สะพายกล้องท่องชะอำ ** Cher Resort **

วันนี้ผมจะพาไปพักผ่อนกันต่อที่รีสอร์ทริมทะเลติดหาดแถบอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีครับ

"Cher Resort" อ่านเป็นภาษาไทยว่า "เฌอ รีสอร์ท" ครับ เฌอ รีสอร์ทน่าจะเป็นรีสอร์ทที่เปิดได้ไม่น่าจะถึง 3 ปีดีตั้งอยู่บนชายหาดทะเลชะอำหัวหิน เป็นรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นขนาดเล็ก(36 ห้อง)ที่เน้นความร่มรื่นและเงียบสงบ ตัวอาคารสวยงามและแปลกตาสำหรับผู้พบเห็นครับ

การมาพักที่นี่เป็นการพักผ่อนในช่วง 2 คืนสุดท้ายของทริปท่องเที่ยวชะอำ-ปราณฯ-หัวหินของผม ขอบคุณสำหรับทุกๆท่านที่ติดตามทริปนี้รวมไปถึงทริปอื่นๆมาตลอดครับ



ก่อนอื่นมาแนะนำเรื่องการเดินทางกันก่อนครับ 

การเดินทางมายังรีสอร์ท สำหรับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวไม่ถือว่ายากลำบากอะไร แต่สำหรับผู้ที่เดินทางมาโดยรถสาธารณะอาจจะลำบากบ้างครับเพราะว่ารีสอร์ทจะเข้าไปจากถนนใหญ่ไกลพอสมควร แต่ด้านหน้าปากซอยน่าจะมีรถรับจ้างบริการครับ หรือทางรีสอร์ทมีรับรับส่งหรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ



หรือถ้าจะให้บอกแบบคุ้นเคยกันจริงๆรีสอร์ทนี้จะอยู่ซอยเดียวกับร้านอาหารปลาทูที่หลายๆคนรู้จักนั่นล่ะครับ 

ที่นี้พอผมขับรถกลับมาจากลา เอ นาตูก็ตรงดิ่งมาที่เฌอกันเลย หาไม่ยากครับขับรถตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆก็เจอตึกหน้าตาแบบที่เห็นก็แสดงว่าถึงที่หมายแล้ว จัดการจอดรถฝั่งตรงข้ามถนนกับรีสอร์ทได้เลย เป็นที่จอดรถของรีสอร์ทนะครับจอดรถได้น่าจะประมาณ30คัน มีรปภ.เฝ้าตลอด 24ชมครับ

ลงมาก็จะเจอกับอาคารแนวโมเดิร์นสวยๆแบบนี้ครับ



ป้ายบอกชื่อพร้อม Mascot ประจำรีสอร์ท (แปลกแต่จริงที่ไปทริปนี้พัก 3 ที่ 2 ใน 3 มี Mascot เป็นเจ้าขุนทองซะงั้น



จอดรถเสร็จก็จะมีพนักงานมาช่วยขนกระเป๋าขึ้นบันไดไปที่ล็อบบี้บนชั้น 2 เพื่อเช็คอินครับ 



ส่วนของล็อบบี้เป็นแบบ Open Air ครับแต่ไม่ร้อนหรอกนะเพราะว่ามีลมพัดมาจากทะเลตลอด



Welcome Drink เป็นน้ำแอปเปิ้ล(นานแล้วถ้าจำผิดขออภัย) พร้อมผ้าเย็นคลายร้อน



จัดการเซ็นเอกสารรับทราบหนี้(อีกแล้ว) ลายเซ็นและเลขบัตรอย่าเอาของผมไปทำอะไรเลยนะ ผมแค่คนหาเช้ากินค่ำ



เสร็จแล้วก็เตรียมตัวพักผ่อน คราวนี้ผมเลือกพักบนอาคารนี้ครับ บนนี้จะมีห้องพักเฉพาะที่ชั้น3และ4เท่านั้นนะครับ

