|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
บทที่ 11 ที่ที่คุ้นตา (ตอนที่ 1)
เช้าวันเสาร์............
ผมลืมตาตื่นอย่างเกียจคร้านพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ สายตาผมเหลือบไปมองพื้นที่บนเตียงที่อยู่ข้างๆ แล้วก็ต้องพบกับความว่างเปล่า คิ้วเรียวของผมขมวดมุ่น หันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียงซึ่งบอกเวลาสิบเอ็ดโมง สายแล้วแหะ.........ข้างๆ นาฬิกามี post it สีส้มแปะไว้อยู่กับโต๊ะ ผมหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความรวดเร็ว
ผมออกไปทำธุระข้างนอกนะ จะกลับมาตอนเย็นๆ ถ้าตื่นแล้วก็อาบน้ำอาบท่ากินข้าวซะ ผมทำเอาไว้ให้แล้วอยู่ในครัว คุณก็เอาไปอุ่นแล้วก็กินได้เลย หวังว่าแค่อุ่นกับข้าวคุณคงไม่ทำให้ครัวพังหรอกนะ :P ก้องบดินทร์
ผมอมยิ้มเล็กน้อยให้กับข้อความน่ารักๆ ที่อยู่ในมือ ดูเอาเถอะเป็นห่วงผมซะขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่วายที่จะเหวี่ยงใส่ผมอีก สงสัยคงจะยังงอนกับเรื่องเมื่อคืนอยู่แน่ๆ
อืม.........หอมจัง ทันทีที่ก้องบดินทร์ออกมาจากห้องน้ำ ผมก็ถือโอกาสกอดคนหน้าหวานไว้จากทางด้านหลังพร้อมกับฝังจมูกลงไปที่ซอกคอขาวเนียน
ทำอะไรอ่ะพี คนหน้าหวานหันหน้ามาเหวี่ยงใส่ผม เสียงหวานๆ เอ่ยต่ำๆ เป็นเชิงปรามอยู่ในที แต่มีหรือที่คนอย่างพีรวิชญ์จะสะทกสะท้าน
หอมเมีย........ ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงทะลึ่งทะเล้นพร้อมกับยิ้มยั่วยวนจนเขียวเสน่ห์ของผมโผล่ออกมาโชว์คนตรงหน้า ก้องบดินทร์ใบหน้าแดงก่ำก่อนที่จะทำตาโตส่งเสียงสูงปรี๊ดจนทำให้แก้วหูผมแทบสะเทือน
พี!.......ผมเป็นผู้ชายนะ จะเป็นเมียคุณได้ไง
ก็เป็นไปแล้วนี่ นี่ไง นี่ไง นี่ไง ผมพูดพร้อมกับสูดลมหายใจชิดแก้มนวลไปหลายฟอด คนหน้าหวานเบี่ยงตัวหลบปลายจมูกโด่งของผมเป็นพัลวันแต่ก็ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นมือปลาหมึกของผมอยู่ดี
พี อย่ามัวแต่เล่น นัดกินข้าวกับแม่ไว้ไม่ใช่เหรอ คนหน้าหวานดุผมประหนึ่งว่าผมเป็นเด็กนักเรียนที่ทำผิดและต้องถูกลงโทษ แต่ผมไม่กลัวหรอก คุณครูน่ารักๆ อย่างนี้จะดุผมไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ ผมยอม.........
อีกตั้งสองชั่วโมงนะ กว่าจะถึงเวลานัดอ่ะ ไม่เห็นต้องรีบเลย ว่าแล้วริมฝีปากของผมก็เริ่มเลื้อยไปตามใบหน้าและซอกคอขาวของ คุณครู อีกครั้ง ไม่รีบได้ยังไง ก็เพราะผมรู้นะสิว่าคุณจะต้องมัวแต่โอ้เอ้แบบนี้ กว่าคุณจะได้อาบน้ำแต่งตัวก็คงปาไปอีกชั่วโมงนั่นแหละ นี่...พี เอาจมูกออกไปได้แล้ว จั๊กจี้
ก็ตัวคุณหอมอ่ะ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว มานี่เลย!!
