สะพายกล้องท่องเขาใหญ่ วังน้ำเขียว ** PrimO PostO - เดิน ดิน ดู ดาว - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ **

ออกจากกรุงเทพฯประมาณ 7.30น. ไปถึง PrimO ตอน 9.10 นาทีมีรถจอดอยู่ประมาณ 5 คันเองครับ




แอบดีใจ เพราะเห็นว่าเป็นวันเสาร์ น่าจะเริ่มมีคนแล้ว แต่ก็อย่างว่าเพิ่งเปิดได้ 10 นาทีนี่นา


จ่ายค่าเข้าตามปกติเหมือนที่รู้กันแล้วครับ 55 บาทสามารถเอาไปใช้แลกซื้ออาหาร เครื่องดื่ม หรือของที่ระลึกได้ด้านในครับ


ไปเช้าๆดีอย่างครับ ยังไม่ต้องไปแย่งมุมถ่ายรูปกับคนอื่นๆ


ยังสามารถเดินถ่ายไปเรื่อยๆ ไม่มีคนเดินไปมาในเฟรม


เป็นหนึ่งโลเคชั่นที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพแนว Portrait มากครับ


ไปเที่ยวคราวนี้เลยได้ใช้เลนส์ Fix มากกว่าเลนส์เทเลฯครับ


เห็นแบบนี้แล้วอยากกลับบ้านมาทาสีใหม่ เปลี่ยนเป็นสีแบบนี้ครับ


แล้วก็หาต้นไม้มาเกาะให้เป็นแบบนี้ คล้ายๆตีนตุ๊กแกแต่ก็ไม่น่าใช่


รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ


ทั้งวิวและสิ่งปลูกสร้างทำให้นึกว่าอยู่ต่างประเทศครับ


สวนสวยๆ แต่ผมว่าสวนเล็กไปหน่อยนะครับ


คนชอบถ่ายภาพก็มีความสุขอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ได้ถ่ายภาพจะสวยไม่สวยก็มีความสุขแล้ว


ด้านหลังเป็นไร่องุ่นครับ แต่ตอนที่ไปดูมันเฉาๆไปหมด คงเพราะอากาศเริ่มร้อนแล้ว


อยู่ในไร่องุ่นหันกลับมาก็จะเจออาคารด้านหลัง มีเก้าอี้ให้นั่ง ถ้าเป็นตอนเย็นๆคงน่านั่งเหมือนกันครับ แต่แดดเปรี้ยงขนาดนี้ นางแบบผมยังบายเลยครับ


หลังหน้าต่างนี้จะเป็นร้านอาหารครับ แต่ 10 โมงแล้วยังไม่เปิดเลย


ผ่านไปไวเหมือนโกหก เดินเปลี่ยนเลนส์ไปมาจนเริ่มเหนื่อยครับ


กวนดีครับ ไปจับหินดูหินเปียกเลยครับ แต่อากาศร้อนตับแทบแตก สงสัยจะใช้กะเมืองไทยไม่ได้


ดูก็รู้ว่ามุมมหาชนเหมือนกัน เพราะว่าทางเดินหญ้าตายเป็นหย่อมเลยครับ


แดดเริ่มแรง นางแบบเริ่มไม่อยากถ่าย คนก็เริ่มเยอะขึ้น เลยตัดสินใจพอดีกว่า รูปนี้ถ่ายจากด้านหน้าทะลุไปด้านหลังเห็นไร่องุ่นกว้างเชียวครับ


ชอบถ่ายมุมเงยครับ ด้านล่างเลยแหว่งๆอย่างที่เห็นแทบทุกรูป 555


ลา PrimO ด้วยภาพนี้ครับ
วันที่ไปฟ้าใสมากครับ ไม่มีเมฆเลย ใส่ CPL เข้าไปเลยได้ฟ้าสีจัดๆแบบที่เห็น

การเดินทางไป PrimO ผมใช้เส้นทางที่ต้องเลี้ยวกลับรถเข้าซอย Dairy Home ครับ ถ้ามาจากสระบุรีขับเลยมวกเหล็กมาหน่อยถึงตรงฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์กก็เตรียมกลับรถครับ ควรระวังรถขาเข้ากรุงเทพฯด้วยนะครับเพราะขับกันเร็วมากเนื่องจากเป็นทางลงเขาครับ

เลี้ยวเข้าถนนเล็กๆมาได้ก็ขับไปเรื่อยๆ ไกลเหมือนกันครับแต่ถนนดี ขับชมวิวไปเรื่อยๆไม่นานก็ถึง ขับเพลินจนผมเกือบเลยเหมือนกันครับ


