ความรักไม่มีในโลก....
อ่านบทความนี้เจอเข้าโดยบังเอิญ จริงหรือครับ ??? ผมเถียงขอใช้สิทธิเถียงขาดใจ ครับ ความรักมีจริงแน่ ๆ...ทุกวันนี้ผมอยู่ได้ด้วยความรักครับ..เชื่อผมไหม
รู้สึกยังไงหลังอ่านจบบอกเล่ากันบ้างนะครับ..
ความรักไม่มีในโลก - ประภาส ชลศรานนท์
ตอนหนุ่มๆผมเคยนั่งเถียงกับเพื่อนคนหนึ่งตั้งแต่หัวค่ำจนเกือบเช้าว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ปฏิบัติต่อกันล้วนตั้งอยู่บนความเห็นแก่ตัวแทบทั้งสิ้น ผมว่าท่านผู้อ่านหลายคนก็คงเคยเป็นอย่างนี้ นั่งเถียงเรื่องอะไรบางเรื่องจนถึงเช้า โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ และผลที่ได้ก็คือไม่เห็นมีใครยอมใคร
ต่อให้คนหนึ่งเสียงดังกว่า หรืออีกคนหนึ่งทำท่าเหมือนศิโรราบไปแล้ว ครั้นเมื่อเดินจากกันไป ทั้งคู่ก็ยังคงยึดความคิดตัวเองอยู่
วันนั้นผมเป็นฝ่ายไม่เชื่อว่า ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์จะเป็นจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้มนุษย์กระทำในทุกๆสิ่ง ผมจำได้ว่าไม่ว่าผมจะยกพฤติกรรมใดๆขึ้นมา อีกฝ่ายหนึ่งก็สามารถลากเข้าไปหาความเห็นแก่ตัวของเจ้าของพฤติกรรมได้หมด
ตัวอย่าง เช่น เราซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงก็เพราะเราอยากได้เขามาเป็นแฟน เราเขียนการ์ดให้เพื่อนก็เพราะว่าเราอยากให้เพื่อนรักเรา เราสมัครเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยก็เพราะว่าเราอยากเด่นอยากดังอยากเป็นที่ สนใจของผู้คน แม้แต่การทำบุญทำทานเราทำไปก็เพราะว่าเราต้องการให้มันส่งผลถึงชาติหน้าปาง โน้น
ผมจำได้แม่นว่าผมเถียงอย่างไรผมก็เถียงไม่ขึ้น
เรื่องที่คุณเส้นขนานเล่ามาก็คงคล้ายๆกัน แต่เพื่อนของคุณเส้นขนานยังดีกว่า ที่ยังยอมรับว่าความรักของพ่อแม่เป็นความรักที่ไม่ต้องการผลตอบแทน
ฝ่ายตรงข้ามของผมวันนั้นหนักข้อกว่ามากครับ
เพราะแม้แต่ความรักที่แม่มีต่อลูก เขายังโต้ได้ว่าที่แม่ทำไปนั้นก็เพื่อจะได้หวังพึ่งพาลูกยามแก่เฒ่า
วันนั้นเราหยุดเถียงไปด้วยเสียงขุ่นๆของทั้งสองฝ่าย ตอนนั้นราวตีสี่ตีห้าแล้ว ผมลุกออกจากวงสนทนาไปหาน้ำหาท่ากินด้วยทีท่าของคนที่ยอมแพ้
ถึงวันนี้ก็เกือบยี่สิบปีแล้วครับที่ผมเถียงแพ้มา
แต่ก็อย่างที่บอก ถึงวันนี้แล้วผมก็ยังไม่เชื่อนะครับ ว่ามนุษย์จะทำทุกอย่างด้วยเหตุผลของหลักเศรษฐศาสตร์เพียงข้อเดียว คือทำทุกอย่างเพื่อผลกำไร
แม่ค้าทอดมันแถมให้เราอีกสองสามชิ้นก็หวังผูกใจให้เรามาอุดหนุ่นบ่อยๆ ชาย หนุ่มผู้ยากจนแต่งงานกับหญิงสาวลูกเศรษฐีก็หวังจะยกฐานะตัวเองให้สูงขึ้นตาม หญิงสาว ผู้จัดการนำของขวัญไปให้ท่านประธานบริษัทก็หวังจะได้การพิจารณาตำแหน่งใหม่ ในปลายปี ฯลฯ ตัวอย่างเหล่านี้เป็นหลักฐานสนับสนุนทฤษฎีของเพื่อนผมเป็นอย่างดี และมีให้เห็นอยู่ทั่วไปจริงๆ ผมยอมรับ
ผมลองสมมุติตัวเองเป็นโค้ช
แล้วกลับมาประเมินการพันตูทางความคิดเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน เป็นไปได้ไหมที่ผมไปหลงเถียงเรื่องพฤติกรรมมนุษย์ในทางเดียวกับเขา นั่นคือไปคิดว่าหลักจิตวิทยาที่อธิบายการกระทำของมนุษย์มีเพียงตำราแบบเดียว คือตำราของฝรั่ง
