|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปูริม เทศกาลสวมหน้ากากของคนยิว
ในเดือนอาดาร์ ตามปฏิทินศาสนายูดาย หรือตกในประมาณ เดือนมีนาคม จะมีเทศกาลสนุกสนานอันหนึ่งเรียกว่า ปูริม เป็นเทศกาลที่ ทุกๆ จะแต่งชุดแฟนซีกัน มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ เทศกาลนี้มาจากประวัติของสาวน้อยชาวยิว ที่ได้เป็นถึงควีนของสมัยที่อาณาจักรปาราซเรืองอำนาจ(หลังจากบาบิโลเนียเสื่อมลง บาบิโลเนียปัจจุบันคือแถบประเทศอิรัก) ก่อนจะเล่าว่าคนยิว เขาทำอะไรกันในวันนี้ มาดูประวัติที่มากันก่อนนะคะ ประวัติของเทศกาลปูริม สมัยกษัตริย์ "อคาชเวรอช" แห่งปาราซ ซึ่งครอบครองอาณาจักรยิ่งใหญ่ ตั้งแต่แถบชมพูทวีป จนถึง แควันคุช รวมแคว้นน้อยใหญ่ 127 แคว้น โดยมีเมือง "ชูชาน" เป็นเมืองหลวง อคาชเวรอช ชอบการจัดเทศกาลรื่นเริงเป็นที่สุด ทั้งดื่ม ทั้งเต้น จึงมีการจัดปาร์ตี้อยู่บ่อยๆ วันหนึ่งพระองค์ก็คิดอยากจะให้ควีน(เมียของตัวเอง) ซึ่งเป็นสาวงามเลิศ ออกมาโชว์ตัวแก่บรรดาข้าราชบริพาร (อาจต้องโชว์เต้นด้วย) ควีนมีชื่อว่า "วาชติ" แต่นางปฏิเสธ ทำให้อคาชเวรอช โกรธมากเลยปรึกษากับพวกที่ปรึกษาเรื่องกฏของบ้านเมืองว่าจะทำอย่างไรกับการขัดคำสั่งของควีนคนนี้ พวกที่ปรึกษาก็บอกว่า ถ้าพระองค์ปล่อยไปแบบนี้ ต่อไปบรรดาผู้หญิงทุกชนชั้นก็จะพากันแข็งข้อต่อสามี โดยอ้างว่าแม้แต่ควีนยังทำได้ ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่หลวงต่ออาณาจักรได้ จึงเห็นควรให้"ประหารชีวิต" ควีนคนนี้ซะ อคาชเวรอช จึงประหารควีนวาชติ พร้อมกับประกาศหาควีนคนใหม่ โดยให้แต่ละแคว้นใต้การปกครองส่งหญิงงามมาให้คัดเลือก
ขณะนั้นมีชายแก่เชื้อสายยิวที่โดนต้อนมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อแม่ ชื่อ "โมรเดไค" หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นขอทาน อยู่ใกล้ๆกับพระราชวัง พอได้ข่าวนี้ ก็รีบบอกกับหลานสาวกำพร้าที่ตนเลี้ยงอยู่ชื่อ "เอสเตร์" ให้เสนอตัวไปคัดเลือก เพราะอยากให้หลานสาวได้มีชีวิตที่สุขสบาย เอสเตร์เป็นสาวน้อยหน้าตาสวยงาม กำพร้าทั้งพ่อและแม่ โมรเดไคเป็นคนเลี้ยงดูไว้เพราะสงสาร และเขาย้ำกับเอสเตอร์ว่า ห้ามบอกใครว่าชาติกำเนิดของเธอนั้นคือ"ยิว" เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายได้
ในที่สุดเอสเตร์ก็ชนะใจอแคชเวอรอช เนื่องจากเธอเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนหรือของขวัญใดๆ จากการเป็นควีน (โมรเดไค เองก็ไม่ได้หวังว่าจะได้ดิบได้ดีจากการส่งเอสเตร์เข้าวัง นอกจากให้เธอมีชีวิตที่สุขสบายเท่านั้น)
วันหนึ่งขณะที่โมรเดไค ขอทานอยู่นั้นก็ได้ยินทหารชั้นผู้ใหญ่ 2 คน คุยกันเรื่องจะทำการลอบสังหารอคาชเวรอช แล้วยึดอาณาจักรปาราซซะ โมรเดไครีบนำความไปบอกเอสเตร์ เพื่อให้เธอไปบอกกับอคาชเวรอช ก่อนจะสายเกินไป เมื่ออคาชเวรอชรู้จึงทำการสอบสวนทหาร ซึ่งพบว่าทำเป็นความจริง มีขบวนการเตรียมสังหารจริง พวกทหารกลุ่มนั้นจึงโดนประหารทั้งหมด และพระองค์ก็ได้บันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ลงสมุดบันทึกพร้อมทั้งเขียนว่า "ชายขอทานชื่อโมรเดไค" เป็นคนนำความมาแจ้ง...แต่พระองค์ดันลืมปูนบำเน็จรางวัลให้ (มัวแต่ดีใจที่รอด อิอิ)
