช้คำว่าลอกด้วยซ้ำ) แค่นี้เอง แต่มันก็ไม่จบแค่นี้...มีต่อที่ภาคหลัง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=devildevoted&month=11-2006&date=23&group=1&blog=2 << เพิ่มลิงค์ให้


Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2549 13:48:56 น. 8 comments
Counter : 885 Pageviews.

 
.... เสียใจ เสียความรู้สึก เสียเพื่อนด้วยเว้ย!! เซ็งมากๆ เราก็พยายามไกล่เกลี่ยให้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้....ถึงปล่อยนิยายเล่มนี้ออกวางตลาดไม่ได้ ตัดใจทิ้งแม่งเลย ทั้งที่เสียเงินไปเป็นหมื่นแล้ว ทิ้งเงินดีกว่าทิ้งศักดิ์ศรีว่ะ


โดย: คิงเพนกวิน IP: 202.57.177.229 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:52:41 น.  

 
ไม่เคยเข้าบล็อกนี้เลย แต่ตามเรื่องลอกมา ก็เลยตามมาอ่าน ต้องบอกว่าสนุกมาก อยากอ่านแบบเต็มๆ ไม่ทราบว่า ขายที่ไหนเหรอครับ พิมพ์แล้วหรือยัง ยังไงมาโพสบอกด้วยนะครับ อยากอ่านมาก ขอบคุณครับ (ของคุณนะครับ ของคนลอกไม่เอา ฝีมือไม่เข้าขั้น)


โดย: อทิติ IP: 203.154.185.3 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:59:56 น.  

 
ถ้าเป็นเรื่อง Bloody Ally เป็นเรื่องสั้น ส่งให้ทางเนทได้ค่ะ ส่วน Ismala เป็นเรื่องยาวที่พิมพ์เป็นหนังสือหลายปีแล้ว หมดแล้วอ่ะ แต่ว่า...

แน่ใจนะคะ...มัน Y นะ ติดเรทด้วย อะเหยๆๆ


โดย: Naki A. IP: 58.136.199.237 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:35:50 น.  

 
แอบตามมา อิอิ เฮ้อ เหมือนๆๆๆ ลอกจิงๆด้วยอ่ะ ยอมรับซะเถอะพี่ char ก่อนที่มันจะยิ่งถลำลึกไปมากกว่านี้ แค่นี้ก็ผิดหวังมากมายแล้ว อย่าให้นู๋ผิดหวังไปกว่านี้อีกเรย กล้าทำก็ต้องกล้ารับ ระวังเถอะ จะเจอจับได้คาหนังคาเขา ไร้ข้อแก้ตัว และจะแสดงความเสียใจกะพี่ char ด้วยว่า นู๋จะไม่เปงแฟนนิยายพี่อีกอ่ะ แบบว่าเสียใจครั้งเดียว ก็เกินพอแล้ว T^T ไว้จาขออ่านมั่งนะคะพี่น่าสนใจจังเรื่อง Bloddy ally เนี่ยะ อิอิ อยากอ่าน ^^


โดย: PInk IP: 58.8.19.112 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:04:47 น.  

 
อยากอ่านน่ะ วาย กับ เร็ท น่ะของชอบเลย อิอิ อยากได้เมลล์ของนากิ.เอน่ะ ส่งมาให้หน่อยสิ ที่ lue9999@hotmail.com มีเรื่องบางอย่างอยากจะสารภาพ ถ้าออนเอ็มด้วยยิ่งดี จริงๆ นะ


โดย: อทิติ IP: 203.154.185.3 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:25:15 น.  

 
เอ่อ คือ ใครจะไม่อ่านก็ได้นะ ผ่านๆไปจะดีกว่า เพราะเป็นคอมเมนต์ส่วนตัวเราเอง
ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนนะว่าเราจะวิจารณ์อย่างเป็นกลางที่สุดนะ เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยเล่นอยู่ที่asgardตลอด ม.ปลายก็นะเมื่อ6-7ปีก่อนน่ะ แล้วก็ได้อ่านbloody alleyของพี่naki a ในhalloween projectด้วย ซึ่งมันก็เป็นงานหนึ่งที่เราเก็บไว้อ่านบ่อยๆนะ (ก็คนมันชอบนิ) ส่วนcharเราก็เริ่มอ่านงานของเขาในเวลาใกล้ๆกันนะ อาจจะช้ากว่าเกือบปีมั้ง ไม่แน่ใจ แต่เราก็ชอบงานของเขาเหมือนกันนะ

สรุปว่าเราจะไม่เข้าข้างใครก็แล้วกัน

ตามความเห็นของเรานะ

จุดที่เหมือน7จุดนี้

พระเอกพานายเอกไปออฟฟิศ
ให้นายเอกที่ง่วงนอน นอนบนโซฟา
พนักงานตะลึงในรูปโฉม ฮือฮาจนเข้าใจว่าเป็นคนรัก
เลขาคิดว่าคนนี้ต้องเป็นคนสำคัญเพราะพระเอกแทบไม่เคยพาใครมาถึงที่ทำงาน
เลขาเห็นฉากเด็ดของพระเอกกับนายเอก
พระเอกมีแฟนเก่าซึ่งได้ข่าวในวันนั้นตามมาราวี
แฟนเก่าพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับนายเอก
พระเอกไม่พอใจพูดปกป้อง
พระเอกอธิบายถึงนายเอกด้วยคำว่าเป็นคนสำคัญ
พระเอกพูดจาตัดรอนแฟนเก่า
แฟนเก่าอาฆาตว่าจะไม่จบง่ายๆ
นายเอกเตือนพระเอกเรื่องความพยาบาท
พระเอกทำงานเร่งรีบ ถามเลขาว่ามีงานอื่นอีกไหม
เลขาบอกว่าสุดท้ายแล้ว เพราะรู้ทันว่าพระเอกต้องการเลิกเร็ว

