ทันโลกทันเหตุการณ์ไปกับชัชวาล สายอยู่
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
14 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

Work and Travel ตอน 21(สีสันระหว่างทำงาน)

ตอนที่ 21 สีสันระหว่างทำงาน


กาลเวลาก็ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ชีวิตของผมและเพื่อนๆ ก็ยังคงดำเนินไปกันอย่างมีความสุข เพราะยิ่งนานวัน พวกเราก็เริ่มมีการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น แต่สิ่งที่ผมเบื่อหน่ายที่สุดก็คือการตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า ด้วยสภาพอากาศอันน่าหลับใหล ผมจึงไม่ค่อยอยากลุกขึ้นจากเตียง หรืออาจเป็นเพราะ ผีเตียงผมดุ ดึงดูดผมไม่ให้ลุกจากเตียงแทบทุกวัน ฮ่าๆ แต่ก็คงไม่น่ากลัวเท่าManager พอนึกถึง Mr.Jame ผมมักจะเอาชนะผีเตียงมาได้ทุกที เพราะถ้าไปสาย ก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ ผมทำธุระจัดแจงเรื่องตัวเองเรียบร้อย เพื่อนๆก็ทำธุระของพวกเขาเสร็จสิ้น ห้องผม 125 เป็นจุดนัดพบในตอนเช้า ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มออกเดินไปที่ป้ายรถเมล์ พวกพี่ๆห้อง 139 จะไม่อาบน้ำในตอนเช้า พอตื่นปุ๊บ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่สำหรับผมต้องอาบทั้งเช้าและเย็น แม้ว่าอากาศจะติดลบก็ตามเพราะถ้าไม่อาบผมรู้สึกมันจะไม่ค่อยสดชื่น สำหรับอาหารเช้าพวกพี่ๆก็ถือกินตลอดทางไปขึ้นรถประจำทาง แต่ผมก็กินเรียบร้อยเพราะตื่นมาแต่เช้าจึงมีเวลาทำอะไรได้หลายอย่าง พอผมกินอาหารเช้าเสร็จ ก็มานั่งเล่นเน็ต เล่น MSN คุยกับที่บ้าน และพวกเพื่อนๆ รวมไปถึงอัพเดทเรื่องราวต่างๆผ่าน facebook เรื่องตื่นเต้นตอนเช้าก็คือ บางทีรถประจำทางมาเร็วกว่าปกติ พวกเราก็รีบวิ่งกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ทั้งไทยและฟิลิปปินส์ กว่ารถจะออกตัวทีก็นานพอสมควร เพราะคนขับบางคนให้เรา หยอดเหรียญจ่ายค่าโดยสารจนครบหมดทุกคนรถถึงจะเคลื่อนออก แต่คนขับบางคนให้พวกเราขึ้นมาบนรถทั้งหมด และก็ยืนต่อแถวยาวไปตามทางเดินของรถเพื่อจ่ายค่าโดยสารทีละคน บางคนก็ฝากกันจ่าย ช่วงนี้ก็ชลมุมวุ่นวายกันพอสมควร เมื่อถึงที่ทำงาน ก็ลงไปชั้นใต้ดิน เพื่อเข้าประชุมก่อนเริ่มงาน จนกระทั่งถึงเวลาไปปฏิบัติงาน นับวันเข้า พวกผมก็รู้จักวิธีการหา ทริป โดยทั่วไปแล้ว แขกที่มาเข้าพักมักจะวางเงินไว้ให้สำหรับ Housekeeper แต่พวกเราก็จะไม่ทันพวก Houseman หรือคนเก็บผ้า เพราะพวกนี้จะมี วิทยุสื่อสารเขาจะรู้ว่าห้องไหน ที่แขก Check out ออกก่อนเวลา รวมไปถึง Supervisor บางคนก็ชอบมาเปิดห้องก่อนพวก Housekeeper