|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
...สายลมทะเล และทิวเขาในวันฝนพรำที่ หัวหิน...
ทริปนี้เริ่มจากเพื่อนสนิทที่โทรมาว่า อยากไปทะเล เราก็เหมือนกัน เหมือนกับเหนื่อยใจอะไรบางอย่าง อยากไปชาร์ทแบตให้กับชีวิต
บางแสน กับ พัทยาไม่เอา เพราะหนี(พ่อ)ไปบ่อยสมัยเรียน ดังนั้น ทริปนี้จุดหมายคือหัวหิน (เป็นถิ่นมีหอย)
ทริปนี้มีกันสามสาว วัยเริ่มเก็บตังค์ซื้อทองแปะคาน เราเดินทางออกจากกรุงเทพ ผ่านท่าฉลอม ผ่านนาเกลือ ซึ่ง เมื่อก่อนจะมีนาเกลือมากมาย เรียงรายไปตลอดทาง แต่เดี๋ยวนี้เหลือแค่บางส่วน เหมือนเป็นอนุสรณ์ความทรงจำของเพลง หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือในอดีต
พวกเราไปถึงหัวหินเมื่อเกือบบ่ายสามโมง อากาศที่หัวหินไม่ร้อน และก็ไม่มีฝนตกมากนัก
โปรแกรมวันแรกที่เราวางกันไว้คือ ไปกินอาหารเย็นที่ริมทะเล เราสามคนตกลงกันว่าจะไปกินข้าวที่เขาตะเกียบ
เขาตะเกียบอยู่ปลายสุดของหาดหัวหิน เขาตะเกียบมีชื่อเสียงในเรื่องของจุดชมวิวและปูม้าสด มาถึงถิ่น มีหรือจะพลาด เมนูในค่ำนั้นจึง มีปูหลายจานอยู่นั่งกินอาหารทะเลไปชมวิวไป มีความสุขดีแท้
ซึ่งความสุขนี้ หาไม่ได้อย่างในกรุงเทพ ความเงียบสงบ เสียงคลื่น ภาพชาวประมงออกเรือกลางทะเล ภาพความเรียบง่ายของชีวิต ที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีกัน อย่างสังคมในเมืองใหญ่ ทำให้ใจที่ว้าวุ่น ของฉันสงบลงอย่างประหลาด
เรากลับถึงที่พักสามทุ่มกว่า บางคนบอกว่า สามทุ่ม ชีวิตกลางคืนเพิ่งเริ่มต้น แต่สำหรับฉันในเวลานั้น การได้นั่งอยู่ที่ระเบียง ได้ยินเสียงคลื่นซัด สัมผัสถึงลมทะเล หรือแสงของเรือหาปลาในท้องทะเลที่มืดสนิท ทำให้ฉันได้ผ่อนคลายอย่างประหลาด ความเงียบ ทำให้คิด ทำให้เริ่มตระหนักถึงการฟังเสียงหัวใจ และความต้องการของตนเอง ว่าจริงๆแล้วฉันต้องการอะไรกันแน่ ได้ทบทวนเรื่องที่ผ่านมา ได้มีเวลาคิดมากขึ้น ใส่ใจในตัวเองมากขึ้น และที่สำคัญรักตัวเองมากขึ้น
วันรุ่งขึ้น โปรแกรมที่จะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นก็เป็นอันยกเลิก เพราะมีฝนตกพรำๆแต่เช้า เราตัดสินใจขับรถไปที่ชายหาดหัวหิน หน้าโรงแรมรถไฟเก่า หรือที่ปัจจุบันคือ โรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัลหัวหิน เหมือนกับการย้อนไปในยุคของปริศนา กับท่านชายพจน์
ที่ชายหาดมีม้าแกลบไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่เรียงราย แต่ฉันว่า หัวหินได้พัฒนาปรับปรุงเรื่องความสะอาด และสิ่งแวดล้อมไปอย่างดีเลยทีเดียว เราเดินเล่นที่ชายหาดหัวหิน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากมาย
จุดหมายในวันที่สองของเราคือ ไปไหว้พระที่วัดห้วยมงคลและน้ำตกป่าละอู วัดห้วยมงคลเป็นวัดที่มีหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศประดิษฐานอยู่ บริเวณวัดกว้างขวาง มองไปข้างหลังมี เทือกเขาเรียงรายอยู่โดยรอบ ดูสงบเงียบเหมาะกับ การปฏิบัติธรรม อย่างยิ่ง เราแวะไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับพวกเรา
ความคิดแวบนึงแวบเข้ามาให้หัวฉัน ว่า เมื่อเวลามนุษย์มีทุกข์ มักจะนึกถึงธรรมะ นึกถึงพระ คำวิงวอน คำขอพร หรือแม้กระทั่งธูปเทียนบูชา ของสักการะ แต่เมื่อมนุษย์มีสุข กลับคิดถึงความรื่นเริง หรือแม้กระทั่งแสงสีที่ยั่วยุ อยู่ในสังคม ลืมแม้กระทั่งสัจธรรมแห่งชีวิต ที่ว่าเมื่อมีสุขก็ย่อมมีทุกข์ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ไม่มีใครหนีพ้น เราจากลาวัดห้วยมงคลด้วยความรู้สึกอิ่มเอม ในการทำบุญ ไหว้พระ