ปลายทางต่อไป .. คืนแรกจองที่พักไว้ที่ เดิน ดิน ดู ดาว ครับ


รีสอร์ทเดินทางไปทางวังน้ำเขียวครับ ขับรถไปเกือบจะถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีทางเลี้ยวซ้ายไปเขาแผงม้า วังน้ำเขียว ถนนช่วงนี้ดีเป็นบางช่วงครับ แต่ก็ไม่ได้ขับยากลำบากอะไร

จากปากทางถนนใหญ่เข้าเข้าไปน่าจะประมาณเกือบๆ 2 กิโลเมตรก็จะถึงตัวรีสอร์ทครับ

รูปนี้ถ่ายให้เห็นรีสอร์ทจากเขาอีกลูกนึงครับ


ขับมาถึงรีสอร์ทก็ตรงเข้าไปที่ส่วนที่เป็นห้องอาหาร ที่ใช้เป็นที่ต้อนรับด้วยครับ ซึ่งจะอยู่ด้านล่างของรีสอร์ท

วิวจากลานจอดรถด้านหน้าห้องอาหารครับ


ตอนนี้ที่รีสอร์ทน่าจะมีห้องพักอยู่ 8 หลังครับ ราคาต่างกันนิดหน่อย ตอนจองเต็มหมดเหลือแค่ห้องชื่อ ชมตะวัน ซึ่งอยู่ด้านล่างข้างๆกับห้องอาหารเลยครับ ห้องนี้ล่ะครับ


ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องวิวเท่าไหร่ เพราะมาครั้งแรกอยากมาซึมซับบรรยากาศมากกว่า (ดันมาอยากซึมเอาจะเข้าฤดูร้อน) เลยตัดสินใจจองเลยครับ

ขออนุญาตไม่เอารูปในห้องพักให้ดูนะครับ เพราะเละตั้งแต่เข้าไปเลย อากาศตอนบ่ายๆร้อนมากๆครับ แค่กลางเดือนก.พ. ไม่น่าร้อนขนาดนี้ ดีที่มีลมพัดตลอดเวลาครับ

พาชมรอบๆดีกว่า ...


ห้องพักในรีสอร์ทไล่ระดับตามเนินเข้าลดหลั่นกันลงมาครับ คิดว่าไม่น่าจะทำห้องพักแค่นี้นะ เพราะก็เห็นกำลังต่อเติมกันอยู่ด้วย ที่ยังเหลืออยู่เยอะครับ

ขับรถขึ้นไปดูบ้านหลังอื่นๆหน่อย เดินไม่ไหวครับ


อ้อ ... แต่บ้านแบบนี้แบ่งเป็น 2 ชั้นนะครับ แยกกันเป็น 2 ห้อง อาจจะไม่สวนตัวเท่าไหร่ถ้าไม่ได้ไป 2 คู่


ข้างบนชื่อชมจันทร์ ด้านล่างชื่อระเบียงจันทร์ครับ มีทางขึ้นแยกกันนะครับ


ด้านบนสุดจะเป็นบ้านแฝดครับ สามารถชมวิวจากตัวห้องได้ 360 องศา อยากได้ห้องนี้แต่ดันเต็มครับ ตอนไปไม่ได้ไปถ่ายเพราะมีแขกเข้าพักครับ ไม่อยากรบกวน

แต่รับรองได้ว่าวิวสวยมากครับ


ก่อนลงไปด้านล่างขออีก 1 รูป


แถวๆนี้มีรีสอร์ทหลายแห่งครับ อยู่ติดๆกันเลย เลยดูไม่เหงา ถนนทางเข้ามาก็เป็นทางราดยางครับไม่ลำบากอะไร

หิวแล้วหาอะไรกินดีกว่า ... เนื่องจากตอนไปเริ่มจำกัดอาหารเพราะตัวพองมากแล้วครับ เมนูแรกของทริปนี้เลยเป็นผัดเห็ดออรินจิครับ อ๊ะ!! .. อย่าดูถูกอร่อยเชียวครับ ฟาดคนเดียวหมดจานเพราะนางแบบที่ไปด้วยไม่กินผักครับ เลยปล่อยให้ซัดไข่เจียวไปแทน


