|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Go Japan : เตรียมตัว เตรียมใจ
การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ถือว่าเป็นแบบ Full Option ครั้งแรกของเรา ที่ว่า Full Option คือ ต้องมีการขอวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน ทำแผนการเดินทาง จนไปถึงจัดกระเป๋า ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ปกติเรื่องจัดกระเป๋าเดินทางคุณฝาชีจัดทุกครั้ง เค้ารอบคอบมากกว่า แล้วก็สามารถจัดให้มันเหลือเนื้อที่เยอะๆ ได้ แต่เราทำไม่ได้ --" เดี๋ยวค่อยเล่าไปเรื่อยๆ
##หนังสือ 2 เล่มล่าสุดที่ไปถอยมา อ่าน ฮิกาซีนจบแล้ว สนุก ฮาๆ ดี อ่านแล้วอยากไปดูเดี่ยว 8 (แต่ตั๋วหมดแล้วแหละป่านนี้)##
ว่าด้วยเรื่องขอวีซ่ากันก่อน ตอนที่คิดจะไปนี่ลัลล้า ชิลๆ มาก คิดไปถึงญี่ปุ่นนู้นแล้วว่าวันนี้จะเที่ยวที่ไหนอะไรยังไง แต่ยังไม่ได้จัดการขอวีซ่าและซื้อตั๋วเครื่องบินเลย พอถึงช่วงเวลาที่ต้องยื่นจริงๆ เริ่มลนลาน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เปิดดู blueplanet บ้าง trekkingthai บ้าง ดูจนตาแฉะ เตรียมเอกสารกันเป็นเดือนๆ
--> เกี่ยวกับวีซ่าญี่ปุ่นดูรายละเอียดที่นี่ แผนกกงศุล สถานทูตญี่ปุ่น
เริ่มด้วยขอใบรับรองการทำงาน เราขอตั้งแต่วันที่ 3 ธค. อีกวันก็ได้เลย
ตามมาด้วยหาทะเบียนบ้าน statement ธนาคาร ใบสำคัญการสมรส (เปลี่ยนชื่อสกุล) ทุกอย่างทำสำเนาอย่างละ 1 ชุด
--> Step นี้ขอ statement ธนาคารนานที่สุด เพราะจริงๆ แล้วเราขอผิด เราจะขอแค่ statement ที่ run มา 6 เดือนย้อนหลัง (เสียตังค์ 100บาท) เนื่องจากว่าเราไม่ได้อัพบุคมาปีกว่า เลยต้องเสียตังค์ แต่เราดันขอผิด ไปขอใบรับรองจากธนาคารว่ามีเงินเดือนเข้าบัญชีนี้จริงๆ เหลือติดบัญชีอยู่กี่บาท ออกเป็นภาษาอังกฤษ เสียตังค์ 100 บาท สรุปว่าแค่ทำเรื่องเกี่ยวกับธนาคารรอไป 2 อาทิตย์ เสียตังค์ 200 บาท (ซึ่งไม่ควรเสีย ถ้ามีวินัยไปอัพบุคทุกเดือน)
ต่อมาก็ถ่ายรูป อันนี้อย่างฮา ถ่ายเสร็จก็นอยด์อีก หน้ามืดไปไม๊ หัวเอียงหน่อยนึง จะถ่ายใหม่หลายรอบ แต่ผมเผ้ามันก็ไม่เป็นใจ เลยตัดใจเอาวะ ช่างมัน ไปอัดเลยแล้วกัน
---- > recommended แนะนำว่า ถ่ายรูป Digital ธรรมดาๆ นี่แหละ หาฉากหลังสีขาว/สีอ่อน แล้วไปอัดที่ lab 30 บาทได้มา 4 รูป เราใช้รูปเดียวเอง ที่เหลือก็ spare ไว้
แล้วก็กรอกเอกสารขอวีซ่า และแบบสอบถาม (ต้องกรอกให้ครบน๊า)
** ที่สำคัญ passport ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน แล้วก็มีหน้าเหลือมากกว่า 2 หน้า อันนี้สบายๆ เพิ่งไปฮ่องกงกะมาเก๊ามาครั้งนึง หน้าเหลือเพียบ ภายใน 5 ปีนี้ใช้ไม่ถึงครึ่งเล่มแหงๆ **
หน้าตาของแบบฟอร์มขอวีซ่า
process ทั้งหมดใช้เวลา 1 เดือนกว่าจะไปขอวีซ่าเมื่อวันที่ 6 มค. ยาวนานเกิ๊นนน.. เรากับเพื่อนเวลาว่างไม่ตรงกันก็เลยยืดมาจนถึงขนาดนี้ และจริงๆ มันมีผลกับการจองตั๋วด้วย เราควรขอวีซ่าให้ได้ก่อนจะออกตั๋ว ถ้าจองตั๋วก่อนแล้ววีซ่าไม่ผ่านจะซวยเอา
จำไว้เลยว่า ควรขอวีซ่าแต่เนิ่นๆ อย่ากระชั้นชิดเกินไป ทำให้เราพลาดได้ตั๋วในราคาดีๆ
-------------------------------------------------------------------------
6 มค. 53 ยื่นขอวีซ่า
ก่อนหน้านี้คุยกับเพื่อนๆ ที่เป็นเซียนเที่ยวเมืองนอก เพื่อนๆ ก็บอกแกผ่านอยู่แล้ว คุยกันทุกวันก็นอยด์ทุกวัน เพื่อนก็ยังพูดคำเดิมไม่รู้กี่ร้อยรอบว่าผ่าน จนกระทั่งเช้าวันที่ 6 เราตื่นเช้ามากกกก (ทำงานยังไม่เช้าขนาดนี้เลย) ก็บ้านอยู่ซะบ้านนอกขนาดนั้นต้องขับรถเข้าเมือง ยอมเสียค่าโทลล์เวย์มหาโหด 85 บาท มาต่อทางด่วนปกติอีก 45 บาท ประมาณ 7 โมง 45 ถึงสถานทูตอยู่ริมถนนวิทยุ ติดกับสวนลุมไนท์บาร์ซ่าเลย แต่ยังเข้าไปจอดรถไม่ได้ ประตูจะเปิด 8 โมง เราเลยต้องขับรถวนหน้าสถานทูตอยู่ 3 รอบถึงจะเข้าจอดได้เป็นคันแรก
