//ปลอบ น้องแนน ไม่เครียดนะคะ
เอาเรื่องเรียน การสอบ เป็นหลักก่อน การลดน้ำหนักเราลดได้ตลอดชีวิตละค่ะ ไม่มีคำว่าสายเกินไป
ดูขนาดพี่หมีสิ อายุเข้าไปเท่าไรแล้วยังมาลดน้ำหนักเล๊ยย

อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ก็อย่างที่หนูบอกละค่ะ ต้องเดินสายกลาง
ยิ่งจะสอบ ยิ่งต้องกินให้พอเลี้ยงสมอง ไม่งั้นจะไม่สดชื่นแจ่มใส
อารมณ์ก็จะหงุดหงิดง่ายอีกต่างหาก ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือด้วย ไม่เอาค่ะไม่อด กินให้พอดีๆ

สู้ สู้ นะคะ พี่หมีเป็นกำลังใจให้หนูจ้ะ

สู้ๆนะคะ ทั้งเรื่องสอบ เรื่องลด

หลินว่ากลางวันกินน้อยไปป่้าวคะ [ไม่รุ้อะเห็นมันเป็นแค่นม แหะๆ]

อย่ากดดันตัวเองน้า นน.มันจะไม่ลง จริงๆนะเออ เคยไปอ่านบล็อกพี่ทอยเส้น รึเปล่าไม่แน่ใจ ประมานว่า คนที่คิดว่าจะลดความอ้วน แล้ว กดดันตัวเองมากๆ นน.มันจะไม่ลด ทางที่ดีให้คิดว่า ตัวเองควบคุมอาหารแล้วทำจิตใจให้สบายดีกว่า

นี่ค่ะๆๆ เจอละ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jujubee&group=19

ลองอ่านดูค่ะ

กินให้เต็มที่แต่เลือกอาหารไขมันต่ำ ให้ผ่านช่วงสอบไปก่อนจ๊ะ


เป็นกำลังใจให้ทั้งเรื่องสอบและลด นน. นะจ๊ะ

หวัดดียามดึกๆค่ะน้องแนน ^^

น้องแนนขา..ห้ามทานน้อย 1000-1200แคล นะคะ มันน้อยเกินไปสำหรับหนูค่ะ
เพราะค่า BMR ของน้องแนนเท่ากับ 1410

ค่าที่พี่ตามคำนวณให้นั้น คือ ค่าการ BMR ค่าพลังงานที่น้องแนนต้องใช้ใน 1 วันค่ะ โดยที่นั่งเฉยๆ ไม่ทำไรเลยนอกจากหายใจนะ
คือ ถ้ากินเท่านี้ 1410 แคล แล้วแค่เราก็เดินไปเดินมา ยังไงก็ลงอยู่แล้วค่ะ นี่น้องแนนกินแค่ 1000-1200แคลอรี่ มันฮวบฮาบมากเกิน
พอเรากินน้อยไป แต่เรายังทำกิจกรรมปกติ ร่างกายเรานึกว่าเราจำศีล
ก็จะปรับระดับการเผาผลาญลง คราวนี้ระดับการเผาผลาญเราต่ำลงแล้ว แต่เรากินมากขึ้นมานิดหน่อย ก็โย่แล้วค่ะ

และที่สำคัญ 2/3 ของค่า BMR นั้น เราจะนำเอาไปใช้เป็นพลังงานให้กับอวัยวะภายในค่ะ
2/3 ของน้องแนนเท่ากับ 940 แคลอรี่
ห้าม ทานน้อยกว่านี้เด็ดขาดค่ะ เพราะร่างกายเราจะเอาโปรตีนจากกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อในที่นี้อาจจะรวมถึงกล้ามเนื้อห้วใจ ตับ ไต ไส้ พุงด้วยนะ
อันตรายมากค่ะ ลองหาหนังสือเกี่ยวกับโภชนาการและการลดอ้วนมาศึกษาดูนะคะน้องแนน

แคลอรี่ในการทานอาหารใน 1วัน
บวกลบ 100-200 kcal จากค่า BMR
ไม่ต้องแป๊ะๆก็ได้ค่ะ กะๆเอาหนะค่ะ
บางวันจะมากกว่าค่า BMR สักนิดก็ไม่เป็นไรค่ะ
ถ้าวันไหนไม่ได้ออกกำลังกายก็ไม่เป็นไรค่ะ
แต่อยากให้ขยับตัวบ่อยๆ
จะออกกำลังกายวันเว้นวันก็ได้ แต่ควรออกกำลังให้ได้ 3 วันต่อสัปดาห์ แต่ไม่ควรเกิน 6 วันต่อสัปดาห์ ให้ร่างกายได้พักบ้างค่ะ

