Lonely is Friend, not Pain.
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
การเดินทางของสายน้ำ โดย ชาราบูน ตอนที่ 7



หยาดพิรุณหล่นโปรยลงมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบสายแล้วนั่นแหละจึงได้สั่งลาไป อากาศที่หนาวเย็นอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความเย็นชื้นขึ้นเข้าไปอีก บรรดาคนงานเริ่มงานสายกว่าปกติเพราะฝนตก
โกสินทร์รับแฟ้มเอกสารจากชายหนุ่มแล้วเดินไปตามทางที่มุ่งไปสู่บริเวณเพาะพันธุ์

“ฝนหน้าหนาว” เขารำพึง ชายหนุ่มที่เดินตามหลังมาเร่งฝีเท้าให้เข้ามาใกล้ขึ้น เพราะคิดว่าเจ้านายพูดกับเขา
“ไม่มีอะไรหรอกวิกรม ฉันบ่นไปเรื่อยเปื่อย” ว่าแล้วก็เปิดแฟ้ม สายตากวาดไปตามตัวอักษรที่ถูกพิมพ์ไว้อย่างเป็นระเบียบ
“ชลาลัยค่อยยังชั่วหรือยัง”
“แผลหายอักเสบแล้วครับ แต่ยังเดินไม่ค่อยได้” วิกรมรายงาน
“แต่ยังพิมพ์รายงานมาส่งฉันได้”
“ครับ เธอขอร้องให้ผมยกเครื่องพิมพ์ดีดกับเอกสารข้อมูลไปให้เธอที่บ้านพัก” พูดไปก็นึกถึงหญิงสาวที่กำลังพูดถึง

นับแต่อุบัติเหตุครั้งนั้นวิกรมก็ได้รู้ว่า บางครั้งเขาก็มองอะไรไม่ได้ทะลุปรุโปร่งดังที่ชลาลัยเคยว่าไว้ เขาคาดผิดที่คิดว่าชลาลัยอาศัยเหตุผลของคนป่วยเพื่อให้หมอถกลมาคอยดูแล เพราะชลาลัยบอกหมอถกลทันทีที่มาถึงไร่ว่า เธอสามารถทำแผลเองได้ ไม่จำเป็นที่หมอถกลจะต้องมาทำให้ทุกวันอย่างที่เขาบอก

‘ถ้ามั่นใจอย่างนั้นพี่ก็ดีใจที่ชลจะดูแลตัวเองได้ แต่อย่างไงพี่ก็จะมาดูแผลให้ทุกๆสองวันจนกว่าแผลจะแห้ง’
‘ตามใจพี่กลเถอะค่ะ’ ชลาลัยบอกสั้น ๆ

วิกรมมองใบหน้าที่เคยสดใสแต่บัดนี้ดูซีดเซียวลงไปถนัดเพราะเพิ่งฟื้นจากไข้ คราวนี้เขายอมแพ้ที่ไม่สามารถอ่านใจชลาลัยได้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ปล่อยให้เขาคิดไปเองนานนัก หลังจากทานอาหารค่ำที่เขาอาสายกมาให้เธอที่ห้องแล้ว ชลาลัยก็ขยายความในสิ่งที่ตัวเองได้พูดไปกับหมอถกลให้เขาฟัง
‘ชลอาจจะรู้สึกกับหมอถกลเป็นพิเศษ แต่ชลก็จะไม่มีทางทำลายน้ำใจลูกผู้หญิงด้วยกันหรอกค่ะ’
‘คุณชลหมายถึงคุณปา’ เขาถาม
‘ค่ะ’ หญิงสาวพยักหน้ารับ
‘คุณวิกคงเห็นตั้งแต่เธอมองชลตอนอยู่บนหลังหมอถกลแล้วว่า สายตาของเธอมองด้วยความรู้สึกอย่างไร ทั้งๆเธอเองก็ทราบเหตุผลดี ถึงชลจะเจ็บแผลแค่ไหนแต่ก็ยังพอสังเกตเห็น หรือคุณวิกจะบอกว่าคุณวิกไม่เห็น’
‘ไม่ปฏิเสธครับ ผมเห็นทุกอย่าง แล้วคุณชลจะปฏิเสธผมมั้ยเล่าว่า คุณชลเองก็จงใจแกล้งคุณปาให้เจ็บ’ เขามองลึกไปในดวงตาคมคู่นั้น
ชลาลัยหัวเราะออกมาเบาๆ ‘จริงค่ะ บางทีการได้ทำอะไรเพื่อความสะใจเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้เราลืมความเจ็บกายไปได้บ้าง’
‘ผมดีใจที่ได้เพื่อนอย่างคุณชลจริงๆ’ เขาหยุดช่วงประโยคเพื่อให้อีกฝ่ายสนใจสิ่งที่เขาพูดต่อไปมากขึ้น
‘เพราะคุณชลเป็นคนจริง กล้ายอมรับ กล้าต่อสู้และกล้า….ที่จะยอมแพ้’
‘ขอบคุณค่ะคุณวิก แต่ในบางเรื่อง ชลเองก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบานเช่นเรื่องความรักอย่างนี้หรอกนะคะ’
ดวงตาคมคู่นั้นหมองไปในทันที วิกรมขมวดคิ้ว ชลาลัยต้องมีอะไรอยู่ในใจ อะไรที่ทำให้เธอไม่สามารถร่าเริงยิ้มแย้มได้อย่างเต็มที่ อะไรกันที่เธอยอมรับไม่ได้