ห้องพักจะเป็นแบบPanoramic Sea view (14ห้อง)ทั้งหมด

ห้อง Panoramic Sea view เป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด(30ตร.ม)และมีห้องมากที่สุดของรีสอร์ทครับ

ห้องที่จะเข้าพักอยู่ที่ชั้น 4 ต้องเดินเท้าขึ้นไปอย่างเดียวนะครับเพราะที่นี่ไม่มีลิฟท์ ฉะนั้นห้องพักบนอาคารก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านการเคลื่อนไหวนะครับ แต่ถ้าเป็นห้องพักประเภทอื่นๆน่าจะยังพอโอเคครับ



มาถึงแล้วครับห้องพักของผมในวันนี้ S45 อยู่ตรงกลางของอาคารพอดี เข้าไปข้างในกันเลย



เข้าห้องมาก็จะเจอเตียงใหญ่ๆนุ่มๆแบบนี้ล่ะครับ



จะมีโซฟายาวไว้ให้อีก 1 ตัวไว้นั่งๆนอนๆดูวิวทะเลเพลินๆครับ



หันกลับไปที่หน้าประตูห้อง จะมีโต๊ะทำงาน มี Welcome Fruit ให้ 1 จาน พร้อม Mini Bar ข้างเก้าอี้เป็นบานพับเปิดไปเจอตู้เย็นตู้เล็กๆครับ



บนโต๊ะก็จะมีแมกกาซีไว้ให้อ่านเล่นแก้เหงาด้วยครับ



ชอบราวแขวนอันนี้จัง เป็นทั้งของตกแต่งห้องที่ดูเหมือนต้นไม้ เป็นทั้งที่แขวนสิ่งของต่างๆได้ไปในตัว



ทุกๆอย่างในห้องดูเหมือนจะสื่อไปถึงสัญลักษณ์ของรีสอร์ทนั่นคือต้นไม้ครับ

"เฌอ" ก็มาจากอักษรภาษาไทย "ฌ" ที่แปลว่าต้นไม้นั่นล่ะครับ เพราะฉะนั้นในห้องรวมถึงบริเวณต่างๆของรีสอร์ทก็จะมีแต่สัญลักษณ์ใบไม้ให้เราได้เห็นทั่วไปหมดรวมถึงกระจก ฝ้า เพดาน โคมไฟ หมอน ฯลฯ



สิ่งที่น่าสนใจอีกแบบในห้องแบบนี้คือห้องน้ำที่สามารถมองผ่านกระจกออกมาเห็นเตียงนอนและทะเลได้เลยครับ (เปิดบานเลื่อนออกมาคุยกับคนที่ไปด้วยได้นะครับ)



ตู้เสื้อผ้าข้างประตูทางเข้าก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้ครบครันครับ



มาดูส่วนของห้องน้ำกันบ้างดีกว่า ที่นี่ให้ผ้าขนหนูเยอะมากครับ หลายขนาดด้วย คงเผื่อว่าเราจะเอาไปลงเล่นน้ำด้วยล่ะครับ



ถึงเป็นห้องขนาดเล็กสุดแต่ก็มีอ่างไว้ให้แช่น้ำด้วยนะครับ ส่วนโถชักโครกก็มีสายชำระไว้ให้ด้วย



อ่างล้างหน้าครับ ชอบการออกแบบแบบนี้มากครับผมว่ามันดูเรียบๆแต่ลงตัวดีไม่ต้องมีอ่างยื่นหรือสูงขึ้นมาให้เสียพื้นที่



สบู่ ชมพู ครีมนวด โลชั่นมีให้ครบรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่โรงแรมทั่วๆไปควรจะมีก็มีครบหมด แถมมีสลีปเปอร์กับรองเท้าแตะให้ด้วยครับ