เฮ้ย.....พี นี่คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยผมนะ ปล่อยเซ่
ตุ๊บ~
พี ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ผมหนัก นี่ พูดไม่รู้เรื่องหรือไงเล่า พี ปล่....อุ๊บ
ผมออกแรงผลักคนหน้าหวานให้ล้มลงบนเตียงใหญ่สีขาวกลางห้องพร้อมกับโน้มตัวลงทาบทับก้องบดินทร์อย่างรวดเร็ว คนหน้าสวยยังคงโวยวายไม่เลิกผมก็เลยต้องใช้วิธีในแบบของพีรวิชญ์เพื่อให้เสียงหวานๆ หายกลับเข้าไปในกลีบปากสวย ผมหยอกล้อเรียวลิ้นชุ่มชื้นจนกำปั้นเล็กๆ ที่ทุบหลังผมอยู่เริ่มคลายออกแล้วเปลี่ยนเป็นโอบรอบคอผมแทน สัมผัสอ่อนหวานจากคนใต้ร่างทำเอาผมเคลิบเคลิ้มจนเกือบจะรั้งสติเอาไว้ไม่อยู่ แต่สุดท้ายผมก็ยอมตัดใจผละจากริมฝีปากอิ่มตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาก้องบดินทร์
ก้อง....คุณลืมไปแล้วหรือไง ว่าคุณอนุญาตผมเองนะว่าผมสามารถกอด จูบคุณได้อ่ะ
ขี้ตู่!!! ผมบอกว่าผมจะลองเปิดใจให้คุณใกล้ชิดกับผมมากขึ้นต่างหาก
นั่นแหละ มันก็หมายถึงกอดจูบด้วยนั่นแหละ ว่าแล้วผมก็ไล้ริมฝีปากไปตามเนื้อตัวของคนตรงหน้า ฝากรอยรักแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้จนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นที่ซอกคอขาว เนินอกอิ่ม และหน้าท้องแบนราบ ก่อนที่จะวกกลับมาที่ริมฝีปากบาง ก้องบดินทร์ปล่อยตัวปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับรสสัมผัสของผม เสียงครางแผ่วเบาที่ออกมาจากลำคอขาวยิ่งทำให้ผมบดเบียดริมฝีปากหนาเข้ากับริมฝีปากบางมากขึ้น ลิ้นร้อนของผมซอกซอนซุกไซร้ลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม และแล้วก้องบดินทร์ก็เป็นคนมีสติก่อน มือเรียวสวยผลักหน้าผมออกไปพร้อมกับหายใจหอบ
หน้าแดงเชียว ผมพูดพร้อมกับไล้นิ้วไปตามใบหน้าเรียวสวย
ฮึ่ยยยยย ที่ผมหน้าแดงผมโกรธคุณต่างหาก
เหรอคร้าบบบบ
ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว คุณโอ้เอ้อยู่นานแล้วนะ คนหน้าหวานตั้งใจผลักอกผมอย่างเอาจริงเอาจัง ผมก็เลยยอมลุกออกจากร่างหอมหวานที่อยู่ตรงหน้า
โอเคคร้าบบสุดที่ร้ากกก ผมจะไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ
ว่าแล้วผมก็ฉวยผ้าขนหนูที่แขวนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงก้องบดินทร์โวยวายอยู่ข้างนอก แต่มันทำให้ผมขำจนกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
พี นี่คุณทำอะไรกับผมเนี่ย!!!......รอยเก่ายังไม่ทันหายเลยนะ แล้วผมจะตอบคนที่บ้านว่ายังไง เค้าต้องล้อผมกันแน่ๆ เลย ฮึ่ยยยย....พีนะพี
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าอาคารค่ำมื้อนั้นที่บ้านของแม่ยายผมอะไรจะเป็นประเด็นฮ๊อตบนโต๊ะอาหาร ก้องบดินทร์ได้แต่หน้าแดงแล้วแดงอีกแล้วก็หันมางอนมาเหวี่ยงวีนใส่ผมซะงั้น ส่วนผมก็ได้แต่มองคนหน้าหวานด้วยความเอ็นดู ไอ้สงสารมันก็สงสารอยู่หรอก แต่แหม...แฟนผม สวย ขนาดนี้มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา จริงมั๊ยครับ
