Dear Tokyo #1 : ก้าวแรกในมหานคร Tokyo
ก่อนที่เราจะพาไปเที่ยวโตเกียวในแบบของเรา เราขอขอบคุณบุคคลเหล่านี้ก่อน (ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัว แต่ขอเขียนให้เป็นเกียรติเป็นศรีนิดส์นึง)
เพื่อนป้อน, ป้าหนุ่ย, กะจุ๋ม --> ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวที่ใกล้ตัวที่สุด ถามอะไรตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่อุ่นใจที่ได้คุย อิอิ
พี่ปุ๊ก (Hobby Pook) --> พี่ปุ๊กส่งแผนที่รถไฟ และคู่มือเที่ยวโตเกียวมาให้ถึงบ้าน ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ JR Map ของ Sakura เริ่ดมากเลยค่ะพี่ปุ๊ก หนูใช้จนเปื่อยเลย
คุณ Pogghi, พี่ฟ้า (Skybox) --> ทั้ง 2 ท่านไม่รู้จักเรา แต่เราเนียนขอรู้จักเค้าเอง คุณ pogghi เพิ่งโพสต์เรื่อง "โตเกียว หมุนรอบตัว" ในห้องบลูก่อนเราจะไปไม่นาน เป็นแรงบันดาลใจให้เราอย่างแรง, สำหรับพี่ฟ้า เป็นกูรูญี่ปุ่นตัวจริง เราไปโพสต์แผนเที่ยวประหลาดๆ ในห้องบลูไว้ พี่ฟ้าสามารถหาภาพมาประกอบได้ทุกที่ที่เราอยากไป บอกได้คำเดียวว่า "สึโค่ยยย" จริงๆ ^^ ----------------------------------------------------------------------- เจิม blog ด้วยรูปจุดเริ่มต้นการเดินทางเที่ยวทีไรก็ต้องยิงเก็บไว้ทุกที
ครั้งนี้ไปกับการบินไทย ไม่ได้บินกับ TG มา 10 กว่าปีจะเป็นไงน๊อ ตื่นเต้น
ตอนที่เริ่มเสิร์ฟอาหารดันหลับ จริงๆ มีข้าวกับปลาอะไรซักอย่าง แต่ไม่ทันหมดซะก่อนก็เลยต้องกินออมเลทแทน ก็อร่อยดีนะคะ ^^
กัปตันบอกว่าขณะนี้อุณหภูมิภายนอก -52 องศาเซลเซียส ก็เลยเห็นน้ำแข็งเกาะกระจกแบบนี้แหละ
-----------------------------------------------------------------------
ทำไมเลือกเที่ยวบินกลางวันล่ะ ??? เป็นคำถามที่หลายคนถามเราก่อนไป แน่นอนว่าตั๋วถูกกว่าเป็นเหตุผลอันดับ 1 และอีกอย่างคือการเดินทางครั้งนี้เราไปพักกับญาติของเพื่อนที่ไปด้วยกันจึงไม่ต้องเสียค่าที่พักอยู่แล้ว เป็นการประหยัดได้อย่างแท้จริง และเมื่อไปถึงแล้วเราได้พัก 1 คืน เช้าขึ้นมาไปเดินตะลุย Tokyo Dome แบบสบายๆ ก็เลยคิดว่าคิดไม่ผิดที่เลือกบินเช้า ^^ "งานเข้าก่อนเข้าเมือง" 6 ชม. ผ่านไปการบินไทยพาเรามาถึงสนามบินนาริตะในเวลาประมาณ 4 โมงครึ่ง จากนั้นเป็นขั้นตอนผ่าน ตม. และรอกระเป๋าตามปกติ แต่ของเราไม่ปกติ เอาล่ะเสะ!! ระหว่างรอกระเป๋าที่สายพาน มีหมา ตม. มาดมๆ คนที่ยืนรอกระเป๋า ก็คงเป็นมาตรการตรวจสอบเรื่องนำยาเสพติดหรือว่าของต้องห้ามเข้าเมือง เราก็ไม่ได้คิดอะไร พอกระเป๋ามาก็ลากกระด๊อกกระแด๊กผ่าน custom ทีนี้แหละงานเข้าล่ะพี่น้อง custom ญี่ปุ่นเรียกไปตรวจของในกระเป๋า ก็งงๆ กันเกิดอะไรขึ้นหว่า