พอดีมีน้องตูนเคยจะทานน้อยๆ พี่ตามพี่ทอยพี่อ๋อ
ได้เข้ามาแนะนำน้องตูนเอาไว้
พี่ตามขอก๊อบเอามาแนะนำน้องแนนอีกคนนะคะ

แม่ตามมาขยายความให้แล้วกับค่า BMR นะคะน้องตูนน่าจะเข้าใจมากขึ้น...สรุปคือค่านี้ร่างกายต้องการพลังงานในการ ใช้งานของเราในทุกวันนั่นเองค่ะ แต่ละคนน้ำหนักส่วนสูงต่างกันไป จู่ๆ จะให้คนน้ำหนักเยอะๆ ตัวไม่สูง ค่า BMR สูงกว่า 1000 หลายร้อยแคลลอรี่ไปกินน้อยๆ แบบนั้นถือว่าอดอาหารค่ะน้องตูน รับรองโยโย่มาเยือนอีกแน่นอน...เราต้องระวังตรงนี้ด้วยค่ะ...

คนที่ บอกๆ ต่อๆ กันมาเค้ากะเอาค่ามาตรฐานหญิงไทยสูง 160 หนัก 50 กว่าๆ...หรือเท่าพี่หรือเปล่า ขนาดพี่สูง 161 หนัก 60 ค่า BMR ยัง 1300 กว่าๆ เกือย 1400 เลยนะคะน้องตูน ;) ดังนั้นต้องคำนวณค่าเป็นคนๆ ไปค่ะ แล้วค่อยมาวางแผนการกินให้เหมาะสมกับร่างกายและกิจกรรมของแต่ละคน...

อ้อ..เรื่อง กิจกรรมประจำวันด้วย อย่างคนทำงานออฟฟิส นั่งทำงานทั้งวัน.....ก็ควรจะวางแผนการกินให้แคลลอรี่น้อยกว่า...ในกรณีที่ อีกคนที่หนักและสูงเท่ากันแต่มีกิจกรรมการทำงานที่ต้องเดินเยอะๆ อาจจะเป็นคนเสิรฟอาหารที่ร้านอาหารไรประมาณนี้ คนทีี่สองก็กินให้เท่าหรือมากกว่าค่า BMR ได้ เพราะเค้าใช้พลังงานเยอะกว่าคนแรกค่ะ ;)

อีกหลักคือเลือกอาหารก่อน กินด้วย ไม่ใช่กินได้ทุกอย่าง อาหารไม่มีประโยชน์แต่แคลลอรี่สูงกินไปก็ไม่อิ่มต้องหาไรมากินอีกอยู่ดี.... เช่น คุกกี้ 1 อันเล็กๆ อุดมไปด้วยแป้งไขมันและน้ำตาล สมมุติแคล 200.... เทียบกับเกาเหลาอกไก่ไม่หนัง ไม่กระเทียมเจียว 1 ชาม ใส่ผักเยอะๆ สมมุติแคล 200 เท่ากัน อันไหนอิ่มกว่าน้องตูนเลือกเอาค่ะ :P

การออกกำลังก็ เป็นอีกคีย์สำคัญในการลดอ้วนให้ได้ถาวรไม่กลับไปอ้วนอีก ลดโอกาสโยโย่ลงได้เยอะกว่าการคุมอาหารเพียงอย่างเดียวค่ะ...เราต้องนำ กิจกรรมออกกำลังกายเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเราให้ได้ไม่มีข้อแม้ วันไหนไม่ได้ออกกำลังเป็นงานเป็นการก็ขยับตัวออกแรงทำงานหรือกิจกรรมประจำ วันของเราให้เยอะขึ้นจะได้ช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปได้บ้าง ดีกว่าไม่ทำไรเลยนะคะ

ลดอ้วนให้มีความสุข ราบรื่นต้องหลีกเลี่ยงความเครียด เครียดเมื่อไหร่จะทำให้เขวค่ะ การลดอ้วนอาจจะเลิกล้มท้อแท้ได้...ดูแลจิตใจควบคู่กันไปด้วย คนอื่นมาพูดอะไรเมื่อเราไม่ชอบต้องบอกเค้าไปดีดีว่าหนูกำลังลดอ้วนอยู่จริงๆ ค่ะ ขอกำลังใจไม่ใช่คำเหน็บแนม พูดไปดีดี คนที่รักและเข้าใจเรายิ่งเป็นคนในครอบครัวเค้าจะต้องเข้าใจในเจตนาแล้วความ ตั้งใจของเราแน่นอนค่ะน้องตูน อย่าให้คนอื่นมานำความคิดของเรา ใครที่ไม่รู้จักมาว่าเราต้องปล่อยเค้าไป เพราะว่าความคิดของคนเราไปคอนโทรลเค้าไม่ได้ ขืนยังมาพูดมาว่าอีกเราก็ต้องบอกเค้าออกไปตามตรงว่าเราไม่ชอบใจและอย่ามาพูด แบบนี้อีก บอกไปเลยค่ะ เราจะได้สบายใจ ไม่ต้องเก็บมาคิดเครียดแบบนี้อีก ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่ใช่คนในครอบครัวอย่าได้แคร์ค่ะ :P