นอกจากอ่างน้ำไว้ให้แช่ก็มี Rain Shower กับฝักบัวธรรมดาไว้ให้ด้วย


สัญลักษณ์รูปใบไม้นี่มีทุกที่จริงๆครับ

ดูวิวว่าถ้าเปิดกระจกอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวก็สยิวกันเลยทีเดียว 



ตกเย็นก็เดินลงมาดูด้านล่างบริเวณรอบๆรีสอร์ทกันบ้างครับ

นี่เป็นบริเวณด้านหน้าของอาคารถ่ายจากริมถนน เห็นเจ้าของบ้านกันเต็มเลยครับ 



อีกมุมครับ มาทำความคุ้นเคยกับเจ้าของบ้านกันหน่อย



มีทั้งแดงทั้งขาวยืนต้อนรับเราแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกันเลยทีเดียว



การออกแบบที่สะดุดตามองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อครับ



นี่ท่าจะเป็นจ่าฝูง แต่ก็โดนคนที่มาเยือนรังแกจนสะบักสะบอมครับ พยายามมองหาชื่อคนรู้จักใน BP ว่ามีใครไปรังแกหัวหน้าฝูงบ้างก็ไม่เจอครับ ใครไปเขียนมามั่งแล้ว?? ยกมือขึ้น



เดินขึ้นมาที่ล็อบบี้กันอีกครั้ง เย็นแล้วพนักงานก็จะเริ่มเปิดไฟบ้างแล้วครับ

ปล.เอียงคอมองกันได้ตามอัธยาศัยนะครับ 



หันกลับไปมองตรงส่วนต้อนรับ



ด้านขวาเป็นบันไดที่เราเดินขึ้นมาจากลานจอดรถครับ ส่วนด้านซ้ายจะเป็นบันไดเดินขึ้นไปห้องพักบนอาคาร



บริเวณอาคารเล็กๆหน้าล็อบบี้ที่เห็นจะเป็นส่วนของห้องพักอีก 2 แบบนั่นคือ

- The Sea Spirit ห้องพักขนาด (39-44ตรม.) มีห้องพักจำนวน 6 ห้อง จะอยู่บนชั้น 2 ของอาคารด้านหน้าที่เห็น ลักษณะห้องจะคล้ายๆกับห้องที่ผมพัก แต่จะมีพื้นที่ระเบียงด้านหน้าพร้อม Daybed ให้ด้วย

ห้องอีกแบบคือ

- The Pool Paradise ห้องพักขนาด (60 ตรม.) มีห้องพักจำนวน 6 ห้อง จะอยู่ด้านล่างของห้อง The Sea Spirit พิเศษตรงจะมีสระ Pool ไว้ให้แช่น้ำตรงหน้าห้อง แต่ข้อเสียคือจะไม่เห็นวิวทะเลครับ

ห้องนี้ต้องเดินลงบันไดทางซ้าย-ขวาที่เห็นลงไปที่ห้องนะครับ แล้วบันไดนี้ยังใช้เดินลงไปที่ห้องพักอีก 2 แบบคือห้อง

- Blissfully Green Villa ห้องพักขนาด (75-88 ตรม.) มีห้องพักจำนวน 8 ห้อง ความพิเศษคือในห้องจะมีพื้นที่สวนอยู่หน้าห้อง และยังมี Bathtub ไว้ให้นอนแช่ท่ามกลางธรรมชาติ ข้อเสียคือไม่สามารถมองเห็นวิวทะเลครับ

และห้องแบบสุดท้ายคือ

- Sky Jacuzzi Beach Front Villa ห้องพักขนาด (150 ตรม.) มีห้องพักจำนวน 2 ห้อง เป็นห้องพักติดทะเลและเป็นห้องที่ราคาสูงที่สุดของรีสอร์ท จุดเด่นคือมีอ่าง Jacuzzi ลอยฟ้าส่วนตัวในห้อง ข้อเสียคืออยู่ติดกับห้องอาหารของรีสอร์ทและทางเดินลงหน้าหาดต้องผ่านหน้าห้องทำให้อาจจะไม่เป็นส่วนตัวนัก แต่ก็มีประตูปิดด้านหน้านะครับ(แต่จองห้องริมทะเลแล้วใครจะอยากปิด) Smiley