เมนูอาหารดูน้อยไปหน่อย แต่น่าจะอร่อยทั้งหมดนะครับ ดูจากของที่สั่งมา อีกอย่างเป็นหมูทอดกระเทียมพริกไทย (ไม่ได้ถ่ายครับ เข้าท้องไปแล้ว)

มีเจ้าบ้านมาต้อนรับด้วย ... ต่อยมวยกะผมไปหลายยกเหมือนกัน คนข้างๆหัวเราะใหญ่ อยู่กรุงเทพฯไม่เคยเห็น


อิ่มแล้วก็เข้าห้องพักครับ ห้องพักใหญ่ทีเดียวครับ เตียงเป็น King Size ตู้เย็นเล็กๆ มีน้ำให้ 2 ขวดครับ ไม่มีอย่างอื่น แอร์ตอนกลางวันผมว่ามันรับไม่ไหวครับ ร้อนอยู่เหมือนกัน แต่กลางคืนนอนสบายครับ ห้องน้ำเป็น Open Air มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ครับ มี TV LCD เครื่องเล็กๆ และมีจานดาวเทียมครับ

** สิ่งที่ผมว่ามันแย่คือน้ำใช้ครับ ใช้น้ำไม่ได้เลย มันดูออกเหลืองๆ ต้องใช้น้ำขวดล้างหน้ากันเลยครับ ปรับปรุงด่วนๆจะดีมากครับ เพราะอย่างอื่นก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย ระบบกรองน้ำคงไม่ค่อยดี

หลังจากนอนพักเอาแรงกันไม่นานก็ตั้งใจจะออกไปผาเก็บตะวันครับ
ขับชมวิวกันไปเรื่อยๆ อ้าวนี่ไง.. เวลาเวียนเลยมานิดเดียวเอง อ้าว..วิลล่าเขาแผงม้าอยู่นี่เองหรอ อ้าวแวะหน่อยๆกำลังเริ่มดัง a cup of love นั่งเอง


แต่แวะถ่ายด้านนอกอย่างเดียวนะครับ เพราะว่าคนเพียบรถจอดเต็มเลย ไม่อยากเบียด แถมไม่มีมุมให้ถ่ายรูปแน่ๆ กดมาอีกรูป กำลังเริ่งมือสร้างกันใหญ่


ขับต่อ ... จุดหมายคือผาเก็บตะวันครับ ขับรถไปทางบ.ไทยสามัคคี ขับไปเรื่อยๆโดยมองป้ายเอาครับ ทางแถวๆบ.ไทยสามัคคีตอนนี้กำลังปรับปรุงครับ อาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ อาศัยขับตามป้ายของกรมทางหลวงสีเขียวๆ เลยบ.ไทยสามัคคีมาหน่อยจะมีทางแยกเลี้ยวไปทางบ้านไร่โอโซนครับ เราต้องตรงไปเพราะป้ายสีเขียวบอกแบบนั้น ทางต่อไปจะเป็นลูกรัง เห็นทุ่งหญ้าแล้วครับ รีบวิ่งถือกล้องลงไปเลย นางแบบเกือบตามไม่ทัน


หามานานครับ ทุ่งแบบนี้ในกรุงเทพฯมันมีที่ไหน นางแบบก็ต้องลำบากไปกะผมด้วยเพราะเดินเข้าไปกลางทุ่งมันง่ายที่ไหน จะมีสัตว์อะไรโผล่มามั๊ย เดินไม่ดีก็เหยียบตอหญ้าเจ็บอีก ถึงตรงนี้ต้องขอบคุณนางแบบครับที่ทนทรหดไปกับผมทริปนี้ haha

ถ่ายกันสนุกสนานโดยหารู้ไม่ว่าความซวยกำลังมาเยือน ระหว่างนั้นก็มีรถขับตามมาเรื่อยๆ มีแวะถามเราอีกว่าใช่ทางไปผาเก็บตะวันมั๊ย เราบอกไม่แน่ใจ แต่น่าจะใช่เพราะป้ายเขียวชี้ให้ตรงมา แต่บอกเค้าว่ารถพี่ City ป้ายแดงอยู่เลยถนนแบบนี้ผมไม่รู้จะไปได้มั๊ยนะ สรุปเค้าถอยกลับครับไม่ไปต่อ(เค้าโชคดี)

กดมาอีกรูป


ถ่ายเสร็จเห็นว่าเริ่มเย็นมากแล้วกลัวไปดูพระอาทิตย์ไม่ทัน เลยขับไปกันต่อ มีรถ Space Wagon นำหน้าเราไป 1 คัน กระบะตามหลังมาอีก 1 คัน หารู้ไม่ .... หลงกันหมด

