คบคนมันต้องใช้เวลา >>>>>>>>>>>> ไม่เหมือนเลือกซื้อเสื้อผ้าจะได้ดูที่ยี่ห้อ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
Hanoi วันที่ 3 ตอนสอง เดิน เดิน เดินเท่านั้น

ตอนที่แล้ว ผมและเพื่อนก็มาถึงทางเข้าสุสาน ลุงโฮฯ แต่เนื่องด้วยการป้องกันเหตุ ต่างๆ ที่ไม่ดี
ทางการเวียดนามจึงห้าม เอาโลหะ น้ำอาหาร เข้าไปเยี่ยม เอ่อ ชมสุสานลุงโห
แต่ทำไม กล้องเพื่อนผมมันหลุดออกมาได้ แต่ก็ไม่ได้เอามาถ่ายหรอกครับ
กลัวไม่ได้กลับเมืองไทย
เราก็เดินเอาของไปฝากไว้ที่ซุ้มทางซ้ายมือแล้วเดินมาเข้าขบวน และเพิ่งรู้ว่า ขบวนเรา เป็นขบวนเกือบสุดท้ายที่จะได้เยี่ยมชม เพราะเขาจะปิดพักแล้วววววว
ห้ามส่งเสียง แต่ไม่ห้ามหายใจ มีชาวต่างชาติสองคน โดนทหารเรียกวห้ออกจากแถวแล้วไปคุยอะไรกันไม่ทราบ เพื่อนๆ ของเขาก็ เดินตามแถวไปเรื่อยๆ ปล่อย เพื่อนๆ ให้คุยกับทหารไปเอง
ก็เดินไปตามทาง โลงศพที่ลุงโฮ นอนอยู่เป็นแก้วใส ครับ บรรยากาศก็ เงียบสนิทมาก
มีทหารยืนเฝ้าเป็นระยะ และที่โลงศพ มี ยืนอีก 4 คน ๆละ มุม
เดินไม่ต้องหยุดแต่เดินให้ช้าเท่านั้นเองครับ
ออกมาก็ มารอรับ สิ่งของต้องห้ามทั้งหลายที่เราไม่สามารถนำเข้าไปได้ คืน แล้วก็ออกมาถ่ายรูปได้แล้ว เหมือนที่เราเห็นจากอีกฝั่งว่าทำไม มีคนสามารถมาถ่ายรูปได้ แต่ไม่ให้เรา เดินลัดสนามมา คงเพราะเหตุนี้ เองคือ เป็นระบบ ป้องกัน ความปลอดภัยนั้นเอง

สังเกตุว่าพอผมออกมาถ่ายรูปได้ ก็ไม่มีทหารเฝ้าและ ขบวนนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปอีก เพราะปิดดดดดดดดดดด(ไม่รู้ ตอนกี่โมง)
แล้วก็มาจ่ายค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และบริเวณ ใกล้ๆกับ Presisentail palace ต่อ
มีกฎระเบียบให้อ่าน ด้วยนะครับ

มีสองช่องทางให้เดิน ถ้าเป็นชาวเวียดนามก็เดินทางช่องซ้ายฟรี สำหรับเราก็ ช่องทางขวา จ่ายตังค์ 10000 ด่อง
เดินเข้ามาก็ ได้ถ่ายมุมนิยม(เพราะให้ถ่ายได้เฉพาะมุมตรงนี้เท่านั้นเอง)

แล้วเลี้ยวมาทางซ้าย

เดินตามๆ เขาไปแหละครับ ไม่มีหลง เพราะคนเยอะมากครับ

แล้วก็ได้รุปพวกนี้มาเพียบ

จะเดินไปทิ้งขยะก็ห้ามผ่านครับ แล้วใครจะช่วยรักษาความสะอาดแหละครับนี่

บ่อน้ำในบริเวณนั้น

เลี้ยวขวาไปถนนมะม่วงครับ

มองไป ไม่เห็นมะม่วงเลยครับ

หรือต้นนี้คือ มะม่วงยักษ์

เดินไปชมบ้านลุงโหฯ กันต่อครับ

ถึงแล้วครับ ก็เดินตามๆ กันไป ไม่ต้องกลัว


เห็นแต่ต้นส้มโอ หรือว่าลุงโหฯชอบกิน

ห้องนอนและห้องทำงานครับ

นักท่องเที่ยวเยอะมากครับ แต่ผมว่า วัดพระแก้วของเรา คนเยอะกว่า


มีป้ายบอกห้ามหยุดดูปลา แต่ก็มีแต่คนหยุดดู เหมือนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ


ไร่ส้มโอ อีกแล้วครับ

โรงอาหาร สำหรับนั่งพัก และร้านค้าขายของที่ระลึก ครับ

ใกล้วันเทศกาลไหว้พระจันทร์ ของชาวเวียดนามแล้วครับ คนแย่งกันซื้อ เยอะเหมือนกัน

สาวๆ เวียดนาม ยืนให้ถ่ายรูป เป็นกลุ่มเลยครับ สวยๆ ทั้งนั้น




แล้วเราก็ อ้อมมาถึงด้านหลัง สุสานลุงโหฯ

แดดก็ร้อนจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เดินมาถึงตรงนี้ก็มีร้านค้าขายของที่ระลึกอีก เลย เดินไปดูว่าเสื้อยืด พื้นแดงดาวเหลือง มีไหม ราคาเท่าไหร่ ปรากฏว่า ตัวละ 20000 ด่องเท่านั้นเอง แถมแม่ค้า ยังบอกเป็นภาษาไทยว่า สองตัว ร้อยเดียว
โห้ ทำไม ราคาเงินบาทมันแพง เลยเอาเงินด่องจ่าย ดีกว่า ครับ ตกตัวละ 44 บาท ต่ออีกก็ไม่ได้ พอเราได้เสื้อมาคนละตัวด้วยความดีใจ ก็ ไม่ยอมมองไปทางขวามือเลยครับ ชื่นชม แต่เสื้อกัน เลยมองไม่เห็น วิหารเสาเดียวหรือ One pillar Pagoda
เห็นแต่ ประตูวัดแบบนี้ และหน้าประตู Ho Chi Minh Museum



ยังหา วิหารเสาเดียวไม่เจอ แต่เราก็ไม่ได้ เข้าไปข้างในพิพิธภัณฑ์ หรอกครับ ค่าเข้า คนละ 10000 ด่อง(ยังงก)
เดินออกมา เลย นอกเขต ไปเรื่อยๆ

ออกมานอกรั้วเลยครับ ทำไมหาไม่เจอ ใครๆ ก็บอกว่าเดินหาง่ายๆ ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์
เดินออกมาก็เห็นร้านขายพวงรีดครับ

เดินถาม ทหาร ตำรวจ แม่ค้า คนแถวนั้นก็ ชี้มาด้านใน ที่เราเพิ่งเดินออกมา
เพื่อนผมชักเริ่มบ่น ว่า จะไปไหน ทำไม มัน สวยมากหรือไง ถึงจะต้องไปให้เจอ อ้าว กรรม ของผม ก็ ผมเห็นใครๆ บอกว่า อยู่ใกล้ๆ ก็ อยากได้รูปให้ ครบ เท่านั้นเอง เดินไปเถอะ จนหระทั่ง วนมาหน้า พิพิธภัณฑ์อีก รอบ เหมือนปลงตก พอดี เพื่อนผม เห็นร้านของ post card เลยยืนดู ผมก็ ประมาณ ว่า ปลงตก ก้เลย ยืนดู post card สวยดีครับ มีรูปโบสถ็ๆ หนึ่ง อยู่ใกล้ๆ โรงแรม Dimond สวยมาก แต่ทำไมไม่เคยเห็นใครบอกว่าเคยมาถ่ายรูปเลย ขณะนั้น เอง พระเจ้า