พากลับมาที่ห้องพักกันก่อนอีกครั้งครับ มีดูแสงทไวไลท์กันหน่อย



ลืมบอกว่าตอนที่เรารับ Key Card มาเราก็จะได้ Password Internet มาด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความบันเทิงก็จะมี Internet Wi-Fi ฟรี(ที่นี่เล่นในห้องได้แล้วครับ หลังจากทริปเดียวกันที่ไปมาอีก 2 ที่เล่นในห้องพักไม่ได้เลย)

แล้วยังมี LCD 32 นิ้วพร้อมลำโพงเพิ่มอรรถรสในการรับชมเคเบิ้ลทีวี แล้วก็ยังมี DVD Player ไว้บริการอีกด้วย (ไม่แน่ใจว่ามีหนังให้ยืมหรือเปล่านะครับเพราะว่าไม่ได้ใช้บริการ)



พาเข้ามาในห้องน้ำอีกที นู้ดได้อีก 5555



น้ำแรงดีครับถึงแม้จะอยู่ชั้น 4



ลงมาดูด้านล่างกันอีกที (รีวิวนี้ตะแคงดูเยอะหน่อยนะครับ) ฝั่งตรงกันข้ามกับถนนจะเป็นที่จอดรถ



ฝั่งในสุดของล็อบบี้จะเป็นร้านขายของที่ระลึกครับ ส่วนด้านนอกออกไปจะเป็นทางเข้าห้องแบบ The Sea Spirit



ล็อบบี้ที่นี่นั่งมองไม่เบื่อเลยครับ เสียตรงที่ว่าถ้าไม่มีลมจากทะเลก็อบอ้าวไปหน่อย



อีกฝั่งนึงก็จะเป็นส่วนบริการที่จะมีน้องๆพนักงานนิสัยน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใสแถมช่วยเปิดไฟให้ถ่ายภาพในมุมสวยๆด้วยอีกครับ



ชอบเพดานไม้ฉลุที่นี่จริงๆครับ 



จัดโต๊ะไว้นั่งชิลๆคุยกันสบายๆครับ



ชอบครับเลยต้องขออีกภาพ



ถ่ายให้เห็นห้องที่ผมพักนั่นก็คือห้องที่เปิดไฟไว้นั่นเองครับ ปล่อยให้คุณเค้าอยู่เล่น FB บนห้องไปผมก็ลงมาเดินถ่ายภาพทำรีวิว ไปที่ไหนก็มักจะเป็นแบบนี้ครับ ของขอบคุณเค้าด้วยที่เข้าใจ haha

ใจจริงไม่อยากจะบอกเลยครับแต่ไหนๆก็เห็นแล้วว่าห้องผมเปิดไฟอยู่ห้องเดียว คือที่มาที่เฌอรีสอร์ทครั้งนี้ผมเหมารีสอร์ทปิดเพื่อถ่ายภาพมาให้ทุกคนได้ดูโดยเฉพาะครับ 55555 

ล้อเล่นนะครับ แต่เรื่องที่จริงคือ 2 คืนที่อยู่ที่เฌอผมเป็นแขกห้องเดียวที่เข้าพักครับ (แอบเสียดายไม่ยักกะมีอัพเกรดห้องให้มั่ง) 



เดินมาดูด้านหน้าหาดกันบ้างครับยังไม่ได้พาเดินมาดูเลย

ด้านหน้าหาดจะมีสระน้ำอยู่ด้วยครับจริงๆสระนี้จะมีไฟใต้น้ำเปิดสลับสีไปเรื่อยๆด้วยครับ แต่ด้วยความที่ผมบังอาจเหมาปิดรีสอร์ทนอนเค้าก็เลยไม่ได้เปิดไฟตรงบริเวณสระไว้ให้ครับ