หลังจากที่ผมอาบน้ำอาบท่าและจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อหาอะไรทานตามที่ก้องได้บอกเอาไว้ จะว่าไปตั้งแต่ที่ผมประสบอุบัติเหตุในคราวนั้นมันก็ทำให้ผมกับก้องสนิทกันมากขึ้นจนทำให้ก้องยินยอมที่จะให้ผมเข้าไปใกล้ชิดมากกว่าเดิม เอ่อ.....ก็ยอมรับแหละครับว่าผมก็แกล้งสำออยไปบ้างอะไรบ้าง แต่มันก็คุ้มนะครับถ้ามันจะทำให้เรากลับมาเข้าใจกัน ดูอย่างวันนี้สิครับ จานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าผมถูกทำขึ้นอย่างประณีตทั้งๆ ที่ก้องเองก็มีภาระมากมายที่ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก้องต้องมาดูแลผมที่กำลังบาดเจ็บ ไม่บอกก็รู้ว่าแฟนของผมคงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ตอนนี้ผมเองก็หายดีแล้วและอยากจะทำอะไรตอบแทนความดีของก้องบ้าง ฉับพลันความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม ทำให้ผมรีบต่อสายโทรศัพท์ไปยังบ้านบุญรักษาทันที
สวัสดีครับสุดสวย บ่ายนี้คนสวยว่างมั๊ยครับ ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ทันทีที่ได้ยินเสียงห้าวของพี่ตุ่มรับสาย
ทำไมเหรอคะน้องพี จะชวนพี่ไปออกเดตเหรอคะ พี่ไม่ไปหรอกค่ะ พี่ไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของแล้ว
แหม.......สวยเลือกได้นะคร้าบบ ผมอมยิ้มขำให้กับมุขของคนที่อยู่ปลายสายก่อนที่จะได้ยินเสียงเจือหัวเราะของพี่ตุ่มตอบกลับมา
พอเถอะค่ะน้องพี ว่าแต่ที่โทรมามาชวนพี่ออกไปข้างนอกเนี่ยมีอะไรเหรอคะ
คือ ผมว่าผม เอ่อ.......ผม คือว่า.....
โอ๊ย.....น้องพีคะ คือๆ เอ่อๆ อยู่นั่นแหละ แล้ววันนี้มันจะรู้เรื่องกันมั๊ยคะเนี่ย
คร้าบ คร้าบ พูดเดี๋ยวนี้แล้วคร้าบ คือ......ผมอยากจะทำอาหารเย็นนี้น่ะครับ พี่ตุ่มมาช่วยผมหน่อยสิ
น้องพีนึกอะไรขึ้นมาคะเนี่ยถึงจะลุกขึ้นมาทำอาหาร ผีแม่บ้านแม่เรือนเข้าสิงเหรอคะ
นี่พี่ตุ่มหาว่าผมผีเข้าเหรอครับ แหม....คนผีเข้าที่ไหนจะหล่อขนาดนี้
ค่ะ หล่อค่ะ หล่อมาก ม๊าก มาก ค่ะ ฟังน้ำเสียงพี่ตุ่มสิครับ ช่างน่าเชื่อถือจริงๆ
เอาเถอะครับ เอาเป็นว่าผมรู้อยู่ในใจแล้วกันว่าผมหล่อ ผมหัวเราะน้อยๆ ให้กับประโยคหลงตัวเองที่ผมกล้าพูดออมาก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่องสักที
คือว่าวันนี้ผมอยากทำอาหารให้ก้องทานบ้างน่ะครับ ที่ผ่านมาก้องเค้าคงเหนื่อยกับผมมาเยอะ ผมก็อยากเอาใจเค้าบ้างน่ะครับ"
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง น้องพีนี่น่ารักจังเลยนะคะ พี่อ่ะอยากได้แบบน้องพีสักคนบ้างจัง
คงไม่มีแล้วล่ะครับพี่ตุ่ม เพราะรุ่นนี้มันเป็นลิมิเตดอิดิชั่นมีแค่คนนี้คนเดียวครับและก้องก็เป็นเจ้าของไปแล้วเรียบร้อย เสียใจด้วยนะครับสุดสวย ผมหัวเราะอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงห้าวโวยวายตอบมาตามสาย
เอาเป็นว่าเดี๋ยวบ่ายสองผมไปรับนะครับ ขอบคุณพี่ตุ่มมากๆ เลยที่ช่วยผม แล้วเจอกันนะครับ สวัสดีครับ