“อะไรหว่า”
“ก็อะไรล่ะวิกรม” โกสินทร์ถามบ้าง เขาเพิ่งถามชายหนุ่มไปว่าเรื่องวางแผนไปติดต่อลูกค้าที่กรุงเทพฯ เป็นอย่างไรบ้าง อีกฝ่ายกลับถามกลับมาให้เขางงเสียอีก
“ขอโทษครับคุณโกสินทร์” วิกรมรีบดึงความคิดกลับมาทันที
“ช่วยกรุณาทวนคำถามอีกทีเถอะครับ”
โกสินทร์ไม่ได้ถือสาอะไร เขาจึงถามวิกรมอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มฟังอย่างตั้งใจ



กราบเท้าแม่วรรณที่รักยิ่ง

แม่วรรณสบายดีหรือเปล่าคะ ส่วนหนูแข็งแรงขึ้นมากแล้ว แผลหายเกือบสนิทแล้วค่ะ คุณโกสินทร์จะให้หนูกับคุณวิกรมลงไปติดต่อลูกค้าที่กรุงเทพฯ อาทิตย์หน้า อยากจะรบกวนแม่วรรณให้คุณวิกพักที่บ้านเราได้ไหมคะ หนูไม่อยากอยู่โรงแรม

………………….....

เขียนไม่ได้มากอย่างที่ตั้งใจสักที แต่ไม่เป็นไรอาทิตย์หน้าเราก็ได้เจอกันแล้ว แม่วรรณอ้วนขึ้นไหมเอ่ย รักษาสุขภาพนะคะ

รักและคิดถึงมาก
ชลาลัย


จบจดหมายก็เมื่อเวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่แล้ว แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงทำให้บรรยากาศในห้องดูซึมเศร้า หน้าต่างทุกบานถูกปิดลงแต่หัวค่ำ แต่อากาศในห้องก็ยังคงเย็นพอสมควร

นิตยสารหลายฉบับวางเรี่ยราดอยู่ข้างกาย ชลาลัยขยับขาข้างที่ได้รับอุบัติเหตุให้อยู่ในท่าที่สบายขึ้น นอนไม่หลับ....บอกตัวเองได้เพียงเท่านี้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ชลาลัยกวาดตาไปตามชั้นที่มีตลับเทปวางเรียงรายอยู่ มือไล่ตามสายตาไปจนเจอตลับที่ต้องการ

เสียงทุ้มนุ่มของนักร้องชายในอดีตดังขึ้นเบาๆ ไม่บ่อยนักที่ชลาลัยจะเปิดเพลงฟังเบาๆ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะทำตามอำเภอใจได้ ในยามที่คนอื่นกำลังอยู่ในห้วงนิทรารมย์ เธอไม่สมควรที่จะไปรบกวนเขาเหล่านั้น

ชลาลัยค่อยๆลุกขึ้น มือขวาจับหัวเตียงไว้ส่วนมือซ้ายถอดกลอนแล้วเปิดหน้าต่างออก ลมเย็นพัดเข้ามาปะทะร่างจนขนลุกซู่ไปทั่วกาย สายตามองฝ่าความมืดเบื้องหน้า ต้นไม้นานาพันธุ์เรียงตัวกันเป็นร้อยเหมือนปีศาจในเทพนิยาย ไม่มีเสียงใดๆจากธรรมชาตินอกจากเสียงที่ลมพัดให้กิ่งไม้เสียดสีกัน ชลาลัยสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด กำลังจะเอื้อมมือไปปิดหน้าต่างก็ต้องชะงักเพราะสายตาดันเห็นเหมือนอะไรแว่บ ๆหลังต้นไม้ที่อยู่ใกล้หน้าต่างห้องเธอ