ขับตามๆกันไปห่างๆ เริ่มเอะใจว่าถึงมันจะลูกรังแต่ก็ไม่น่าจะรกมากขนาดนี้ เข้าไปลึกพอสมควรทางก็เริ่มไม่ดีมากขึ้น จนสุดท้ายคันหน้าเค้าจอด เราตามไปจนเห็นชัดว่าทางข้างหน้าเป็นรั้วกั้นสวนไปซะแล้ว cry

เลยรู้ว่ามาผิดทาง ... ถอยก็ลำบากเพราะเป็นสวนทั้งนั้น ขับออกมาได้มาดูที่ป้ายสีเขียว มันก็ยังหน้าด้านชี้ตรงไปอยู่ดี ป้ายอาจจะไม่ผิดหรอกครับ ผมอาจจะโง่เอง พาซื่อว่าบอกให้ตรงคือตรงจริงๆ เพราะพอดูทางจริงๆมันก็มีทางลูกรังที่ดีกว่าทางเดิมหน่อยโค้งขวาไปหลังป้ายเขียวนั่นซักไม่ถึง 100 เมตร

** จะขอบคุณมากถ้าเปลี่ยนลูกศรจากตรงๆ เป็นโค้งขวา ผมอาจจะเป็นส่วนน้อยที่โง่ แต่ผมว่าวันๆนึงก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมโง่ๆเหมือนอย่างผมไม่ต่ำกว่า 20 คัน **

จะไปต่อก็ไม่ทันดูพระอาทิตย์แล้ว เลยตัดสินใจยืนมองมันตรงทุ่งหญ้านั่นล่ะครับ ใครจะไปทางนี้สังเกตุทางดีๆนะครับอย่าเห็นทุ่งหญ้าสวยๆจนเลยทางเลี้ยวขวานะ


เลยกลับรีสอร์ทแบบผิดหวังเล็กๆ หาของกินนิดหน่อยก่อนเข้ารีสอร์ท
กลับมาถึง เดี๋ยวจะไม่เป็นตามชื่อรีสอร์ท ก่อนนอนต้องออกมาดูดาวซะหน่อย

ก่อนตั้งกล้องถ่าย ก็กลัวเหมือนกันเพราะ DSLR มันไม่ควรเปิดชัตเตอร์ B ค้างนานๆ เพราะแทนที่จะได้รูปดาวสวยๆ อาจจะได้จุดแดงๆมาในรูปด้วย แต่เอาน่า นานๆได้โอกาสถ่ายที เปิดกล้องไว้ 5 นาที

สิ่งที่ได้ ... คือดาวเป็นเส้นนิดนึง แต่เอ๊ะ จุดอะไรมุมล่างซ้ายหว่า ง่าาาาา .. Hot Pixel !!!


แต่ก็ยังเข้านอนแบบมีความสุขนะครับ เรื่องกล้องช่างมัน ...

ตื่นเช้ามาก็พากันออกมากินอาหารเช้า

นี่จานเด็ดครับ อร่อยมากอยากขอเบิ้ลแต่เกรงใจคนที่ไปด้วยครับเพราะเค้าคุมน้ำหนักให้เราอยู่ haha

ข้าวต้มหมูสับใส่เห็ดหอมสด เห็ดกรอบอร่อยมากครับ


กาแฟ โอวัลติน ขนมปังปิ้ง แยมพร้อมครับ


ไม่ได้เลิศหรู แต่ก็โอเคครับ เช้าๆกินอะไรกันมาก

จานนี้ยกมาเสริฟพร้อมข้าวต้มครับ ให้แค่นี้ไม่รู้ขอเพิ่มได้ป่าวนะเพราะผมอิ่มก่อน


ทานไปชมวิวไป


นั่งตรงนี้ไม่มีร้อนครับ เพราะว่าลมพัดตลอดเวลา


มีกล้องส่องทางไกลให้ดูด้วยครับ


ถ้าเป็นหน้าฝนคงเขียวขจีทั้งเขา


หลังจากทานอาหารเสร็จก็เก็บข้าวของเตรียมกลับไปเขาใหญ่ครับ

ขอลา เดิน ดิน ดู ดาว ด้วยภาพนี้นะครับ สิ่งที่ขาดไม่ได้เวลาสะพายกล้องไปเที่ยว


ขากลับแวะถ่ายรูปอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงหน่อย รูปนี้ให้คุณนางแบบข้างๆเป็นคนเก็บภาพให้ครับ