เมื่อถึงเวลานัดหมาย พี่ตุ่มผู้ช่วยตัวเอ้ของผมก็พาผมไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งใกล้ๆ คอนโด จริงๆ ผมเองก็พอมีความรู้อยู่บ้างว่าจะต้องเลือกซื้อของสดยังไงให้ได้ของที่ดีและมีคุณภาพเพราะผมต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังอยู่ที่เมืองนอกมานานหลายปี แต่ที่ผมให้พี่ตุ่มมาช่วยก็เพราะว่าผมอยากให้อาหารที่ผมทำในวันนี้มันปราณีตและพิเศษกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่เราซื้อของกันเสร็จเรียบร้อยแล้วผมก็พาพี่ตุ่มกลับมาที่คอนโดและลงมือปรุงอาหารสุดพิเศษเพื่อเซอร์ไพรคนรักของผมทันที
น้องพีคะ จริงๆ พี่ว่าน้องพีไม่ต้องให้พี่มาช่วยก็ได้นะคะ เห็นทำคล่องซะเป็นกุ๊กมืออาชีพซะขนาดเนี๊ยะ พี่อ่ะอดแสดงฝีมือเลย
แหม อย่าเพิ่งงอนซิครับพี่ตุ่ม ที่ผมให้พี่ตุ่มมาเนี่ยก็ให้พี่ตุ่มมาช่วยชิมน่ะครับว่ารสชาติที่ผมทำจะถูกใจก้องเค้าหรือเปล่า อ่ะ พี่ตุ่มชิมหน่อยนะครับ ว่าแล้วผมก็ตักน้ำแกงของแกงส้มยอดกระถินให้พี่ตุ่มชิมไปหนึ่งช้อน
อืม....พี่ว่าใช้ได้แล้วนะคะน้องพี เนี่ยแสดงว่าน้องพีทานอาหารฝีมือน้องก้องทุกวันจนจำรสมือของน้องก้องได้แล้วนะคะ พี่ถามจริงๆ เถอะค่ะว่าเวลาน้องทั้งสองคนอยู่ด้วยกันเนี่ยะมดมันขึ้นมาไต่ขึ้นมาตอมขึ้นมากัดกันบ้างไหมคะเนี่ย
ฮ่า ฮ่า พี่ตุ่มครับ ระดับนี้แล้ว มดยังกลัวเลยครับ ไปครับพี่ เราไปตั้งโต๊ะกันดีกว่า กับข้าวเสร็จหมดแล้ว ว่าแล้วผมก็เดินลิ่วๆ นำหน้าพี่ตุ่มยกชามแกงส้มหอมกรุ่นไปวางไว้ที่โต๊ะอาหาร และหลังจากนั้นไม่นานพี่ตุ่มก็ยกจานกับข้าวรายการอื่นๆ ออกมาสมทบ ผมนั่งรอก้องอยู่โต๊ะอาหารอย่างใจจดใจจ่อ อยากรู้จัง.......ว่าก้องจะชอบอาหารที่ผมทำหรือเปล่า
ผมนั่งรอก้องบดินทร์อยู่ได้เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงไขกุญแจลูกบิดประตู ผมอมยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ก้องกลับมาแล้ว.....เอาล่ะ พอก้องมองเห็นโต๊ะอาหารที่เต็มกับด้วยกับข้าวฝีมือผมมากมายหลายอย่างก้องจะต้องตาโตด้วยความแปลกใจระคนทึ่งในฝีมือของผมแน่ๆ หึหึ ประตูคอนโดเปิดออกช้าๆ และแล้วร่างของคนหน้าหวานก็ปรากฏแก่สายตาของผม ผมยิ้มหวานให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่ผมเองจะงงเป็นไก่ตาแตก ก็จะอะไรซะอีกล่ะครับ ทั้งแม่ฟอง พี่แก้ว พี่ปอ เจ๋ง และ เอ่อ......ไอ้นิค มากันพร้อมหน้าพร้อมตา ผมมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ทีสลับกันด้วยความงุนงง ตอนนี้หน้าของผมมันคงจะตลกมาก ก็ดูสิครับ ที่รักของผมกลั้นหัวเราะซะจนหน้าแดงไปหมด นี่มันอะไรกันเนี่ย แทนที่ผมจะเป็นฝ่ายเซอร์ไพรก้องแต่กลับเป็นผมเองที่ถูกเซอร์ไพร เอาล่ะสิทีนี้ ไปไม่เป็นเลยเว้ยเฮ้ยไอ้พี
สวัสดีครับแม่ฟอง พี่แก้ว พี่ปอ ผมกระพุ่มมือไหว้ แม่ยาย พี่สะใภ้ และพี่เขย อย่างนอบน้อม และจงใจที่จะมองผ่านชายหนุ่มร่างสูงคนนั้น และหันไปทักทายลูกคู่พี่ตุ่มแทน
ไงเจ๋ง สบายดีนะ