หลายๆครั้งมันทำให้เราพลาดรายได้ ความจริงแล้ว เงินทริป มันเป็นสิทธิ์ของเราพึงจะได้ เพราะพวกผมเป็นคนที่เหนื่อย เป็นคนทำความสะอาด สร้างความพึงพอใจให้กับแขกที่มาเข้าพัก แต่หลายๆครั้งพวกผมก็เสียโอกาสนั้นไป พวกผมก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พูดอะไรไปมากไม่ได้ เหมือนน้ำท่วมปาก พวกผมคงไม่อยากมีปัญหา ก็ทำเฉยๆกันไป แต่การเก็บทริป แต่ละคนต่างก็มีเทคนิคของตัวเอง สำหรับผมเมื่อได้ห้องที่จะต้องรับผิดชอบแล้ว ผมจะไปรีบทำห้อง stay over ให้เสร็จก่อน หรือในระหว่างการทำ ก็จะออกมาชะเง้อดูห้องของตัวเอง ว่าห้องนั้นๆ แขกออกไปหรือยัง ถ้าแขกออกไปแล้ว ผมก็จะรีบไปห้องนั้นๆ เพื่อไปเก็บเงินในสิทธิ์ของผม บางทีผมก็ฝากเพื่อนที่ ทำในโซนเดียวกัน คอยเป็นหูเป็นตาให้ พวกเราก็ทำงานกันส่วนนี้เป็นทีมเหมือนกัน บางทีผมก็เศร้านะครับไปไม่ทัน พวกคนเก็บผ้า บางทีเขาไปไม่เจอเงินวางไว้ก็ไม่เป็นไรพอทำใจได้ แต่บางทีเข้าไปแล้ว เจอกระดาษ ที่แขกเขียนขอบคุณไว้ให้ ถ้ามีกระดาษแบบนี้ มันมักจะมีเงินวางไว้อยู่ แต่พอเข้าไปแล้วเงินไม่มี มันก็ทำให้ผมน้อยใจมากพอควร ทุกๆเย็นเพื่อนๆ ก็จะมาคุยกันถึงเรื่องเงินทริป ว่าได้กันคนละเท่าไหร่ บางคนได้ถึง 100 เหรียญ บางคนได้ 50บ้าง 30 บ้าง แล้วแต่วัน มันไม่ใช่จะได้กันทุกวันหลอกนะครับ ถ้าได้ทริปทุกวัน ผมคงรวยตาย ถ้ามานับๆตลอด 2 เดือน กว่าๆ ที่ทำงานอยู่ใน Great wolf lodge ผมได้ทริปราวๆ 150 เหรียญได้ แต่ทุกๆครั้งที่ผมได้ทริป ก็จะเอาไปซื้อของกินอร่อยๆ เงินส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการกิน นั่นแหละครับ นอกจากการล่าทริปแล้ว ในห้อง Check out ที่พวกผมมักเจอ นั่นก็คือของกิน ที่แขกไม่เอากลับ และก็วางไว้อยู่ภายในห้อง โดยเฉพาะในตู้เย็น ที่มักจะเจอของกินอร่อยๆ ตามนโยบายแล้ว ทางโรงแรมไม่ให้เอาของพวกนี้มาบริโภค เขามักจะให้พวกเราทิ้ง แต่ด้วยความเป็นคนไทย จะไปสนใจใยดีอะไร ช็อคโกแลต เป็นแท่งโตๆ ที่ยังไม่ได้แกะ นมขวดใหญ่ๆ ที่ยังไม่ได้เปิด และยังไม่หมดอายุ ขนมนมเนย สารพัด ของดีๆทั้งนั้น ใครมันจะไปทิ้งได้ลงคอ ผมคิดว่าแขกเขาคงขี้เกียดแบกกลับ ก็เลยทิ้งไว้ มันไม่ได้สกปรก สะหน่อย อาหารที่พวกผมเจอกันบ่อย หรือเจอกันแทบทุกวัน นั่นก็คือพิซซ่า ด้วยความที่โรงแรม มีร้านพิซซ่าฮัท แขกมักจะสั่งขึ้นมากินบนห้อง บางทีก็กินเหลือเอาไว้ แช่ตู้เย็นบ้าง หรือไม่ก็วางไว้บ้าง คิดดูนะครับว่าพิซซ่าถาดใหญ่ๆ เหลือเต็มถาด ไม่รู้ว่าจะรวยมาจากไหนกัน บางคนทิ้งไว้ 3-4 ถาดใหญ่ๆ ด้วยความงกของชาวไทย ก็จะหอบพิซซ่าลงไปทั้งหมด เพื่อเอาไปกินเป็นอาหารเที่ยง หรือถ้าเยอะเกินก็หอบกลับไปไว้ที่หอพัก