Hanoi กับงบน้อยๆ (20-23 ก.ย. 2550) วันที่ 1 ครึ่งหลังช่วง บ่าย ????
ความเดิมคือว่าห้องที่เราจะต้องได้ คืนละ 17 US$ ยังไม่ได้ และก่อนออกมาเดินหาอะไรกินก็ ลองสอบถามราคา ทัวร์ไปเที่ยว ฮาลองเบย์ Halong Bay ครั้งแรกสุด reception แจ้งเราว่า 22 เหรียญ โอ้ แม่เจ้าโว๊ย ผิดแผน ไม่ได้หรอก เราไม่ได้ถูกรางวัลเลขท้ายมาเที่ยวนะครับ ก็ได้แต่บอกว่าแพงเท่านั้น แล้วลงมาข้างล่างเจอกับเจ้าของ เราลองถามเขาลดลงมาเลย 20 เหรียญ (รวดเร็วดี fast discount จัง) เราก็ พอจะเข้าใจเลยยังไม่ตกลง แล้วเราก็ ไปถาม ร้านทัวร์ข้างๆ เขาให้ 20 เหรียญ เหมือนกันแล้วที่เขาบอกก็เหมือนๆ เพื่อนๆ ที่บอกว่าเขาจะอ้างว่า กรุ๊ปเล็ก กรุ๊ปใหญ่ เราก็ ไม่หลงกล หลังจาก เดินเห็นทะเลสาบแล้วก็ เราก็เดินกลับมาที่โรงแรม เพื่อที่จะย้ายสัมภาระ เราไปห้องใหม่ แล้วเราก็ได้ห้องใหม่ ชั้น 4 ไม่มี elevator ลิฟท์นั้นเองเดินขึ้นมาเหนื่อยไหมละ ดูกันให้เหนื่อย อ้าว หลักฐานชัดๆได้ ห้อง เบอร์ 401ห้องก็ไม่กว้างไม่เล็ก แต่ก็ดูสว่างเพราะเป็นกระจกเห็นวิวด้านนอกที่ไม่สวยไม่เท่าไหร่ แต่ ไอ้ที่ใส่กระดาษชำระในห้องน้ำนี้ เก่าได้ใจมากครับนี้วิวนอกห้องตอนเช้าๆๆ ตอนนี้ก็ ใกล้จะบ่ายโมง ไอ้ที่หิวเล็กน้อยก็ หิวมากถึงมากที่สุดแล้วตอนนี้ไหนต้องไปจองดูหุ่นกระบองน้ำ เหมือนเป็นหลักสูตรวิชาชีพว่าต้องไปดู เพื่อนผมมันก็ ประมาณว่า ต้องดูจริงๆหรือ? ผมคิดไปคิดมาเหมือนกัน ต้องดูให้ได้ แนวบังคับหลังจากที่เราได้ห้องใหม่ ก็ เตรียมออกไปข้างนอก ที่ทะเลสาบไปจองดูหุ่นกระบอกน้ำที่โด่งดังหาดูที่เมืองไทยไม่ได้ ......ลงมาก็เจอเจ้าของ เป็นผู้หญิง ชื่อคุณ เวียน(มั้ง) ก็เสนอราคาใหม่ ฮาลองเบย์ให้เราอีกตอนนี้ ราคาลดลงมาอีก 2 เหรียญเหลือ 18 เหรียญ ( จริงๆ เราก็ยังไม่ได้สรุป เห็นมีแต่ คนอื่นบอกว่าไม่น่าเกิน 16-17 เหรียญ แต่ เขามายื่นข้อเสนอ 18 เหรียญ อีก 34.27 บาทเอง คงไม่ขาดดุลย์การค้าเท่าไหร่) อ้าวกองทัพงูเห่า เดินเท่านั้น ออกมาจากโรงแรม เหมือนเดิม คนเวียดนามก็เรียกให้เราดู motorbike ของเขาเป็นระยะ ๆ คิดในใจที่บ้านผมก็มีขับ เดินมาเจอ 5 แยกไฟฉายแล้วก็ข้ามไปถ่ายรูปสะพานสีแดงก่อนเลยยยยยยย แล้วก็ข้ามกลับมาเพื่อที่จะขอ แผนที่โลก หมด ไม่มี กรรม จริงๆ เลยต้องใช้ google earth เมหือนเดิม ก็รีบเดินเข้าไปจอง ปรากฏว่า ......... มีสองรอบเท่านั้น รอบ 16.00 น. กับ 21.30 น. เลยเลือก 16.00 น. ถามเจ้าหน้าที่ว่า 20000 ด่อง นั่งตรงไหน 40000 เหลือที่นั่งตรงไหน ดูจากตารางหมากรุก ของเจ้าหน้าที่ เลยเอา 20000 พอ (ขอได้ดู และที่ไหนได้ เพื่อนผมมันยังนั่งหลับ ได้ลงคอ เจ้าหน้าที่ที่ยืนคุมเชิงได้ตั๋วมากำแน่น แล้วก็ เดินหาอะไรกินได้แล้ว แล้วจะไปกินอะไร ยองๆ เหลาก็ไม่กิน บอกตามตรงเหมือนคนหลงทางแต่ พยายามจำทะเลสาบไว้ไม่ให้ลืมทิศโอ้วววววว ถนนในฮานอยนี้ดีครับ ถนนไหนขายอะไรก็ขายเหมือนกันหมด จะได้ไม่ต้อง หายยาก นี้ ถนนรองเท้า(มั้งครับ )เดินข้ามไป เดินย้อนมา ลัดเลาะเหยียบเท้ากันไป ก็มาเจอเอาร้านนี้ กำลังจะเดินผ่านเราทำท่าว่า หิวมากกกก เดินที่นั่งข้างหน้าร้านไม่รอช้า เหมือนจะรอว่าหมูเดินมาให้หาม 2 ตัว ร้าน quan 34 เบอร์โทร 8.248274 โทรไปสำรองที่นั่งได้ครับนั่งลงแล้วเหมือนวังเวงเพราะอ่านไม่รอ ดูไม่ออก จะเอาอะไรก็มองตากัน ออกไปห่างๆ ก่อน เด็กบ้านนอกจะคุยกัน แล้วทำไมเมนู สองเล่มราคาไม่เท่ากัน รูปอาหารแบบนี้คุ้นๆ ที่เพื่อนๆ แนะนำ แต่ไม่น่าจะใช่ร้านแบบนี้ ร้านนั้นดังๆ ต้องใกล้ ตลาด ดอนซ่วน แต่เห็นรูปก็ คุ้นๆ แบบนี้จะกินอะไร ก๋วยเตี๋ยวหรือข้าว แล้วเฝอที่ว่าอร่อยเด็ดดวง อยู่ตรงไหน ทำไมน้ำเมนูนี้ 8000 อีกเมนู 10000 เครียดอยากให้เปาปุ้นจิ้นมาตัดสินปัญหาให้หน่อยเลยเลือกโค้กมากิน ราคา 8000/10000 รอต่อเช็คบิลเอาละกันสั่งอะไรก็ชี้ไปแล้ว นั่งรอให้พ่อครัวแม่ครัวสองคนนี้ทำให้กิน ระหว่างรอกินอย่างใจจดใจจ่อก็ ถ่ายครัวมาให้ดูกันหน่อยนั่งสักพักอาหารก็ได้มา มีแต่ช้อนกับตะเกียบไม่มีส้อมแต่หิวแล้วสิ้นเสียงเคาะกะทะอาหารก็มาเสริม ขอกินก่อนนะครับ ราคาจำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่า มีปัญหากับเงินทอนนิดหน่อย เพราะตอนเราเรียกเก็บเงิน ยอดค่าเสียหาย 42000 ด่องเด็กทางร้านก็ทำทางขอเศษ 2000 จะได้ทอนเงินง่ายเราจ่ายไป 102000 ก็น่าจะได้เงินทอนมา 60000 ตามหลักคณิตศาสตร์ที่เรียนมาจากเมืองไทย ทำไม เจ้าของร้าน ทอนมาให้เรา เดี๋ยวก็ 52000 >>>>>58000>>>>กว่าเราจะได้เงินทอนครบ 60000 เจ้าของร้านก้สรรเสริญลูกจ้างเป็นภาษาเวียดนามซะหน้าดำ หน้าแดง......