ก็ไม่ค่อยสบายหรอกครับ ถูกเจ๊ตุ่มใช้งานตลอด อย่างกับเจ๋งเป็นวัวเป็นควาย
อะไร อะไร ไอ้เจ๋ง ฉันได้ยินนะ เดี๋ยวฉันก็แช่งให้แกเป็นวัวเป็นควายไปจริงๆ หรอก
เอาล่ะครับๆ ผมว่าเราทุกคนไปนั่งคุยกันที่โต๊ะอาหารดีกว่า ยืนคุยกันแบบนี้นานๆ เดี๋ยวมันจะเมื่อยเอานะครับ ผมรีบเบรคศึกย่อมๆ ระหว่างคู่หูสุดฮาก่อนที่มันจะเลยเถิดใหญ่โตไปมากกว่านี้ และระหว่างที่ทุกคนเดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารในครัว ผมก็รีบฉวยข้อมือของก้องเอาไว้แล้วแยกให้ไปคุยกันสองคนบนโซฟาหน้าทีวี
ก้อง...นี่มันอะไรกัน ทำไมทุกคนถึงมารวมตัวกันที่ห้องผมได้เนี่ย แล้วที่สำคัญ ไอ้นิคมาได้ยังไง คุณตอบมาด่วนๆ เลยนะ ผมหึง
อะไรกันอ่ะพี เจอหน้ากันก็รัวคำถามเป็นชุดเลยนะ คนหน้าสวยอมยิ้มบางๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ผมล่ะอยากจะบีบจมูกโด่งๆ นั่นให้หายหมั่นเขี้ยวสักที ไม่รู้ว่าไปเอาท่าทางเจ้าเล่ห์แบบนั้นมาจากไหน มันน่า........ซะจริงๆ เลย
คุณจะตอบดีๆ หรือจะให้ผมจูบ หืม.... ว่าแล้วผมก็ถือวิสาสะโอบเอวก้องเอาไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ได้ผล คนหน้าหวานหลับตาปี๋พร้อมกับใช้มือเรียวสวยยันหน้าอกผมไว้
โอเคๆ ผมตอบแล้ว นี่คุณ เอาหน้าออกไปสิ!!! เร็วๆ ฟังอยู่
ก็วันนี้ผมไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล แล้วพี่นิคก็ไปรับผม นี่เดี๋ยวสิ!!!!!! ผมยังพูดไม่จบเลย
หาเหตุผลดีๆ สักหนึ่งข้อมาอธิบายผมเดี๋ยวนี้ว่าทำไมไม่โทรให้ผมไปรับ ผมส่งเสียงคำรามต่ำๆ ขู่คนตรงหน้า หลังจากที่เพิ่งถอนจมูกออกจากซอกคอขาว
ก็...แม่โทรมาบอกว่าคุณกำลังยุ่งทำกับข้าวให้ผมทานอยู่ ผมก็เลยไม่อยากกวน
อึ้งครับ อึ้งกันไปเลย
แล้ว แล้วแม่ฟองรู้ได้ยังไง ผมทำตาโตใส่คนตรงหน้า ตกลงวันนี้เป็นวันบิ๊กเซอร์ไพรของผมใช่มั๊ยเนี่ย
พี่ตุ่มบอก
โอเค......ผมรู้แล้วว่าจะไปจัดการที่ใคร ไปก้อง ไปกินข้าวกัน
หลังจากที่ผมกับก้องนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว ผู้สูงวัยที่สุดในที่นี้ก็เอ่ยทักทายผมด้วยความอ่อนโยน
พ่อพี หายดีแล้วหรือยังลูก ยังเจ็บยังปวดตรงไหนอีกหรือเปล่า
ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับแม่ฟอง ขอบคุณคุณแม่มากนะครับที่เป็นห่วง
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ แม่จะได้เบาใจ ที่วันนี้แม่มาที่นี่ก็เพราะเป็นห่วงพ่อพีเนี่ยแหละ อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ
ก็ลูกชายคนโปรดทั้งคนจะไม่ห่วงได้ไงใช่มั๊ยครับ ผมส่งยิ้มกว้างไปให้แม่ฟองที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ แต่แล้วก็ไม่วายได้ยินเสียงแซวดังมาจาก ผู้ช่วยจำเป็น
แหม ก็น้องพีขี้อ้อนขนาดนี้ถ้าไม่ได้เป็นลูกชายสุดโปรดก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะคะ ทุกคนพร้อมใจกันส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอย่างครื้นเครง ผมเหลือบมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งติดกับเจ๋งพร้อมกับลอบยิ้มด้วยความสะใจที่ไอ้หมอนั่นถูกกันออกจากวงสนทนา สีหน้าเหมือนคนเบื่อโลกของไอ้นิคบ่งบอกได้อย่างดีว่ามันเป็นเพียงแค่ส่วนเกิน