เอาไว้กินเล่น พวกผมกินพิซซ่ากันแทบทุกวัน จนเบื่อหน่ายกันไปข้าง สำหรับหน้าที่เจอบ่อยๆคือ หน้าเปเปอร์โรนี และก็หน้าชีส ช่วงแรกๆพวกเพื่อนฟิลิปปินส์ ก็เหมือนจะมามองเหยียดหยามพวกผม ว่าเก็บขยะมากินทำไม แต่พอหลังๆ พวกนั้นก็เริ่มหอบหิ้วกลับบ้าง คนไทยมีคติที่ว่า ด้านได้อายอด นี่แหละมั้งครับคำคมของพวกผมชาวไทย ที่เอาไปใช้ในต่างบ้านต่างแดน มันทำให้ผมมีอาหารการกินอย่างไม่ขาดสาย แต่ของบางอย่างก็อย่าเก็บเป็นสมบัติของเราเสียหมดนะครับ ถ้าเจอทรัพย์สินต่างๆของแขก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ ของมีค่าและของไม่มีค่าต่างๆ พวกเราจะต้องเก็บไว้ โดยเอาของเหล่านั้นใส่ถุง แล้วก็เขียนเลขที่ห้องไว้ พอตอนเลิกงานก็เอาของเหล่านั้นไปไว้ที่ห้อง Manager จะเรียกของพวกนี้ว่า Lost and found มีอยู่ครั้งหนึ่ง แม็กถูกเรียกตัวอย่างกะทันหัน ให้ไปห้อง Human resource พวกเราคิดว่าสงสัยแม็กต้องทำอะไรผิดพลาด คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ พอแม็กเดินกลับมา เล่าให้พวกเราฟังว่า มีแขกมาตามหาฟันปลอม ที่ลืมไว้ในห้อง เลยมาถามแม็กว่าได้พบเห็นฟันปลอมหรือไม่ แต่แม็กก็บอกไปว่า ไม่เห็นอะไรทิ้งเอาไว้เลย สงสัยแขกคงไปลืมไว้ที่อื่น จึงไม่ได้มีการเอาความอะไร ดังนั้นการที่จะหยิบสิ่งของ ของแขกมานั้น เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาดพวกเรา อาจโดนข้อหาลักทรัพย์ได้ ติดคุกอยู่อเมริกายาวแน่ หรือไม่ก็ถูกส่งตัวกลับประเทศ จนขึ้นบัญชีดำ ไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศสหรัฐอเมริกาอีก คงเป็นเรื่องใหญ่โตเอาการ ดังนั้นการที่จะทำอะไรสักอย่างเราต้องคิดให้รอบครอบ ถี่ถ้วนเสียก่อน ก่อนจะตัดสินใจจะทำอะไร อย่างใดอย่างหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ของกินผมคิดว่า คงเอาไปกินได้ ทุกๆครั้งที่หอบเอากลับบ้าน พวกซุปเปอร์ไวเซอร์ หรือแม้แต่เมเนเจอร์ ก็รู้ว่าพวกผมเอาของกินกลับไปที่หอพัก แต่พวกเขาก็ไม่ได้ว่าหรือตักเตือนอะไรพวกผม แต่เขาก็พูดให้ระวังเรื่องปัญหาสุขภาพ กินอะไรก็ให้ระวัง ของเน่าของเสีย มันจะเป็นอันตรายได้ ผมอยากจะบอกแต่ไม่กล้าว่า ปลาร้า บ้านไอ ไอก็กินออกจะบ่อยไม่เห็นจะเป็นอะไร 5555+ ยิ่งวันเวลาผ่านมาเรื่อยๆ ผมก็เริ่มสนุกกับการทำงาน รู้เทคนิคการทำความสะอาด อย่างรวดเร็ว ประหยัดทั้งเวลา ทั้งพลังกาย ที่สำคัญไม่โดนซุปเปอร์ไวเซอร์ด่า ผมอยากจะบอกว่า ช่วงหลังๆของผมได้ซุปเปอร์ไวเซอร์ ชื่อ Miss Kalandra ชาวอเมริกันผิวดำ ซึ่งเธอจะเป็นซุป ประจำอยู่ชั้น 3 โซน west ของผม และก็โซนอื่นๆ ผมทำงานร่วมกับเธอแล้วมีความสุขมากๆครับ คือเธอ มีคนที่ใจดีเอามากๆ ไม่เคยดุ ไม่เคยด่า ไม่เคยมาเร่งเวลา ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ผมยอมรับว่าผม มีความสุขกับการทำงานที่นี่ ก็เพราะเธอครับ เธอก็จะชอบมาคุยกับผม ด้วยอัธยาศัยไมตรี ที่ดี ที่สำคัญเธอเป็นคนเส้นตื้น มั้งครับ ที่หัวเราะอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะคุยกับใครที่ไหน เธอมักจะมีเสียงหัวเราะตลอด จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เงินทริป เธอก็จะไม่มาก้าวก่ายครับ เธอยังมาบอกผมด้วยซ้ำว่า ไม่ต้องรอให้ถึง 11 โมงหลอก ก็ไปเคาะห้องแขกได้เลย ดูว่าแขกออกไปหรือยัง เธอยังสอนผมอีกว่า ถ้าแขกอยู่ก็บอกขอโทษ และก็ถามว่า Do you need laundry bag? เป็นการกลบเกลื่อนความผิด เพราะถ้าเคาะห้องก่อน 11 โมง จะเป็นความผิดครับ ที่ไปรบกวนเวลาส่วนตัวของแขก ในบางครั้งเธอยังมาบอกผมด้วย ว่าห้องไหนมีทริป ให้เดินไปเอา เธอเป็นซุปคนเดียวครับ ที่ปฏิบัติตนแบบนี้ Houseman โซนผมก็เช่นกัน ชื่อDerrick เขาไม่เคยหยิบทริป ผมเลย เขาก็จะเรียกให้ผมไปเอาตลอด และบางทีที่เขาเจอผม เขาจะบอกให้ผมเป็นคนเข้าไปในห้องก่อน เพื่อไปเช็คดูเงิน เพื่อความสบายใจของผม สาเหตุที่เขาทำดีกับพวกผม ก็เพราะว่า เขาเคยมีแฟนเป็นสาวชาวไทย ที่เคยมาร่วมโครงการ Work and travel เมื่อหลายปีก่อน เขายังเก็บรูปหญิงไทยคนนั้นติดตัวไว้ตลอดเวลา และก็ชอบเอามาโชว์พวกผมด้วย เขานิสัยดีมากๆครับ มีปัญหาอะไร ก็เอามาปรึกษาเขาได้ตลอดเวลา หน้าที่การทำความสะอาดห้องของผม มันคงจะลงตัว ด้วยความที่ได้ทั้งซุป และก็ คนเก็บผ้าดี ผมก็ทำอย่างช้าๆ ไม่ต้องแข่งกับเวลา และไม่ลืมที่จะทำงานอย่างตั้งใจ เพราะซุปใจดีแบบนี้ ไม่ดุไม่ด่า ถ้าเราทำไม่ดี มันรู้สึกละอายใจครับ ผมก็ตั้งใจทำงานอย่างมีความสุข ให้สมกับการได้ซุปที่ดี ผมเองมักจะไม่ค่อยได้ห้อง Extra rooms เพราะ Miss Kalandra เธอใจดีกับผม( 555+ ) ผมก็เลยสบายตัวไป ทำงานในส่วนของผมที่ได้รับเท่านั้น เห็นไหมครับ สาเหตุที่ผมไม่ต้องกังวลกับการทำงานมากนัก ทำงานอย่างมีความสุข ไม่เคยมีปัญหากับใคร อยู่อย่างสบาย มีเรื่องมากมายครับ เอาไว้ผมจะถ่ายทอดในตอนต่อๆไปครับ





 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
0 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 23:42:24 น.
Counter : 946 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Bastian@Bangna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




มาตามกระแสของโลกกันเถอะครับ
Friends' blogs
[Add Bastian@Bangna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.