|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
++ Lasagna ทูน่า กับ มะเขือเทศ (ฉบับคิดเอง) ++
ยู้ฮู... กลับมาอีกครั้งหลังจากร้างครัวไปนานหลายวัน สงกรานต์ไปเชียงใหม่ กลับมาก็มาขลุกอยู่ก้นครัวเหมียนเดิมค่า ...
หลังจากควันหลงงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เมื่อต้น เม.ย. ที่ผ่านมา ได้หนังสือมาเพียบ (เกิน 50% เป็นเรื่องเกี่ยวกับของกิน โฮะ..โฮะ..โฮะ หมูผีคืนชีพ.. )
ซื้อมาแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้มค่าหน่อย จะคอยให้มันเรียกน้ำย่อยจากอาหารตาอย่างเดียวเห็นทีโรคกระเพาะจะถามหา (น้ำย่อยหลั่ง แต่ไม่มีของอร่อยตกถึงท้อง ) ว่าแล้วก็รวบรวมกำลัง ลุกขึ้นเปิดตู้เสบียงด้วยความมุ่งมั่น !!! จึงเป็นที่มาของภาระกิจอันหาญกล้า "Lasagna ทูน่า กับ มะเขือเทศ (special edition)" แบบนี้นี่เอง... (กรุณาทำเสียงแบบรายการทีวีแชมเปี้ยน)
วัตถุดิบก็มีประมาณเนี้ยะ -- แผ่นลาซานญ่า (สัก 4 แผ่น), ทูน่ากระป๋องในน้ำเกลือ, หอมหัวใหญ่, มะเขือเทศ, ซอสมะเขือเทศ, ซอสถั่วเหลือง, พริกไทยป่น และ ชีส -- อย่าสงสัยว่าในรูปมันมีน้อยกว่าที่โม้ไว้.. แน่ล่ะ... ตอนถ่ายรูปดันลืมเอาออกมาให้มันครบๆ อ่ะค่ะ
สังเกตไหมคะว่า เนื้อที่ใช้เป็นปลา แต่ซอสดันเป็นมะเขือเทศ (ปกติเค้าใช้ปลาคู่กะซอสขาวนี่นา...) แต่ชื่อก็บอกตั้งแต่หัวเรื่องแล้วนะว่าเป็น limited edition ดังนั้นไม่ต้องซีเรียสค่ะ อยากใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ อร่อยอยู่แร้ววววว (มั่นใจเกินไปหรือเปล่าเนี่ยตู)
วิธีทำก็แสนง่าย เรามาทำไส้ลาซานญ่าก่อนละกันนะ ก็แค่ผัดหัวหอม (ที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ไว้แล้ว) ให้สลด ตรงนี้ถ้าใช้น้ำมันมะกอกจะหอมมาก ได้ใจอิตาเลี่ยนสุดๆ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้น้ำมันพืชทั่วไปนี่แหละค่ะ จากนั้นก็ใส่มะเขือเทศ (หั่นชิ้นเล็ก), เนื้อทูน่า (ที่เทน้ำเกลือออกแล้ว) และซอสมะเขือเทศลงผัด ตัดรสเปรี้ยวด้วยซอสถั่วเหลืองตามชอบเลยค่ะ (อันนี้ก็ไม่ต้องสงสัยนะคะ edition ลูกผสมก็แบบนี้แหละค่ะ... หอมถั่วเหลืองดีด้วย) คลุกไปคลุกมา เสร็จแล้ว !!! พักไว้ค่ะ
แล้วก็มาต้มแผ่นลาซานญ่ากัน ก็แค่ต้มในน้ำเดือด (ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ กับเกลืออีกนิดหน่อย) ประมาณ 10 นาที ,,, ที่ต้มพาสต้าทีหลังเพราะต้องเรียงสลับชั้นตอนแผ่นยังอุ่นๆ อยู่ค่ะ ไม่งั้นมันจะแห้งอ่ะ,,,
เมื่อแผ่นลาซานญ่าสุกก็เอามาจัดใส่จาน ราดซอสทูน่ามะเขือเทศที่ผสมไว้ในขั้นตอนแรก สลับชั้นกับชีสขูดและแผ่นลาซานญ่าไปเรื่อยๆ จนชั้นบนสุดก็ราดซอสที่เหลือให้เผื่อแผ่ลงมาถึงชั้นล่างสุดเลย โรยชีสทับอีกทีก็เรียบร้อย
แล้วก็เอาไปเข้าเตาอบ 180 C นานประมาณ 20 นาที... ... ... (ติ๊ง..) เสร็จแล้วค่า ........
หน้าตาประหลาดสมกับที่เป็นผลงานของเรา
ตอนต้มพาสต้าใกล้สุกก็ดันมีโทรศัพท์ oversea call เข้ามา วางสายก็ไม่ได้ซะด้วย แผ่นลาซานญ่าเลยถูกต้มซะเปื่อยเลย ... ก็เลยขาดๆ เกินๆ อย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ ... ส่วนชีสที่เห็น อย่าได้แปลกใจไปเลย คือว่าขี้เกียจขูดชีสอ่ะค่ะ ก็เลยเอาคุณน้องเชดดามาหั่นเป็นแท่งเล็กๆ แล้วโรยแทน (ถ้าใช้มอสเซอเรลล่าขูดก็ไม่แปลกอ่ะสิ... โฮะๆ ... งานนี้เน้นของแปลกค่ะ ) จริงๆ แล้วส่วนตัวชอบเชดดาชีสอยู่แล้วด้วยค่ะ จงใจใส่เลยล่ะ
เห็นซอสไหลเยิ้ม ทะลักออกมาซะขนาดนี้ น่ากินเหมือนกันแฮะ
มื้อนี้เสริฟคู่กับสลัดสักชาม เริ่ดค่ะ...
Create Date : 25 เมษายน 2550 |
Last Update : 30 เมษายน 2550 1:34:57 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1539 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กุ๊กกิ วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:12:28:52 น. |
|
|
|
โดย: kanapo วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:15:37:54 น. |
|
|
|
โดย: Lottelise วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:0:28:18 น. |
|
|
|
โดย: มาจากดับปลิ้น (Dublina ) วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:21:21:44 น. |
|
|
|
โดย: LeaDGlasS วันที่: 9 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:14:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]
|
++ A recycled teenager ++
สาวเหลือน้อย ไม่มีใครมาสอยไปซะที มีแต่คนจองคิวจะมาเสย (ปลายคาง) เพราะความกวนบาทา หน้าหนา ทนทานปานแท่งตะกั่ว ชื่อ LeaDGlasS แปลว่า กระจกตะกั่ว โปร่งใส แต่ไม่ยอมให้รังสีที่มีความทะลุทะลวงสูงอย่างรังสีเอ๊กซ์ผ่านไปได้ จึงเป็นคำที่อธิบายความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างชัดเจนที่สุด
สโลแกนที่น้องๆ ตั้งให้ = มีปัญหา? หล้าเคลียร์เอง !! ... อืม... ชัดเจน ... 555
|
|
|
Free Testcode
|
|
|
|
|
|
|