นักจิตวิทยาตะวันตกส่วนใหญ่เชื่อว่าทุกพฤติกรรมของมนุษย์ล้วนเกิดมาจากแรงขับ (ทุกแรงขับก็ล้วนเป็นกิเลสประเภทอ๊อกเทนสูงๆแทบทั้งนั้น ฟังชื่อเชื้อเพลิงพวกนี้ดูสิครับ ความทะเยอทะยาน ความริษยา ความฝักใฝ่ในเพศตรงข้าม ความน้อยเนื้อต่ำใจ ฯลฯ )
ถ้าเราเอาความคิดนี้ตั้งเป็นเกณฑ์ การเถียงวันนั้นผมเถียงอย่างไรก็ต้องแพ้วันยังค่ำจริงไหมครับ
แล้วถ้าทฤษฎีของฝรั่งมันถูกต้องทุกอย่าง คงจะต้องถามอีกว่าแล้วเราจะควบคุมความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ได้อย่างไร ที่ต้องถามอย่างนี้เพราะถ้าธรรมชาติของมนุษย์มีแต่แรงขับที่เป็นความเห็นแก่ตัวล้วนๆ แล้วคนที่เขาทำดีเขาทำมาจากอะไร
มี การทดลองทางวิทยาศาสตร์อันหนึ่งจะเล่าให้ฟังครับ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ก็ทดลองกันได้ นักวิทยาศาสตร์ติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างหนึ่งไว้ที่ตัวอาสาสมัครเพื่อ ที่จะค้นหาว่าเวลาเราทำความดีต่อคนอื่น (พฤติกรรมที่ยอมรับกันว่าเป็นการไม่เห็นแก่ตัวเช่น จูงคนแก่ข้ามถนน ให้อาหารสุนัขจรจัด ฯลฯ) ส่วนไหนของสมองรับปฎิกิริยาหลังจากทำความดีไปแล้ว ผลการทดลองออกมาว่ามันเป็นสมองส่วนเดียวกับเวลาได้กินของอร่อยหรือได้ฟังเพลงเพราะๆ
นักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองชุดนี้จึงสรุปเอาว่าคนเราทำความดีก็เพื่อความสุขส่วนตัว
แม้แต่ความดี เขาก็เอาวิถีทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายจนได้ ฝรั่งนี่มันเหลือเกินจริงๆ ยังไม่หมดแค่นี้ครับ มีอีกข่าวหนึ่งที่ผมเคยอ่านมา ฟังหูไว้หูนะครับเพราะมันเป็นเพียงแค่ข่าวทางวิทยาศาสตร์
เขาบอกว่าคนที่เป็นคนร้าย(เห็นแก่ตัวมาก) กับคนที่เป็นคนดี(เห็นแก่ตัวน้อย) มี ความแตกต่างกันที่ฮอร์โมนบางชนิด นั่นคือเขากำลังบอกเราว่าคนเราจะดีจะชั่วนั้นอยู่ที่สารเคมีบางอย่างในตัว ฟังแล้วคนพุทธอย่างเรายอมรับยากจริงๆ
และเขายังบอกอีกว่าถ้าอยากให้คนไม่เห็นแก่ตัว ก็สามารถฉีดสารเคมีบางอย่างใส่คนๆนั้นได้ เอากับเขาสิครับ บ้ากันได้ขนาดนี้อีกหน่อยใครอยากเป็นพระอรหันต์ก็คงมียาฉีดให้ซื้อมาฉีดกัน
ยังไม่หมดครับเรื่องความดีกับวิทยาศาสตร์ เคยอ่านใช่ไหมครับว่าทุกๆส่วนที่ประกอบเป็นมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นลักษณะตาสองชั้น ผิวดำแดง พรสวรรค์ทางดนตรี ฯลฯ และก็ไม่เว้นแม้แต่พฤติกรรมเห็นแก่ตัวหรือไม่เห็นแก่ตัว ขี้ลืม ขี้บ่น ล้วนถูกบันทึกอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ ประโยคนี้แปลไทยเป็นไทยได้อีกว่า ถ้าอยากให้มนุษย์คนไหนเป็นคนดีก็ตัดต่อพันธุกรรมเอาเสียเลย
ฟังแล้วน่าเศร้านะครับ เหมือนกับจะบอกว่า หนทางเดียวที่จะควบคุมมนุษย์ให้เห็นแก่ตัวน้อยลง (ทำความดี) คือ ต้องควบคุมจากปัจจัยภายนอก นั่นคือการตัดต่อยีน การฉีดสารเคมี เพราะปัจจัยภายในมันล้วนมีแต่แรงขับที่จะทำทุกอย่างด้วยความเห็นแก่ตัว