เชื่อไม่เชื่อ เหมือนว่า พอไม่อยากเจอก็เจอ เหมือนนิยายเลยครับ

ถ้าเอาแผนที่มาดูดีๆ ก็ ใกล้ จมูกมดมากๆๆครับ คือว่า อยู่ตรงข้ามร้านของเสื้อที่เราซื้อและอยู่ขวามือ ท่าน ถ้าไปยืนตรงหน้า พิพิธภัณฑ์ (กรรรรรรรรรรรม)
แล้วเราก็ไปถ่ายรูปจนสมเหตุ สมผล ที่ หาจนเจอแล้วก็ ไปต่อที่ วัด Temple of Literature กันต่อ เลยครับ โดบการเดินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เลี้ยวซ้ายเลยเพราะว่า ขวามือ คือ Footcall Stadium เพื่อนผมบอกว่า เอ่อ ใช่ๆ จริงๆ เพราะมีเสาไฟ เหมือนสนามฟุตบอล
เลี้ยวซ้ายมาก็เจอรั้ววัดแล้วครับ

จะเข้าประตูข้างๆ ชาวเวียดนามก็บอกว่าไม่ได้ ต้องไปประตูด้านหน้า
จะลักไก่ หน่อยก้ไม่ได้

จ่ายค่าตั๋วเข้าชมด้วยครับ 5000

บรรยากาศ ภายในวัด โดยผม................................นายชอบ ขยันแต่เดินครับ

เอามาให้ดูบางส่วนนะครับ บรรยากาศสวยมากครับ ร่มรื่นดีครับ






ผมว่า อยู่ถ่ายภาพได้เป็น ชั่วโมงแหละครับ

โบกมืออำลา Temple of Litterature กันดีกว่าครับ

สระน้ำ ตรงข้ามทางเข้า Ho Giam


ออกมาจากวัด ก็เลี้ยวซ้ายตามพิกัด ที่กะ เอาไว้ ก็ เดินมาจนเจอโรงแรม นี้ครับ
Hanoi Star Hotel ตอนแรกว่าจะมาพักที่นี้ แต่ตอนนี้คิดว่าดีแล้วที่ไม่เลือก เพราะไกลทะเลสาบมากครับ


เดินมาถึงหลังหัวลำโพงของฮานอย


ตอนนี้ก็ เที่ยงกว่าแล้ว ครับ ถามเพื่อนว่ามันจะพักไหม ก็ ตอบแบบว่าจะไปพักที่โรงแรม (เหนื่อยเหมือนกันแต่ ถ้าไปนอนที่โรงแรม ผมก็ว่าดี เหมือนกัน)
ได้ภาพที่อยากได้มาอีก 2 ถาพครับ

ความจริงถ้าเดินตามรางรถไฟ ไปก็ จะไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ 5555 ก็ มีการถกเกียงจะไปไหนต่อ เพราะ มี 5 แยก 3 แยก 4 แยก แต่สุดท้ายก็มาถึงโรงแรม ได้นอน พักนั่งกิน ปลาหมึก แห้ง น้ำโค้ก ไปเรื่อยๆ เพราะไม่อยากขนกลับบ้านครับ
เดินมาแบบว่า เข็มทิศไม่มี แต่ก็ วนมาจนเจอ โรงแรมจนได้ กลับมา เห็นห้อง 201 เปิดรอเราอยู่ เลย ขอไปเก็บภาพ ห้องพัก 201 ไว้ซะหน่อย

ห้อง 201 จริงๆ ครับ

ตกเย็นๆผมมีนัดล้างตากับ Opera House และ ไอติมต้นตำรับอีกรอบก่อน กลับเมืองไทยครับ



Create Date : 17 ตุลาคม 2550
Last Update : 17 ตุลาคม 2550 9:27:36 น. 1 comments
Counter : 873 Pageviews.

 
รูป..สวยค่ะ..อยากกลับไปเที่ยวอีก


โดย: J (P_Bear'n'Bamboo ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:13:19:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

redPoTatO
Location :
text Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตคนเรามันสั้น ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้
เบื่อก็ไปเที่ยวกัน เอากำลังใจบ้างคนไทย!!

ณ วันนี้ก็นับถอยหลังให้กับเวลาที่ เหลืออยู่เพราะ

หนี้กำลังจะท่วมหัว....

[ บางครั้งกล้าคิด แต่ไม่กล้าทำ ก็คนมันกลัวงะ ]

Click เพื่อส่งหลัง ไมค์ ติดต่อ redPoTatOที่นี่ ครับ





Friends' blogs
[Add redPoTatO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.