ทำไมต้องเป็นตรู เค้าเอารายการของต้องห้ามต่างๆ มาให้ดูว่าเรามีหรือเปล่า ก็แหงล่ะใครจะตอบว่ามีก็มันไม่มีอะไรนี่หว่า จากนั้นขอตรวจกระเป๋า carry ขึ้นเครื่องด้วย แล้วก็ตรวจร่างกายเรียกว่าขยำเลยแหละ หยึยย... custom สาวบอกว่าที่เรียกตรวจเพราะว่าหมามันมาดมพวกเรา 2-3 รอบ ก็เลยมีข้อสงสัย สุดท้ายหาสาเหตุไม่ได้ custom สาวที่ตรวจเราถามว่า "ที่บ้านเลี้ยงแมวหรือหมารึป่าว" เราก็ตอบว่าเลี้ยงหมา นอนกับเราในห้องด้วย เท่านั้นแหละร้องอ๋อๆๆ เสียงหลงเลยทีเดียว นั่นไง..นั่นไง .. ตบเข่าผ่างๆ เพราะเหตุนี้เองหมามันถึงมาดมเราถี่เหลือเกิน ก็ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้ามีกลิ่นโจบิติดตัวอยู่แล้น แหม่.. เก็บความแค้นไว้ในใจกลับไทยเมื่อไหร่จะอัปเปหิออกจากห้อง (เรานะไม่ใช่หมา พ่อมันไม่ยอมหรอก รักหมามากกว่าเมีย... งืดๆๆ )
อะนะ กว่าจะหลุดมาได้ อย่างแรกที่ต้องตามหาคือ "ห้องน้ำ"
กรี๊ดดดด.... ส้วมญี่ปุ่น ปุ่มมากมาย สนุกสนาน กดใช้มันทุกปุ่ม เหอๆๆ
---------------------------------------------------- "นั่งรถไฟเข้าเมือง" รถไฟจากนาริตะเข้าเมือง มีอยู่ 2 สายหลักๆ คือ Keisei กับ JR Rapid Train ที่เราดูจาก hyperdia มา เค้าบอกว่าให้เรานั่ง jr สาย yokosuka (สีน้ำเงิน) ไปถึง Kinshicho ได้เลย พอลงกะไดเลื่อนลงมาเจอห้องขายตั๋ว/แลกตั๋ว JR ก็เลยปรี่เข้าไป แต่ท่าทางจะไม่ใช่ เริ่มงงนิดหน่อย แล้วก็ใช้ปากถามทางทันที เหมือนไม่ได้ตรียมตัวไงไม่รู้ ถามคนที่ต่อแถมเค้าบอกตรงนี้ไว้แลก JR Rail Pass สุดท้าย จนท.สาวพามากดตั๋วที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติอยู่ก่อนลงกะไดเลื่อนไปขึ้นรถไฟ ค่าตั๋วคนละ 1280 Y
รถไฟขบวนแรกในญี่ปุ่น สาย JR Rapid Train
"สถานีปลายทาง Kinshicho"
ใช้เวลา 81 นาที (จำได้จากแผนที่ใน narita) ก็มาถึง "Kinshicho" ไม่คุ้นกันเลยใช่ไม๊ เราก็ไม่คุ้นหรอก ชีวิตกอ่นมาญี่ปุ่นรู้จักแต่ Shibuya Shinjuku Harajuku อะไรเทือกนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มาพักแถบๆ นั้นกัน ครั้งนี้เรามาพักกับคุณน้าของเพื่อนสาวซึ่งอยู่ใกล้สถานีนี้พอดี แต่ก็เป็นสถานีใหญ่นะ มีรถไฟสายหลักอย่าง JR สายสีเหลือง Chuo-Sobu Line และสามารถนั่ง JR สายสีน้ำเงิน Yokosuka Line ต่อเดียวมาถึงก็ถือว่าสะดวกและง่ายมากๆ ดูจากแผนที่ Kinshicho อยู่ทางฝั่งตะวันออก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ที่เรารู้จักกันดีก็คือ วัด Sensoji หรือ Asakusa แล้วก็ Akihabara ถัดไปอีกแค่ 3 สถานี สวน Ueno สามาถขี่จักรยานไปได้ง่ายๆ (คุณน้าบอกมา) ดังนั้น 7 วันจากนี้ Kinshicho จะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางในมหานครโตเกียวของเรา แค่คิดก็สนุกแล้ว ^^