“ใครนะ” ชลาลัยถามออกไป

เงียบ.....ไม่มีเสียงตอบ แต่ภาพที่ค่อยๆปรากฏให้เห็นทำเอาชลาลัยแทบจะลืมหายใจไปเลยทีเดียว ใบหน้าอันซีดเผือดของผู้หญิงคนหนึ่งโผล่พ้นออกมาจากต้นไม้ต้นนั้น ดวงตามองตรงมายังชลาลัย ใช่แล้ว.....หญิงสาวบอกตัวเองในใจ ดวงตาคู่นี้รวมไปถึงใบหน้านี้เธอเคยเจอ ไม่ใช่สิ......เคยเห็นต่างหาก จากรูปที่บ้านคุณลุง

“คุณคนางค์” ชลาลัยอุทานออกมาเบาๆ นั่นหมายความว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้คือ.........

ผู้หญิงคนนั้นเผยอยิ้มที่มุมปากให้ชลาลัย ยังไม่ทันที่ชลาลัยจะพูดอะไรต่อร่างนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป ชลาลัยตั้งสติได้ก็รีบปิดหน้าต่างลงกลอนตามเดิม เธอนั่งลงบนเตียงแล้วก็หยิกตัวเองที่แขนเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นเมื่อครู่เป็นความจริง

“โอ๊ย” ร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บ

โชคดีเหลือเกินที่ชลาลัยไม่ใช่คนขวัญอ่อนมิเช่นนั้นเธอคงผมตั้งโดยไม่ต้องใช้เจล หรือไม่ก็คงร้องเสียงดังปลุกคนทั้งไร่ขึ้นมาก็ได้
ชลาลัยพนมมือขึ้นที่อกพร้อมกับพูดว่า
“ชลไม่ทราบว่าคุณป้ามาหาชลทำไม แต่ก็ขอบคุณที่ไม่ทำร้ายชล แล้วชลจะทำบุญไปให้ค่ะ” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนทั้งที่ยังไม่ได้ปิดไฟ



สวัสดิ์ปิดประตูแล้วกดล็อกและใส่กลอนเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่มีใครเข้ามารบกวนเขา เมื่อแน่ใจแล้วก็เดินตรงไปยังตู้ลายไทยที่ตั้งอยู่ทางมุมห้องด้านขวา กุญแจในมือถูกใช้งานทันที ประตูตู้เปิดออกพร้อมๆกับกลิ่นน้ำอบไทยโชยมาแตะจมูกทั้งๆที่เขาใส่ไว้นานมากแล้ว นานพอๆกับที่เขาไม่ได้เปิดมันเลย
ข้าวของในตู้ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบซึ่งก็มีเพียงจดหมายกับดอกไม้แห้งสองช่อเท่านั้น สวัสดิ์มองผ่านช่อดอกไม้มายังตั้งจดหมาย เขาเลือกหยิบมันขึ้นมาฉบับหนึ่ง
กระดาษที่เคยเป็นสีขาวบัดนี้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีด หากแต่ข้อความทุกข้อความยังอยู่สมบูรณ์ดังเดิม ลายมือบรรจงเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ ทุกอักษรช่างมีความหมายต่อเขาเหลือเกิน

.......ดูแลแกให้ดีอย่างที่คุณได้รับปากเอาไว้ เพราะฉันเองก็รักแกมาก......

สวัสดิ์พลิกซองจดหมายขึ้นมา......กาญจนบุรี...........

หลังจากที่เขาและแม่ของชลาลัยตกลงจบความสัมพันธ์กัน เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับข่าวจากเธออีก จนกระทั่งผ่านไปสามเดือน เขาจึงได้รับจดหมายจากอเมริกาซึ่งกินเวลาอยู่ประมาณสามปี จากนั้นเขาก็ได้รับจดหมายที่ประทับภายในประเทศแทน แต่แล้วจดหมายก็ขาดหายไป ไม่มีการติดต่อมาอีกเลย เขาเก็บความสงสัยมานานและคราวนี้.........