จริงๆผมเดินไปขอให้พนักงานตรงฟรอนท์ล็อบบี้ช่วยเปิดไฟให้แล้วนะครับเพราะบอกว่าผมอยากถ่ายภาพ น้องเค้าก็ดีมากครับรีบวิทยุแจ้งช่างให้เปิดไฟ แต่ผมก็เดินไปรออยู่พักนึงก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็นัดคุณเค้าออกไปทานข้าวที่ตัวอำเภอหัวหินด้วย ได้เวลาก็เลยเดินไปบอกน้องพนักงานเค้าว่ายังไม่ได้เปิดไฟเลยนะครับแต่ไม่เป็นไรพี่ยังอยู่อีกวันพรุ่งนี้คงเปิดเนอะ



จริงๆน้องเค้าจะตามให้อีกรอบแต่ผมบอกว่าไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ได้ ก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพตอนเปิดไฟไว้ครับ



ด้านหลังของสระก็จะเป็นห้องอาหารของรีสอร์ทชื่อว่า "Z-WEED" ครับ

อาหารที่บริการก็เป็นอาหาร Style Thai – Italian Fusion food ผมไม่ได้ลองหรอกนะครับเข้าไปทานที่ตลาดหัวหินตลอดเลย



บริเวณนั้นยังมีเคียงไว้ให้นอนเล่นเพลินๆด้วยนะครับ



มานอนเล่นเย็นๆก็พอไหวครับแต่ถ้ากลางวันก็คงร้อน มืดแล้วก็คงได้บริจาคเลือด



มุมอีกฝั่งของสระครับ

ฝั่งนี้จะลึกกว่าฝั่งทางนู้น แต่ก็มีไฟสลับสีเหมือนกันนะครับ แต่สรุปผมก็ไม่ได้รูปสระที่มีไฟมาเพราะอีกวันเค้าก็ไม่ได้เปิดให้อีก (ดันเหมาปิดรีสอร์ทเค้านอน 2 คืน)

ก็เลยตามเลยล่ะครับไม่อยากไปกวนน้องพนักงานหน้าฟรอนท์เค้าแล้ว



ค่ำแล้วก็ถึงเวลาหาของลงกระเพาะกัน วันนี้จะพาไปกินอาหารกันแถวเข้าตะเกียบครับ ร้านนี้คุณเค้ารีเควสเองเลยคงเพราะไปเห็นรีวิวในเวปที่เค้าเล่นมาว่ามีกรรเชียงปูขาใหญ่ๆ เราก็เป็นคนตามใจแฟนเลยจัดให้

ร้านนี้อยู่ซอยหาดตะเกียบ 5 ทางเดียวกับที่จะไปฟรานจิพานี่ หรือว่าถ้าคนเคยไปทานร้านเปิ้ลมาแล้ว ร้านนี้ก็จะอยู่เลยร้านเปิ้ลไปซอยนึงครับ



สั่งอาหารเสร็จก็เสริฟน้ำจิ้มกันก่อนเลย เห็นสีก็ซี้ดแล้ว



มาแล้นนน เมนูคุณผู้หญิงเค้า กรรเชียงปูก้ามใหญ่เชียว



เมนูที่ขาดไม่ได้ ใครที่ดูรีวิวเวลาผมไปทะเลจะต้องเห็นทุกครั้งนั่นคือ กุ้งอบวุ้นเส้น จานนี้ก็อร่อยคร๊าบบบ 



หมึกแดดเดียวจ้าาา



ข้าวผัดไก่ เห็นบ้านๆแบบนี้อร่อยเชียวล่ะครับ



หลังจากนั้นทานกันเสร็จก็กลับที่พักครับ

กลับมาถึงก็รู้ว่ามีแม่บ้านมาทำการ Turndown เตียงให้เรียบร้อย เพราะว่ามีเจ้านี่วางอยู่บนเตียงครับ เป็นการ์ดพร้อมท็อฟฟี่นมแสนอร่อย h