ภาพนี้ถ่ายจากหน้าที่ทำการอุทยานฯครับ


ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์


ถนนคดเคี้ยว


ขับๆไปเรื่อยๆมันก็เพลินครับ


จุดหมายคือที่นี่ครับ ... น้ำตกเหวสุวัต


เสียดายว่าตอนนี้น้ำน้อยไปหน่อยครับ แต่เห็นแบบนี้อันตรายนะครับ

กลับมาถึงกรุงเทพฯได้วันเดียวเปิด TV เจอข่าวเด็กนักเรียนไปเล่นน้ำแล้วเป็นตะคริวเสียชีวิตตรงโขดหินใต้น้ำตกที่นี่ล่ะครับ เสียใจด้วยนะครับ


เส้นทางขากลับยังคงสวยงาม


ข้างทางมีทุ่งหญ้าไว้สำหรับสัตว์ต่างๆได้หากิน


เพลินกับการขับขี่


แวะถ่ายรูปอีกซักหน่อย


เอ๊ะ!! เจออะไรตะคุ่มๆ ส่องกล้องไปร้องดีใจจนคนข้างๆตกใจ haha

มาเขาใหญ่ต้องเจอบ้างสิถึงจะเรียกว่ามาป่า


ขออีกรูปก่อนจาก ...


ลงจากเขาใหญ่ด้วยความหิว และที่ที่เราจะแวะไปทานคือ ... ทั้นทานนนนนนนน


ขับรถวนอ้อนโลกกันเลยทีเดียว แอบสารภาพว่าตอนแรกตั้งใจจะกินครัวเขาใหญ่ เข้าไปนั่งถึงในร้าน แต่ไม่มีใครสนใจเลย แต่ก็ยังทำใจเย็นอยู่เพราะเห็นว่าลูกค้าเพิ่งจะซา โต๊ะเต็มหมดที่ลุกไปก็ยังไม่เก็บจานเลย พนักงานก็รุ่นป้าขึ้นไปทั้งนั้น ซักพักถึงเรียกป้าได้ป้าบอกว่า .... ปิดครัวชั่วคราว .. แป่วววว !! ไหง๋งั้น ป้าบอกจานล้างไม่ทันคร๊าบบบบ อดกินไป ...

มาต่อร้านเราดีกว่า ... โต๊ะน่านั่ง


ลูกค้าเข้าตลอด ตอนที่ถ่ายได้รูปข้างบนนั่นฟลุคมากพอดีคนซาเลยถ่ายได้

จานแรก Pork Chop น่าหม่ำ เสริฟกับน้ำราด 2 อย่างตามสไตล์ของ Dairy Home (นางแบบประจำตัวบอกชอบของโชคชัยมากกว่า..ของงี้ปากใครปากมันไม่ขอวิจารณ์ครับ)


จานของผม ซี่โครงหมูบาร์บีคิว อร่อยดีครับ แต่ดันไปชอบจานข้างบนมากก่า


อาหารแกล้ม


และ ปังเว้ยเฮ้ย !! ไม่ใช่ๆ ปังเนยสด เนยอร่อยดีครับ


วันนี้ขอลากันดื้อๆแบบนี้ก่อนเลยครับ

ตอนต่อไป... จะพาไปชมโรงแรมเล็กๆน่ารักๆที่มีคนพูดถึงกันเยอะพอสมควรของเขาใหญ่ Hotel Des Artists รวมถึงสถานที่ถ่าย Portrait สวยๆอย่าง Palio ครับ (เค้าทำเป็นแหล่งช็อปปิ้ง เราดันเอาไปเป็นถ่ายรูปซะงั้น haha)

ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะครับ


ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2557
3 comments
Last Update : 9 มิถุนายน 2557 21:28:56 น.
Counter : 6018 Pageviews.

 

สวยมากครับ..

 

โดย: Ujiba 9 มิถุนายน 2557 22:06:58 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ สวยมากเลย
ไม่รู้เลยว่า Primo Posto เปลี่ยนไปขนาดนี้แล้ว
ดูร่มเย็นสบายตาดีจังค่ะ
ทุ่งดอกหญ้าก็สวยมาก ๆ เราชอบมากเลยค่ะ ^^

 

โดย: LilyHappiness (สมาชิกหมายเลข 750163 ) 9 มิถุนายน 2557 22:48:40 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 10 มิถุนายน 2557 3:13:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.