ไม่ต้องมาแซวผมเลยครับพี่ตุ่ม เรามีเรื่องให้ต้องสะสางกันยาวนะครับ
เรื่องอะไรเหรอคะน้องพี พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย
แทนที่ผมจะตอบคำถามของกระเทยสาวตรงหน้า แต่ผมกลับเลือกที่จะคุยกับแม่ยายแทน
เอ่อ...แม่ฟองครับ พี่ตุ่มบอกคุณแม่ใช่มั๊ยครับว่าผมจะทำอาหารให้ก้องทาน
ใช่.....มีอะไรหรือเปล่าลูก
ก็.....ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่กะจะทำอาหารเซอร์ไพรก้องนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าทุกคนกลับรู้เรื่องกันหมดเลย คุณแม่ว่าผมควรจะต้องคาดโทษกับใครดีครับ
และแล้วทุกคนบนโต๊ะอาหารก็ใช้สายตามองไปที่พี่ตุ่มเป็นจุดเดียว คนที่ตกเป็นเป้าสายตามองซ้ายทีขวาทีอย่างงงงวย
อ้าว นี่ตกลงน้องพีจะทำอาหารเซอร์ไพรน้องก้องเหรอคะ
ครับ แล้วทำไมทุกคนถึงรู้เรื่องกันหมดล่ะครับ ผมแกล้งตีหน้ายักษ์ใส่เจ๊ตุ่ม ดูซิ......สีหน้าพี่ตุ่มตอนนี้นี่ตลกชะมัดเลย
ก็น้องพีไม่ได้บอกพี่นี่คะว่าจะเซอร์ไพรน้องก้อง นึกดูดีๆ สิคะ
ผมนั่งทบทวนคำพูดที่ผมพูดกับเจ๊ตุ่มไปเมื่อตอนสายๆ เออ....จริงแหะ คดีพลิก
แหะๆ จริงด้วยครับพี่ตุ่ม ผมนี่มันปลาทองเน๊อะ ขี้หลงขี้ลืม ผมส่งยิ้มละลายหัวใจไปให้กับคู่กรณี ได้ผล.....พี่ตุ่มเลิกทำหน้ามุ่ยแล้วกลับมายิ้มให้ผมแทน
เอาเถอะค่ะ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็แล้วกันไปเถอะนะคะ เรามาทานข้าวกันดีกว่าค่ะ ว่าแล้วทุกคนก็จัดการกับอาหารตรงหน้าด้วยความเอร็ดอร่อย พี่ปอคอยตักกับข้าวให้พี่แก้วตลอดเวลา ส่วนผมเองก็คอยตักกับข้าวให้ทั้งแม่และเมียสุดที่รัก ดูท่าทางแล้วก้องคงชอบอาหารที่ผมทำเพราะเห็นกินเอากินเอาไม่หยุดเลย
อร่อยมั๊ยก้อง
อืม....ก็ ก็โอเค
เหรอ แต่ผมเห็นคุณกินเอาๆ ยังไม่หยุดเลยนะเนี่ย
นี่คุณ.....
น้องก้องครับ น้ำหมดแก้วแล้ว เดี๋ยวพี่เติมให้นะ ไอ้ตี๋นั่นเงียบไปได้ตั้งนาน ตอนนี้มันกลับมาแผลงฤทธิ์อีกแล้ว
ไม่เป็นไรครับคุณนิค ครอบครัวผม ผมดูแลได้ ไม่ต้องให้ คนอื่น มาวุ่นวายหรอกครับ ผมเน้นเสียงคำว่าครอบครัวและคนอื่นเพื่อหวังให้ไอ้หมอนั่นมันจำได้สักทีว่าผมกับก้องแต่งงานกันแล้ว แต่สายตาของมันดูเหมือนว่ามันจะไม่เข้าใจอะไรๆ เอาเสียเลย
เอ่อไม่เป็นไรหรอกครับพี่นิค ไม่เป็นไรนะพีผมดูแลตัวเองได้ แล้วใบหน้าหวานๆ ของก้องบดินทร์ก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าของผมพร้อมกับเสียงทุ้มนุ่นที่กระซิบข้างใบหู
พี ผมขอนะอย่าทะเลาะกันต่อหน้าแม่เลย
ผมเหลือบมองคนหน้าสวยชั่วขณะ ดวงตากลมโตมีแววขอร้อง อ้อนวอน ไม่ใช่ชวนทะเลาะ ผมทำหน้ามุ่ยพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเอื้อมมือไปกุมมือเรียวสวยของก้องเอาไว้ โอเคก้อง ที่ผมยอมเนี่ยเพราะเห็นแก่คุณ เห็นแก่แม่คุณหรอกนะ