แผนที่รถไฟ JR
ผู้คนขวักไขว่หน้าสถานี Kinshicho
นักร้องสาวเสียงดี ไม่ใช่ไมค์ หน้าสถานี เสียงดีมากๆๆ กังวาลใสกิ๊ง หน้าสถานีรถไฟจะมีดนตรีเปิดหมวกแบบนี้มาแสดงให้ดูทุกเย็นบางวันก็เป็นวงหนุ่มๆ คนยืนดูก็ยืนปรบมือ โยกหัวไปด้วย วิถีเมืองอาร์ตจริงๆ ^^
----------------------------------------------------------------------
"มื้อแรกในญี่ปุ่น" อย่าถามว่าชื่อร้านอะไร ตรงไหน จำไม่ได้ ตอนแรกก็ว่าจะจำแต่กินเสร็จแล้วไม่จำดีกว่า มื้อนี้เจอแบบฟลุคๆ ด้วยความที่อากาศเย็นโฮก เราก็เลยอยากกินราเมง ตอนนี้อยากซดอะไรร้อนๆ อย่างเดียวเลย พอเก็บกระเป๋าเรียบร้อย เดินดุ่ยๆ มาเรื่อยเลี้ยวขวาปุ๊บ เจอราเมงก็หยุดกึ้ก และส่งสัญญาณกับเพื่อนว่ากินมะๆๆ ก็เลยจัดมา เป็นอย่างที่เห็นในรูป ร้านนี้มีดีที่พนักงาน เรานั่งหน้าเคาน์เตอร์ มองหน้าพ่อครัวเพลิดเพลินเพราะว่า "หล่อมากกก" เหมือนดาราเกาหลี-ญี่ปุ่นเลย หรือว่าคนแถวนี้เค้าหน้าดีกันหมดฟระ เจริญหูเจริญตาตั้งแต่มื้อแรกเลย แต่ที่ไม่จำคือรสชาติราเมง เราว่าไม่ผ่าน มันเค็มมากๆๆ 3 คำแรกอร่อย แต่กินไปเรื่อยมันเค็มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เลี่ยนๆ หน้าตาดีแต่กินไม่ได้เป็นอย่างนี้นี่เองงงงง....
หน้าร้านที่อ่านไม่ออกเรยยยย
พ่อครัวหน้าตาดี กินไม่ได้แต่เท่ห์ ใช่ไม๊ฮึ
หน้าตาดีเนาะ แต่ไม่อร่อยง่า
-------------------------------------------------------------------------
คืนแรกในญี่ปุ่นกับอุณหภูมิ 5 องศา เราไม่เคยเที่ยวเย็นฉ่ำขนาดนี้ เทียบได้เหมือนเราเดินอยู่บนดอยอินทนนท์ช่วงที่หนาวที่สุดทั้งวันทั้งคืน คืนนี้คืนแรกไม่น่าเชื่อว่าอากาศเย็นมากๆแบบนี้เรากลับชอบมากๆ ชุดที่ใส่มา 3 ชั้นสไตล์ mix & ไม่ match เสื้อนอกขนเป็ดจากน้องออม เสื้อไหมพรม หมวกและผ้าพันคอของน้องสะใภ้ ช่วยเราได้มาก ถึงแม้ว่าจะใส่เป็นแหนมป้าย่นและออกจะมั่วๆ แต่อุ่นก็เอาแล้วล่ะ ไว้คราวหน้ารู้แล้วว่าจะแต่งตัวไงดี จะแต่งมาเดินเฉิดฉายเชิบๆแข่งกับสาวฮาราจุ๊กกรู้ ซะเรยย
mix & ไม่ match
ประทับใจในวันแรกอีกเรื่องคือ ผู้คนที่นี่ในฤดูกาลหนาวๆ แบบนี้ แต่งตัวสวยมาก เมืองไทยไม่มีทางได้เห็นแน่นอน ผู้หญิงส่วนใหญ่ใส่เส้อโค้ทตัวยาว รองเท้าบู้ทถึงหัวเข่า บางคน legging บางๆ บางคนใส่กระโปรงสั้นๆ โชว์เนือขาวๆ โอ้วว แม่เจ้าหล่อนไม่หนาวรึไง
** โปรดติดตามตอนต่อไป พาไปเที่ยวงาน Quilt Fest. 2010 รูปไม่ซ้ำกับในกระทู้ด้วยล่ะ ^^ **
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 10:46:00 น. |
|
18 comments
|
Counter : 4660 Pageviews. |
|
|