พี่เป็นกำลัง ใจให้น้องตูนเสมอนะคะ ตัวพี่เองผ่านความเครียดในปัญหาชีวิตและปัญหาการพยายามลดอ้วนมานักต่อนัก รู้ดีว่ารู้สึกยังไงและมันทรมานแค่ไหนที่ความตั้งใจไม่เคยประสบความสำเร็จ แต่ตราบใดที่เรายังไม่เลิกไม่หยุดทำในสิ่งที่เราตั้งใจเอาไว้แต่แรก เราก็ไม่มีวันแพ้จริงๆ หรอกค่ะน้องตูน ล้มแล้วลุกสู้ใหม่แจ่มใสที่สุด พี่เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ สู้ๆ ค่ะ


โดย: ToY (tiny ) 2 กันยายน 2553 8:50:58 น.



พี่อ๋อตามมาให้กิ๊ฟพี่ตามกะพี่ทอยเลยค่ะน้องตูน...
ยังไงพี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ พี่ๆเขาอธิบายไว้อย่างถูกต้องและครบถ้วนแล้วนะค่ะ

น้องตูนกินอาหารให้ต่อความจำเป็นของร่างกายดีแล้วค่ะ
อย่าทำอะไรให้ที่มันฝืนหรือสุดโต่งกับชีวิตเราเลยค่ะ

ให้น้องตูนเลือกเอานะค่ะว่าน้องตูนอยากเป็นคนที่มีรูปร่างแบบไหน ?

1. รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์ม - โดยมีวิธีการลดความอ้วนที่ถูกต้อง ทานอาหารเพียงพอต่อความจำเป็นของร่างกาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
คนแบบแรกนี้ อาจจะลดน้ำหนักได้ช้าอาจจะเดือนละ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ถ้ากินอะไรก็จะไม่เด้งและไม่โยโย่

2. รูปร่างผอมแต่ไม่เฟิร์ม - โดยมีวิธีการลดความอ้วนแบบเร่งด่วน กินอาหารต่ำกว่าค่า BMR ไม่ค่อยอชอบออกกำลังกาย ทานอาหารนับแคลอรี่ แต่เป็นอาหารที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น พวก ขนม น้ำอัดลม
คนแบบที่ 2 นี้ น้ำหนักตัวลดลงไวมากๆค่ะ แต่ไม่เฟิร์ม ผอมแบบอิดโรยไม่สดใส ขาดสารอาหาร พอกลับมากินเยอะๆ ก็เจอโยโย่เล่นงานอย่างรุนแรง

พี่มีตัวเลือกมาให้น้องตูนเลือกแค่ 2 ข้อเท่านั้น..
น้องตูนคงเลือกคำตอบให้กับร่างกายตัวเองได้นะค่ะ ว่าเราควรจะลดความอ้วนแบบไหนดีค่ะ

เพราะ พี่เองก็ติดตามน้องตูนมาตลอด ตั้งแต่ก่อนน้องตูนจะแต่งงาน จิตใจเรานี่สำคัญนะค่ะ ขอเพียงเราทำใจให้หยุดนิ่ง เป็นตัวของตัวเอง มีเป้าหมายในการลดความอ้วน ไม่ต้องไปแคร์คำพูดของใครๆ
พี่เชื่อว่าน้องตูนจะลดน้ำหนักได้เองอย่างมีความสุขมากเลยค่ะ

มีปัญหาอะไรก็มาเขียนทิ้งไว้ในไดอารี่ พี่คิดว่าคงมีคนอยากมาช่วยตอบคำถามของตูนแน่ๆ

เป็นกำลังใจให้น้องตูนเสมอนะค่ะ



โดย: คุณหนูเอ๊าะอ๋อ 2 กันยายน 2553 16:02:46 น.

และยิ่งหนูจะสอบด้วย ต้องทานให้เพียงพอค่ะ จะได้มีแรงใจ แรงกาย แรงมันสมองคิดนะคะน้องแนน

ไม่ต้องทำโทษตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ ให้รางวัลกับตัวเองโดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย
อยากกินขนมก็ทานได้นะคะ แต่อย่าเยอะ

สู้ๆนะคะ พี่ตามเอาใจช่วยหนูตลอดเวลา ชอบคำนี้จังค่ะ ^^

ตั้งใจอ่านหนังสือนะคะ สู้ๆ