เสียงเคาะประตูดังรัวขึ้นพร้อมกับเสียงแหลมเล็กดังประสานขึ้นมา
“ทำอะไรอยู่คุณหวัด เปิดประตูสิ เร็วๆ”
สวัสดิ์รีบเอาจดหมายเก็บเข้าตู้ดังเดิม เขาใส่กุญแจและดึงดูอีกทีเพื่อความแน่ใจ
“ทำอะไรคุณหวัด เรียกตั้งนาน แล้วทำไมต้องล็อกห้อง” ถามแล้วมองอย่างจับพิรุธ แต่อีกฝ่ายแกล้งเสไปเรื่องอื่น
“ไหนว่าไปงานประมูลเครื่องเพชรมาไง ได้อะไรมาบ้างขอผมดูหน่อยสิ”
“อุ๊ย! ใช่” น้ำเสียงเปลี่ยนไปทันที “วันนี้ฤทัยได้ทับทิมล้อมเพชรมา สวยม้ากมาก น้ำดีด้วย แค่สี่แสนเอง”
ก็เท่านั้นแหละสำหรับผู้หญิงอย่างฤทัย ไม่สนใจมากไปกว่างานเลี้ยงสวมหน้ากากหรือไม่ก็คอยสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้าน สวัสดิ์คิดขณะเดินตามภรรยาออกจากห้องไป
“แหม พูดแล้วหมั่นไส้ยัยน้ำทิพย์ ผัวจะถูกฟ้องล้มละลายอยู่วันสองวันนี้แล้ว ยังจะมีหน้ามานั่งประมูลเพชร ช่างไม่เจียมตัวเล้ย”
ก่อนประตูห้องจะปิดสวัสดิ์มองดูตู้ลายไทยอีกครั้ง เขาจะต้องหาทางไขข้อสงสัยของเขาให้ได้



“สบายใจขึ้นไหมคุณชล”
“ก็ดีค่ะ” ตอบไปงั้นๆ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ค่อยสบายใจอยู่เหมือนเดิม
ชลาลัยตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเล่าเรื่องเมื่อคืนวานให้วิกรมฟังดีไหม หรือจะปล่อยให้เขาคิดว่าเธอมาสะเดาะเคราะห์ต่อไป
“กลับเลยไหมครับหรือจะไปไหนต่อ”
“เข้าเมืองหน่อยนะคะ ชลจะดูอะไรไปฝากแม่วรรณซะหน่อย”
“เอาสิครับ” วิกรมรับคำแล้วสตาร์ทรถออกไป

วิกรมมองคนนั่งข้างๆ แล้วถอนใจ เดี๋ยวนี้เขาชักไม่แน่ใจความสามารถพิเศษของตนเองขึ้นทุกที โดยเฉพาะกับชลาลัย บางครั้งเธอก็เหมือนจะง่ายต่อการอ่าน แต่พอลองมองให้ลึกๆแล้ว เขากลับดูเธอไม่ออกเลย

“แปลก”
“แปลกอะไรคะคุณวิก”
“ผมว่าคุณชลแปลก” เขาบอกตามตรง
หญิงสาวเลิกคิ้ว “ชลหรือคะ แปลกไงคะ”
“คงเพราะคราวนี้ผมเดาไม่ถูกมั้งว่าคุณชลคิดอะไรอยู่”
“อ้าว พออ่านไม่ออกก็มาสรุปว่าชลแปลกงั้นหรือคะ” ชลาลัยถามยิ้มๆ
“พูดไปพูดมายิ่งงง คือไงล่ะ ผมอยากให้คุณชลสบายใจร่าเริงเหมือนตอนมาใหม่ๆ แต่ผมไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะไม่ทราบว่าอะไรที่ทำให้คุณชลไม่สบายใจ”
“ก็แสดงว่าตอนนี้ชลดูแย่กว่าเดิมสิคะ”
“คุณชลก็พยายามอย่าคิดมากสิครับ”
ชลาลัยชันตัวขึ้นเล็กน้อย นั่นสิ...พักนี้เธอคิดเรื่องอะไรต่อมิอะไรมากมาย ยิ่งไม่สบายยิ่งคิดมากเพราะไม่ได้ทำงาน
อีกแล้ววิกรมคิด ใบหน้าหม่นหมอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากจะทำให้ชลาลัยยิ้มแย้มเช่นเดิม แต่อย่างแรกที่เขาต้องรู้คือปัญหาของเธอก่อน......แม่สายน้ำล้ำลึก


***************************


Create Date : 08 ตุลาคม 2550
Last Update : 8 ตุลาคม 2550 21:45:45 น. 0 comments
Counter : 364 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลั่นทมขาว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ถ้าจะแพ้อย่าอ่อนแอให้ใครเห็น
ถ้าอยากเป็นคนเข้มแข็งต้องแกร่งไว้
ถ้าอยากร้องก็ร้องให้หนำใจ
แต่ขอให้ได้อะไรจากน้ำตา
New Comments
Friends' blogs
[Add ลั่นทมขาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.