หลังจากออกจาก รพ. แล้วก็ต้องมาตะลุยงานหนักต่อ ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรไว้ สงสัยเมื่อก่อนโดดเรียนบ่อยไปหน่อย พอมาทำงานก็เลยต้องรับตำแหน่งเป็นตัวสำรองที่ผู้ใหญ่จะเรียกมาทำงานเมื่อไหร่ก็ต้องมา ...

เป็นคนโสดมันผิดตรงไหนหนอ... คนโสดก็อยากมีเวลาว่างเป็นของตัวเองเหมือนกันนิ

บ่นต่อไป ทำงานติดกันโดยไม่มีวันหยุดมาเกือบ 20 วันแล้วหนิ ถ้าบ่นมากๆ แล้วทำให้เวลามันก้าวกระโดดไปเลยก็คงดีไม่น้อย

... ... ... ... ... ... .................................. ... .. .

เครียดมากไปเดี๋ยวหน้าเหี่ยวหมด ว่าแล้วก็ลุกขึ้นมาทำขนมอร่อยๆ กินดีกว่า หาของอร่อยกิน จะได้อารมณ์ดี อิอิ...

คิดไว้อยู่นานละ ว่าอยากกินเบลเยี่ยมวอฟเฟิล เตาก็มี สูตรก็หาได้ละ
สุดท้ายก็มาลงเอยที่ โอ๊ตมีลมัฟฟิน

ค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกะวอฟเฟิลเลยสักนิ 555
ก็อยากกินข้าวโอ๊ตนี่นา ... :-P

มาลงมือเข้าครัวกันเลยดีกว่าค่ะ อย่ามัวเม้าท์อยู่เลย
สูตรนี้เป็นสูตรโบร๊าน โบราณ เอามาจากตำราป้าเบท (Betty Crocker's) มรดกเก่าแก่ที่คุณย่า (in-law) ทิ้งไว้ให้

มาดูส่วนผสมกันก่อนค่ะ

ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยตวง
บัทเตอร์มิลค์ 1 ถ้วยตวง
เนย 1/3 ถ้วยตวง
น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลีเอนกประสงค์ (ร่อน) 1 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ชช.
โซดา 1/2 ชช.
เกลือป่น 1 ชช.

เราขี้เกียจทำบัทเตอร์มิลค์น่ะ เลยใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยแล้วเติมนมสดลงไปให้ปริมาตรรวมเท่ากับ 1 ถ้วยตวงค่ะ



ดัดแปลงเป็นประจำ ไม่เคยทำอะไรตามสูตรเป๊ะๆ ซะที อิอิ....
แฟนแซวเป็นประจำเลยค่ะว่าได้กินขนมไม่เคยซ้ำแบบเลย 555 อย่างนี้เค้าเรียกว่าหนูทดลองใช่มั๊ยคะ โฮะๆๆๆ



::: วิธีทำ :::

1. preheat เตาอบที่อุณหภูมิ 400 F (200 C) ทาไขมันที่พิมพ์มัฟฟิน (ถ้าใช้ถ้วยกระดาษก็ไม่ต้องทาไขมันแล้วค่ะ)

2. แช่ข้าวโอ๊ตในส่วนผสมโยเกิร์ตและนม แช่ไว้สักพักค่ะ ให้ข้าวโอ๊ตซับนมจนอิ่มตัว





3. ร่อนแป้ง ผงฟู โซดา และเกลือป่นเข้าด้วยกัน พักไว้





4. ใช้ส้อม หรือ พาย หรือ ที่ผสมแป้งพาสตรี้ (pastry blender) ผสมเนย น้ำตาลทรายแดง และไข่ไก่ แค่ให้พอเข้ากัน ใช้วิธีสับ (cut-in stroke) ให้เนยเป็นชิ้นเล็กๆ มันจะไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกันหรอกนะคะ ไม่ต้องซีเรียส อย่างนี้แหละดีค่ะ อิอิ...





เอาแค่พอหอมปากหอมคออ่ะนะ อิอิ...


5. ผสมข้าวโอ๊ตที่แช่ไว้ และส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงในส่วนผสมเนย ตะล่อม (fold) ให้พอเข้ากัน





แค่นี้ก็ได้แล้วค่ะ คนมากไปไม่อร่อยนา โฮะๆๆ



6. ตักส่วนผสมข้อ 5 ลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ สูงสักประมาณ 2/3 ของความสูงของพิมพ์ อบนาน 20 - 25 นาที จนกว่าจะเป็นสีเหลืองทอง
(เตาอบที่บ้านมันเล็กค่ะ ถาดมัฟฟินปกติเข้าไม่ได้ เลยใช้ถ้วยกระดาษเปล่าๆ คละกับพิมพ์ซิลิโคน สะดวกไปอีกแบบ แหะๆ )



แบบนี้ไง
แต่น แตน แต๊น.....




ขนมสีกำลังสวย นูนได้รูป หน้าขรุขระ แตกนิดๆ ดูน่ากิ๊น.... น่ากิน



สูตรนี้จะไม่หวานนะคะ ออกเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นข้าวโอ๊ต ใครชอบหวานๆ ก็เพิ่มน้ำตาลเอาละกัน ไม่งั้นก็กินกับแยมก็ได้ค่ะ



จะกินเปล่าๆ ก็หอมมัน หรือ จะกินคู่กับแยมสตรอเบอรี่ก็หวานหอมดีนะคะ



ได้กาแฟดำร้อนๆ หรือนมอุ่นๆ สักแก้ว ก็เข้าท่าดีนะ



หน้าดูเหมือนจะแห้งนะคะ แต่ข้างในล่ะ นุ้ม... นุ่ม ฟูนุ่ม ฉ่ำกำลังดีค่ะ
ความนุ่มของเนื้อค่อนไปทางเค้ก แต่ไม่ฟูเท่าเค้กนะคะ (กินอุ่นๆ หลังอบจะได้อารมณ์พอดีๆ แต่ถ้าเอาอันที่เย็นแล้วมาอุ่นด้วยไมโครเวฟจะได้เนื้อแบบเค้กค่ะ)

ความนุ่มแบบนี้ยกความดีความชอบให้โยเกิร์ตไปเลย





ยังไม่หมด
เอาไป เอาไป เอาไปอีก







ก่อนจบ ตบท้ายด้วย Baking Tips หน่อยละกันค่ะ

Baking Tips :: การอบมัฟฟินให้เนื้อฟูนุ่ม หน้าขรุขระ แตกนิดๆ สวยงามตามแบบฉบับมัฟฟิน

1. อย่าคนส่วนผสมนานเกินไป !! เพราะจะทำให้ขนมเนื้อหนักและด้าน ข้างในไม่โปร่ง

2. แยกผสมระหว่างชามแห้ง กับชามเปียก แล้วค่อยเอาทั้ง 2 ชามมาผสมกันให้แป้งพอชี้นๆ ดูเป็นก้อนๆ อยู่บ้าง ไม่ต้องเนียน เพราะเราจะทำมัฟฟิน ไม่ใช่คัพเค้ก อิอิ...

3. ถ้าปริมาณไขมันกับน้ำตาลมีมาก เนื้อมัฟฟินจะใกล้เคียงกับคัพเค้ก ในทางตรงข้าม ปริมาณไขมันกับน้ำตาลที่น้อยจะทำให้เนื้อค่อนไปทางขนมปัง

ตาลาย... แต่ไม่หายอยากเนอะ

Create Date : 12 กันยายน 2552
Last Update : 14 กันยายน 2552 9:30:24 น.		25 comments
Counter : 6691 Pageviews.
Share Tweet