เหตุการณ์ผ่านไปอคาชเวรอช ได้ทำการแต่งตั้งที่ปรึกษาสนิทคนใหม่ขึ้นมาชื่อ "ฮามัน" ฮามันเป็นคนเก่งรอบรู้ แต่เป็นคนหลงในอำนาจยิ่งนัก ยิ่งได้ตำแหน่งใหญ่โต ก็ยิ่งฮึกเหิม เขาจะชอบเดินไปพบปะผู้คน โดยคนเหล่านั้นจะต้องทำความเคารพกราบไหว้ ไม่งั้นจะโดนลงโทษต่างๆนานา แต่มีอยู่คนหนึ่งเดินผ่านไป ก็ไม่ยอมไหว้เขา นั่นคือชายขอทานที่ชื่อ โมรเดไค นั่นเอง ฮามันโกรธมากถามพวกทหารว่าทำไมขอทานคนนี้มันไม่กราบไหว้เขา พวกทหารยอกว่า เพราะโมรเดไคเป็นยิว ซึ่งจะไปกราบไหว้ใคร นอกเหนือจากพระเจ้า ในขณะเดียวกันคืนหนึ่ง อคาชเวรอช เกิดนอนไม่หลับ เลยไปเอาสมุดบันทึกตัวเองมาอ่าน ก็หวนนึกถึงเหตุการณ์ลอบสังหาร และชายแก่ชื่อโมรเดไคขึ้นมา (แต่ก็ยังไม่รู้ว่าโมรเดไคเป็นคนยิว) พอวันรุ่งขึ้นเลยเรียกฮามันมาบอกว่าอยากจะทำการเชิดชูคนๆหนึ่ง ที่เป็นคนดีของบ้านเมือง จะทำอย่างไรดี ฮามันก็นึกในใจว่า อคาชเวรอชต้องการจะเชิดชูเขาเป็นแน่ เลยบอกว่า ต้องให้คนนั้นนั่งบนขบวนม้าทรง แล้วแห่ไปรอบเมือง อคาชเวรอชเห็นด้วย แล้วบอกฮามันว่าไปจัดการเรื่องนี้ทีให้กับชายชื่อโมเดรไค ฮามันหน้าแตก แต่ก็ต้องทำตาม ฮามันซึ่งแค้นเรื่องโมรเดไคอยู่แล้ว จึงวางแผนที่จะออกคำสั่งให้ประชาชนมีสิทธิ์ฆ่าชาวยิวทุกคนที่เจอ โดยออกเป็นประกาศไปทั่วอาณาจักร โดยอคาชเวรอช เป็นผู้ลงนามเนื่องจากโดนเป่าหูว่า ชาวยิวทำการแข็งข้อ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง สำหรับโมรเดไค ฮามันถึงกับลงทุนสร้างเสาสำหรับแขวนคอไว้หน้าบ้านตัวเองเลยทีเดียว โมรเดไครีบไปบอกเอสเตร์ และต้องการให้เธอทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้ชาวยิวโดนฆ่า เอสเตร์เศร้าใจมากถึงกับไม่ยอมกินอาหาร อคาชเวรอชเป็นห่วงมากและถามเอสเตร์ว่าต้องการอะไร เธอจึงบอกว่าต้องการคุยปรึกษาอะไรบางอย่างกับอคาชเวรอชและฮามัน โดยจะเป็นการเลี้ยงอาหารค่ำด้วย ค่ำวันนั้นจึงมีการจัดเลี้ยงอาหารโดยเอสเตร์ และเธอได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้อคาชเวรอชฟังโดยกระจ่าง ทั้งเรื่องที่ว่าตัวเองเป็นคนยิว เรื่องโมรเดไค และชาวยิวที่กำลังจะโดนฆ่า อคาชเวรอชฟังแล้วก็เลยรู้ความจริงทั้งหมด ว่าฮามันเป็นคนมาขอให้ออกคำสั่งนั้น เลยสั่งประหารชีวิตฮามันทันที โดยให้แขวนคอเขาและครอบครัว (เมีย พร้อมลูกชายอีก 10 คน) ที่หน้าบ้านของเขานั่นเอง ชาวยิวก็เลยรอดปลอดภัยมาได้เพราะควีนเอสเตร์นั่นเอง...จบจ้า
แล้วชาวยิวทำอะไรบ้างในเทศกาลปูริม จะทำหลักๆ อยู่ 4 อย่าง 1. อ่านเรื่องของเอสเตร์ (เมกิลัท เอสเตร์) 2. รับประทานมื้ออาหารพิเศษในเทศกาลนี้ (จะมีขนมคล้ายคุ๊กกี้เป็นรูปสามเหลี่ยมมีใส้ชอคโแลต ใส้อินทผาลัม เป็นสัญลักษณ์ "หู" ของฮามัน เรียกว่า โอเซนฮามัน...คนยิวโหดมั่กๆ) 3. ให้ของขวัญกันในหมู่เพื่อนๆ เพื่อนบ้าน เรียกของขวัญว่า มิชโลอาคฮ มันโนท 4. บริจาคทานแก่คนจน คนขอทาน