กว่าจะรอดออกมาได้ ดีนะที่ไม่ได้ใช้แก๊สโซฮอลล์ อิ่มได้ที่ พอประมาณ แสดงว่าไม่อิ่มมาก ถือคติว่าถ้ากองทัพอิ่มมากกองทัพจะหลับ ก็ไม่ควรจะให้อิ่มมากจะได้มีแรงจูงใจให้เดินไปดู Opera House อยากเห็นไม่ได้อยากไปฟังเพลง..... ก็เดินเรื่อยเปื่อยแต่ไม่ห่างจากทะเลสาป แน่นอน เห็นทะเลสาปแล้วอุ่นใจเห็นตึกไหนก็ถ่ายไปเรื่อย ตามที่เขาบอกมา ว่าแล้วเดี๋ยวก็เจอ รูปปั้นเราก็เจอตึกอะไรไม่รู้เราก็ถ่าย ความจำสั้นหมดดูเอาเองนะครับ ตึกนี้อยากได้รูปธงชาติด้วยเพราะจะได้รูปว่าเวียดนาม แต่ลมไม่มาเสียที ได้ดีแค่นี้เองครับรูปปั้นท่านนี้อยู้ใกล้ไปรษณีย์กลาง(สำนักงานใหญ่)สุดถนนเส้นนี้ก็จะเจอห้างสรรพสินค้าคู่บ้านคู่เมืองของเขาห้างเดียวในกลางเมืองขอเข้าไปห้องน้ำหน่อย น่าจะเข้าฟรีไม่เสียเงินเหมือนมาบุญครองบ้านเรา...ทำธุระไปก็อ่านคำเตือนไป แต่อ่านไม่ออกหรอกครับ ไม่รู้เขียนอะไรก็เข้าไปซื้อน้ำขวด ขนมเพราะจะใช้สำรองตอนไป ฮาลองเบย์และที่สำคัญน้องสาวของเพื่อนฝากซื้อกาแฟ ถุง 34000 ด่อง เลยรีบไปซื้อก่อน กลัวลืมกันพลาดหมดเงินไป พอขำขำ 198300 ขนหน้าแข้งร่วงนิดหน่อยอ้าวไปดูร้านไอติมต้นตำรับที่ว่าแน่ นักแน่หนา ของชาวเวียดนาม เดินไปข้ามถนนอีกครั้ง ก็จะเจอเอง (.............. เข้าใจเขียน)นั้นหน้าร้านมาดูข้างในเพราะหน้าร้าน หน้าตาไม่รับแขกเพราะของหมดต้องยกกล่อง เท่านั้น(มั้งครับไม่ได้ถาม เดินเข้าไปยืน คนขายยังไม่สนใจจะเชิญชวนเลยยยยยยย)เป็นแบบ drive thru แต่ต้องดับเครื่องนะครับ เพราะไม่งั้นคงเหม็นครัวท่อไอเสีย คนก็เยอะ เราไม่มีความสามารถที่จะไปแย่งชิงไอติมมากินได้ เลยเดินคอตก ไม่กินก็ได้ ไว้เจอกันวันเสาร์ เดี๋ยวจะมาปล้นสักอันลองดุ ว่าจะแน่สักแค่ไหนกันไอติมเวียดนามร้านดังโคตระๆๆๆอ้าวเดิน งานนี้มีแต่ ขาเท่านั้นที่พาเราไปถึงที่หมาย...แล้วก็มาเห็น โอเปร่าเฮ้าส์แต่ ว่า มันมีงานแสดงสินค้าตัวใหม่ที่จะทำการโปรโมทเลยมีเวทีหาเสียงมาบังติดๆกันก็ โรงแรม Hilton ที่เราจองไม่ทันจริงๆๆๆ ครับ แค่ คืนละ 100 เหรียญกว่าๆๆ เลยจองไม่ทัน >>>ไม่คิดจะจองมากกว่า เอิ๊กกกกก...พึ่งจะบ่าย 3 โมง ผมอยากเข้าไปวัดหงอกซินเพื่อถ่ายรูปเต็มๆ แต่เพื่อนบอกว่า รอออกจากดูหุ่นกระบอกโชว์ค่อยไปถ่ายก็ได้ .....ตกลง ผมกับเพื่อนจะทำยังไง มารอเฉลยตอนหน้าครับ นี่แค่ วันที่ 1 15.00 น.เองอีก 2 วันจะได้กี่ตอนละหนอ...
จากภาพที่เขาแปะติดไว้นั้นน่าจะเป็น แผ่นกระดาษแนะนำวิธีการใช้อุการณ์ในห้องน้ำมั้งครับ เพราะมันทันสมัยกว่าในปั้ม