จุดหมายต่อไปของเราคือ น้ำตกป่าละอู ในวนอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บรรยากาศในวันนั้น มีฝนตกพรำ อากาศจึงเย็นสบาย สีของต้นไม้ ช่างเขียวสดใส ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ สดชื่นในสายฝน กลิ่นฝน กลิ่นดิน ช่างมีความสุขเหลือเกิน ทางไปน้ำตกป่าละอูนั้น คดเคี้ยว เลี้ยวลดเป็นอย่างมาก แต่บรรยากาศสองข้างทางระหว่างทางไปน้ำตกนั้น ต้นไม้ ขุนเขา ฝูงลิงสองข้างทาง ทำให้คนในป่าคอนกรีตอย่างพวกเรา เพลิดเพลินจากบรรยากาศสองข้างทางจนลืมความเหนื่อยล้า ระยะทางก่อนถึงน้ำตกเป็นทางลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ โคลนลูกรังเป็นแอ่ง ตลอดระยะทาง สองกิโลก่อนถึงน้ำตก
แต่ก็คุ้มค่า เพราะบรรยากาศริมน้ำตก แม้ว่าจะมีฝนตกพรำๆ แต่บริเวณน้ำตกก็มีผู้คนมาหมาย บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มากันทั้งครอบครัว ความเย็นของสายธารและบรรยากาศ กลิ่นไอฝน กลิ่นถนน มันช่างสวยงาม และสงบมากๆ ในความรู้สึกของฉัน เราใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกป่าละอูไม่นานมากนัก เพราะจะต้องรีบไปที่ชะอำเพื่อหาที่พักแรมในคืนวันที่สอง เราถึงชะอำเมื่อเกือบห้าโมงเย็น เมื่อได้ที่พักแล้ว ดูนาฬิกา ก็ได้เวลาไปหาอะไรกระแทกกระเพาะกันอีกแล้ว เราเข้านอนแต่หัวค่ำเพราะพรุ่งนี้เราต้องไปพระที่นั่งมฤคทายวันแต่เช้า ก่อนที่จะรีบตีรถกลับกรุงเทพแต่เช้าตรู่
ยามเช้าที่ชะอำนั้นสดชื่นมากๆๆ แม้จะมีหมอกบ้าง แต่ก็สดชื่น กลิ่นไอทะเลยามเช้า หรือวิถีของคนให้เช่าผ้าใบริมทะเล คนให้เช่าอุปกรณ์ท่องเที่ยวชายหาด ให้ฉันมองถึงวิธีเรียบง่ายในชีวิต ชะอำแตกต่างจากหัวหินอย่างเห็นได้ชัด ชะอำจะงียบกว่า ของขายรายทางก็น้อยกว่าหัวหิน เหมาะมากกับการมาเปลี่ยนที่นอนจริงๆ แต่ฉันชอบหัวหินมากกว่า ไม่ใช่ว่าชะอำไม่สวยนะ แต่ใจฉันสงบมากกว่าที่หัวหิน
เราแวะกินข้าวเช้าที่ตลาดในตัวเมืองชะอำ ก่อนที่จะแวะไปที่ค่ายพระรามหก ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งมฤคทายวัน พระที่นั่งแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พศ 2466 และแล้วเสร็จในปี 2467 ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 6 มฤทายวันแปลว่าสวนกวาง เนื่องจากสมัยก่อนในบริเวณเขตพระที่นั่งนี้มีสัตว์ป่าชุมชุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝูงกวาง จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
ความโอ่โถง รูปทรงของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกทำให้พระที่นั่งแห่งนี้ออกมาได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ เราออกจากพระที่นั่งมฤคทายวันเมื่อบ่ายกว่าๆ วันนี้ต้องรีบกลับเข้ากรุงเทพด้วย เราจึงทำเวลาเดินทางกันอย่างเต็มที่
ที่สุดแล้ว พวกเราก็ได้ความประทับใจทั้งที่หัวหิน และชะอำไปทั้งหมด โดยไม่จำเป็นที่ต้องเอาความขมขื่น ไปทิ้งทะเล เราก็ไปหาความสุขในชีวิตได้จากธรรมชาติ ปล่อยชีวิตและวิถีการดำเนินชีวิตอย่างทางที่มันควรจะเป็น ปล่อยใจให้สงบและอย่ายึดติดกับบางอย่างมากนัก แล้วจะพบว่าความสงบไม่จำเป็นต้องไปหาที่ไหนไกล เพียงแค่เราปล่อยวางไปตามครรลองของมัน แล้วความสุขก็จะอยู่แค่เอื้อม