ประตูทางเข้าที่จอดรถ มีที่จอดรถได้ประมาณ 10 กว่าคัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดไปเช้าๆ เนิ่นๆ ได้ที่จอดรถแน่ แต่ถ้าไปสายก็ลุ้นเอา ทางที่ดีมา MRT สะดวกสุดๆ
รออ้นอยู่แป๊บนึงประมาณ 8 โมง กว่าๆ ก็เข้าไปด้านในได้ ที่นี่เปิดให้เข้า 8 โมงไปกดบัตรคิว และกรอกเอกสารต่างๆ เพิ่มเติม (เผื่อจะผิดหรือลืมก็มีแบบฟอร์มให้กรอก) เราได้คิวที่ 11 ช่วงนี้คนยื่นวีซ่ากันน้อย ก็เลยเร็ว จนท.เรียกคิวตอน 8 โมง 40 เรายื่นพร้อมกัน 2 คน อ้นยื่นก่อน จนท. ไม่ถามอะไร คืนเอกสารการเงินให้อ้นหมด เก็บไปแต่แบบฟอร์ม แบบสอบถาม ใบรับรองการทำงาน
ส่วนของเราเก็บทุกสิ่ง ตัวจริงด้วย และก็ไม่ถามอะไรเหมือนกัน กลับไปนั่งรอเรียกคิวรับบัตรนัด
พอถึงคิวเรียกรับ จนท. ข้ามคิวเราไป เค้าเรียกคิวที่ 10 และ 12 .. เอาแล้ว มองหน้ากะอ้น เฮ้ย... มีไรป่าวฟระ แต่อีกแป๊บนึงเค้าก็เรียกคิวเรา มารับบัตรนัดฟังผลวันที่ 8 มค. หน้าตาเป็นแบบนี้
----------------------------------------------------------------------
8 มค. 53
รับวีซ่าเปิดช่วง 13.30 - 16.00 น. เราก็ไปแต่ไก่โห่อีกเช่นเคยไปถึงเกือบๆ บ่ายโมงรอประตูเปิดอีกเหมือนกัน คิวที่รอรับก็เป็นคิวที่ 11 เหมือนเดิม คราวนี้รู้สึกชิลๆ จริงๆ เตรียมตังค์ 2000 สำหรับ 2 คน แล้วรอเวลา
ระหว่างรอเรียกรับ passport
พอบ่ายโมงครึ่ง จนท. จะเรียกไปรับเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คิว เรียกทีเดียว 2 กลุ่ม รับคนละช่อง แต่ไม่จำเป็นต้องเรียงคิวเข้าไป คิวไหนก่อนก็ได้ก่อน บอกชื่อของเราและเพื่อนไป จ่ายตังค์ (เตรียมให้พอดี) แล้วก็รับออกมาเลย
บรรยากาศรอบๆ สไตล์ญี่ปุ่นๆ ดี จะบอกว่าคุณตำรวจและคุณรปภ.ใจดีไม่โหดค่ะ
ได้วีซ่ามาแล้วเป็นเยี่ยงนี้ เป็น Temporary Visitor อยู่ได้ 90 วัน
สบายใจได้ไปแน่ๆ แล้ว เรื่องต่อมาคือหาตั๋วเครื่องบิน ... ติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^
Create Date : 12 มกราคม 2553 |
Last Update : 12 มกราคม 2553 13:53:47 น. |
|
11 comments
|
Counter : 3954 Pageviews. |
|
|
|
โดย: momnic วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:11:33:30 น. |
|
|
|
โดย: อิชั้นขอเป็นแต่วีซ่าประเทศด้อยพัฒนาอ้ะ (poncho ) วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:16:45:55 น. |
|
|
|
โดย: up IP: 110.164.246.218 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:22:26:44 น. |
|
|
|
โดย: yorky วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:0:42:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมเจ้าเอย วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:21:00:04 น. |
|
|
|
โดย: yorky วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:23:56:16 น. |
|
|
|
โดย: ฝน (Passion_Baba ) วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:20:27:28 น. |
|
|
|
โดย: โนดาเมะ วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:8:40:27 น. |
|
|
|
โดย: yorky วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:23:15:56 น. |
|
|
|
โดย: ipanda วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:2:41:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]
|
ผู้หญิงตัวเ็ล็กๆ ที่อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ต้องทำนู้นทำนี่ไม่งั้นเดี๋ยวหงอย ง่อย ไปซะก่อน
อาชีพหลักนักคอมพ์ อาชีพรองเย็บผ้า และอาชีพในฝันคือเที่ยวๆๆๆ อิอิ
update profile : 26/06/52
|
|
|
|
|
|
|
วันอังคารแว้วว อีกแป๊ปเดียวก็จะได้หยุดแล้วเนอะ ^^