ขอบคุณนะพี
เพียงเท่านี้ เพียงแค่คำพูดแค่ไม่กี่คำ กับรอยยิ้มบางๆ ของคนตรงหน้ามันก็มีอานุภาพมากพอที่จะทำให้ผมคลายความหงุดหงิดทั้งหลายทั้งปวงลงไปได้ในชั่วพริบตา
ติ้งหน่อง~
ใครมานะ ผมคิดอยู่ในใจด้วยความสงสัย ทุกคนบนโต๊ะอาหารต่างเลิกสนใจกับอาหารตรงหน้าไปชั่วขณะ ฉับพลันสายตาของผมก็สะดุดเข้ากับไอ้หน้าตี๋นั่นที่มันลอบยิ้มแปลกๆ ท่าทางของมันทำให้ผมสงสัย แต่.....คงไม่มีอะไรหรอกมั๊ง
ทุกคนครับ ผมขอตัวสักครู่นะครับ ว่าแล้วผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและเดินไปที่ประตูห้องของคอนโดอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ประตูเปิดออก ร่างของนางเอกสาวก็ปรากฏให้เห็นแก่สายตา
สวัสดีค่ะพี ไอรินขอทานข้าวด้วยคนสิคะ
เอ่อ......วันนี้ผมไม่สะดวกนะไอริน คุณกลับไปก่อนเถอะ
ใครมาหรือครับคุณพีรวิชญ์ ใจคอคุณจะไม่เชิญแขกเข้ามาในห้องหน่อยหรือไง เสียงห้าวๆ ของคนที่ผมไม่ถูกชะตาดังขึ้นมาทันทีที่บานประตูเปิดออก ผมหันไปมองหน้ามันอย่างขุ่นเคืองแล้วก็ต้องพบกับแววตาท้าทายที่มันส่งตอบกลับมา ผมหันกลับมามองผู้หญิงหน้าสวยแล้วก็ต้องแปลกใจที่ไอรินทำท่าทำทางเหมือนจะสื่อสารกับไอ้นิค ว่าแต่...ทั้งสองคนนี้เค้าไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่
ใครมาล่ะพ่อพี เพื่อนพ่อพีเหรอลูกเข้ามาก่อนสิ เสียงแม่ฟองดังขึ้นมาจากโต๊ะอาหาร ทำให้ผมต้องต้อนรับไอรินเข้ามาในห้องอย่างเสียไม่ได้
นั่งก่อนสิลูก กินข้าวกินปลามาหรือยังค่ะ กินด้วยกันสิ ทันทีที่สิ้นเสียงแม่ฟองนางเอกหน้าสวยก็อัญเชิญตัวเองมานั่งที่โต๊ะอาหารทันที
ขอบคุณค่ะ เอ่อ....
คุณแม่ผมเองครับ แม่ฟองจันทร์ ผมเอ่ยแนะนำแม่ยายของผมให้ไอรินรู้จัก นางเอกสาวกระพุ่มมือไหว้ตามมารยาทแล้วหันมาถามผมด้วยความสงสัย
พีคะ แม่คุณเสียไปตั้งนานแล้วไมใช่เหรอ
แม่ยายอ่ะค่ะ คุณน้อง เอ่อ...น้องอะไรนะคะ เป็นพี่ตุ่มนั่นเองครับที่ตอบข้อสงสัยของไอริณแทนผม ก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนามของคนตรงหน้าตามสูตร
ไอรินค่ะ เรียกรินเฉยๆ ก็ได้
ผมเหลือบไปมองสีหน้าของคนรักที่บัดนี้หน้ายุ่งอย่างเห็นได้ชัด คิ้วของคนข้างขมวดมุ่น มือเรียวสวยตักอาหารเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย นั่นแน่ หึงล่ะสิ
ก้อง....กินเอาๆ แบบนั้นเดี๋ยวก็อ้วนแย่หรอก ไม่กลัวผมหล่อกว่าหรือไง
เฮอะ ใช่สิผมมันอ้วน ไม่ได้หุ่นสแลนเดอร์เหมือนแม่นางเอกของคุณนี่"
หึงเหรอ
บ้า....เปล่าซะหน่อย ดู๊ดู บอกว่าเปล่าแต่หน้าแดงแปร๊ด
หึหึ น่ารักที่สุดเลยแฟนผม เอาเป็นว่าตอนนี้คุณทานข้าวไปก่อนนะครับ ไว้ให้ทุกคนกลับกันหมดแล้วผมจะง้อคุณทีหลัง โอเค๊
คนหน้าหวานไม่ตอบว่าอะไร แต่สังเกตจากสีหน้าแววตาของก้องบดินทร์แล้วผมก็ใจชื้นขึ้นมาทันที คิดว่าคืนนี้ยังไงๆ ก็คงจะเคลียร์กันได้ไม่ยากชัวร์
เมื่อเราทุกคนรับประทานของคาวกันเสร็จเรียบร้อย ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านก็กล่าวขึ้นกับทุกคนบนโต๊ะอาหารพร้อมๆ กับพี่ตุ่มและเจ๋งช่วยกันเสิร์ฟของหวานตบท้าย