แล้วคืนนั้นก็หลับฝันดี



ตื่นเช้ามาพร้อมเตรียมตัวเติมพลังครับ อาหารเช้าที่นี่เราต้องเดินไปทานกันที่ห้องอาหาร Z-WEED ตรงหน้าหาดนั่นล่ะครับ

ระหว่างทางก็ทักทายเจ้าบ้านกันหน่อย



ถึงแล้วครับที่ที่เราต้องมาเติมพลังกันตอนเช้า



แหงนไปมองเพดานก็ยังไม่ทิ้ง Concept เดิม ชอบจริงๆ



และแน่นอนครับทั้งรีสอร์ทเป็นของเรา 2 คน วันนี้เลยได้ทานอาหารจาก set เมนูครับ จริงๆอยากจะสั่งอะไรจากเมนูก็ได้ครับตามแต่อยากทานเลย



อากาศเช้าๆแสงอุ่นๆทำให้ท้องเริ่มหิว โต๊ะที่จัดไว้มีผ้าปูมองดูเป็นแนวหยินหยางเลยครับ 



2วันที่อยู่ที่นี่ได้ทานอาหารจาก Set Menu ทั้งสองวันเลยครับอาหารก็เลยไม่ได้แตกต่างมากผมเลยรวบมาไว้ในวันเดียวนะครับ 

รูปนี้ คุณเค้าเป็นคนลงมือถ่ายเหมือนเดิมแบบทุกทริป แต่รูปนี้เล่นเอาผมอึ้ง 



อาหารก็เป็น ABF ทั่วไปครับแต่พวกวัตถุดิบจะดูดีกว่าพวกโรงแรมทั่วๆไปหน่อย ทุกๆอย่างอร่อยทีเดียวครับ แถมเติมได้ไม่อั้นอีกตะหาก ผมทานแค่แฮม ไส้กรอกไปก็เยอะแล้วล่ะครับ (ให้น้องพนักงานเค้าทำมาเพิ่มจานใหญ่เลย) (เพิ่งมาสังเกตว่าทริปนี้ถ่ายรูปอาหารน้อยจัง)



ผลไม้ก็มีหลายชนิดครับ แต่ผมไม่ได้ทานคุณเค้าก็เลยทานแต่มะละกอ

จริงๆผมถามพนักงานว่าปกติถ้าลูกค้าเยอะจะเสริฟแบบนี้มั๊ย เค้าบอกว่าถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ที่ลูกค้าเยอะก็จะจัดเป็น Buffet ครับ



ด้านหน้าหาดของรีสอร์ทก็จะเป็นเขื่อนกั้นคลื่นอยู่ด้วยครับ แถมข้างๆก็เป็นบ้านชาวบ้านที่ทำประมงอยู่ด้วยเลยได้เห็นภาพเหล่านี้



อิ่มแล้วก็ชมวิวกันซะหน่อย



มี Daybed ไว้ให้นอนเล่นครับแต่เห็นแดดแล้วคาดว่าถ้านอนไปก็คงจะสุกซะก่อนแน่ๆ


ผมชอบมุมนี้นะครับ ถ้าลมเย็นๆก็น่านอนเล่นมากๆเลยล่ะ

อีกหนึงไฮไลท์ของที่นี่ “Into the sea” รีสอร์ทเค้าบอกว่าเป็นที่นั่งที่ยื่นไปในทะเลที่มีที่เดียวบนหาดชะอำ-หัวหินครับ (เย็นๆก็น่านั่งจริงๆล่ะครับ)



ลมเย็นๆล่ะเยี่ยมเลย



กลับเข้ามาในห้องกันดีกว่า อากาศเริ่มร้อนแล้วครับ



เข้ามาสำรวจในห้องกันบ้างดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจมั่ง

