Dear Tokyo #4 : The Landmark [Kamakura, Asakusa, Tokyo Tower]

เที่ยวๆ ช้อปๆ เดินๆ จนเอียนแล้ว เราควรจะไปแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ที่อยู่ในโตเกียวและใกล้เคียงหน่อยนึงดีกว่า เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเรามาไม่ถึง

Landmark ทั้ง 3 แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้วดังนั้นเราคงไม่เขียน blog นี้ยาวมาก เอาเป็นว่าเราจะเล่าว่าแต่ละที่มีอะไรน่าสนใจ ณ วันที่เราไปแล้วกันเนาะ





DAIBUTSU, KAMAKURA

Kamakura เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ตากอากาศที่อยู่ใกล้โตเกียวที่สุด ณ เวลานั้นที่คิดได้ เพราะแค่กางแผนที่ เล็งแล้วว่านั่งรถไฟสายเดียวถึง มันช่างง่ายดายเหลือเกิน ก็ไม่ต้องคิดมาก เติมเงินบัตร Suica ที่น้องออมให้ยืมมาแล้วกระโดดขึ้นรถไฟ Yokosuka Line สายสีน้ำเงินไปเลย



ที่ชอบที่สุดเป็นรถไฟสาย Enoden อายุเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปีวิ่งจากสถานี kamakura ไปถึง Fujisawa เนื่องจากเราไม่ได้เตรียมตัวมาเที่ยวที่นี่ เราก็เลยตั้งใจแค่ว่าไปไหว้องค์พระใหญ่ Daibutsu แล้วก็กลับ ซึ่งจริงๆ แล้วมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย แค่นั่งรถไฟสาย enoden ไปเรื่อยๆ ก็มีของดีอยู่ระหว่างทางอีกเพียบ นั่งรถไฟชมวิวเลียบชายฝั่งทะเล, จุดชมวิวที่เห็น Fujisan, ร้านอาหารร้านขนมอร่อยๆ, วัดวาต่างๆ ที่อยู่ในเมือง ที่รู้เพราะเพิ่งดู TV Champion ไปเมื่อวันก่อน ตอน แฟนพันธุ์แท้รถไฟสาย Enoden ดูไปอินไปเหมือนได้นั่งรถไฟขบวนนี้ต่อไปอีก


รถไฟสาย Enoden ขบวนนี้เป็นแบบที่ 10 ถ้าเป็นขบวนแรกที่มีอายุร้อยกว่าปี จะเป็นขบวนสีเขียว


ภายในขบวนรถไฟ ที่นั่งตกแต่งด้วยไม้บางส่วน คลาสสิคดีอะ

ด้วยความที่ไม่มีชื่อสถานีเป็นภาษาอังกฤษเลย แล้วเราก็มั่วนิ่มดูจากรูปเอาว่าสถานีไหนใกล้องค์พระใหญ่มากที่สุดก็ลง ที่ไหนได้ลงผิดสิคะพี่น้อง แต่ว่าลงผิดแล้วเจอของดีค่า .... นี่เรยๆๆๆ


ชื่อร้าน Jean ขายกาแฟ ขายของกระจุกกระจุก แนวทะเลๆ แล้วก็เสื้อผ้ายีนส์ น่ารักมากๆๆๆ แอบดีใจที่ลงผิดสถานี ^^


รอบๆ หน้าร้าน และสถานีที่เล็กมากๆ ลงมาแค่ 2 คนไม่เอะใจซักนิดว่าทำไมไม่มีใครลงกะเรา ^^

สอบถามจากคนขายของในร้าน jean เธอบอกว่าให้เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว จริงๆ จะนั่งรถไฟไปอีกสถานีนึงก็ได้ แต่เราก็เลือกเดิน ได้ดูบ้านช่อง
ไปเรื่อยๆ ก็เพลินดี ย่านนี้ถือว่าเป็นย่านคนมีกะตังค์ดูจากบ้านใหญ่โต ไฮโซมั่กๆ




เอาล่ะเดินมาถึงวัดแล้วก็ต้องซื้อตั๋ว(เท่าไหร่หว่าลืมไปแล้ว) แล้วก็ล้างมือก่อนเข้าวัด








ใต้ฐานองค์พระเดินลงไปดูได้นะ

--------------------------------------------------------
"SENSOJI, ASAKUSA"

พลาดไม่ได้แน่นอนกับ landmark แห่งนี้ เราเป็นคนเมืองพุทธใช่ไม๊ ไปที่ไหนก็ต้องไปวัดไปไหว้พระคู่บ้านคู่เมืองของเค้าหน่อย Asakusa ที่เรารู้จักกันดีกับวัดที่มีโคมแดงที่ใหญ่ที่สุด สูงตั้ง 4 เมตรกว่า จริงๆ แล้ววัดนี้ชื่อว่าวัด Sensoji อย่าเผลอเรียกวัด Asakusa ล่ะ เชยแย่เลย



บน: บู้ทขายของที่ระลัก kitty 35 ปี คนขายน่ารักเชียว

ล่าง : สี่แยกก่อนเลี้ยวขวาเดินไปวัด Sensoji จะเจอ landmark อีกที่นึง ตึก Asahi ที่ใครๆ จะต้องไปถ่ายรูปกับก้อนเมฆสีทอง ที่เห็นอยู่ข้างหลังนั่น ถ้าจะไปถ่ายใกล้ๆ ต้องเดินข้ามถนนไป แต่อิชั้นไม่อะค่ะ ถ่ายแค่นี้พอให้ติดมานิดนึงก็พอ ^^