วันศุกร์หน้าจะเป็นวันเกิดของแม่ ทุกคนจะว่ายังไงบ้างถ้าแม่อยากจะไปฉลองวันเกิดที่ระยองอีกครั้ง
ก็ดีนะคะแม่ เราไม่ได้ไประยองพร้อมกันทั้งครอบครัวมาตั้งนานแล้ว พี่แก้วตอบแม่ฟองออกไปด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปมองหน้าทุกคนอย่างอารมณ์ดี
แม่ก็กะว่าจะให้งานวันเกิดในครั้งนี้เป็นงานรับขวัญพ่อพีเค้าด้วย ดีมั๊ยก้อง
ก็....แล้วแต่แม่สิจ๊ะ แม่ว่าดีก้องก็ว่าดี
นิค ไปด้วยกันมั๊ย เสียงหวานๆ ของพี่แก้วเอ่ยชวนไอ้ตี๋นั่น แต่...เอ่อ...พี่แก้วครับ ถึงมันจะเป็นเพื่อนซี้พี่แก้วแต่มันก็เป็นมารหัวใจของผมนะครับ พี่แก้วจะชวนมันมาทำพะแต้วอะไรครับเนี่ย พี่สะใภ้ผมนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ไปสิแก้ว ไปกันหลายๆ คนสนุกดี ใช่มั๊ยครับป้าฟอง ผู้อาวุโสของบ้านส่งยิ้มออกมาให้อย่างใจดี ก่อนที่หันไปหานางเอกสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับไอ้นิค
หนูไอรินก็มาด้วยกันสิจ๊ะ ถ้าไม่รังเกียจครอบครัวของป้า โอ้.....ไม่นะครับ คุณแม่อย่าเพิ่งมาแฟรนด์ลี่อะไรเอาตอนสิครับ
ไม่รังเกียจอะไรเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ชวนไอรินไปด้วย ไอรินอยากไปเที่ยวทะเลมานานแล้วค่ะแต่ไม่มีโอกาสสักที งั้นไอรินไปด้วยนะคะ
โอ๊ย...อยากจะบ้า สงสัยงานที่ระยองคราวนี้คงจะสนุกดีพิลึกล่ะ
Create Date : 27 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 0:06:29 น. |
|
4 comments
|
Counter : 472 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แป้ง วารุณี IP: 115.87.186.221 วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:0:39:48 น. |
|
|
|
โดย: เจ้าพุงโต IP: 49.230.14.146 วันที่: 28 พฤษภาคม 2554 เวลา:12:54:52 น. |
|
|
|
โดย: ไข่มุกดำ IP: 223.204.114.6 วันที่: 30 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:19:58 น. |
|
|
|
โดย: lek^lek. IP: 49.48.141.41 วันที่: 30 พฤษภาคม 2554 เวลา:20:56:59 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
เป็นนัก (หัด) เขียน ที่ได้แรงบันดาลใจในการแต่งเรื่องสั้นเรื่องแรกมาจากความน่ารักของตัวละคร พีรวิชญ์ และ ก้องบดินทร์ จากละครเรื่องพรุ่งนี้ก็รักเธอ โดยปกติจะเป็นนักศึกษาทุนในระดับปริญญาโทสาขาชีวเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ แต่เมื่อไหร่ที่ความเวิ่นเว้อบังเกิดก็จะแปลงร่างจากสาวเนิร์ด เป็นสาววายทันที ^^" นอกจากนี้ยังชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ และมีความใฝ่ฝันว่าสักวันฉันจะได้ออกเทป (หุหุ) บางครั้งในเวลาว่างๆ ก็จะแต่งเพลง แต่งกลอน ออกมาอยู่เสมอ จนบางครั้งคนรอบข้างถึงกับแซวว่าเธอน่าจะไปเรียนอักษรหรือนิเทศมากกว่าชีวโมเลกุลนะ --"
|
|
|
|
|
|
|
|
ตัวมารรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร
ขอบคุณเอสกะปอมากค่า