ที่ประตูจะแขวนรายการสั่งอาหารเช้าไว้ด้วย สำหรับคนที่ไม่อยากลงไปทานอาหารที่ Z-WEED จะสั่งมาทานบนห้องก็ได้ครับ เพียงแต่เลือกรายการอาหารที่ต้องการไว้แล้วแขวนไว้ที่หน้าห้อง ก่อน 5ทุ่มครึ่งของคืนก่อนที่จะสั่งจะมีพนักงานมาเก็บรายการไปครับ แล้วเช้าจะกี่โมงก็แล้วแต่ที่เรารีเควสไปเค้าก็จะเอามาหารมาส่งที่ห้องครับ

*แต่มีค่าบริการเพิ่มนะครับรู้สึกจะคนละ 200 บาทนะครับถ้าจำไม่ผิด



ส่วนระบบควบคุมภายในห้องก็จะอยู่หน้าห้องน้ำและที่หัวเตียงครับ

จะให้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดหรือว่าจะบอกว่าห้ามรบกวนก็สามารถกดปุ่มจากตรงนี้ได้ครับ แสงไปก็จะไปปรากฎอยู่ตรงป้ายหน้าห้องครับ



ทีวี พร้อมลำโพงแล้วก็เครื่องเล่น DVD



ส่วนพวกนี้ก็ให้บริการฟรีนะครับ



อยากเอากิ่งนี้กลับบ้านจัง 



อยู่ชั้นบนก็ดีแบบนี้ล่ะครับ ได้เห็นวิวสวยๆ



เปิดม่านออกก็จะเห็นวิวแบบนี้จากในห้อง ด้านล่างก็จะเป็นห้องแบบต่างๆของรีสอร์ท



สงสัยว่าวันนี้จะลมแรงครับเห็นเรือจอดกันเต็มเลย เอ๊ะ!!หรือว่าเค้าออกกันตอนกลางคืนหว่า??



หลังจากนั่งๆนอนๆพักผ่อนกันจนเย็นก็ได้เวลาหาของกินกันอีกแล้ว (กินรวบเช้าแล้วเย็นเลย)

มื้อนี้เป็นผมเองที่รีเควสครับ เพราะว่าร้านที่จะไปนี่ติดค้างกันไว้นานมากแล้ว มาหัวหินทีไรก็ติดเสาร์-อาทิตย์ร้านนี้ก็คนรอคิวกันยังกะแจกให้กินฟรี มาเที่ยวนี้เป็นวันธรรมดาครับได้โอกาสซะทีสำหรับ "ร้านโกทิ" ครับ



ร้านโกทิเป็นร้านอาหารเก่าแก่ของเมืองหัวหินครับ อยู่ที่ปากซอยหัวหิน 57 หาไม่อยากครับเพราะว่าตรงกับตลาดคนเดินหรือตลาดโต้รุ่งของหัวหินนั่นล่ะครับ

เอกลักษณ์ของร้านนี้ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ชามใส่น้ำร้อนสำหรับลวกช้อนส้อมเพื่อทำความสะอาด(กลัวคนไม่รู้ว่าต้องสะอาดจริงๆ)



สั่งกันเลย ร้านนี้ขนาดว่าดูลูกค้าน้อยๆก็ต้องใช้เวลารอซักหน่อยนะครับ ใจร้อนอย่ามาทานเลยครับร้านนี้

จานแรก ออส่วน อร่อยมากครับ



หมูทอดกระเทียม ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าอร่อยแน่ๆ



หอยจ๊อ จานนี้ผมให้แค่ใช้ได้ครับ ไม่ใช่ไม่อร่อยนะอร่อยแต่พอดีผมเคยทานที่มันอร่อยกว่านี้มาแล้ว 