ซึ่งวันแรกของปูริม จะเป็นวันที่คนยิวอดอาหารและน้ำ คือตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น จนถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อระลึกถึงที่เอสเตร์อดข้าวประท้วง ก่อนจะเล่าให้อคาชเวรอชฟังเกี่ยวกับชาวยิว พอวันต่อมา ก็จะฉลอง เด็กๆ วัยรุ่น คนทั่วไป ก็จะแต่งตัวแฟนซีกัน เด็กหญิงจะชอบแต่งเป็นควีนเอสเตร์ ในชุดสีขาว เด็กชาย ก็จะแต่งเป็นทหาร ตำรวจ อะไรแล้วแต่ที่อยากเป็น แต่สมัยนี้เปลี่ยนไปแล้วแหละ สมัยนี้แต่งเป็นนินจาเต่า โงกุน อวตาร ไปจนถึงเป็น ซัดดัม บินลาเดน เลดี้กาก้า หนุกหนานกันใหญ่ ซึ่งการแต่งแฟนซีเป็นสัญลักษณ์ของเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมืออะไรเงี้ย คือจากที่จะโดนสั่งฆ่า ก็กลายเป็นคนสั่งฆ่าแทน
ปล. เทศกาลนี้ไม่มีระบุอยู่ในโทร่านะคะ เนื่องจากเหตุการณ์ไม่ได้เกิดอยู่ในดินอดนอิสราเอลนั่นเอง
"หูของฮามันกับทหารอิสราเอล" ใส้ชอคโกแลตด้วยนะ

"เด็กๆ กับคอสตูมปูริม"
Create Date : 13 มีนาคม 2549 |
Last Update : 18 มีนาคม 2554 23:53:36 น. |
|
19 comments
|
Counter : 3023 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: vad (vad ) วันที่: 19 มีนาคม 2549 เวลา:21:52:49 น. |
|
|
|
โดย: +9+9+ลง IP: 203.209.117.54 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:10:54:04 น. |
|
|
|
โดย: นานาจ้า IP: 202.29.37.40 วันที่: 26 กรกฎาคม 2549 เวลา:13:07:51 น. |
|
|
|
โดย: วิทวัส IP: 203.113.61.199 วันที่: 28 กรกฎาคม 2549 เวลา:21:42:03 น. |
|
|
|
โดย: เรนโบว์ IP: 203.188.32.158 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:21:13:49 น. |
|
|
|
โดย: ............ IP: 124.120.217.82 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:17:50:37 น. |
|
|
|
โดย: อยากรู้ IP: 124.120.200.15 วันที่: 31 ตุลาคม 2550 เวลา:16:03:11 น. |
|
|
|
โดย: ชโลม IP: 64.131.242.146 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:11:58 น. |
|
|
|
โดย: t*spoony IP: 124.120.49.47 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:32:35 น. |
|
|
|
โดย: sasy IP: 118.173.248.51 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:17:38:23 น. |
|
|
|
โดย: อ้อม IP: 124.120.181.74 วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:3:56:50 น. |
|
|
|
โดย: shalom IP: 64.131.242.146 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:10:15:10 น. |
|
|
|
โดย: jipdv IP: 79.181.107.189 วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:5:07:36 น. |
|
|
|
โดย: พระเจ้าคือความจริง IP: 1.1.1.17, 124.120.34.37 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:0:43:31 น. |
|
|
|
โดย: วอน ทู บี จิววิช IP: 77.126.159.21 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2552 เวลา:2:42:42 น. |
|
|
|
โดย: ชาติชาย IP: 109.253.194.161 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:17:26:40 น. |
|
|
|
โดย: เจม IP: 118.172.200.167 วันที่: 19 มิถุนายน 2554 เวลา:12:51:00 น. |
|
|
|
โดย: uud IP: 58.10.171.73 วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:13:47:46 น. |
|
|
|
โดย: toosug IP: 182.52.126.52 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:30:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|