ถามว่าแบตตารี่ชีวิตฉันเต็มไหม วันนี้ตอบได้เลยว่าเต็ม แล้วความทุกข์ในใจหล่ะ ตอบได้ตอนนี้ว่าทุกอย่าง สุขหรือทุกข์ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำในใจของฉันก็พอ
ทะเลยังสวยเหมือนเดิม Artist : Playground
ฉันยืนมองทะเลได้แต่ถอนใจ ภาพความสุขหายไปในชั่วพริบตา
แล้วความไม่แน่นอนสุดท้ายกลายเป็นเรื่องจริง ที่ทิ่มแทงตลอดกาล
ฉันยืนมองทะเลฉันจึงเข้าใจ แม้นํ้าตาในหัวใจยังไม่หายไป
แต่แล้วหากความจริงได้สะท้อนความเป็นไป กับเรื่องราวที่ทะเลได้บอกฉัน
คลื่นลมที่ซัดมา มันจะหายไปกับพื้นทราย เหมือนกันกับเรื่องราวที่เลวร้าย สุดท้ายวันเวลาจะรักษาเราจนหาย
แม้คลื่นลมที่ซัดมา มอบความเสียใจและนํ้าตา แต่ทะเลยังคงสวยเหมือนผ่านมา
พรุ่งนี้เราต้องมีความสดใสคืนกลับมา อีกครั้งนึง
อยากให้เราอดทนไว้ ไม่ช้านานเกินไปความสวยงาม ที่เคยมี มันจะย้อนคืน กลับมา
ที่ตรงนี้ ฉันขอภาวนาให้เราพ้นความปวดร้าว อีกครั้ง....
มาอีกครั้งนึง
เรื่องราวที่เลวร้ายในวันนั้น ฉันขอภาวนาให้เราพ้นความปวดร้าวได้อีกครั้งนึง (คำศรัทธาในจิตใจ ไม่ว่าทุกข์มันทำลาย อีกไม่นานความสวยงามต้องมาเยือน) เหมือนทะเลที่ยังสวยจนวันนี้
ชีวิตเราต้องมีความสดใสคืนกลับมา อีกครั้งนึง..
Create Date : 01 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2549 16:31:30 น. |
|
17 comments
|
Counter : 1148 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ดาริจ้ะ IP: 125.24.155.80 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:47:10 น. |
|
|
|
โดย: อุรัสยา วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:06:37 น. |
|
|
|
โดย: อุรัสยา วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:13:41:48 น. |
|
|
|
โดย: N...U....T....T.... IP: 203.146.245.178 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:10:41:41 น. |
|
|
|
โดย: เบบูญ่า วันที่: 9 ธันวาคม 2549 เวลา:11:54:21 น. |
|
|
|
โดย: จูนิ IP: 203.118.73.86 วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:20:52:57 น. |
|
|
|
โดย: ดาริกามณี วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:11:56:19 น. |
|
|
|
โดย: อุรัสยา วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:19:51:59 น. |
|
|
|
โดย: มรกตนาคสวาท IP: 202.69.139.194 วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:19:24:47 น. |
|
|
|
โดย: มีนเมษ วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:17:33:43 น. |
|
|
|
โดย: 1981 IP: 125.25.190.174 วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:1:50:49 น. |
|
|
|
โดย: N_BEE810 วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:23:50:21 น. |
|
|
|
โดย: จูนิ (จูนิตา ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:19:05:12 น. |
|
|
|
โดย: อุรัสยา วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:7:58:27 น. |
|
|
|
โดย: Htervo IP: 84.248.28.124 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:19:44:03 น. |
|
|
|
โดย: สิบเบี้ย วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:19:40:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ได้ยินแว่วๆ ว่าทริปต่อไปเป็น ระยอง
มาเถอะน่า จะพาไปปีนเขาชะเมาให้หัวิท่มกันไปข้างเลย