จานสุดท้าย แพนงไก่ครับ เอาใจคุณเค้าสุดๆดูได้จากอาหารที่แทบจะไม่มีผักเลย 555



หลังจากทานเสร็จก็เดินข้ามฝั่งไปเดินเล่นซะหน่อย



โปสการ์ดสวยๆเยอะแยะไปหมด แต่ไม่รู้จะซื้อฝากใคร 



ไปมาจริงๆนะครับ



เดินตลาดหัวหินกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อเลยครับ



มีของที่ระลึกให้ซื้อมากมาย



แต่ส่วนใหญ่เป็นคนไม่ค่อยได้ซื้อของพวกนี้หรอกครับ ไปกับคนรู้ใจแล้วก็ไม่รู้จะซื้อกลับมาฝากใคร



แต่จริงๆก็อยากให้ช่วยกันอุดหนุนกันเยอะๆนะครับไทยทำไทยซื้อ แต่ขอแบบราคาคนไทยด้วยนะครับ 



นอกจากของกระจุ๊กกระจิ๊กแล้วก็ยังมีพวกเสื้อผ้าของที่ระลึก



มีหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ กลับไปบ้านจะได้เอาไปฝากคนรู้จักรวมไปถึงกลับไปใส่อวดคนแถวบ้านว่าฉันน่ะมาแล้นเน้อออหัวหิน



โรตีเจ้าอร่อย ไปกี่ทีคนก็รุมทุกครั้ง



ร้านนี้ไม่หยุดไม่ได้ หุ่นเฟิร์มๆแบบเรามีเสื้อแบบนี้ใส่บ้างก็ดี



อาหารทะเลก็มีให้เลือกหลายร้าน แต่มากี่ครั้งก็ไม่เคยได้ทานในนี้



คุณเค้าก็เดินดูไปเรื่อย เราก็เดินถ่ายไปเรื่อย

ปล.ไม่ได้ขออนุญาตเอารูปมาลงอย่าว่ากันนะจ๊ะ



คืนสุดท้ายของทริปยาวๆที่ได้ไปพักผ่อนแถบหัวหิน ชะอำ สามร้อยยอด

ขอจบรีวิวด้วยภาพนี้ครับ (ภาพโคมไฟที่เฌอ รีสอร์ท)

"Cher Resort" เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่สร้างความประทับใจในการเข้าพัก ถึงเราจะเป็นลูกค้าแค่ 2 คนของรีสอร์ทในช่วงที่เข้าพักแต่พนักงานทุกคนของรีสอร์ทก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ยินดีบริการเราทั้งคู่เป็นอย่างดี จนคุณที่ไปด้วยเค้าบอกว่าคราวหน้าจะพาเพื่อนมาพักบ้าง

รีสอร์ทเล็กๆน่ารัก เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ราคาอาจจะดูแรงไปหน่อยแต่ผมว่าคุ้มค่าเงินที่จ่ายไปแน่นอนครับ ขอบคุณที่เฌอทำให้ผมและคุณที่ไปด้วยมีความสุขในทริปนี้และปิดทริปนี้แบบมีความสุขครับ

ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนที่ติดตามรีวิวจนจบ และรวมถึงเข้ามาทักทายกันด้วยครับ



ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ



Create Date : 26 สิงหาคม 2557
Last Update : 26 สิงหาคม 2557 23:07:32 น. 2 comments
Counter : 4658 Pageviews.

 
อ่านแล้วเพลิดเพลินมากๆครับ อ่านจบปุ๊บ อยากออกเดินทางไปหัวหินเลยทันที อิอิ


โดย: TOmmy Bkk IP: 180.183.136.79 วันที่: 29 สิงหาคม 2557 เวลา:11:15:37 น.  

 
ตามไป เฌอ ด้วยน่ะ ใกล้กรุงเทพเอง


โดย: tanyamon suttirak IP: 110.168.189.108 วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:9:58:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biGbOySalaDbAr
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 23 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2557
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 สิงหาคม 2557
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add biGbOySalaDbAr's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.