ถ้าเราแยกทุกจุดออกจากกัน มันจะเป็นพล็อตเรื่องที่classicมาก (ถ้าพูดไม่สุภาพก็คือ เน่าและโหล พบเห็นได้ในนิยายเกือบทุกเรื่อง ต้องขอย้ำว่า "ถ้าแยกออกทุกจุด"นะ)

และstepมันก็เป็นไปตามที่ต้องเป็น มันก็เหมือนกับที่ว่า เวลาเราอ่านนิยาย หรือไปดูหนัง แล้วเรารู้เลยว่าเดี๋ยวมันจะเป็นยังไงต่อนั่นแหละ ถ้ามีอะไรบางอย่างมาทำให้มันแตกต่างไปบ้าง หรือมีการหักมุมบ้าง คนเราจะมองมันต่างไปไหม คำตอบคือ ถ้า คนอ่านสนใจในจุดต่างเล็กๆนั่น หรือประทับใจจุดเล็กๆนั่น นิยายก็จะต่างกัน ส่วนคนอ่านที่มองแต่ภาพรวมทั้งหมด ก็จะไม่เห็นจุดต่าง และนิยาย2เรื่องนั้นก็จะไม่แตกต่างกัน

แต่สิ่งที่เรารู้ เราเห็นจากเหตุการณ์นี้คือ
1 เราได้อ่านพล็อตเรื่องในofficeนี้ จากเรื่องbloody alleyเป็นเรื่องแรกเมื่อ6-7ปีก่อน
2 stepของเรื่องคล้ายกันมากๆ
3 ภาษาต่างกัน ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้ว
4 คู่ของพิพัฒน์เผ็ดกว่า แน่นอน เพระนิสัยตัวละคร
นางร้ายกับเลขานิสัยเหมือนกัน (และเหมือนกับอีก108เรื่องที่เหลือ)
5 ...เราเห็นงานที่เหมือนหรือคล้ายกันตามแผงหนังสือบ่อยมากๆ (ไม่เกี่ยวกับ2เรื่องนี้)
สรุป
เราชอบงานของทั้งคู่ ไม่อยากให้ทะเลาะกัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเรา เราก็ไม่อยู่เฉยแน่นอน

คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าเราทำให้ไม่พอใจ เราก็ขอโทษด้วยนะ

จะลบcommentเราทิ้งก็ได้ไม่เป็นไร แต่เราไม่ได้เข้าข้างใครจริง

jiki


โดย: jiki IP: 124.120.146.62 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:26:49 น.  

 
เราไม่มีความจำเป็นต้องลบความเห็นของคุณ jiki หรอกค่ะ ถึงจะเห็นไม่ตรงกันแต่ถ้ามีเหตุมีผล เราก็ยินดีรับฟัง ขออธิบายอีกครั้งว่า สำหรับเทียบชุดแรก เราเองที่จับจุดมาเทียบ(เพื่อให้คนอื่นๆ ช่วยพิจารณาก่อนมีการจัดการกับ Char) ก็คิดว่ามันไม่ได้เป็นจุดสำคัญ จนคิดจะไม่เอาเรื่องแล้วด้วยซ้ำ บวกกับพอสอบถามบอกว่าแก้แล้ว

แต่สำหรับเราตัวบ่งชี้ว่ามีการลอก คือบทสนทนา ปฏิกิริยาตัวละคร ทั้งที่คาแรคเตอร์แตกต่างกัน ซึ่งมันไม่ใช่อะไรที่ควรคิดซ้ำกันได้จากในละครที่พล็อตเหมือนกันสัก 108 เรื่อง แม้แต่บทดัดแปลงจากเรื่องเดียวกันอย่างมังกรหยกหลากเวอร์ชั่น ไดอะล็อคเฉพาะตัวเฉพาะตนยังไม่ซ้ำเลย

ส่วนภาคหลัง เรายังไม่เห็นคุณแสดงทัศนะอะไรไว้ ซึ่งภาคหลังนี้มีความเฉพาะตัวเฉพาะตนมากกว่าเพราะเป็นเรื่องแนวทะเลทรายที่มันมีไม่มากนัก และเป็นเหตุให้ต้องมีการเอาเรื่อง

เพิ่มเติมว่า Char ที่ไม่ยอมรับว่าลอกเรา และบอกว่าไม่เคยรู้จักเรา ไม่เคยอ่านงานของเรา มีพยานที่เชื่อถือได้ คือเป็นเพื่อนของ Char เอง ยืนยันว่าชามี Ismala และเคยอ่าน Bloody Ally นี่เป็นอีกจุดที่เราคิดว่า คนบริสุทธิ์มีความจำเป็นต้องปฏิเสธด้วยหรือ?


โดย: Naki A. IP: 58.136.216.27 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:54:18 น.  

 
เป็นกำลังใจให้เจ๊ทั้งสองนะคะ คนผิดยังไงมันก็ต้องได้รับโทษค่ะ


โดย: toshinya IP: 203.113.56.71 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:17:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

F1ying H@ck3r
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Glay ga daisuki! Hisashi ga tottemo daisuki!
Friends' blogs
[Add F1ying H@ck3r's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.