หรือบางทีฝรั่งเขาคงอยากจะบอกว่าก็ไม่เห็นจะต้องไปควบคุมมันอะไรกับไอ้ความ เห็นแก่ตัวนี่ อย่างน้อยมันก็ทำบ้านเมืองของเขาร่ำรวยมาไม่รู้เท่าไรแล้ว
ด้วยวิธีเอาเปรียบคนผิวดำและผิวเหลืองมาตลอดประวัติศาสตร์นั่นเอง
แม้ผมจะมีความเชื่อส่วนตัวว่า มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเหมือนใบหน้าที่รองพื้นด้วยครีมยี่ห้อกิเลส บางคนก็รองพื้นเสียหนาจนไม่เห็นผิว แต่ภายใต้ครีมรองพื้นที่พอกอยู่นั้น ใบหน้าผ่องแผ้วนพคุณมีอยู่จริง
และทุกคนรอที่จะล้างมันออก
คิดอีกกี่รอบๆ ผมก็คงต้องยอมรับว่าผมไม่รู้จะหาอะไรไปเถียงเจ้าเพื่อนคนนั้นของผมให้ชนะได้ว่าความรักแท้ๆ(ไม่หวังสิ่งตอบแทน) มันมีในโลก
คืนวันนั้นหลังผมลุกเดินออกไปหาน้ำกิน ผมเดินกลับมาก็เห็นเจ้าเพื่อนตัวดีของผมมันนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้กับเพื่อน อีกสองสามคน
ผมจำได้ว่าผมเดินไปย้ายยากันยุงที่อยู่ทีอีกมุมหนึ่งมาวางไว้ข้างๆพวกมัน
ที่มา : //www.ee43.com/content/topic/359.html
Create Date : 01 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 1 ธันวาคม 2553 20:39:07 น. |
|
18 comments
|
Counter : 1046 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:21:17:24 น. |
|
|
|
โดย: boiishi วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:8:36:21 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:9:15:51 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:11:30:25 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 2 ธันวาคม 2553 เวลา:17:14:02 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:0:59:04 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:10:25:12 น. |
|
|
|
โดย: boiishi วันที่: 3 ธันวาคม 2553 เวลา:11:04:05 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:10:53:30 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 4 ธันวาคม 2553 เวลา:15:41:40 น. |
|
|
|
โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:1:52:10 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:4:55:22 น. |
|
|
|
โดย: พระจันทร์ของขวัญ (Great_opal ) วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:11:28:55 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจแก้ว วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:0:01:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
ได้มาอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของความรักในบล็อกนี้แล้ว ผมไม่กล้าจะเม้นท์อะไรสักเท่าไหร่เลยครับ เพราะว่าผมเป็นคนที่อ่อนโลกในเรื่องความรักเป็นอย่างมากเลยครับ
แต่ถ้าจะให้ผมเลือก ผมคิดว่าผมคงเลือกที่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ จขบ. ครับ แต่ผมก็คงไม่กล้าหาเหตุผลอะไรมาเถียงแน่ ๆ ครับ
เพียงแค่จะมาบอกว่า ... ความรักไม่มีในโลก ครับ
ลงชื่อ ... "ชายผู้ไร้รัก"
อิอิ