บน : มาถึงแล้วจ้า ประตูเข้าวัดเซนโซจิ เรียกว่า ประตูสายฟ้าโคมแดงยักษ์ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูป มา2 คนถ่ายง่ายมาก อาศัยจังหวะนิดหน่อย คนอื่นเดินออกเราก็เสียบ ได้รูปที่ฟีลแบบนี้ก็โอเค ธรรมชาติดี

ล่าง : รถลากสำหรับนักท่องเที่ยวนั่งชมรอบๆ วัด ราคาอยู่ที่คนละ 2000 เยน/10 นาที มา 2 คน คิด 3000 เยน (ข้อมูลจากหนังสือ "ฮิกาซีน ฉบับพิเศษ เกาะดมชมโตเกียว เล่ม 2)


มีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง เจอใครเดินมาก็ขอให้ชวนถ่ายนิดนึง ไม่งั้นคงไม่มีรูปคู่เรยย ^^




มันคือขนมอะไรซักอย่าง ที่ต้องกินหน้าร้านเท่านั้น ไม่งั้นมันจะร่วง พื้นสกปรก ต้องกินให้หมดด้วยนะ แต่อร่อยนะ recommend ค่ะ ^^


บรรดาร้านขายขนม หลอกกินเงินเราไม่ได้หรอก ไม่แนว 555




เดินผ่านของล่อตาล่อใจจากถนน Nakamise Dori ก็จะเจอประตูเล็กด้านในชื่อว่า Hosomon มีโคมแดงเหมือนกันแต่ว่าเล็กกว่าข้างหน้า


บน: ไม่ใช่โรงยิมเน้ออ ตอนแรกก็งงเหมือนกัน ที่นี่มีสเตเดียมด้วยรึ จริงๆ แล้วเค้ากำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง ก็เลยทำหลังคามาครอบไว้อย่างมั่นคง ไม่มีอะไรกระเด็นออกมาได้แน่ สมกับเป็นประเทศเจริญแล้วจริงๆ ถ้าเป็นบ้านเรารึ ก็คงเป็นผ้าเขียวๆ คลุมๆ ไปงั้นแหละ --"


บน: แก๊งโอบะจัง ท่าทางใจดีก็เลยขอถ่ายรูปหน่อย น่ารักมากๆ ค่ะ
ล่าง : ขนมสุดฮอตที่หนังสือนำเที่ยว recommend อันนี้รสชาเขียว อร่อยมากๆๆ

----------------------------------------------------------------

Tokyo Tower

ความคิดแว้บแรกที่อยากมาที่นี่เพราะคิดถึงโดราเอม่อน จำได้ว่าใกล้ๆ จะจบไตเติ้ล โดราเอม่อนจะติดคอปเตอร์ไม้ไผ่แล้วบินมานั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ Tokyo Tower เป็นวิวที่งามมากๆ ในการ์ตูนนะ ก็เลยฝังใจ คิดว่ามาญี่ปุ่นเมื่อไหร่ต้องมาที่นี่ให้ได้


เรากระดื้บๆ เดินจากสถานีรถไฟ Hamamatsucho ค่อนข้างไกลประมาณ 1 กม. อันนี้ถาม จนท. แล้วนะ เค้าบอกให้เดินไปเถอะไม่ไกลหรอก (ใช่สิ ตะเองเดินเป็นอาชีพนี่หว่า ) แต่พวกเรานี่เดินมาทั้งวันแล้วนิ ก็อยากจะนั่งรถไปใกล้ๆ จนท.บอกไม่มี You just a walk เท่านั้น โอเค้


ทางที่เรามาต้องผ่านวัด Zoujouji เดินทะลุวัดไปก็ถึงเลย เราต้องเร่งนิดนึงไม่อยากไปถึงมืดมาก แต่............


ก็ไม่ทันอยู่ดี มาถึงก็มืดแล้ว แต่ก็สวยมากๆ ชอบจังเลย


เราขึ้นไปแค่ชั้นแรก ระยะ 150 m. ราคา 820 เยน เป็นห้องกระจกเดินได้รอบ 360 องศา แต่ละมุมจะบอกสถานที่สำคัญๆ ไว้ ว่ามองออกไปคุณจะเห็นอะไรตรงไหน ระยะห่างเท่าไหร่ เช่น Fuji mt. 70 km., Disney Land 40 km. เป็นต้น


ภูเขาไฟฟูจิ ได้เห็นแล้ว ระยะนี้จากโตเกียวก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เรายืนเกาะกระจกดูจนมองไม่เห็นเลย ดูไปก็คิดถึงบ้าน ไม่ได้อยากกลับบ้าน แต่อยากให้คนที่บ้านมาเห็นด้วยจัง ยืนดูคนเดียวเหง๊าเหงา


และในปี 2012 เราจะพบกับ Tokyo Tower ใหม่ ที่สูงกว่า Tokyo Tower เดิมถึง 2 เท่า 600 กว่าเมตรแน่ะ กลายเป็นหอส่งสัญญาณที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก Burj Tower ของดูไบ (สูงตั้ง 800 กว่า เอาเข้าไป)

ตอนนี้โตเกียวฝั่งตะวันออกกำลังปรับปรุงหลายๆ อย่าง เราคิดว่าน่าจะอยู่ใน Project Rising East อีกไม่นานฝั่งตะวันออกของโตเกียวก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มอีก 1 แห่ง เปิดเมื่อไหร่ก็ต้องจัดไป 2012 เจอกัน (ถ้าโลกไม่แตกซะก่อน )


** ตอนหน้าเป็นตอนจบ เก็บตกโตเกียว ใครรออาบน้ำ เจอกันบล๊อกสุดท้ายจ้า **

Create Date : 01 มีนาคม 2553		6 comments
Last Update : 4 มีนาคม 2553 23:10:37 น.
Counter : 1610 Pageviews.
Share Tweet